ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2241 ส่งตัวเองให้อีกครั้ง
ทุกที่ที่พวกเขาเดินผ่านไป ล้วนมีทิวทัศน์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเป็นพิเศษ
เมื่อพวกเขาเดินขึ้นมาบนยอดเขา จิ่วเยี่ยก็ดึงมู่เฉียนซีลอยขึ้นไปกลางอากาศ
แสงสว่างพร่างพราวล้อมรอบภูเขาเอาไว้ จากนั้นก็ก่อตัวจนกลายเป็นตัวอักษรสี่ตัว
‘สุขสันต์วันเกิด’
มันงดงามยิ่งกว่าดอกไม้ไฟที่บานสะพรั่งเสียอีก หลังจากนั้นก็มีลำแสงโผล่ออกมาจากพื้นดินและลอยขึ้นสู่กลางอากาศ
‘จิ่วเยี่ยมีซีเพียงผู้เดียว!’
ลำแสงเหล่านั้นได้เปลี่ยนรูปร่างไป และมันก็ได้ปรากฏประโยคเช่นนี้ออกมา และหลังจากนั้นก็ลอยเข้ามาทางมู่เฉียนซี
ลำแสงแต่ละอันที่มาพร้อมกับดอกไม้ช่อหนึ่ง ได้พุ่งเข้าใส่อ้อมกอดของมู่เฉียนซี พวกมันรวดเร็วเป็นอย่างมาก จนสุด ดท้ายอ้อมกอดของมู่เฉียนซีก็เต็มไปด้วยดอกไม้ ที่รวมกันได้ถึงเก้าร้อยเก้าสิบเก้าดอกเลยทีเดียว
จิ่วเยี่ยรั้งเอวของมู่เฉียนซีเอาไว้พลางกล่าวว่า “ซี สุขสันต์วันเกิดนะ เจ้าคือคนเดียวในชีวิตของข้า และไม่มีสิ่ งใดมาทดแทนเจ้าได้ทั้งนั้น”
เมื่อจิ่วเยี่ยขยับปลายนิ้ว ดอกไม้ช่อโตนั้นก็ลอยขึ้นไปกลางอากาศ และเปลี่ยนกลายเป็นเพียงกลีบดอกไม้สีแดงเพลิงท ที่ร่วงหล่นลงจากกลางอากาศราวกับสายฝนก็มิปาน หลังจากนั้นเขาก็ก้มลงไประทับจูบบนริมฝีปากของมู่เฉียนซี
“อื้อ…”
กลีบดอกไม้ร่วงหล่นลงมาอย่างช้า ๆ และทั้งสองต่างก็กอดกันแน่นอยู่ท่ามกลางกลีบดอกไม้ที่ร่วงหล่นเหล่านั้น จนสามา ารถสัมผัสถึงการเต้นหัวใจของกันและกันได้
เมื่อริมฝีปากแยกออกจากกัน มู่เฉียนซีก็สูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ เพราะขณะที่กำลังจู๋จี๋กันอยู่นั้น นางก็รู้สึกเ เหมือนกับว่าหายใจไม่ออกเลยจริง ๆ
“ซี ยังมีเรื่องให้เจ้าต้องประหลาดใจอีก!” จิ่วเยี่ยกอดมู่เฉียนซีเอาไว้จากนั้นก็พาไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง และใน ตอนที่มู่เฉียนซีเข้าไปใกล้ นางก็สัมผัสได้ว่าภายในสถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยสมุนไพรวิญญาณนานาชนิด
เดิมทีภูเขาที่ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองหมิงลูกนี้เป็นเทือกเขาที่มีสมุนไพรวิญญาณมากที่สุด เพียงแต่ว่าท่านอ๋องจิ่ วเยี่ยมองไปเห็นสมุนไพรวิญญาณเหล่านั้นเท่านั้นเอง
ด้วยเหตุนี้เขาจึงได้ให้จื่อโยวนำสมุนไพรวิญญาณอันล้ำค่านานาชนิดมาปลุกเอาไว้ที่นี่ และรอวันนี้วันที่จะได้ ส่งมอบให้กับมู่เฉียนซีไปพร้อมกัน
พวกเขาร่อนลงไปกลางสวนสมุนไพร “นี่คือของขวัญที่ข้ามอบให้ซีในวันเกิด แต่เพราะเวลาสั้นเกินไป ดังนั้นจึงเตรียม ได้ไม่เยอะเท่าไร ซีชอบหรือไม่?”
