ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2254 ตำหนักเทพแห่งชีวิต
ดวงตาของจื่อโยวเหลือบมองไปทางองค์ชายสี่ผู้นั้น เมื่อได้เห็นเขาอยู่ในสภาพที่น่าสมเพชเช่นนี้ก็ตัวสั่นขึ้น นมาเล็กน้อย ห้ามทำให้คนงามขุ่นเคืองใจเด็ดขาด นี่คนงามจะโหดร้ายเกินไปแล้วนะ! คิดไม่ถึงเลยว่าจะตัดสิ่งนั้นอย่า างรวดเร็วเช่นนี้ได้ด้วย!
ฉึก!
มู่เฉียนซีไม่ได้คิดที่จะปล่อยองค์ชายสี่ไป ทันใดนั้นเข็มยาเข็มหนึ่งก็แทงเข้าไปในร่างกายของเขาอย่างเงียบงัน
เขารู้สึกเจ็บปวดไปทั่วทั้งร่างกาย แต่ความเจ็บปวดนี้ก็ไม่คุ้มค่าที่จะมาให้ความสนใจในเวลานี้
“พวกเขาต่างก็ตายกันไปหมดแล้ว แต่ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า ข้าว่าบทบาทของเจ้าน่าจะมีมาไว้เพื่อทดสอบความแข็งแกร่งของข้ าเท่านั้น และหากฆ่าเจ้าตายก็จะไม่มีคนส่งข่าวให้กับข้าน่ะสิ! เป้าหมายของข้าคือไม้เทพแห่งชีวิต ทางที่ดีที่ สุดคืออย่าเข้ามาเกะกะจะดีกว่า มิเช่นนั้นจุดจบของคนเหล่านี้ก็จะกลายเป็นจุดจบของพวกเจ้าด้วยเช่นกัน” มู่เฉียนซ ซีกล่าวอย่างเย็นชา
มู่เฉียนซีหยิบยาน้ำออกมาหลายสิบขวด และคนเหล่านี้ไม่เพียงแต่ถูกฆ่าเท่านั้น แต่ยังถูกยาน้ำเหล่านี้ทำลายจนไม่ เหลือร่องรอยเลยแม้แต่น้อยอีกด้วย
ภายในเรือนที่องค์ชายสี่พักอยู่ในตอนนี้ นอกจากสาวงามที่มีไว้สร้างความบันเทิงกับคนที่ทำงานเบ็ดเตล็ดเหล่านั้น แล้ว คนที่มีความสามารถคนอื่น ๆ ต่างก็หายกันไปจนหมดสิ้น
“องค์ชายสี่…”
สาวงามที่เคยมีความสัมพันธ์อย่างเร้าร้อนกับองค์ชายสี่ก่อนหน้านี้เหล่านั้น เมื่อเห็นองค์ชายสี่ที่แดงฉานไปด้วย เลือดตรงเข้ามาก็ตกใจกลัวจนหมดสติไปทันที
มู่เฉียนซีหัวเราะเยาะพลางกล่าวว่า “องค์ชายสี่รีบไปทำกิจกรรมกับสาวงามของเจ้าเสียเถอะ! ข้าไม่รบกวนเจ้าแล้วล่ะ”
องค์ชายสี่โมโหจนแทบที่จะกระอักเลือกอยู่แล้ว นะ…นางทำให้เขากลายเป็นคนพิการไปแล้ว จากนี้ไปเขาจะทำกับสาวงาม มได้อย่างไรกันล่ะ!
จิ่วเยี่ยกอดมู่เฉียนซีเอาไว้ และดวงตาที่เย็นยะเยือกคู่นั้นก็จ้องมองไปที่องค์ชายสี่ ซึ่งองค์ชายสี่รู้สึกราวกั บว่าร่างของเขาถูกโยนเข้าไปในถ้ำน้ำแข็งหมื่นปีอย่างไรอย่างนั้นเลยทีเดียว
พลังนั้นพุ่งตรงเข้าสู่ร่างกายขององค์ชายสี่ หากซีต้องการให้เขามีชีวิตอยู่อย่างตายทั้งเป็น เขาย่อมที่จะให้ซี สมความปรารถนาอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่อาจปล่อยให้เขามีชีวิตอยู่บนโลกนี้นานเกินไปนักได้อยู่ดี
ร่างเงาสีดำหายลับไปจากสถานที่แห่งนี้ทันที ส่วนจูเชว่ก็ได้แต่เม้มริมฝีปากพลางกล่าวว่า “หนีไปเร็วจริง ๆ! พวกเ เราก็ถอยเถอะ! ที่นี่มันสกปรกเกินไปแล้ว”
คฤหาสน์อันสวยสดงดงามก่อนหน้านี้ ตอนนี้ได้มีสภาพที่เละเทะไปหมดแล้ว และองค์ชายสี่ก็กล่าวอย่างเกลียดชังว่า ” “มู่เฉินซี พวกเจ้า…พวกเจ้ารอข้าก่อนเถอะ! น้องหญิงและองค์ชายสามจะต้องไม่ปล่อยพวกเจ้าไปอย่างแน่นอน!”
