ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2252 คู่ต่อสู้ในคราวนี้
เมื่อมาถึงที่พักของพวกเขา จูเชว่ก็กล่าวว่า “แม้ว่าตำหนักเทพแห่งชีวิตจะปรากฏตัวขึ้นแล้ว แต่การจะขึ้นไปตอนนี้ก็เป็นเรื่องที่อันตรายมาก หากมีคนเข้าไปใกล้แต่ไม่อาจทนต่อพลังแห่งชีวิตนั้นได้ก็จะกลายเป็นสัตว์ประหลาดทันที และสุดท้ายก็ต้องถูกผู้แข็งแกร่งที่มาจัดการเข้าอยู่ดี”
ตูมมม โครมมม!
ซึ่งก็เป็นไปตามที่คาดไว้ และตอนนี้ก็มีเสียงระเบิดอันน่าสะพรึงกลัวดังออกมาจากบนเทือกเขาจูเทียนจริง ๆ
นี่น่าจะเป็นใครสักคนหนึ่งที่คิดสั้นฝืนบุกไปที่เทือกเขาจูเทียน สุดท้ายก็กลายเป็นสัตว์ประหลาดจนถูกคนอื่นกำจัดไปเป็นแน่
“ตราบใดที่พลังชีวิตโดยรอบไม่เจือจางไป ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่สามารถเข้าไปใกล้ได้ และพวกเราก็ทำได้แต่รอเท่านั้น!” จูเชว่กล่าวอย่างเคร่งขรึม
“รอ หรือว่าต้องรอตลอดไป รอจนมันหายไปเลยอย่างนั้นหรือ? ยังไงก็ต้องคิดหาหนทางบางอย่าง” มู่เฉียนซีกล่าว
จูเชว่กล่าวว่า “เพราะการปรากฏตัวของตำหนักเทพแห่งชีวิตครั้งที่แล้วมีระยะเวลาห่างจากตอนนี้นานมากเกินไป จึงทำให้ไม่มีผู้ใดรู้เลยว่าสถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง ซีซีข้ารู้ดีว่าเจ้าอยากหาไม้เทพแห่งชีวิตให้เจอมากแค่ไหน แต่เจ้าห้ามเข้าไปเสี่ยงเด็ดขาด”
“เลิกพูดเรื่องนี้ก่อนเถอะ เรามาคุยกันเรื่องคู่ต่อสู้ในคราวนี้กันก่อนดีกว่า การต่อสู้กับคู่ต่อสู้คนอื่น ๆ ยังไม่ต้องพูดถึงเลย พวกเรามาคุยกันเรื่องราชวงศ์ตงหวงก่อน! คราวนี้มู่หลินหลางจะต้องมาด้วยอย่างแน่นอน ข้อมูลของข้าได้รับการยืนยันแล้ว และเนื่องจากมู่หลินหลางผิดพลาดครั้งแล้วครั้งเล่า คราวนี้จักรพรรดิตงหวงจึงได้จัดหาผู้ช่วยมาให้นางถึงสองคน คนหนึ่งก็คือองค์ชายสี่แห่งราชวงศ์ตงหวงมู่ฉีจือ ส่วนอีกคนหนึ่งก็คือองค์ชายสามมู่หงจือ”
“ความสามารถของมู่ฉีจือนั้นสูงกว่ามู่หลินหลาง เพราะเขาเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสอง ส่วนพรสวรรค์ของมู่หงจือก็เป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับห้า”
ในขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องคนของราชวงศ์ตงหวงอยู่นั้น ทันใดนั้นก็มีเสียงเจี๊ยวจ๊าวดังมาจากชั้นล่าง
มีชายคนหนึ่งนำคนกลุ่มหนึ่งตรงเข้ามายังตำแหน่งที่มู่เฉียนซีอยู่ด้วยท่าทางดุดัน และคนที่มาผู้นั้นก็ยังสวมชุดเกาะสีเขียวอีกด้วย
“นั่นคือผู้ใดกัน? เหตุใดถึงหยิ่งผยองเช่นนี้?”
“ดูเหมือนว่า…ดูเหมือนว่านั่นจะเป็นองค์ชายสี่นะ!”
