ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2253 ถูกเฉือนไปแล้ว - novel-lucky

“อู๋ตี้ เสี่ยวหง เสี่ยวโม่โม่!” แม้จะรู้ว่านี่เป็นกับดักที่องค์ชายสี่วางแผนเอาไว้ แต่สีหน้าของมู่เฉียนซีก็ยังคงนิ่งสงบมากอยู่ดี

จูเชว่กล่าวอย่างเย็นชาว่า “ลงมือได้! คิดว่าคนของข้าอ่อนแอหรืออย่างไรกัน?”

คนเหล่านี้ ช่างไร้ค่าที่จะกล่าวถึงเกินไปแล้ว

“ว่านซือเยี่ยนมักจะเป็นคนที่ไม่ยอมทำเรื่องที่ต้องขาดทุนอยู่เสมอ และเป็นเพราะความขัดแย้งเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำให้คืนนี้เจ้าถึงกับมาโจมตีข้า ข้าคิดว่าเขาไม่มีทางยอมทำเรื่องที่ขาดทุนเช่นนี้แน่นอน ในเมื่อไม่มีคนของเขา เจ้าคิดว่าข้าจะกลัวเจ้าอย่างนั้นหรือ?” องค์ชายสี่คลี่ยิ้มออกมาอย่างภาคภูมิใจ

เขากำลังทดสอบว่าสมาคมการค้าเฉินซีจะปกป้องมู่เฉินซีมากเพียงใด แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้สมาคมการค้าเฉินซีก็แค่พยายามทำอย่างผิวเผินเท่านั้น และพอถึงเวลาจริงพวกเขาก็ไม่ได้ออกแรงมากเท่าไรนัก อีกทั้งยังไม่คิดที่จะล่วงเกินราชวงศ์ตงหวงของพวกเขาอีกด้วย

ตูมมม โครมม!

มีเสียงดังสนั่นหวั่นไหวเสียงหนึ่งดังขึ้น

เมื่อจูเชว่เห็นท่าทางที่ภูมิใจขององค์ชายสี่ ก็แทบรอที่จะฉีกใบหน้าอันน่าขยะแขยงนั่นของเขาไม่ไหวอยู่แล้ว

สมาคมการค้าเฉินซีของพวกเขาไม่ช่วยเหลือที่ไหนกัน เพียงแต่ซีซีบอกว่า ไม่จำเป็นที่จะต้องลากสมาคมการค้าเฉินซีลงไปในน้ำ และทำให้พ่อบุญธรรมต้องได้รับความเดือดร้อน ซึ่งนางสามารถจัดการตัวละครเช่นนี้ได้อยู่แล้ว!

มู่เฉียนซีเริ่มต่อสู้กับองค์ชายสี่ที่เป็นถึงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสอง และทันทีที่ปะทะกัน นางก็รู้ได้ทันทีเลยว่าเขานั้นเป็นเพียงแค่คนเจ้าสําราญที่กลวงโบ๋ก็เท่านั้นเอง

ที่เขาสามารถบำเพ็ญตบะมาจนถึงตอนนี้ได้ คงต้องขอบคุณสายเลือดที่ดีของเขา อีกทั้งยังมีกองกำลังระดับห้าที่คอยสนับสนุนทรัพยากรในการฝึกฝนต่าง ๆ ให้เขาอีกด้วย

มู่เฉียนซีเอ่ยปากกล่าวว่า “เดิมทีข้าก็สงสัยว่า เหตุใดมู่หลินหลางถึงได้ถูกจักรพรรดิตงหวงใส่ใจฝึกฝนเป็นพิเศษ ที่แท้ก็เป็นเพราะองค์ชายองค์หญิงคนอื่น ๆ ของราชวงศ์ตงหวงเทียบนางไม่ติดเลยนี่เอง นางคงถือได้ว่าสูงส่งที่สุดในหมู่คนตัวเตี้ยอย่างพวกเจ้าสินะ เจ้าว่าข้าพูดถูกหรือไม่?”

