ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2245 ชอบมากสุด ๆ เลย
ทันใดนั้นก็มีเสียงอันดุเดือดดังออกมาว่า “ตั้งแต่ที่พวกเจ้าบุกเข้ามาที่นี่ จุดจบเช่นนี้ก็ได้ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว! ถึงจะเอาผู้ใดมาอ้างก็ไม่มีประโยชน์หรอก ลงมือได้!”
และในตอนที่องครักษ์ลับกำลังจะลงมือ ก็ได้มีลูกธนูอาบยาพิษลอบโจมตีเข้าอย่างกะทันหัน!
สีหน้าของมู่เฉียนซีเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก นางกล่าวว่า “จิ่วเยี่ย!”
พวกเขาทั้งสองพุ่งทะยานไปอยู่ตรงหน้าคนผู้นั้นด้วยความเร็วสูงสุดเพื่อขวางธนูอันแหลมคมเหล่านั้นเอาไว้
หลังจากนั้นเหล่าองครักษ์ลับก็รีบไปจับคนที่ลอบโจมตีเหล่านั้นไว้ได้อย่างรวดเร็ว และโยนลงมาทันที
ตึง ตึง ตึง!
สีหน้าของผู้นำจินขาวเผือด จากนั้นก็ลงไปคุกเข่าอย่างรีบร้อนแล้วกล่าวว่า “นายท่าน! เป็นข้าที่ประมาทเลินเล่อ คิดไม่ถึงว่าจะมีคนบุกเข้ามาถึงข้างใน และลอบโจมตีนายท่านเช่นนี้ได้”
อารองหวังก็ตะลึงงันไปเช่นกัน คิดไม่ถึงว่าคนผู้นี้จะสามารถทำให้ผู้นำจินคุกเข่าลงได้
อย่างที่รู้กันว่าผู้นำจินคือผู้นำของสมาคมการค้าเฉินซีแห่งกองกำลังระดับสี่ครึ่ง เช่นนั้นเขาคือใครกันแน่?
บริเวณโดยรอบได้ถูกคนของอีกฝ่ายล้อมเอาไว้อย่างแน่นขนัด ก้นบึ้งในหัวใจของอารองหวังเย็นยะเยือกขึ้นมาทันที และคราวนี้ต่อให้ติดปีกก็หนีไปไม่รอดเป็นแน่
เมื่อเห็นแม่หนูน้อยมาอยู่ข้างหน้าเพื่อปกป้องเขา ภายในใจของเขาก็รู้สึกตื่นเต้นราวกับได้รับโลกทั้งใบมาก็มิปาน และร่างกายที่เย็นยะเยือกของเขาราวกับถูกห่อหุ้มไว้ด้วยความอบอุ่นอย่างไรอย่างนั้น
เขาถอนหายใจกล่าวว่า “คิดไม่ถึงเลยว่าจะต้องให้แม่สาวน้อยมาคุ้มครองข้าอีกครั้ง”
“ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้ท่านกำลังปกป้องข้าอยู่อย่างนั้นหรือ?” มู่เฉียนซีกล่าวตอบ
นางกวาดตามองไปที่คนเหล่านั้น พลางกล่าวว่า “มันต้องไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ที่คนเหล่านี้มาที่นี่!”
คนของจวนเจ้าเมืองดันมาผิดเวลาตอนที่พวกเขาลงมือเสียอย่างนั้น ก่อนหน้านี้ที่นี่มีการป้องกันอย่างแข็งแกร่งมาก แต่เพราะพวกเขาปรากฏตัวจึงทำให้มีปัญหาเล็กน้อยเช่นนี้
นายท่านรองคุกเข่าอย่างรีบร้อน พลางกล่าวว่า “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับข้า! มันไม่เกี่ยวกับข้าเลยแม้แต่น้อย! ผู้นำจิน ท่านต้องเชื่อข้านะ!”