มู่เฉียนซีกระโจนเข้าไปในอ้อมกอดของจิ่วเยี่ยแล้วกล่าวว่า “ชอบสิ ข้าต้องชอบแน่นอนอยู่แล้ว!”
นางชื่นชอบสมุนไพรวิญญาณทั้งหมดเหล่านี้เป็นอย่างมาก และยิ่งไม่ต้องพูดถึงชนิดของสมุนไพรวิญญาณที่มีมากมาย ที่รว วมตัวกันอยู่บนภูเขาลูกนี้จนกลายเป็นทะเลแห่งสมุนไพรวิญญาณไปแล้วอีกด้วย
หลังจากนั้นมู่เฉียนซีก็เอื้อมมือไปบีบคางของจิ่วเยี่ยพลางกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “แต่มันยังไม่พอหรอก เหตุใดวันนี ท่านอ๋องจิ่วเยี่ยถึงไม่มอบตัวเองให้กับข้าด้วยเลยล่ะ?”
เขาถูกซีล้อเล่นเข้าให้แล้ว ซึ่งมันก็ทำให้แววตาสีฟ้าเย็นยะเยือกของจิ่วเยี่ยสั่นไหวเล็กน้อย
“สุ่ยจิงอิ๋งบอกข้ามาหมดแล้ว หากไม่ใช่เพราะใกล้จะถึงวันเกิดของข้า คาดว่าเจ้าคงจะสู้จนตัวตายอยู่ใต้เหวนรกนั่ นต่อไป และคงจะไม่ให้นางส่งตัวเจ้ามาอยู่ข้างกายข้าเช่นนี้แน่” มู่เฉียนซีกล่าวพลางจ้องมองไปที่ดวงตาคู่นั้นข ของเขา
“นางบอกกับข้าว่าจะต้องสั่งสอนเจ้าให้หนัก เพียงแค่ข้าได้ยินก็รู้สึกโมโหมากแล้ว ฉะนั้นปีนี้ข้าจึงอยากจะให้ เจ้ามอบตัวของเจ้ากับข้า และให้ข้าลงโทษเจ้าได้ตามอำเภอใจ โดยที่เจ้าไม่สามารถขัดขืนได้ด้วย” มู่เฉียนซีกล่าวพลาง งคว้าตัวเขาเอาไว้
ตึง!
มู่เฉียนซีกระโจนเข้าใส่ท่านอ๋องจิ่วเยี่ยโดยตรง
มู่เฉียนซีต้องขอบคุณที่วันเกิดของตนเองเป็นช่วงเวลานี้ เพราะนางไม่รู้จริง ๆ ว่าหากเขายังคงสู้ตายอยู่ในเหวน นรกต่อไป สุดท้ายแล้วมันจะกลายเป็นเช่นไรกันแน่
ดวงตาสีฟ้าเย็นยะเยือกคู่นั้นอันตรายมากขึ้นเรื่อย ๆ จิ่วเยี่ยกล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “ซี หากเจ้าต้องการให้ข้า มอบร่างกายให้ ข้าก็จะส่งมอบให้เจ้าด้วยตนเองเลย เพียงแต่หากมอบไปแล้ว ไม่มีการรับคืนหรอกนะ”
“อื้อ…”
นางรู้สึกราวกับว่ากำลังจะวิงเวียน และทันใดนั้นเสื้อผ้าของนางก็กลายเป็นเพียงแค่ความว่างเปล่า
แสงสว่างที่งดงามโดยรอบหรี่จนมืดสนิทลงอย่างสมบูรณ์ และมีเพียงพวกเขาทั้งสองคนเท่านั้นที่ผ่านค่ำคืนอันยาวนาน บนโลกนี้ไปด้วยกัน
ส่วนจื่อโยวก็กำลังนั่งบ่นอยู่ตรงเชิงเขาว่า “ข้าอยากจะบอกว่าเยี่ยเป็นเจ้านายที่โหดเหี้ยมไร้มนุษยธรรมที่ส สุดแล้ว! ช่วงหลายวันมานี้เขาสั่งให้ข้าส่งคนไปขุดสมุนไพรวิญญาณตั้งมากมายขนาดนั้น ไอ้ขุดก็ไม่เท่าไร ยังต้อง งมาปลูกอีก!”