“นางสารเลวมู่เฉินซี คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะกล้าทำให้ข้าอับอายเช่นนี้!” ทันใดนั้น พลังธาตุวารีที่น่าสะพรึงกลัวของเขาก็ระเบิดออกมา

“จักรพรรดิ์วารีพิฆาต!”

คนของราชวงศ์ตงหวง ส่วนใหญ่แล้วจะมีพลังวิญญาณธาตุวารี อีกทั้งทักษะวิญญาณธาตุวารีของแต่ละคนก็รุนแรงมากอีกด้วย ฉะนั้นการฝึกฝนทักษะวิญญาณเหล่านี้ขององค์หญิงและองค์ชายจะต้องมีความได้เปรียบในการต่อสู้อย่างแน่นอน

แต่แน่นอนว่า นั่นเป็นสำหรับคนทั่วไปเท่านั้น ซึ่งแม้แต่มู่หลินหลางที่ฝึกฝนทักษะวิญญาณระดับสูงขนาดนั้นยังต้องพ่ายแพ้และได้รับบาดเจ็บเพราะนาง ฉะนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึงมู่ฉีจือผู้นี้เลย

“พลังวายุทำลาย ดาวกระจาย!”

ร่างของมู่เฉียนซีเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ ซึ่งมันก็รวดเร็วพอที่จะหลบหลีกการโจมตีจากพลังธาตุวารีทั้งหมดของเขาได้ หากนางสามารถหาโอกาสโจมตีได้ คนผู้นี้คงโดนวางยาพิษไปแล้ว

แน่นอนว่า โชคดีที่มู่ฉีจือก็เป็นองค์ชายของราชวงศ์ตงหวงคนหนึ่งเช่นกัน ฉะนั้นมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพ และมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพป้องกันในร่างกายของเขาก็ถือว่ามีไม่น้อยเลยทีเดียว ฉะนั้นเขาถึงสามารถทนสกัดกั้นการโจมตีของมู่เฉียนซีเอาไว้ได้

“เข้ามาอีกสิ!”

“เพลิงนภาพิฆาต!”

ปัง ปัง ปัง!

พลังอันน่าสะพรึงกลัวพุ่งเข้าโจมตีมู่ฉีจือ และบนใบหน้าของมู่ฉีจือก็มีเหงื่อไหลทะลักออกมาเต็มไปหมด

สมแล้วที่เอาชนะน้องสาวของเขาได้ ผู้บำเพ็ญภูตพลังธาตุวิญญาณคู่ผู้นี้รับมือได้ยากมากจริง ๆ

ปัง ปัง ปัง!

การจู่โจมที่ถาโถมเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้ใบหน้าขององค์ชายสี่น่าเกลียดมากขึ้นเรื่อย ๆ

พรวด พรวด พรวด!

ประสิทธิภาพในการป้องกันยิ่งแย่มากเรื่อย ๆ จากนั้นเลือดก็ทะลักออกมาจากปากขององค์ชายสี่อย่างบ้าคลั่ง และร่างของเขาก็ลอยละลิ่วออกไป

“องค์ชายสี่!”

ผู้แข็งแกร่งที่องค์ชายสี่พามาด้วยเหล่านั้นก็ตกตะลึงเช่นกัน พวกเขารู้ดีว่าเดิมทีแล้วองค์ชายสี่เป็นคนที่ไม่กระตือรือร้นในการฝึกฝนคนหนึ่ง แม้ว่าเขาจะกลายเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์มานานหลายปีแล้ว แต่ความสามารถที่แท้จริงของเขายังเทียบแม้แต่องค์หญิงหลินหลางไม่ได้เลยด้วยซ้ำ!

และที่ฝ่าบาทส่งเขามาปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ ก็เพียงแค่จะหลอกใช้ทัศนคติของคนไร้ประโยชน์ผู้นี้เท่านั้นเอง

แต่พวกเขาก็คิดไม่ถึงเลยว่า องค์ชายสี่จะพ่ายแพ้อย่างรวดเร็วถึงเพียงนี้

ถึงองค์ชายสี่พ่ายแพ้ แต่ตอนนี้เขากลับยิ้มออกมา “คนของข้าชนะแน่ มู่เฉินซี ความสามารถของเจ้าเอาชนะข้าได้แล้วมันอย่างไรล่ะ? เจ้าสามารถเอาชนะผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงเหล่านี้ได้อย่างนั้นหรือ คิดว่าจะสามารถเอาชนะผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณเหล่านั้นได้หรือไง?”