ตอนนี้ผู้นำจินยังต้องคุกเข่า เพราะนายท่านยังไม่ยกโทษให้เขาอยู่เลยนะ! แล้วจะให้เขาไปสนใจคนผู้นั้นได้อย่างไรกัน
“พี่ใหญ่ของข้ามีความสัมพันธ์อันดีกับท่านมาโดยตลอด ท่านจะต้องช่วยข้าสิ จะทำให้ข้าพิการก็ไม่เป็นไร แต่พวกท่านโปรดไว้ชีวิตข้าด้วยเถิด”
บรรยากาศโดยรอบทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และในเวลานี้ก็มีชายวัยกลางคนคนหนึ่งเดินเข้ามาอย่างรีบร้อนพลางกล่าวอย่างโกรธเคืองว่า “พวกเจ้าทั้งสองคน! เหตุใดพวกเจ้าทั้งสองคนถึงได้ทำตัวน่ากังวลไม่แพ้กันเลย นี่เจ้าต้องการทำให้ข้าโมโหตายหรืออย่างไรกัน?”
หลังจากที่ตำหนิพวกเขาเสร็จแล้ว ท่านเจ้าเมืองก็คุกเข่าลงพร้อมกล่าวว่า “นายท่าน เป็นเพราะข้าอบรมสั่งสอนไม่ถูกวิธี ไม่ใส่ใจสั่งสอนพวกเขาให้ดีเองขอรับ นายท่านโปรดยกโทษให้ด้วยเถิดขอรับ”
นายท่านรองหวังตกใจเป็นอย่างมาก ในที่สุดเขาก็รู้แล้วว่าตนเองล่วงเกินคนที่น่ากลัวมากเพียงใด
เหตุผลที่พี่ใหญ่มีความสัมพันธ์อันดีกับผู้นำจิน ไม่ใช่เพราะสถานะเจ้าเมืองอันสูงส่งของพี่ใหญ่ แต่เป็นเพราะพวกเขาต่างก็รับคำสั่งจากเจ้านายคนเดียวกันต่างหาก
ในเมื่อนายท่านไม่กล่าวอะไรออกมาเลย มันจึงทำให้ภายในใจของท่านเจ้าเมืองรู้สึกว้าวุ่นยิ่งนัก
เขาชักดาบที่อยู่ในมือออกมา จากนั้นก็ตรงเข้าไปสังหารเหล่าองครักษ์ที่ลูกสาวและน้องชายพามาด้วยทั้งหมด
ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ
หลังจากที่สังหารไปทีละคนแล้ว สุดท้ายก็เหลือเพียงลูกสาวและน้องชายของเขา
คุณหนูใหญ่หวังกรีดร้องออกมาว่า “ท่านพ่อ ท่านต้องการกำจัดครอบครัวเพื่อความถูกต้องจริง ๆ หรือ? ข้าคือลูกสาวของท่านนะ! ข้า…”
“พี่ใหญ่ ข้าผิดไปแล้ว ข้าไม่ควรตามใจจางเอ๋อร์จนทำเรื่องวุ่นวายเช่นนี้ ท่านต้องช่วยข้านะ ช่วยข้า…”
“ยังไม่ต้องฆ่าตอนนี้ ไปสอบปากคำเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน เช่นนั้นข้ามอบให้เป็นหน้าที่ของเจ้าก็แล้วกัน คนพวกนี้ แล้วก็คนพวกนั้นด้วย เจ้าจะต้องหาคำตอบมาให้ข้า!”
“ขอรับ นายท่าน”
หากต้องการผลของการสอบปากคำที่ชัดเจนนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย และพวกเขาก็ได้ข้อมูลมาอย่างรวดเร็ว
อารองหวังถูกคนยุยงให้บุกเข้ามายังสถานที่แห่งนี้ ทั้งยังบอกว่าขอเพียงช่วยพวกเขาให้เข้ามาข้างในนี้ได้ ก็จะมีคนช่วยทำให้เขาได้รับตำแหน่งเจ้าเมือง
เจ้าเมืองโกรธจนอยากจะบ้า คิดไม่ถึงเลยว่าน้องชายของเขาจะมีความคิดเช่นนี้ได้ ปกติแล้วเขาเชื่อใจน้องชายของเขามาก แต่กลับกลายเป็นว่าเขาเลี้ยงคนเนรคุณเช่นนี้เอาไว้
คราวนี้เขาจะต้องฆ่าน้องชายของเขาเพื่อคุณธรรมแล้วจริง ๆ
ส่วนลูกสาว เขาไม่อาจลงมือทำได้จริง ๆ
ผู้นำจินกล่าวว่า “เพราะเจ้ารักและหวงแหนลูกสาวของเจ้าจริง ๆ นายท่านจึงบอกว่าเจ้าไม่ต้องฆ่าลูกสาวของเจ้าแล้ว แต่เจ้ากับลูกสาวของเจ้าจะต้องไปยังเขตน้ำแข็งที่อยู่เหนือสุด และถูกขังคุกเป็นเวลาหนึ่งร้อยปี”
“เจ้าก็รู้ว่า นี่เป็นการลงโทษที่มีความเมตตามากที่สุดแล้ว!”