“เรื่องนั้นก็ช่างมันเถอะ แต่รู้หรือไม่ว่าหนอนเรืองแสงโยวหมิงนั้นจับยากมากเพียงใด อีกทั้งยังควบคุมยากมาก กขนาดไหน? เพื่อที่จะสร้างฉากที่ทำให้คนงามหัวใจเต้นแรงให้กับคนที่ไม่รู้จักความโรแมนติกอย่างเขาคนนั้น คิดไ ไม่ถึงเลยว่าข้าจะจับมันมาเยอะขนาดนี้”
“รู้สึกเหมือนว่าข้าได้ใช้กำลังทั้งหมดไปกับการช่วยเหลือเยี่ยตามจีบแม่นางคนงามเสียแล้ว แต่ผลปรากฏว่าแม่นางคน นงามอายุสิบแปดแล้ว เขายังไม่ได้แต่งงานกับนางเลย ข้านี่ช่างหลอมเหล็กให้กลายเป็นเหล็กกล้าไม่ได้จริง ๆ”
“ตอนนี้เยี่ยคงจะมีช่วงเวลาที่แสนวิเศษอยู่อย่างแน่นอน ส่วนคนที่น่าสงสารอย่างข้ากลับไม่ได้กอดแม้แต่สาวงามด้ว วยซ้ำ แถมยังต้องเฝ้าอยู่ที่นี่ อยู่ที่นี่…” จื่อโยวกัดฟันกรอดด้วยความโกรธ
ในช่วงเวลาที่กำลังเคลิบเคลิ้มไปกับความสัมพันธ์อันลึกล้ำ พลังคำสาปก็ปะทุออกมาอย่างไม่อาจควบคุมได้ ในค่ำคืนอ อันมืดมิดอากาศพลันหนาวเย็นขึ้นมาเล็กน้อย แต่มู่เฉียนซีกลับรู้สึกว่าตนเองกำลังถูกแผดเผาอยู่ในเตาไฟ แม้ไฟจะน้อ อยทว่ากลับยิ่งร้อนแรงมากขึ้นเป็นเท่าทวี
มู่เฉียนซีรู้ดีว่านางไม่สามารถคืนของได้ และนางก็ไม่อยากที่จะคืนอีกด้วย เพียงแต่ของขวัญที่มาส่งถึงนี้ ดูจะอ อวดดีเป็นพิเศษไปหน่อยจริง ๆ
จิ่วเยี่ยได้ทิ้งร่องรอยความเป็นเจ้าของของเขาเอาไว้ และอยากที่จะครอบครองซีไว้เพียงคนเดียวเท่านั้น อีกทั้งยังใ ให้นางมีเพียงเขาตลอดไปอีกด้วย
วันรุ่งขึ้นมู่เฉียนซีตื่นขึ้นมาอย่างเอ้อระเหย จากนั้นก็เห็นท่วงท่าที่สง่างามของจิ่วเยี่ยที่กำลังเก็บสมุนไพรให้ กับนางอยู่
เห็นได้ชัดว่าเพียงแค่เขาโบกมือเล็กน้อยก็สามารถจัดการงานเหล่านี้ได้แล้ว แต่เขากลับค่อย ๆ ลงมือเก็บด้วยตนเอง งที่ละเล็กทีละน้อย
หลังจากที่มู่เฉียนซีขยับตัวเล็กน้อย นางก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดบนร่างกาย แม้ว่าจะถูกจิ่วเยี่ยทายาให้แล้วก็ตา าม
มู่เฉียนซีได้สั่งการจิ่วเยี่ยว่า “จิ่วเยี่ย ข้าหิวแล้วล่ะ เจ้าไปล่าสัตว์มาทำเป็นอาหารให้ข้าสักสองสามตัว เรื่ องวัตถุดิบมอบให้เป็นหน้าที่เจ้า และเจ้าก็ไม่ต้องทำอาหาร เพราะเดี๋ยวข้าจะทำเอง”
เพียงพริบตาเดียว จิ่วเยี่ยก็ได้หายไปแล้ว
หลังจากนั้นไม่นานสัตว์ที่ล่ามาได้ก็ได้ถูกจัดการ และวางเรียงไว้อย่างเรียบร้อยตรงหน้าของมู่เฉียนซี พร้อมกับฟื นอีกจำนวนเล็กน้อย
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เจ้าไปเก็บสมุนไพรต่อเถอะ เดี๋ยวข้าทำเนื้อย่างมื้อใหญ่ให้กินเอง!”
มู่เฉียนซีใช้พลังธาตุอัคคีของนางจุดไฟบนฟืนที่ถูกจัดวางไว้ขึ้นมา และเตรียมที่จะลงมือ
จิ่วเยี่ยเลือกภูเขาลูกนี้เพื่อฉลองวันเกิดไปด้วยกันกับนาง ฉะนั้นวันนี้นางจึงวางแผนที่จะใช้ชีวิตอย่างสงบสุขแล ละธรรมดาอยู่ที่นี่ทั้งวัน
ครืนนน!