“คิดไม่ถึงเลยว่าองค์ชายสี่จะเสด็จมาที่นี่! ผู้ใดทำให้องค์ชายสี่ขุ่นเคืองใจกัน”
ปัง!
ประตูที่อยู่ตรงหน้าถูกเปิดออกมาอย่างรุนแรง และองค์ชายสี่ก็เดินเข้ามาด้วยท่าทางขึงขัง
ทันใดนั้นแววตาอันชั่วร้ายคู่นั้นก็จ้องมองมาที่มู่เฉียนซี ทั้งยังเป็นสายตาที่อาฆาตมาดร้ายเป็นอย่างมากอีกด้วย
ราวกับคลื่นใต้น้ำอันปั่นป่วน เขากล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้มว่า “แม่นางมู่ ข้าได้ยินมาว่าเจ้าก็มาที่เมืองจูเทียนเช่นกัน ฉะนั้นข้าจึงรีบมาดูเจ้าด้วยความตื่นเต้น เพราะอยากจะรู้ว่าคนแบบไหนที่เอาชนะน้องสาวของข้าได้?”
“พอมาดูตอนนี้แล้ว เจ้านี่ช่างงามหยาดเยิ้มเสียจริง ๆ ข้าต้องการนางสนมอยู่พอดี ไม่รู้ว่าแม่นางมู่จะสนใจหรือไม่? ถึงตอนนั้นเมื่อพวกเรากลายเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว ความขัดแย้งเล็กน้อยระหว่างเจ้ากับน้องสาวข้าก็จะสามารถจัดการได้…”
และในเวลานี้มู่เฉียนซีก็เริ่มลงมือทันที พัดวิหคเฟิงหลิงกางออกอย่างกะทันหัน เพื่อจะเด็ดหัวสุนัขของมู่ฉีจือ
ปัง!
ทันที่มู่ฉีจือลงมือ ก็มีม่านวารีมาสกัดกั้นการโจมตีธาตุวารีของมู่เฉียนซีเอาไว้ได้
“ทักษะซิวหลัว!”
และทันทีที่มู่เฉียนซีออกกระบวนท่า พลังที่รุนแรงก็พัดโหมกระหน่ำ ปังง! จนเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวขึ้น ซึ่งมันก็ทำให้มู่ฉีจือถอยร่นไปหลายก้าวเลยทีเดียว
“ไสหัวไปซะ! ขนาดตำแหน่งของจักรพรรดิตงหวง ข้ามู่เฉินซียังไม่สนใจเลย แล้วนับประสาอะไรกับตำแหน่งนางสนมของเจ้า องค์ชายสี่ ใครทำให้เจ้ากล้าพูดคำเช่นนี้ออกมาได้ ข้าว่าเจ้าคงจะอยากจะกลับไปเป็นขันทีที่พระราชวังตงหวงอย่างนั้นสินะ!” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชา
มีผู้คนมากมายอยู่ภายในโรงเตี๋ยมของสมาคมการค้าเฉินซี ฉะนั้นพวกเขาก็ย่อมได้ยินคำพูดเหล่านี้ของมู่เฉียนซีแน่นอนอยู่แล้ว
“ที่แท้องค์ชายสี่ก็มาหาเรื่องมู่เฉินซีนี่เอง!”
“มู่เฉินซีเองก็จะอวดดีเกินไปแล้ว! คิดไม่ถึงเลยว่าจะกล้าพูดคำเช่นนี้ออกมาได้”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! อะไรคือไม่สนใจแม้แต่ตำแหน่งของจักรพรรดิตงหวงกัน รอให้เจ้ามีคุณสมบัติในตำแหน่งนั้นก่อนค่อยมาพูดเถอะ!”
และผู้คนมากมายก็เริ่มพูดคุยเรื่องนี้กันอย่างกว้างขวาง!