เจ้าเมืองกล่าวว่า “ฝากขอบคุณนายท่านแทนข้าด้วย!”
คิดไม่ถึงว่าการถูกขังคุกเป็นเวลาหนึ่งร้อยปีจะเป็นการลงโทษอย่างมีเมตตา คุณหนูใหญ่หวังไม่อยากที่จะเชื่อหูของนางเลยจริง ๆ
ก่อนหน้านี้นางเคยเป็นคุณหนูใหญ่ผู้งดงามที่ได้รับความรักมากที่สุดของจวนท่านเจ้าเมือง เหตุใดถึงต้องกลายเป็นนักโทษในสถานที่เช่นนั้นด้วย?
“ท่านพ่อ ข้าไม่อยากไป! ข้ายังเด็กอยู่เลย จะอยู่อย่างเสียเปล่าไปร้อยปีได้อย่างไร? นอกจากนี้ข้ายังเป็นนักปรุงยา และตอนนี้ข้าก็เรียนรู้วิธีการกลั่นยาแล้วด้วย หากถูกขังอยู่ที่นั่นอนาคตทั้งหมดของข้าก็จะต้องพังทลายลงแน่นอน หากในอนาคตข้าต้องแต่งงาน ขะ…ข้าไม่อยากให้เป็นเช่นนี้…”
“พวกเราหนีกันเถอะ! ท่านพ่อ ท่านแข็งแกร่งขนาดนั้น พวกเราจะต้องหนีไปได้อย่างแน่นอน!”
ท่านเจ้าเมืองกล่าวว่า “มีพ่อคอยอยู่เป็นเพื่อนเจ้า อย่ากลัวไปเลย! พ่อไม่เคร่งครัดเรื่องระเบียบวินัยกับเจ้า ความประมาทเลินเล่อเพียงชั่วขณะทำให้เกิดความผิดพลาดจนไม่อาจปกปิดได้ เพียงแค่สามารถมีชีวิตรอดอยู่เป็นเพื่อนเจ้าได้ก็ถือว่าดีมากที่สุดแล้ว”
ในตอนแรกเขามัวแต่ยุ่งอยู่กับการบำเพ็ญตบะ และเอาแต่ยุ่งอยู่กับงานจนละเลยการสั่งสอนลูกสาวให้ดี สุดท้ายก็ปล่อยให้ลูกสาวต้องประสบกับปัญหาใหญ่เช่นนี้ ทั้งหมดล้วนเป็นความผิดพลาดของเขาเอง
หลังจากนั้นคุณหนูใหญ่ก็ทรุดตัวลงและร้องไห้ออกมาทันที!
ส่วนภายในเรือนหลักอีกด้านหนึ่ง เขากล่าวขึ้นมาอย่างเคร่งขรึมว่า “ตัวตนของข้าถูกคนสงสัยแล้ว ข้าไม่สามารถอยู่ที่เมืองหมิงได้อีกต่อไปแล้ว ต้องเปลี่ยนสถานที่แล้วล่ะ”
“นายท่าน ข้าจะไปหาสถานที่ใหม่มาให้นายท่านเลือกทันทีขอรับ”
“ไปเถอะ!”
