ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2234 ใครเป็นคนทำ
“จะ…เจ้าคือแม่สาวน้อยจากหอหมอปีศาจคนนั้น”
“เหตุใดเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ?”
“……”
ที่นักปรุงยาเหล่านี้สามารถมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้ นั่นเป็นเพราะพวกเขาได้รับความเชื่อถือสูงสุด และแน่นอนว่าพวกเขาก็รู้เรื่องที่มู่เฉียนซีเคยพบนายท่านของพวกเขามาก่อนอยู่แล้ว
สำหรับความสามารถของหมอปีศาจ พวกเขาเองก็สงสัยมากเช่นกัน แต่พวกเขาก็ยังจะหยุดนางเอาไว้อยู่ดี
“แม่สาวน้อยมู่ เจ้าไม่รู้ว่า ทุกครั้งนายท่านจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายเป็นพิเศษ หากไม่ทันระมัดระวังข้าเกรงว่า…เจ้าพึ่งมาถึง จึงไม่รู้สถานการณ์ที่ชัดเจนของนายท่าน ดังนั้นข้าจึงไม่วางใจที่จะให้เจ้าลงมือ”
“ไม่ใช่ว่าคนแก่อย่างข้าจะดูถูกคนหนุ่มสาว เพียงแต่นายท่านสำคัญต่อพวกเราเป็นอย่างมาก จึงไม่อาจให้มีความผิดพลาดใด ๆ เกิดขึ้นได้”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ข้าเข้าใจความรู้สึกของปรมาจารย์ทุกท่านเป็นอย่างดี ข้าไม่มีทางทำอะไรโดยพละการแน่นอน ข้าแค่อยากที่จะลองระงับพลังคำสาปดูสักหน่อย เพียงเท่านี้ปรมาจารย์ทุกท่านก็จะสามารถคิดหาหนทางอื่นกันได้แล้ว”
พลังคำสาปได้ขัดขวางวิธีการวินิจฉัยของพลังจิตวิญญาณ และมีเพียงแต่ต้องระงับพลังคำสาปให้ได้เท่านั้น
“อะไรนะ? เจ้าสามารถผนึกคำสาปเอาไว้ได้อย่างนั้นหรือ!?”
มู่เฉียนซีไม่ทันได้อธิบายอะไร เนื่องจากว่าเวลานี้กระชั้นชิดมาก ดังนั้นมู่เฉียนซีจึงได้เริ่มใช้พลังคำสาปทันที
ในตอนที่พลังนั้นปรากฏออกมา แม้ว่าจะเต็มไปด้วยความเจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัดแต่กลับดูนิ่งสงบราวกับคนที่กำลังหลับตาพักผ่อนก็มิปาน แต่ทันใดเขาก็ลืมตาขึ้น
ดวงตาคู่นั้นเปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้นมาทันที จากนั้นก็กวาดตามองไปทางมู่เฉียนซีด้วยแววตาที่คมกริบ
นี่คือคนของเผ่าคำสาป!
เมื่อมู่เฉียนซีสัมผัสได้ถึงการป้องกันของเขา นางก็กล่าวว่า “ท่านเชื่อใจข้าได้หรือไม่?”
