ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2240 วันเกิดของนาง
เมื่อได้ยินคำพูดของมู่เฉียนซี จิ่วเยี่ยก็กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำว่า “ไม่ใช่ก่อนพรุ่งนี้ แต่ต้องเป็นก่อน นบ่ายวันนี้ต่างหาก! วันนี้ตอนบ่ายข้าอยากจะพาซีไปสถานที่แห่งหนึ่ง”
“ไปที่ไหนอย่างนั้นหรือ?” มู่เฉียนซีตะลึงงันไปทันที
ปลายนิ้วของจิ่วเยี่ยลูบลงไปบนจมูกที่คมสันของมู่เฉียนซีอย่างแผ่วเบา พลางกล่าวว่า “ซีลืมแล้วหรือว่าพรุ่งนี้เป ป็นวันอะไร?”
พรุ่งนี้หรือ!
มู่เฉียนซีผงะไปครู่หนึ่ง ในที่สุดนางก็นึกขึ้นมาได้แล้ว พรุ่งนี้เป็นวันเกิดของนางนี่เอง
เวลาช่างผ่านไปเร็วมากจริง ๆ นางยังมีเรื่องมากมายเหลือเกินที่ต้องทำ ฉะนั้นสำหรับวันเกิดของตนเองแล้ว นางจึงไ ไม่ได้สนใจมันเป็นพิเศษ แต่ทว่าจิ่วเยี่ยกลับจำมันได้อยู่เสมอ
ตั้งแต่พิธีบรรลุนิติภาวะเมื่ออายุสิบหกปี มาจนถึงค่ำคืนงานฉลองวันเกิดอันงดงามตอนอายุสิบเจ็ดปีที่นางได้เดิน ออกมาจากทวีปเสวีย จิ่วเยี่ยก็มักจะคอยก้าวผ่านไปพร้อมกับนางเสมอ
ตอนนี้ได้มาถึงวัยที่มีอายุสิบแปดปีแล้ว และนางก็รู้ว่าจิ่วเยี่ยก็คงจะเตรียมเรื่องประหลาดใจไว้ให้นางเช่นเค คย
“ถึงข้าจะลืมก็ไม่เป็นไร ขอแค่เจ้าจำได้ก็พอแล้ว ดูเหมือนว่าต้องทำให้เสร็จเร็วยิ่งกว่านี้หน่อยแล้วล่ะ”
การกลั่นยาเป็นไปอย่างราบรื่นมาก และหลังจากที่ใช้วิธีการพิเศษในการกลั่นออกมา มันก็สามารถดื่มได้แล้ว นอกจากน นี้ยังมีกลิ่นที่หอมกรุ่นมากอีกด้วย
และในตอนนี้มันก็ได้ดึงดูดคนที่อยากรู้อยากเห็นมากมายให้เข้ามาดู โดยเฉพาะพวกนักดื่มนี่แทบจะทนไม่ไหวเลยทีเดีย ยว
“ข้าอยากดื่มมันจริง ๆ นะ!”
นักปรุงยาทุกคนต่างก็ปรารถนาในสุราวิญญาณนี้เป็นอย่างมาก พวกเขาเคยตรวจสอบมาแล้ว ซึ่งนี่ก็ถือได้ว่าดีกว่าของท ที่พวกเขาทำออกมามากนัก
หากนายท่านได้ดื่มสิ่งนี้เข้าไป ถ้าโชคดีละก็อาจจะไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยก็เป็นได้
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “คราวนี้ข้าค่อนข้างรีบมาก ฉะนั้นจึงได้กลั่นออกมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าปรมาจารย์ทุกท่านสน นใจแล้วละก็ ในอนาคตหากมีโอกาสข้าจะมอบให้พวกท่านด้วย”
“ข้าว่านอกจากหอหมอปีศาจของเจ้าจะสร้างรายได้จากการขายยาแล้ว คาดว่าหากขายสุราก็คงจะได้กำไรอันมหาศาลเช่นก กันเป็นแน่! มันช่างเป็นกลิ่นที่หอมหวนนัก!” ซวนอู่กล่าวขณะที่เดินเข้ามา
“ข้ารู้สึกว่าคำแนะนำนี้ก็ไม่เลวเช่นกัน มันทำให้ข้ามีเส้นทางการทำเงินใหม่ได้พอดี และเมื่อถึงเวลานั้นค่อย ลองพิจารณาดูอีกทีก็แล้วกัน!”
