ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2243 การคาดเดาของพวกเขา
“ลาก่อน เฉียน!” ชิงอิ่งไม่กล้าแม้แต่จะสบตากับมู่เฉียนซี ฉะนั้นเมื่อพูดจบ เขาก็จากสถานที่นี้ไปอย่างรวดเร็ว
สิ่งของที่เฉียนต้องการ เขาจะทำให้นางได้รับมัน ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไร? หรือจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม
มู่เฉียนซีมองไปยังแผ่นหลังของชิงอิ่งพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย จิ่วเยี่ยจึงกล่าวว่า “ในเมื่อซีเป็นกังวล เช่นนั้นก็ม มอบให้ข้าจัดการเอง”
“จื่อโยวไล่ตามไป หากมีสถานการณ์อะไรที่พิเศษ ก็จงรายงานมาโดยเร็วที่สุด!”
“อ๊าก! เหตุใดถึงต้องเอางานที่เหนื่อยยากเช่นนี้ให้ข้าเป็นคนทำตลอดเลย ทำไมต้องเป็นข้า!” เสียงบ่นด้วยความโกร รธเคืองของจื่อโยวดังแว่วมาตามสายลม ทว่าเขาก็ยังคงไล่ตามไปอย่างรวดเร็ว
หุ่นเชิดตัวนี้เคยมีคุณงามความดีในการปกป้องคนงามมาอย่างมากมาย ฉะนั้นคนงามจึงไม่เคยถือว่ามันเป็นเพียงแค่หุ่นเชิ ด และถือว่าเป็นเพื่อนคนสำคัญคนหนึ่งอีกด้วย
ไม่เคยมีหุ่นเชิดใดคิดที่จะจากเจ้านายไปโดยสมัครใจมาก่อน นี่มันผิดปกติเกินไปแล้วจริง ๆ ฉะนั้นจึงต้องคอยติดตาม ดูให้ดี!
แม้ว่าจื่อโยวจะดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าไรนัก แต่การทำงานของเขาถือว่าไว้ใจได้มากเลยทีเดียว
มู่เฉียนซีถอนหายใจด้วยความโล่งอก เพียงแต่การจากไปอย่างกะทันหันของชิงอิ่ง ทำให้ภายในใจของนางรู้สึกเป็นกังวลมา ากจริง ๆ
หลังจากที่ชิงอิ่งจากไปแล้ว ก็มีร่างเงาร่างหนึ่งพุ่งทะยานเข้ามาอย่างรวดเร็ว และจ้องเขม็งไปที่ใบหน้าของมู่เฉีย ยนซี
มู่เฉียนซีมองไปยังคนที่เพิ่งเข้ามา แล้วกล่าวว่า “สีหน้าของชิงหลงที่เมาค้างมาทั้งคืนนี้ช่างน่าเกลียดเหลือเกิน เหมือนกับผีอย่างไรอย่างนั้น อยากให้ข้าฝังเข็มให้เจ้าสักหน่อยไหม!”
และมู่เฉียนซีก็หยิบเข็มยาเล่มหนึ่งออกมาเล่นอยู่ในมือ
จากนั้นชิงหลงกล่าวว่า “เหตุใดเจ้าถึงได้มีใบหน้าที่คล้ายกับมู่หลินหลางมากขนาดนั้น?
“เรื่องนี้ข้าเองก็ไม่รู้เช่นกัน เดิมทีข้าก็โตมาหน้าตาแบบนี้อยู่แล้ว! หากเจ้าต้องการที่จะรู้คำตอบที่แม่นยำ แล้วละก็ ต้องไปถามมู่หลินหลางถึงจะถูก”
“พ่อแม่ของเจ้าคือใคร?” เขาจ้องมองไปที่ใบหน้าของมู่เฉียนซี
“ข้าไม่อยากบอกความลับนี้กับเจ้า! ชิงหลง”
“เจ้ากล้าปลดการปลอมตัวของเจ้าออก แล้วยืนอยู่เบื้องหน้าพ่อบุญธรรมหรือไม่?”