ดูเหมือนว่าน้ำเสียงนี้จะสามารถระงับเจตนาฆ่าที่อยู่ภายในใจของเขาให้สงบลงได้ และเขาก็ไม่สามารถควบคุมหัวใจของตนเองได้ จนสุดท้ายก็เลือกที่จะเชื่อนาง
ถึงสติของเขาบอกว่าไม่ควรที่จะเชื่อคนของเผ่าคำสาปอย่างเห็นได้ชัดก็ตาม
หลังจากที่ปลดการป้องกันออกแล้ว มู่เฉียนซีก็สามารถเข้าใกล้เขาได้ง่ายมากขึ้น พลังคำสาปนี้แข็งแกร่งมาก และคนที่ใช้วิชาคำสาปนี้จะต้องไม่ใช่คนที่นางเคยเผชิญหน้ามาก่อนเหล่านั้นอย่างแน่นอน พลังเช่นนี้มัน…
นางมองออกแล้วว่านี่คือวิชาคำสาปอะไร เพราะคนที่ได้รับคัมภีร์หมื่นคำสาปมาแล้วอย่างนางไม่มีวิชาคำสาปใดที่นางไม่รู้แน่นอนอยู่แล้ว
ถึงวิชาคำสาปนี้จะเป็นคำสาปที่ไม่น่ากลัวเท่ากับจิ่วเยี่ย แต่ทว่าพลังทำลายล้างและความอันตรายก็อยู่ในระดับที่ไม่เป็นรองหมื่นคำสาปเช่นกัน
มู่เฉียนซีเวียนพลังจิตวิญญาณ และนางก็พยายามที่จะระงับมันเอาไว้ แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก แต่นางก็สามารถทำมันได้
ในตอนนี้ คิดไม่ถึงว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงพลังที่แม้แต่นางเองก็มองไม่ออกภายในร่างกายนี้ของเขา และทันใดนั้นมู่เฉียนซีก็รู้สึกว่าภายในหัวสมองของนางนั้นขาวโพลนไปหมดทันที!
พรวดดดด!
มู่เฉียนซีถอยหลังออกมาหลายก้าว การสะท้อนกลับของวิชาคำสาปทำให้มู่เฉียนซีได้รับบาดเจ็บสาหัส
พรวดดดด!
และเขาก็กระอักเลือดออกมาพร้อมกับมู่เฉียนซีด้วยเช่นกัน
ถึงมู่เฉียนซีจะกระอักเลือดแต่ก็ไม่ถึงชีวิต แต่ทว่าเขากลับไม่เหมือนกัน…
“นายท่าน!”
“นายท่าน!”
เพราะตอนนี้พวกเขากลัวว่านายท่านจะต้องหลับไปทั้งอย่างนี้ มันจึงทำให้แต่ละคนตื่นตระหนกกันเป็นอย่างมาก
“เฉียน!” ชิงอิ่งมาพยุงมู่เฉียนซีเอาไว้ และมู่เฉียนซีก็ตระหนักขึ้นมาได้ว่าคนที่นอนอยู่ตรงหน้านั้นกำลังจะค่อย ๆ ห่างไกลออกไปมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว
ไม่ได้…ไม่ได้เด็ดขาด!
“ชิงอิ่ง! ได้โปรด บางทีพลังชีวิตของเจ้าอาจจะสามารถช่วยเขากลับมาได้ ตอนนี้มันเป็นเพียงวิธีเดียวเท่านั้น” มู่เฉียนซีกล่าวพลางคว้าชิงอิ่งเอาไว้
“ตกลง ข้าจะต้องทำได้แน่! เฉียน!”
ชิงอิ่งกระโจนออกไป และคนเหล่านั้นก็ไม่อาจขัดขวางเขาได้เลย
เขาคว้าไปที่ข้อมือของคนผู้นั้นเอาไว้ และมันก็เปาะบางเสียเหลือเกิน จนดูเหมือนว่าจะสามารถหักลงได้ทุกเมื่อ แม้จะบีบเพียงเล็กน้อยก็ตาม
“จะ…เจ้าต้องการจะทำอะไรกัน?” สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก และเตรียมป้องกันชิงอิ่งทันที
ผลสุดท้ายพวกเขาก็ได้ค้นพบว่า ไม่ได้มีเพียงมู่เฉินซีเท่านั้นที่สัมผัสนายท่านแล้วไม่เกิดปัญหา แต่คนผู้นี้สัมผัสนายท่านแล้วก็ไม่เกิดปัญหาเช่นเดียวกัน
ลำแสงสีเขียวอ่อนได้ปกคลุมไปทั่วทั้งร่างของชิงอิ่งและนายท่านของพวกเขาที่นอนอยู่บนเตียงนั้น นักปรุงยาเหล่านั้นกล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “นะ…นี่คือพลังแห่งชีวิต!”