“เช่นนั้นก็สามารถขอให้ข้าร่วมมือด้วยได้นะ! เขาเองก็มีประสบการณ์ทางด้านนี้เช่นกัน!” ซวนอู่กล่าว
“เจ้านี่ไม่เคยปล่อยให้โอกาสในการทำเงินหลุดลอยไปได้เลยอย่างนั้นสินะ” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างจนปัญญา
“ที่เจ้ามาวันนี้เพราะมีเรื่องอะไรอย่างอย่างนั้นหรือ? มาอยู่เป็นเพื่อนพ่อบุญธรรมของเจ้าหรือ?”
ซวนอู่กล่าวตอบว่า “พรุ่งนี้ทั้งวัน พ่อบุญธรรมจะไม่ยอมให้ผู้ใดอยู่กับเขาเลย แต่วันนี้พวกเราสองสามคนสามารถอยู ใกล้พ่อบุญธรรมได้! ปีนี้พวกของไป๋หู่ทั้งสองคนติดภารกิจจึงไม่ได้มา ดังนั้นพวกเราทั้งหกคนจึงได้มารวมตัวอยู่ ที่นี่”
“จูเชว่ให้มาเชิญเจ้าไปที่ห้องโถงเซียงหม่าน เจ้าจะไปด้วยกันหรือไม่?”
พรุ่งนี้เป็นวันพิเศษสำหรับพ่อบุญธรรม เป็นทั้งวันที่มีความสุขและทุกข์ทรมาน ซึ่งพวกเขาเองก็รู้สึกเจ็บปวดไปด้วย เช่นกัน ดังนั้นพวกเขาก็เลยปล่อยตัวสักครั้ง และกินดื่มกันอย่างเต็มที่!
ในเวลานี้แม้แต่ซวนอู่ก็ไม่ได้รู้สึกเสีดายเงินเช่นกัน! เพราะอย่างไรเสียก็ไม่ใช่เงินของข้า แต่จูเชว่เป็นคนจ จ่ายต่างหาก!
จิ่วเยี่ยกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ไม่ได้ ซีจะต้องไปกับข้า!”
“ยังมีเวลาอยู่เลย ไปดื่มกับพวกเขาสักสองสามจอกก่อนค่อยไปเถอะ” ในเมื่อพวกเขาเชิญอย่าจริงใจเช่นนี้ มู่เฉียนซีก ก็ไม่อยากจะปฏิเสธเช่นกัน
“ตกลง!”
“ซีซีเจ้ามาแล้วหรือ?” เมื่อเห็นมู่เฉียนซีจูเชว่ก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที เพียงแต่ไม่กล้าที่จะกระตือรือร้นเหมือนก่อน นหน้านี้มากเท่าไรนัก
นั่นก็เป็นเพราะชายหนุ่มที่สวมชุดสีดำสนิททั้งตัวราวกับอสูรก็มิปานที่ยืนอยู่ข้างกายมู่เฉียนซี ก็คือท่านอ อ๋องจิ่วเยี่ยก็เต็มไปด้วยอันตรายอย่างไรเล่า
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ข้าดีใจมากที่พวกเจ้าเชิญข้ามาร่วมงานเฉลิมฉลองในครั้งนี้ จอกนี้สำหรับพวกเจ้า”
ผลปรากฏว่ายังไม่ทันที่จะได้ดื่ม จิ่วเยี่ยกลับแย่งจอกเหล้ากลับไปแล้วกล่าวว่า “ในฐานะคู่หมั้น ปล่อยให้เรื่อ องนี้เป็นหน้าที่ของข้าเอง! เพราะคืนนี้ซีจะต้องดื่มเป็นเพื่อนข้า”
จิ่วเยี่ยรับสุราจอกนั้นไปดื่มจนหมด หลังจากนั้นก็เริ่มคีบอาหารให้มู่เฉียนซี!