“ข้าเอาชนะเจ้าเพียงคนเดียวก็พอแล้ว เพราะว่า…”

มู่เฉียนซีปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลังขององค์ชายสี่อย่างรวดเร็วราวกับภูตผีปีศาจก็มิปาน จากนั้นพัดวิหคเฟิงหลิงก็ถูกจ่ออยู่บนลำคอของเขา

“ข้าแค่จับเจ้ามาเป็นตัวประกันก็เพียงพอแล้ว! แม้ว่าเจ้าจะเป็นเพียงองค์ชายไร้ประโยชน์ แต่ก็ยังโชคดีที่เจ้าเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของจักรพรรดิตงหวง เจ้าพวกนี้ไม่กล้าเมินเฉยต่อความเป็นความตายของเจ้าหรอก!”

“ให้ตายเถอะ ปล่อยองค์ชายสี่เดี๋ยวนี้!”

“บังอาจนัก!”

“……”

มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ให้ทุกคนหยุดซะ! มิเช่นนั้นหากศีรษะองค์ชายสี่ของพวกเจ้าหลุดออกไป ข้าก็ไม่รับผิดชอบหรอกนะ”

องค์ชายสี่กล่าวว่า “หยุด! หยุดเดี๋ยวนี้!”

พวกเขาทั้งหมดหยุดการกระทำลงอย่างกะทันหัน แต่ทว่ามีชายชราคนหนึ่งแอบกระโจนออกมาอย่างเงียบงัน และจู่โจมเข้าใส่มู่เฉียนซีด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง โดยไม่มีสัญญาเตือนใด ๆ เลยแม้แต่น้อย!

“นางหนูน้อย คิดว่าหากจับองค์ชายสี่ได้แล้วเจ้าจะชนะอย่างนั้นหรือ? จะไร้เดียงสาเกินไปแล้ว!”

มู่เฉียนซียังคงยืนอยู่ตรงนั้นอย่างนิ่งสงบ โดยพัดวิหคเฟิงหลิงที่อยู่ในมือก็ไม่มีการสั่นไหวเลยแม้แต่น้อย นอกจากนี้ยังไม่เห็นพลังที่กำลังจะทำลายนางอยู่ในสายตาเลยแม้แต่นิดอีกด้วย

ทันใดนั้นพลังของชายชราผู้นั้นก็กลายเป็นความว่างเปล่าวไปอย่างกะทันหัน และยังไม่ทันรอให้เขาได้เข้าใจว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ เลือดเนื้อบนมือข้างหนึ่งของเขาก็หายไปในฉับพลัน จากนั้นเขาก็เสียการควบคุม และในที่สุดมือข้างนั้นก็เปลี่ยนกลายเป็นเพียงกระดูกขาว

“อ๊ากกก!” เขากรีดร้องออกมาอย่างโหยหวน มีความหวาดกลัวเผยออกมาบนใบหน้าของเขา และร่างของเขาก็ถอยออกไปอย่างรวดเร็ว

ร่างเงาสีดำร่างหนึ่งปรากฏตัวออกมาราวกับภูตผีอย่างไรอย่างนั้น เขาจ้องมองไปทางคนผู้นั้น และพลังลึกลับอันน่าสะพรึงกลัวก็ระเบิดออกมาอย่างกะทันหัน จากนั้นมันก็พัดโหมกระหน่ำใส่ชายชราผู้นั้น

“พวกเจ้า ลงมือสิ! ข้าไม่กลัวมู่เฉินซีผู้นี้หรอก หากนางมีความสามารถพอก็ลองฆ่าข้าดูสิ! ข้าคือองค์ชายของราชวงศ์ตงหวงเชียวนะ!” ตอนที่ผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน องค์ชายสี่ก็มีรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเช่นกัน!