มู่เฉียนซีมาปรากฏตัวอยู่ข้างกายชิงหลงอย่างกะทันหัน ฉึก! จากนั้นก็มีเสียงแทงลงไปที่ต้นคอของเขา
“ข้าว่าเจ้ายังไม่สร่างเมานะชิงหลง ข้าจะฝังเข็มให้เจ้า ฉะนั้นเจ้านอนไปสักตื่นเถอะ!”
“เจ้า…” และชิงหลงก็หลับไปทันที มู่เฉียนซีจึงกล่าวว่า “ข้าไม่มีอะไรที่ไม่กล้าหรอก หากพ่อบุญธรรมของเจ้าให้ข้า ได้เจอท่านพ่อของข้า ข้าก็จะเลิกปลอมตัวทันทีเลย”
“เด็ก ๆ! มาแบกคุณชายชิงหลงของพวกเจ้าไปเสียสิ”
หลังจากที่ผ่านไปได้ไม่นาน ก็มีคนสองสามคนเข้ามาลากชิงหลงออกไปจริง ๆ
ไม่ได้มีเพียงแต่ชิงหลงที่สงสัยในตัวตนของนางเท่านั้น แม้แต่พวกของซวนอู่กับจูเชว่เองก็เช่นกัน แต่ทว่าพวกเขา านั้นไม่ได้ตรงไปตรงมาเหมือนอย่างกับชิงหลงเท่านั้นเอง
มู่เฉียนซีไม่แน่ใจว่าระหว่างพวกเขากับท่านพ่อมีสถานการณ์แบบใดกันแน่?
หากพูดไปตามตรงว่านางคือมู่เฉียนซี และเป็นลูกสาวขององค์รัชทายาทเฟิงอวิ๋นพวกเขาจะเชื่ออย่างนั้นหรือ?
อย่างไรก็ตามนางก็ได้รับข้อมูลของท่านพ่อจากพ่อบุญธรรมของพวกเขาแล้ว ฉะนั้นเมื่อถึงตอนที่ได้เจอท่านพ่อพวกเขา ก็จะได้รู้เองอยู่ดี
“ซีซี ความจริงแล้ว…” พวกของจูเชว่เองก็สับสนเช่นกัน
มู่เฉียนซีที่ทำอะไรไม่ถูก ได้คว้าจิ่วเยี่ยเอาไว้แล้วกล่าวว่า “จิ่วเยี่ย พวกเราออกไปเดินเล่นกันเถอะ!”
“พวกเจ้าอย่าได้ใจร้อนนักเลย! รอข้าหาวิธีทำให้โรคของพ่อบุญธรรมพวกเขาอยู่ในสภาพทรงตัวได้แล้ว และรอให้เขา าไว้ใจข้าจนพาข้าไปหาองค์รัชทายาทเฟิงอวิ๋นเมื่อไร ความจริงทั้งหมดก็จะถูกเปิดเผยออกมาเอง”
ซวนอู่กล่าวว่า “แต่ว่ามู่เฉินซี พ่อบุญธรรมของข้าเขา…”
มีบางคำที่พวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้พูดมันออกมา แม้ว่าพวกเขาจะมีการคาดเดาแต่กลับไม่สามารถเจาะทะลุใยบาง ๆ ชั้น นั้นไปได้
“ข้ารู้ว่ามันยากลำบากมาก แต่ไม่ว่าอย่างไรข้าก็จะพยายามให้ดีที่สุด” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างแน่วแน่
“ซี พวกเราไปกันเถอะ!” จิ่วเยี่ยรู้สึกรำคาญคนสองสามคนเหล่านี้ที่กำลังรบกวนซีอยู่ นอกจากนี้ยังไม่สามารถจัดการไ ได้อีกด้วย
จิ่วเยี่ยรู้สึกว่า ซีมีเพียงแค่เขาอยู่ข้างกายก็เพียงพอแล้ว ฉะนั้นควรที่จะให้นางเลิกคบกับพวกคนเหล่านี้ไปเส สียจะดีกว่า