“เป็นพลังแห่งชีวิตที่บริสุทธิ์มาก ช่วยนายท่านได้แล้ว”
“ครั้งนี้นายท่านจะต้องรอดแน่นอน”
สำหรับพลังวิญญาณนั้นพวกเขาต่างก็รู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะเพื่อที่จะทำให้นายท่านสามารถยืดหยัดต่อไปได้ พวกเขาจึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะเก็บรวบรวมสมบัติที่เต็มไปด้วยพลังแห่งชีวิตทั้งหมดเอาไว้
แต่นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็น พลังแห่งชีวิตที่ทั้งบริสุทธิ์และทรงพลังเช่นนี้
มู่เฉียนซีเช็ดเลือดที่มุมปากของนาง หลังจากนั้นก็ค่อย ๆ เดินเข้าไปช้า ๆ
นอกจากตอนที่พลังคำสาปของจิ่วเยี่ยปะทุขึ้นมาอย่างสมบูรณ์แล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกบีบจนอะไรไม่ถูกขนาดนี้
พลังนั้นคืออะไรกันแน่? คิดไม่ถึงเลยว่ามันจะช่วยเหลือพลังที่ชั่วร้ายอย่างคำสาปได้!
ภายใต้พลังแห่งชีวิตนี้ เหล่านักปรุงยาต่างก็ต้องประหลาดใจที่ค้นพบว่า สถานการณ์ของนายท่านของพวกเขาอยู่ในสภาพที่ทรงตัวแล้ว
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ชิงอิ่ง พอแล้ว ตอนนี้ร่างกายของเขาพ้นจากจุดวิกฤตแล้ว”
แน่นอนว่าพลังแห่งชีวิตนั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สามารถช่วยชีวิตผู้คนได้ แต่ไม่ใช่ว่ายิ่งเยอะก็จะยิ่งดีเสมอไป เพราะต้องดูด้วยว่าร่างกายนั้นสามารถทนรับมันได้หรือไม่อีกด้วย
ชิงอิ่งดึงพลังของเขากลับคืนมา จากนั้นก็กลับมาอยู่ข้างกายมู่เฉียนซี
เหล่าผู้คนโดยรอบต่างก็รู้สึกขอบคุณมู่เฉียนซีเป็นอย่างมาก แม้ว่าตัวตนของแม่สาวนี้ผู้นี้จะไม่ชัดเจน แต่ก็นางสามารถช่วยชีวิตนายท่านจากช่วงเวลาที่อันตรายเช่นนี้ได้
หลังจากที่นางจัดการและติดตามผลเรียบร้อยแล้ว มู่เฉียนซีก็เดินออกมาด้านนอกและมองไปที่พวกเขาพลางกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ที่จริงแล้วใครเป็นคนทำกันแน่? หรือว่า คนพวกไหนเป็นคนทำ?”
มู่เฉียนซีในเวลานี้ไม่อาจควบคุมความโกรธที่อยู่ภายในใจของนางได้ แววตาที่เย็นยะเยือกของนางกวาดมองไปที่พวกเขาเหล่านั้น
พวกเขาแต่ละคนต่างก็ประหลาดใจเล็กน้อย และคิดไม่ถึงเลยว่าแม่นางน้อยที่มีอายุไม่ถึงเสี้ยวหนึ่งของพวกเขาผู้นี้จะระเบิดพลังเช่นนี้ออกมาได้ นางช่างให้ความรู้สึกเหมือนกับนายท่านของพวกเขาจริง ๆ
“เรื่องนี้ เป็นเรื่องของนายท่านที่พวกเราไม่เข้าใจเลย แต่พวกเรารู้มาว่าอาการบอบช้ำภายในส่วนหนึ่งมาจากจักรพรรดิตงหวงและเหล่าผู้อาวุโสของราชวงศ์ตงหวงเป็นคนทิ้งเอาไว้ ซึ่งสิ่งที่พวกเรารู้มีเพียงเรื่องเหล่านี้เท่านั้น”
พวกเขาถูกพลังของแม่นางน้อยผู้นี้ทำให้หวาดกลัว จนยอมบอกเรื่องที่พวกเขารู้ทั้งหมดกับนาง
“พวกท่านเพิ่งบอกว่า เดิมทีแล้วพวกท่านไม่สามารถแตะต้องเขาได้เลย ฉะนั้นแม้ว่าเขาจะกำลังป่วยหนักจนกลายเป็นเช่นนี้ก็ไม่มีผู้ใดสามารถดูแลเขาได้อย่างนั้นสินะ เช่นนั้นก่อนที่จะหาหนทางรักษาเขาเจอ ข้าสามารถอยู่ที่นี่เพื่อดูแลเขาได้หรือไม่?” มู่เฉียนซีกล่าวถาม
“หากพวกท่านตัดสินใจไม่ได้ เช่นนั้นก็จงไปหาคนที่สามารถตัดสินใจได้มาตอบข้าเถอะ!”