พวกเขาต้องการที่จะจัดการคนผู้นี้ให้ได้โดยเร็ว “ในเมื่อนางสามารถจับข้ามาเป็นตัวประกันได้ พวกเจ้าไม่คิดที่จะจับคนทางนั้นมาเป็นตัวประกันบ้างหรืออย่างไร? ชายหนุ่มในชุดคลุมแดงคนนั้น แม้ว่าเขาจะสวมหน้ากากไว้ แต่จะต้องเป็นคนที่งดงามมากคนหนึ่งอย่างแน่นอน! ข้าไม่ได้มีหนุ่มรูปงามที่เข้าตาเช่นนี้มานานแล้ว ไปจับเขามาเร็วเข้า”

องค์ชายองค์หญิงของราชวงศ์ตงหวง ไม่ว่าจะได้รับความโปรดปรานหรือไม่ จักรพรรดิตงหวงก็มักจะมอบไพ่ตายเพื่อช่วยชีวิตของพวกเขาไว้เสมอ เพราะอย่างไรเสียจักรพรรดิตงหวงก็ย่อมไม่อยากที่จะให้สายพระโลหิตของราชวงศ์อันสูงศักดิ์ของเขาต้องตายอยู่ข้างนอกอยู่แล้ว

และองค์ชายสี่ก็เช่นเดียวกัน เขามั่นใจว่าหากมู่เฉินซีต้องการที่จะเอาชีวิตของเขาแล้วละก็ คนที่ตายจะต้องไม่ใช่เขาแต่เป็นมู่เฉินซีต่างหาก!

มู่เฉียนซีกล่าวว่า “อย่างที่เจ้าได้เตือนข้าไปแล้ว แน่นอนว่าข้าไม่สามารถเอาชีวิตของเจ้าได้ เช่นนั้น!”

พลังธาตุวายุระเบิดออกมาอย่างสมบูรณ์ และมีดวายุก็ได้ล้อมรอบองค์ชายสี่เอาไว้

ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ!

มีดวายุได้เฉือนลงไปบนผิวหนังของเขาจำนวนนับไม่ถ้วน นอกจากนี้มันยังเฉือนแม้กระทั่ง…มันเฉือนไปแล้ว…

เลือดสด ๆ แตกฉานซ่านเซ็นออกมา องค์ชายสี่ร้องคำรามออกมาพลางกล่าวว่า “อ๊ากกกกก! มู่เฉินซี จะ…เจ้าโหดร้ายนัก! ฆ่านางซะ…”

คนที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดมิดอีกกลุ่มหนึ่งปรากฏตัวออกมา ซึ่งทางราชวงศ์ตงหวงก็ได้เตรียมพร้อมเอาไว้ถึงสองกองกำลังด้วยกัน แต่ถึงพวกเขาจะมีคนมาเพิ่ม แล้วคิดว่าทางมู่เฉียนซีจะไม่มีอย่างนั้นหรือ?

“เจ้าขยะพวกนี้กล้าคิดจะมาจัดการคนงามได้อย่างไร” น้ำเสียงอันชั่วร้ายดังก้องขึ้นมา และคนกลุ่มหนึ่งก็ร่อนลงมาจากท้องฟ้าราวกับเทพมรณะก็มิปาน

“พวกเจ้า…พวกเจ้า…”

ความแข็งแกร่งของคนกลุ่มนี้มิอาจคาดเดาได้ และการปรากฏตัวของพวกเขาทำให้พวกเขารู้สึกเย็นวาบไปทั่วทั้งตัวเลยทีเดียว ซึ่งมันก็ให้ความรู้สึกราวกับว่ากำลังจะตกลงไปในขุมนรกอย่างไรอย่างนั้น

ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ!

จื่อโยวพาคนมาด้วยไม่มากนัก แต่ทว่าทุกคนนั้นล้วนเป็นนักฆ่าที่ทรงพลัง ซึ่งคนของราชวงศ์ตงหวงเหล่านี้ได้ถูกพวกเขาสังหารจนหมดภายในพริบตาเดียวเท่านั้น

“จะ…พวกเจ้าเป็นใครกันแน่?”