ส่วนจูเชว่ก็ทำได้เพียงแค่มองชามข้าวอยู่ข้าง ๆ เท่านั้น มันช่างเจ็บปวดใจยิ่งนัก
ชิงหลงเม้มริมฝีปากแล้วกล่าวว่า “ข้าว่า เหตุใดต้องเชิญผู้หญิงคนนี้มาด้วย ข้ารู้สึกว่าแค่พวกเราสองสามคนนี้ก็ เกินพอแล้วนะ”
ไป๋เจ๋อก็ทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน คนผู้นั้นมักจะเอาแต่ใจอยู่เสมอเลย!
เมื่อเห็นว่าดวงอาทิตย์กำลังจะตกดินแล้ว มู่เฉียนซีจึงกล่าวว่า “พรุ่งนี้เป็นวันเกิดของข้า สุราเหล่านี้ถือว่าข้า าเลี้ยงพวกเจ้าก็แล้วกัน ฉะนั้นขอให้พวกเจ้าโปรดยกโทษให้ข้าที่เห็นคนรักดีกว่าเพื่อนและต้องไปกับจิ่วเยี่ยก่อนแ แล้วล่ะ”
สีหน้าของจูเชว่นั้นมืดมนลงอย่างกะทันหัน เขารู้สึกราวกับว่าหัวใจได้แตกสลายไปแล้ว นี่เขาไม่มีโอกาสเลยแม้แต่น้ อยจริง ๆ สินะ
ส่วนสีหน้าของชิงหลงไม่แสดงความรู้สึกใด ๆ
และฉงหมิงบ่นพึมพำว่า “คิดไม่ถึงเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นคนหมกมุ่นเช่นนี้ เพื่อคนผู้นี้ถึงกับยอมทิ้งพวกเรา !”
ไป๋เจ๋อกล่าวว่า “ไม่เป็นไร เจ้าไปเถอะ!”
ซวนอู่กล่าวว่า “เตรียมสุรามาไว้มากมายขนาดนี้ หากว่ารสชาติดีแล้วละก็ พวกเราสามารถมาคุยเรื่องความร่วมมือกันไ ได้นะ”
อากุ่ยลอยออกมาแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เสี่ยวซี ข้าขอให้เจ้ามีลูกไว ๆ นะ!”
“โป๊ก!” จูเชว่ตรงเข้าไปเคาะศีรษะของอากุ่ยทันที
“นี่มันยังไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดเรื่องนี้เสียหน่อย!”
“อ่อ! ดูเหมือนว่าคำนี้จะเอาไว้พูดตอนแต่งงานสินะ ข้าจะจำไว้”
จูเชว่รู้สึกได้ว่าหัวใจของเขากำลังจะแตกสลาย แต่งงานอย่างนั้นหรือ เจ้าเด็กปี้ฟางนี่ช่างพูดอะไรที่ทำร้ายหัวใจ ของเขายิ่งนัก!
“ซี พวกเราไปกันเถอะ!”
“ทุกท่าน ไว้เจอกัน!” มู่เฉียนซีโบกมือลา และจากนั้นก็จากไปพร้อมกับจิ่วเยี่ย
ในตอนที่มู่เฉินซีจากไปแล้วพวกเขาก็ชะงักงันขึ้นมาทันที จูเชว่ที่พึ่งได้สติกลับมาหลังจากโดนที่โจมตีอย่างหนัก ก็กล่าวขึ้นมาอย่างประหลาดใจว่า “ซีซีบอกว่าพรุ่งนี้เป็นวันเกิดของนาง ให้ตายเถอะข้ายังไม่ได้เตรียมของขวัญเ เลย”
ซวนอู่ก็ชะงักงันไปเช่นกันกัน “ที่สำคัญที่สุดไม่ใช่ของวัญ แต่เป็นเรื่องที่ว่า เหตุใดพรุ่งนี้ถึงได้เป็นวันเกิด ดของนางเช่นกันต่างหากเล่า?”
ชิงหลง ไป๋เจ๋อ ฉงหมิงและอากุ่ยต่างก็ชะงักไปเช่นกัน “ใช่แล้ว! เป็นพรุ่งนี้เหมือนกัน คิดไม่ถึงว่าจะบังเอิญขนาด นี้?”
พวกเขารู้ว่า พรุ่งนี้ก็เป็นวันเกิดของใครอีกคนหนึ่งเช่นกัน และคนผู้นั้นก็เป็นคนที่สำคัญกับพ่อบุญธรรมเป็ นพิเศษ ทั้งยังเป็นสมบัติล้ำค่าที่พ่อบุญธรรมอยากปกป้องอีกด้วย
และเพราะด้วยเหตุนี้ วันพรุ่งนี้สำหรับพ่อบุญธรรมแล้วจึงเป็นวันที่พิเศษมากวันหนึ่งนั่นเอง
“ข้าจะไปหาซีซี!”