“คราวนี้เสด็จพ่อได้เตรียมความพร้อมมาอย่างสมบูรณ์แบบ อีกทั้งยังหาผู้ช่วยที่แข็งแกร่งมากเหล่านั้นมาได้อีกด้วย พวกเจ้าต้องตายแน่นอน! จะต้องตายอย่างแน่นอน!”
องค์ชายสี่โมโหจนแทบที่จะกระอักเลือดออกมา เพราะการทำให้คนเจ้าชู้มาตลอดอย่างเขาพิการจนไม่สามารถสืบเชื้อสายวง งศ์ตระกูลได้นั้น เป็นสิ่งที่สร้างความอัปยศครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขาเลยก็ว่าได้
แต่ราชวงศ์ตงหวงของพวกเขาได้เลี้ยงดูนักปรุงยาเอาไว้มากมาย ฉะนั้นจะต้องสามารถรักษาได้อย่างแน่นอน เขาเชื่อมั่ นว่าต้องจัดการเรื่องเล็กน้อยนี้ได้แน่
ถึงกระนั้นองค์ชายสี่หวาดกลัวจนคิดอะไรไม่ออก เขาไม่เพียงแต่โดนมู่เฉียนซีเฉือดในที่แจ้งเท่านั้น นอกจากนี้ยังถู กมู่เฉียนซีและจิ่วเยี่ยแอบลงมือทำอะไรบางอย่างแบบลับ ๆ อีกด้วย ฉะนั้นอยากจะฟื้นตัวกลับมาปกติอย่างนั้นหรือ ฝัน นไปเถอะ!
เขาเป็นได้เพียงขยะที่ไร้ประโยชน์คนหนึ่งเท่านั้น นอกจากนี้ยังเป็นขยะที่มีอายุสั้นอีกด้วย
องค์ชายสี่ได้กลายเป็นบุคคลที่ไม่สามารถเข้าไปภายในตำหนักเทพแห่งชีวิตในครั้งนี้ได้อีกแล้ว และเมื่อเห็นสภาพอ อันน่าสมเพชของลูกชายตนเองแล้ว จักรพรรดิตงหวงก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาทันที “มู่เฉินซีจะทำเกินไปแล้วนะ”
“เสด็จพ่อ คนที่เคยคุ้มครองมู่เฉินซีก่อนหน้านี้ไม่ได้ปรากฏตัวออกมา แต่กลับมีชายชุดดำที่น่ากลัวยิ่งกว่าเพิ่มขึ นมาแทน นอกจากนี้ยังเป็นกลุ่มคนที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าด้วย!”
จักรพรรดิตงหวงกล่าวว่า “ถึงคนเหล่านั้นจะแข็งแกร่งมากเพียงใด แต่คงไม่มีทางแข็งแกร่งเท่านายท่านทุกท่านนี้ได้ห หรอก!”
“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว ส่วนแม่สาวน้อยที่เจ้าพูดถึง ข้าจะจัดการให้พวกเจ้าเอง! ไม่ว่าผู้ใดที่กล้ามาขัดขวางพวกเ เราจะต้องถูกทำลาย แต่เจ้าอย่าลืมเรื่องที่รับปากพวกเราเอาไว้ เนื่องจากว่าคัมภีร์หมื่นคำสาปปรากฏตัวขึ้นมาในราช ชวงศ์ตงหวงของพวกเจ้า ฉะนั้นพวกเจ้าจะต้องหาคัมภีร์หมื่นคำสาปของเผ่าพวกเราให้เจอให้ได้ แม้ว่าจะต้องขุดลงไปให ห้ลึกเพียงใดก็ตาม” และเสียงที่อึมครึมเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมา
“นายท่านทุกท่านโปรดวางใจ อาณาเขตทั่วทั้งแคว้นตงหวงอยู่ในการควบคุมของพวกเราราชวงศ์ตงหวง ฉะนั้นสิ่งของที่น นายท่านต้องการพวกเราจะต้องหาเจออย่างแน่นอน! พวกเราไม่ใช่นักเล่นคาถาอาคม ถึงจะได้คัมภีร์หมื่นคำสาปไปก็ไม่มีประโ โยชน์อะไรอยู่แล้ว”
“พวกเจ้ายังหาครอบครัวของมู่เฟิงอวิ๋นไม่เจออีกหรือ คิดไม่ถึงว่าหลายปีขนาดนี้แล้วยังจับตัวมาไม่ได้อีก!” พวกเข ขากล่าวอย่างไม่พอใจ
เมื่อเผชิญหน้ากับการประณามของพวกเขา จักรพรรดิตงหวงก็ได้แต่ตำหนิอยู่ภายในใจ ขนาดวิธีที่เหนือเมฆของเผ่าคำสาป ปของพวกเขายังหาไม่เจอเลย แล้วนับประสาอะไรกับพวกเขากันล่ะ