มู่เฉียนซีมาดูเขา แม้ว่าวันนี้จะได้รับความตื่นตระหนก แต่กลับไม่ได้รับบาดเจ็บ ทว่า…
นางใช้พลังวิญญาณตรวจสอบร่างกายของเขา และรู้สึกได้ว่าพลังคำสาปที่สงบนิ่งไปช่วงเวลาหนึ่งได้กำเริบขึ้นมาอีกครั้งแล้ว
ตอนนี้ชิงอิ่งยังไม่กลับมา และหากเกิดอยู่ในสภาวะฉุกเฉินก็จะไม่มีพลังแห่งชีวิตคอยตรึงเอาไว้อีกแล้ว ฉะนั้นสถานการณ์ของเขาจึงเป็นอันตรายมาก
“ท่าน…สถานการณ์ของท่านไม่มั่นคงมาก ต้องการที่จะเคลื่อนย้ายตอนนี้จริง ๆ หรือ?” มู่เฉียนซีกล่าวถาม
“แม่หนูน้อยไม่เต็มใจที่จะวิ่งโล่ไปทั่วกับข้าอย่างนั้นหรือ!”
“แน่นอนว่าต้องเต็มใจมากอยู่แล้ว! ข้าบอกแล้วว่าจะต้องรักษาท่านให้หาย ฉะนั้นไม่มีทางกลับคำได้หรอก ข้ารอที่จะรักษาท่านให้หาย ท่านจะได้พาข้าไปพบกับองค์รัชทายาทเฟิงอวิ๋น”
“เจ้าชื่นชอบมู่เฟิงอวิ๋นมากขนาดนั้นเลยอย่างนั้นหรือ?” เขากล่าวถามด้วยเสียงทุ้มต่ำ
“ชอบมากที่สุดของที่สุดเลยล่ะ!” มู่เฉียนซีกล่าวพลางพยักหน้าอย่างตั้งใจ
แม้ว่าท่านพ่อของตนเองจะไร้ความรับผิดชอบอย่างไรก็ตาม นางก็ยังสามารถสัมผัสได้ถึงความรักที่เขาเคยมีต่อนาง เขายอมทิ้งทุกอย่างเพื่อกลับมายังแดนซวนเทียน ไม่เพียงเพื่อท่านแม่ แต่ยังเพื่อนางด้วย
“แล้วข้าล่ะ? ซี!” ถึงแม้จะรู้ว่านั่นคือท่านพ่อตาของเขา แต่จิ่วเยี่ยก็อดที่จะหึงหวงไม่ได้อยู่ดี
“แน่นอนว่าแม่หนูน้อยจะต้องชอบมู่เฟิงอวิ๋นมากกว่าอยู่แล้ว เจ้าไปทางนั้นเลยไป!” เขากล่าวพลางโบกไม้โบกมือด้วยความรังเกียจ
เพียงแต่คำพูดนี้ ทำให้ใบหน้าภายใต้หน้ากากของเขาอดเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อไม่ได้ อีกทั้งยังทำให้ภายในใจของเขาอดที่จะดีใจไม่ได้อีกด้วย
บนใบหน้าของมู่เฉียนซีเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ดูเหมือนว่าคนผู้นี้จะสนิทกับท่านพ่อมาก มิเช่นนั้นคงไม่โต้เถียงกับจิ่วเยี่ยเพื่อท่านพ่อของนางหรอก
“ตอนนี้ข้ายังหาหนทางในการแก้ไขไม่เจอ ดังนั้นท่านเคลื่อนย้ายไปด้วยกันกับข้าได้ และขอให้ท่านโปรดเชื่อใจข้า ว่าพวกเราไม่มีทางเป็นศัตรูกันแน่นอน” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างรอบครอบ
มู่เฉียนซีเองก็รู้ดีว่า เขาในตอนนี้ได้ถูกคนจับตามองแล้ว และแม้ว่าจะเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวังมากเพียงใดก็อาจจะถูกคนหาร่องรอยได้อยู่ดี
และสำหรับพวกเขาแล้ว ตอนนี้นางเป็นเพียงแค่คนนอกเท่านั้น
ในความเป็นจริงแล้วนางเป็นคนที่น่าสงสัยที่สุด แต่เขากลับเชื่อใจนาง และไม่เคยสงสัยในตัวนางเลยแม้แต่น้อย
.
.