ซวนอู่เดินออกมาแล้วกล่าวว่า “องค์ชายสี่ มู่เฉินซีเป็นเพื่อนของข้า แต่ตอนนี้ท่านมาหาเรื่องเพื่อนของข้าในอาณาเขตของข้า ฉะนั้นหลังจากนี้ไป ไม่ว่าจะเป็นที่ใดท่านโปรดอย่าได้มาปรากฏตัวในโรงเตี๋ยมของสมาคมการค้าเฉินซีของพวกเราอีก”
มู่ฉีจือกล่าวว่า “ข้ามีความตั้งใจดี แต่มู่เฉินซีกลับไม่เห็นคุณค่า มันก็ทำให้ข้าเสียใจมากจริง ๆ! รอให้น้องสาวของข้ามาเมื่อไร หากนางต้องการจะต่อสู้กับมู่เฉินซี ข้าคงขวางเอาไว้ไม่ได้อีกแล้ว อย่างที่รู้กันว่าน้องสาวของข้าในตอนนี้เปลี่ยนไปจนเมื่อก่อนนี้เทียบไม่ติดเลยก็ว่าได้”
สมาคมการค้าเฉินซีปกป้องมู่เฉินซีขนาดนี้ จึงทำให้วันนี้ไม่เหมาะที่เขาจะลงมือ
“พวกเรากลับ!”
ทั้งสองฝ่ายต่างก็ไม่อยากที่จะแตกหักกันอย่างโจ่งแจ้ง แต่หลังจากนี้ไปเมืองจูเทียนไม่มีทางสงบสุขอย่างแน่นอน
“เดิมทีแล้วเป้าหมายของข้ามีเพียงไม้เทพแห่งชีวิตเท่านั้น ฉะนั้นตอนนี้จึงไม่มีเวลาที่จะมาเปลืองแรงกับพวกเขา คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเขาจะมาหาเรื่องก่อนถึงที่เช่นนี้ จูเชว่ เจ้าไปตรวจสอบมาให้หน่อยว่าเจ้าองค์ชายสี่อะไรนั่นคืนนี้พักอยู่ที่ใด?” มู่เฉียนซีกล่าว
“ได้เลย! ข้ารับประกันว่าจะตอบซีซีให้ได้ก่อนค่ำนี้แน่!” จูเชว่กล่าวด้วยรอยยิ้ม
นอกจากคนของราชวงศ์ตงหวงเหล่านั้นแล้ว ก็ยังมีกองกำลังหลักระดับสี่ครึ่งหลายสำนักที่ส่งคู่ต่อสู้ที่ยากจะรับมือออกมาด้วยอีกมากมาย อย่างไรเสียในการแข่งขันอัจฉริยะของราชวงศ์ตงหวงก็มีการจำกัดอายุ ซึ่งอายุไม่เกินสามสิบปีนั้นมีเวลาในการบำเพ็ญตบะค่อนข้างสั้น และถึงจะมีพรสวรรค์อันโดดเด่นแต่ก็เป็นได้แค่ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น
นอกจากนี้คนที่อยู่ในแดนซวนเทียน หากอายุไม่เกินร้อยปีก็จะถือได้ว่าเป็นเพียงแค่รุ่นเยาว์ และรุ่นเยาว์เหล่านี้ก็มีบางคนที่มีพรสวรรค์พอที่เกือบจะบรรลุเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณได้แล้ว ซึ่งไม่ว่าจะเป็นในราชวงศ์ตงหวง ในกองกำลังระดับสี่ดาวครึ่งอื่น ๆ หรือว่าภายในผู้บำเพ็ญอิสระเหล่านั้นล้วนมีเหมือนกันทั้งสิ้น
ด้วยเหตุนี้การต่อสู้ในคราวนี้ จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยแม้แต่น้อย และแน่นอนว่า กองกำลังของพวกเขาไม่ได้อ่อนแอเช่นกัน
จูเชว่ได้แจ้งตำแหน่งที่ตั้งของที่พักให้กับมู่เฉียนซีอย่างรวดเร็ว มู่เฉียนซีกล่าวว่า “จิ่วเยี่ย พวกเราไปกันเถอะ!”
“ซีซี! ข้าก็จะไปด้วย เรื่องเช่นนี้ข้าจะพลาดได้อย่างไรกันล่ะ?”