ในเวลานี้ภายในหอหมอปีศาจ ได้มีสายฟ้าพิฆาตผ่าลงมาจากกลางอากาศ
“สายฟ้าพิฆาต นี่คือสายฟ้าพิฆาตเลื่อนขั้นของผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณ ใครในหอหมอปีศาจของพวกเรากำลังจ จะเลื่อนขั้นเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณอย่างนั้นหรือ?”
“ข้ารู้ จะต้องเป็นอาจารย์รองแน่นอน อาจารย์รองจะเลื่อนขั้นเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณแล้ว”
“…”
อสนีบาตที่น่าสะพรึ่งกลัวผ่าลงมาจากกลางอากาศ ร่างเงาสีแดงเข้มพุ่งทะยานออกมาจากหอหมอปีศาจด้วยความรีบร้อน
เขาโบกมือไปทางอสนีบาตนั้นอย่างไม่เกรงกลัวเลยแม้แต่น้อยพลางกล่าวว่า “มาเถอะ! ข้าไม่กลัวเจ้าหรอก และข้าก็กำลัง งรีบด้วย”
มู่เฟิงหลิงกำลังรีบร้อน เพราะในตอนที่เขาเก็บตัวและกำลังจะเลื่อนขั้นนั้น เขาก็นึกขึ้นมาได้อย่างกะทันหันว่า วันนี้คือวันเกิดของซีเอ๋อร์นั่นเอง
ไม่รู้ว่าคนโง่เง่าอย่างเขาพลาดวันเกิดของซีเอ๋อร์มานานนมแค่ไหนแล้ว และก็ไม่รู้ว่าซีเอ๋อร์จะต้องฉลองวันเกิด เพียงลำพังมากี่ปีแล้วเช่นกัน
คราวนี้เขาหาหลานสาวของตนเองเจอแล้ว ฉะนั้นเขาจะต้องฉลองวันเกิดกับนางให้จงได้
ซึ่งมันก็ส่งผลให้ในเวลานี้ สายฟ้าพิฆาตนี้ไม่อยู่ในสายตาของเขาเลยแม้แต่น้อย
เขาเองก็ไม่ได้มองเลยว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่อันตรายมากเพียงใด เขาทำเพียงพุ่งทะยานขึ้นไปโดยตรง ซึ่งมู่เฟิง งหลิงผู้นี้ถือได้ว่าเป็นคนที่ใจร้อนมากจริง ๆ!
“อาจารย์รอง ระวังด้วยขอรับ!”
ครืนนน เปรี้ยงง!
“บัดซบเอ้ย ไม่จบไม่สิ้นเสียที!”
การที่สายฟ้าพิฆาตผ่าลงมาครั้งแล้วครั้งเล่า ได้ทำให้มู่เฟิงหลิงโมโหเป็นอย่างมาก
หลังจากที่รอดพ้นสายฟ้าพิฆาตทั้งเก้ารอบมาได้ มู่เฟิงหลิงก็ได้กลายเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณระดับหน นึ่งอย่างเป็นทางการแล้ว และคนที่อยู่ในหอหมอปีศาจเหล่านั้นต่างก็มีความสุขอย่างมากเช่นกัน
“ยินด้วยด้วยขอรับ ท่านอาจารย์รอง!”
“ขอแสดงความยินดี ที่ท่านอาจารย์รองได้เลื่อนขั้นเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณด้วยขอรับ”
“…”
มู่เฟิงหลิงกล่าวว่า “เลิกแสดงความยินดีได้แล้ว ตอนนี้ซีเอ๋อร์อยู่ที่ใดกัน?”
“ตอนนี้ท่านมู่ไปเป็นแขกของสมาคมการค้าเฉินซีที่เมืองหมิง ยังไม่กลับมาเลยขอรับ”
“เมืองหมิง คิดไม่ถึงเลยว่าจะไปไกลถึงขนาดนั้น!” มู่เฟิงหลิงบ่นพึมพำ และหลังจากนั้นเขาก็รีบพุ่งทะยานออกไปราวก กับสายฟ้าแลบอย่างไรอย่างนั้น
ถึงแม้ว่ามันจะไกล แต่เขาก็จะต้องรีบไปถึงให้เร็วที่สุดให้ได้