พวกของจูเชว่และซวนอู่ต้องการที่จะไล่ตามไป แต่กลับได้รับข่าวจากพ่อบุญธรรมของพวกเขาเสียก่อน และเมื่อผ่านวัน นนี้ไปแล้ว พ่อบุญธรรมได้มีภารกิจบางอย่างที่มอบให้แก่พวกเขา
พวกเขามองไปยังพ่อบุญธรรมอย่างลังเล แต่สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ไม่ได้บอกเรื่องที่เมื่อวานนี้เป็นวันเกิดของมู่เฉิ นซีออกไป เพราะมันเป็นวันเกิดวันเดียวกันกับคนที่อยู่ในใจพ่อบุญธรรมเช่นกัน
ในเมื่อยังไม่ได้รับการยืนยัน พวกเขาจึงไม่กล้าที่จะรีบพูดออกไป เพราะความหวังยิ่งมากเท่าไรเมื่อต้องผิดหวังก็ จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น พวกเขาไม่ต้องการให้ร่างกายที่อ่อนแอของพ่อบุญธรรมต้องมาแบกรับความรู้ที่เสียใจเช่นนี้
จิ่วเยี่ยกอดมู่เฉียนซีเอาไว้และรีบออกไปทันที แล้วความเร็วของพวกเขาจะไปตามทันได้อย่างไร?
ซวนอู่กล่าวว่า “มู่เฉินซีน่าจะยังไม่ได้ออกไปจากเมืองหมิง ไปตามหากันเถอะ!”
“เหตุใดข้ายิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้มากขึ้นเรื่อย ๆ กันล่ะ?”
ฉงหมิงคร่ำครวญว่า “ไม่มีทางหรอก! อันที่จริงแล้วหากพวกเราเดาถูก ข้าก็ยิ่งกลัวมากขึ้นไปอีก มู่เฉินซีจะใช่…”
ไป๋เจ๋อกล่าวว่า “พวกเราไปหาคนก่อนเถอะ!”
มู่เฉียนซีเดินเล่นกับจิ่วเยี่ยอยู่ที่เมืองหมิง และผู้คนต่างก็มองที่ทั้งสองคนเดินจับมือกันไปตามท้องถนน
ชายหนุ่มรูปร่างเพียวบาง มีกลิ่นอายอันแข็งแกร่ง และแม้จะสวมหน้ากากเอาไว้ก็ยังไม่อาจซ่อนเสน่ห์ของเขาไว้ได้เลย ย
ส่วนหญิงสาวผู้นั้นก็งดงามเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังดูท่าทางสูงส่งอีกด้วย และเมื่อทั้งสองเดินไปด้วยกัน ก็ดูเป็น นความเหมาะสมที่ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ!
เนื่องจากคุณหนูใหญ่หวังไม่ได้เก็บสมุนไพรจึงทำให้อารมณ์เสียเป็นอย่างมาก และเมื่อมาเดินเล่นที่นี่ ก็ปรากฏว่าได้ มาเจอร่างเงาที่คุ้นเคยของทั้งสองคนนั้นอีก
“พวกเจ้ามานี่หน่อยสิ เจ้าลองดูทั้งสองคนนั้นสิ เจ้าคิดว่าใช่สองคนที่พวกเราเจอเมื่อเย็นวันนั้นหรือไม่?”
รูปร่างหน้าตาของคนทั้งสองมีความพิเศษมาก แม้เย็นวันนั้นจะเห็นเพียงแค่ไกล ๆ เท่านั้น แต่นางก็ยังคงสามารถจดจำไ ได้อย่างชัดเจนอยู่ดี
“เหมือนจะใช่ขอรับ!”
หลังจากที่ยืนยันได้แล้ว คุณหนูใหญ่หวังก็พุ่งทะยานเข้าไปด้วยความโกรธทันที “พวกเจ้าทั้งสองคนหยุดเดี๋ยวนี้นะ! !”