เนื่องจากว่าองค์ชายสี่เป็นรัชทายาทของราชวงศ์ตงหวง ฉะนั้นที่พักของเขาจึงมีการคุ้มกันอย่างเข้มงวด อีกทั้งยังมีกลิ่นอายอันแข็งแกร่งที่หลบซ่อนอยู่อีกจำนวนนับไม่ถ้วนอีกด้วย และหากมีผู้ใดกล้าเข้ามาใกล้ พวกเขาคงจะจัดการอย่างไร้ความเมตตาแน่นอน
องค์ชายสี่กำลังคลอเคลียอยู่กับสาวงามผู้หนึ่ง นอกจากนี้แขนอีกข้างก็ยังคงโอบกอดสาวงามไว้อีกคนหนึ่งด้วย กล่าวได้ว่าองค์ชายสี่ผู้นี้เป็นองค์ชายที่เจ้าชู้มากที่สุดในราชวงศ์ตงหวงเลยก็ว่าได้
“ฝ่าบาท!” ในเวลานี้ มีชายในชุดคลุมดำคนหนึ่งบุกเข้ามา
“โอ้! สาวงามมาแล้วหรือ? รอให้ข้าจับมู่เฉินซีได้เมื่อไร พวกเราค่อยมาสนุกพร้อมกันนะ!” องค์ชายสี่กล่าวพลางแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย
เสียงที่หวานหยาดเยิ้มเสียงหนึ่งดังขึ้นมาว่า “นางใช่อัจฉริยะอันดับหนึ่งของราชวงศ์ตงหวงในข่าวลือหรือเปล่าเพคะ? นางสามารถทำให้องค์ชายสี่โปรดปรานได้ นั่นถือเป็นโชคดีของนางจริง ๆ”
“ใช่แล้วล่ะ! แม้ว่าชื่ออัจฉริยะอันดับหนึ่งจะน่าฟัง แต่นางก็เป็นเพียงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตคนหนึ่งเท่านั้นแหละ องค์ชายสี่อย่างข้าสามารถจัดการแม่สาวน้อยคนนั้นได้อย่างง่ายดายอยู่แล้ว”
ในตอนที่มู่เฉียนซีกำลังเข้ามาใกล้ที่พักของเขา องค์ชายสี่ก็พุ่งทะยานออกมาเสียก่อน
เขาโยนเสื้อคลุมออกไปพลางกล่าวว่า “มู่เฉินซี วันนี้เจ้ายังปฏิเสธข้าอยู่เลย แต่คืนนี้ดันกระโจนเข้ามาในอ้อมกอด…”
“พลังวายุทำลาย ดาวกระจาย!”
มู่เฉียนซีคิดว่า ควรที่จะทำให้เจ้าหมอนี่กลายเป็นใบ้ไปเสียดีกว่า
จูเชว่กล่าวอย่างโกรธเคืองว่า “เจ้าช่างรนหาที่ตายเสียจริง!”
ถึงจะเผชิญหน้ากับการโจมตีของมู่เฉียนซี แต่องค์ชายสี่กลับหัวเราะขึ้นมา แล้วกล่าวว่า “ข้าว่านะมู่เฉินซี เจ้าเหมือนที่เสร็จพี่ของข้าพูดไม่ผิดเลย เจ้าเป็นคนที่ทั้งหยิ่งยโสทั้งอวดดีจริง ๆ วันนี้ข้าแค่ไปยั่วยุเจ้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะโง่จนมาหาข้าถึงที่เช่นนี้ อีกทั้งยังพาคนมาเพียงเล็กน้อยแค่นี้อีก ช่างโง่เขลายิ่งนัก”
ถึงองค์ชายสี่จะดูเหมือนว่าเป็นแนวหน้า แต่เขากลับพาคนมาด้วยไม่น้อยเลยทีเดียว และเป้าหมายเดียวของเขาก็คือการจัดการกับมู่เฉินซีนั่นเอง
ราชวงศ์ตงหวงอย่างพวกเขาอดกลั้นมานานมากแล้ว ในที่สุดก็จะได้แก้แค้นมู่เฉินซีเสียที เพราะหากปล่อยให้มู่เฉินซีมีชีวิตอยู่ต่อไปจริง ๆ คนอื่นคงคิดว่าราชวงศ์ตงหวงของพวกเขาหวาดกลัวสมาคมการค้าเฉินซีเป็นแน่!
.
.