“ข้าก็จะไปด้วย!”
“……”
ชิงหลงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย คิดไม่ถึงเลยว่าวันเกิดของนางจะตรงกับคนผู้นั้น หรือว่า…
“พวกเขายังไปได้ไม่ไกลแน่นอน จะต้องตามหานางให้เจอและถามให้ชัดเจน”
มันเป็นเพียงความสงสัยภายในใจของพวกเขาเท่านั้น ฉะนั้นจึงยังไม่ได้คิดที่จะแจ้งให้พ่อบุญธรรมทราบ เพราะหากเป็นเพ พียงแค่เรื่องบังเอิญ เกรงว่าจะทำให้พ่อบุญธรรมต้องดีใจไปโดยเปล่าประโยชน์
ภายในใจของพวกซวนอู่แค่รู้สึกสงสัยเล็กน้อยเท่านั้น แต่ทว่าภายในใจของชิงหลงมีความสงสัยมากกว่า ดังนั้นเขาจึงได ด้ดูวิตกกังวลมากกว่าคนอื่นมากมายนัก
จิ่วเยี่ยเข้าไปในเขาสูงลูกหนึ่งกับมู่เฉียนซี และที่นั่นก็มีหญิงสาวคนหนึ่งพุ่งทะยานออกมาอย่างกะทันหันพลางกล ล่าวอย่างอารมณ์เสียว่า “บัดซบเอ้ย! คนพวกนั้นเป็นใครกันแน่? ไม่ง่ายเลยกว่าข้าจะมาเก็บสมุนไพรที่นี่ได้ คิดไม ม่ถึงเลยว่าพวกเขาจะทำอะไรตามอำเภอใจ จนไม่ยอมให้เขาเข้าไปเช่นนี้”
“คุณหนูใหญ่ อย่าโกรธไปเลยขอรับ! พวกเราไม่จำเป็นต้องโต้เถียงกับคนกลุ่มนั้นหรอกขอรับ! บังอาจมาทำให้คุณหนูใหญ่ แห่งเมืองหมิงขุ่นเคืองใจ มันจะต้องไม่เป็นผลดีกับพวกเขาแน่นอน พวกเรารีบกลับไปรายงานนายท่านกันเถิดขอรับ” องค ครักษ์ที่อยู่ข้างกายนางกล่าวขึ้น
ภูเขาทั้งลูกนั้นถูกผนึกเอาไว้แล้ว แต่เมื่อจิ่วเยี่ยและมู่เฉียนซีเข้ามาใกล้ ก็มีร่างเงาสองสามร่างปรากฏตัวขึ นมา แล้วกล่าวด้วยความเคารพว่า “ข้าน้อยขอคารวะฝ่าบาท”
“เยี่ย เจ้ามาแล้วอย่างนั้นหรือ ทุกอย่างถูกจัดเตรียมเอาไว้หมดแล้ว! หวังว่าพวกเจ้าจะพึงพอใจนะ” ในเวลานี้จื่อโย วก็ปรากฏตัวออกมาเช่นนั้น และมุมปากของเขาก็แสยะยิ้มขึ้นมาอย่างชั่วร้าย
“อื้ม!” จิ่วเยี่ยพยักหน้าเล็กน้อย
พวกเขาหายตัวไปอีกครั้ง จากนั้นก็เฝ้าอยู่โดนรอบบริเวณ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้มีคนที่ไม่รู้จักเวล่ำเวลาบุกเข้ามา ารบกวนการนัดพบของเยี่ยได้
จิ่วเยี่ยกุมมือของมู่เฉียนซี จากนั้นก็ค่อย ๆ เดินขึ้นไปบนเขาทีละก้าว และในชั่วพริบตานั้นก็มีแสงไฟหลากสีปราก กฏขึ้นมาบนเส้นทางอย่างต่อเนื่อง
อีกทั้งต้นไม้และใบหญ้าต่างก็ถูกประดับประดาไปด้วยม่านแสง ราวกับอยู่ในความฝันก็มิปาน