“ชายหญิงสองคนมาใกล้ชิดสนิทสนมกันในที่สาธารณะเช่นนี้ ช่างไร้ยางอายเสียจริง ๆ”
วัฒธรรมของแดนซวนเทียนก็ไม่ได้มีความอนุรักษ์นิยมมากเท่าไรนัก ฉะนั้นการจับมือเล็ก ๆ น้อย ๆ จึงไม่ใช่เรื่องแปล ลกอะไรเลย หรือว่าเมืองหมิงจะไม่เป็นเช่นนั้น คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนกระโดดออกมาวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่คาดคิดเช่นนี้
มู่เฉียนซีขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นก็หันหน้ามองไปยังสาวที่หยาบคายคนนั้น
แววตาของจิ่วเยี่ยฉายแววเย็นยะเยือกออกมา ช่างรนหาที่ตายนัก
ทันใดนั้นอากาศที่อยู่โดยรอบก็เย็นยะเยือกลงไปหลายส่วนทันที เหล่าองครักษ์ที่อยู่ข้างกายของคุณหนูใหญ่หวังผู้น นั้นต่างก็เหงื่อแตกพลั่กด้วยความหวาดกลัว พวกเขารู้สึกว่าชายผู้นี้อันตรายเป็นอย่างมาก
แต่ดูเหมือนว่าคุณหนูหวังผู้นี้จะไม่ได้ตระหนักถึงอันตรายนี้ได้แต่อย่างใด เพราะคนที่ดื้อด้านอยู่เสมออย่างนาง ก็ไม่เคยสนใจอะไรมากมายมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว
ในเมืองหมิงแห่งนี้นางใหญ่ที่สุด เพราะนางก็คือลูกสาวของเจ้าเมืองหมิงนั่นเอง
นางแสยะยิ้มพลางกล่าวว่า “ความสามารถแข็งแกร่งแล้วยังไงล่ะ! ความสามารถแข็งแกร่งอย่างเจ้าสามารถรังแกผู้หญิงที่อ่ อนแอเช่นข้าได้ไหมล่ะ? คืนวานนั้นพวกเจ้าเป็นคนปิดกั้นเขาหลิงอวิ๋นไว้สินะ! หากไม่ใช่เพราะเมื่อวานนี้ท่าน นพ่อของข้ามีธุระ ข้าจะต้องเอามันกลับคืนมาได้แน่ ฉะนั้นพวกเจ้าอย่าได้ใจนักเลย”
“แต่ตอนนี้มาเจอพวกเจ้าก็ดีเหมือนกัน ข้าจะได้ไม่ต้องออกไปนอกเมือง! เมื่อวานนี้พวกเจ้าคงจะได้สมุนไพรวิญญาณล้ำค ค่ามากมายจากการปิดกั้นเขาหลิงอวิ๋นเอาไว้แน่นอน ฉะนั้นจงเอาออกมาซะ!” นางกล่าวอย่างเย่อหยิ่ง
สีหน้าของมู่เฉียนซีเย็นชาทันที ตอนที่ขึ้นเขาไปเมื่อวานนี้นางก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของใครบางคนเช่นกัน
เพียงแต่กลิ่นอายของคนเหล่านี้ไม่แข็งแกร่งนัก ฉะนั้นพวกเขาจึงไม่ได้อยู่ในสายตา และไม่ได้ใส่ใจเลยแม้แต่น้อย
ดูเหมือนว่าคนเหล่านี้ในตอนนี้น่าจะเป็นเจ้าถิ่นของเมืองหมิง และเมื่อจำพวกนางได้จึงต้องการที่จะมาหาเรื่อง
มู่เฉียนซีกล่าวตอบว่า “ข้าได้รับสมุนไพรวิญญาณมากมายที่เขาหลิงอวิ๋น ภูเขาลูกนั้นเป็นของตระกูลเจ้าอย่างนั้น หรือ? เจ้าถึงมายุ่งวุ่นวายขนาดนี้?”
หากว่านางเอาสมุนไพรวิญญาณที่นางได้รับออกมาให้คนผู้นี้ได้เห็น คาดว่านางน่าจะต้องตกใจเป็นแน่ เพราะของขวัญ ญวันเกิดนั้นไม่ใช่สิ่งที่เขาหลิงอวิ๋นจะสามารถมีได้เลย