ท่านไป๋ผงะไปครู่หนึ่ง เดิมทีเขาก็มีความคิดเช่นนี้อยู่แล้ว แต่ทว่าตอนนี้เขากลับไม่กล้าที่จะให้คำมั่นสัญญาเลยแม้แต่น้อย
ได้ยินมาว่ามีเพียงคนจากเผ่าคำสาปเท่านั้นถึงจะสามารถใช้พลังคำสาปได้ และแม่นางน้อยผู้นี้ก็สามารถใช้พลังนั้นได้ ซึ่งมีความเป็นไปได้มากว่านางจะเป็นคนของเผ่าคำสาป ฉะนั้นการที่จะปล่อยให้หญิงสาวที่ครอบครองพลังอันแปลกประหลาดเช่นนี้มาดูแลนายท่านจะเป็นเรื่องที่ดีแล้วจริง ๆ อย่างนั้นหรือ?
“รอให้นายท่านฟื้นขึ้นมาแล้ว ข้าจะเป็นคนถามความคิดเห็นของนายท่านเอง หากนายท่านเห็นด้วยแล้วละก็ เช่นนั้นก็ไม่มีปัญหา!”
“ตกลง! เขาน่าจะตื่นขึ้นมาในช่วงยามจื่อ และจะตื่นขึ้นมาเพราะความเจ็บปวด ฉะนั้นพวกท่านเตรียมยาแก้ปวดที่เคยใช้อยู่เป็นประจำก็พอแล้ว” มู่เฉียนซีกล่าวกับนักปรุงยาเหล่านั้น
จะตื่นขึ้นมาในช่วงยามจื่อ แม่นางน้อยผู้นี้สามารถมองออกได้อย่างไรกัน?
ถึงนักปรุงยาเหล่านั้นไม่เข้าใจเลยสักนิด แต่ในเมื่อนางกล่าวเช่นนั้น พวกเขาก็ควรที่จะต้องเตรียมตัวให้พร้อมถึงจะถูก
หลังจากที่ออกไปจากที่นี่ มู่เฉียนซีก็ตรงไปหาพวกซวนอู่และจูเชว่ทันที
พวกของซวนอู่ในตอนนี้ร้อนรนราวกับมดบนกระทะร้อนก็มิปาน ทุกครั้งที่ร่างกายของพ่อบุญธรรมแย่ลงมันทำให้พวกเขากังวลใจอย่างมาก และตอนนี้ความถี่ที่จะเกิดเรื่องเช่นนี้ก็ยิ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ แล้วด้วย
“พ่อบุญธรรมเป็นอย่างไรบ้าง?” พวกเขากล่าวถาม
“สามารถทรงตัวไว้ได้ระยะหนึ่ง แต่มันก็เป็นเพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น!” นางกำหมัดแน่น
“คิดไม่ถึงเลยว่าหมอปีศาจอย่างข้าจะต้องเผชิญหน้ากับปัญหาในการรักษาที่ยากจะแก้ได้เป็นครั้งที่สองแล้ว” เมื่อเห็นว่าคนผู้นั้นกำลังทุกข์ทรมาน มู่เฉียนซีปรารถนาที่อยากจะรักษาโรคให้หายได้ด้วยการจัดการเพียงเข็มเดียว อย่างรวดเร็วเหมือนคนป่วยทั่วไปเช่นกัน แต่ทว่ามันไม่ได้ง่ายดายถึงขนาดนั้นน่ะสิ
.
.