“ข้ามั่นใจว่ามู่เฟิงอวิ๋นจะต้องอยู่ที่ราชวงศ์ตงหวงแน่ เขาต้องคอยเอาตัวรอดอยู่เสมอ และยังต้องหลบซ่อนอยู่ต ตลอดเวลา ข้าจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อหาเขาให้เจอ”
“เจ้ามู่เฟิงอวิ๋นนั่นไม่มีใครอีกแล้ว สายเลือดของเขาได้หายไปหมดแล้ว จะต้องหามู่เฟิงหลิงและแม่ของเขาให้เจอ ต้ องทำเช่นนี้ถึงจะสามารถรู้ที่อยู่ของคัมภีร์หมื่นคำสาปที่ปรากฏตัวขึ้นในเผ่ากิเลนได้”
“แม้ว่าตอนนี้มู่เฟิงอวิ๋นจะเปลี่ยนกลายเป็นคนพิการไปแล้วอย่างสมบูรณ์ แต่พวกเราก็ยังสามารถใช้มู่เฟิงอวิ๋นเพื่อล่ อหลอกคนที่นายท่านต้องการจับตัวให้ออกมาได้อยู่” มีแสงสว่างวาบฉายขึ้นในแววตาของจักรพรรดิตงหวง
“แดนซวนเทียนของพวกเจ้าช่างน่าสนใจจริง ๆ คิดไม่ถึงว่าจะมีสิ่งของที่น่าสนใจปรากฏตัวออกมามากมายเช่นนี้ แต่วางใจ เถอะ ตราบใดที่พวกเจ้าให้ความร่วมมือกับเผ่าคำสาปของพวกเราเป็นอย่างดี ปัญหาที่เจ้าต้องการจะจัดการ พวกเราก็จะจั ดการให้เจ้าอย่างไม่ตกหล่นแน่นอน”
“เช่นนั้นคงต้องขอขอบคุณทุกท่านล่วงหน้าแล้ว!” จักรพรรดิตงหวงตรัสอย่างประจบประแจง
“ส่วนไม้เทพแห่งชีวิตนั่น…”
“เจ้าคิดว่าการที่ตำหนักเทพแห่งชีวิตปรากฏตัวขึ้นมาแล้วจะได้รับไม้เทพแห่งชีวิตจริง ๆ อย่างนั้นหรือ? นั่นมันเ เป็นไปไม่ได้หรอก เผ่าของข้าเคยตามหาไม้เทพแห่งชีวิตมาก่อน แต่ว่ากลับตามหาไม่เจอแม้แต่ใบของมันด้วยซ้ำ! ถึงตำห หนักเทพแห่งชีวิตจะปรากฏออกมา แต่หากไม่มีคนที่มีความสามารถพอจะเปิดประตูใหญ่แห่งชีวิตได้ มันก็จะหายสาบสูญไปอ อีกครั้ง และซ่อนตัวอยู่ในความว่างเปล่าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เพื่อทำให้ไม่มีผู้ใดหามันเจออีก”
จักรพรรดิตงหวงกล่าวอย่างสิ้นหวังว่า “นั่นเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากจริง ๆ!”
“เพียงแต่โอกาสที่หาได้ยากเช่นนี้ อย่างไรก็ต้องไปดูสักครั้ง” เมื่อพูดจบ คนกลุ่มนั้นก็หายไปจากพระราชวังตง หวงทันที
“หลินหลางกำลังอยู่ระหว่างทางสินะ บอกให้นางวางใจได้ คราวนี้ไม่ว่าคนที่อยู่ข้างกายมู่เฉินซีจะแข็งแกร่งมากเพี ยงใด ก็ไม่มีทางสู้นายท่านเผ่าคำสาปได้อยู่ดี ฉะนั้นนางต้องตายอย่างแน่นอน!” จักรพรรดิตงหวงกล่าวด้วยน้ำเสียง ที่เย็นชา
“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท!”
การปรากฏตัวของตำหนักเทพแห่งชีวิต ทำให้เลือดของคนทั่วทั้งแดนซวนเทียนเดือดพล่านขึ้นมาทันที แต่ทว่าก็ยังคง ไม่มีผู้ใดสามารถเข้าใกล้ตำหนักเทพแห่งชีวิตได้ ซึ่งมันก็ทำให้ทุกคนต่างรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก
เห็นอยู่ชัด ๆ ว่ามีสมบัติมากมายมหาศาลซ่อนอยู่เบื้องหน้าของพวกเขา แต่พวกเขาก็ทำได้เพียงแค่จ้องมองมันเท่านั้น น อีกทั้งยังไม่สามารถเข้าใกล้ได้อย่างสิ้นเชิง ฉะนั้นไม่ต้องพูดถึงสมบัติที่ซ่อนอยู่เลย
ตอนนี้พลังแห่งชีวิตที่กระจายอยู่ทั่วแดนซวนเทียนเริ่มเปลี่ยนเป็นอ่อนแอลงแล้ว และพวกเขาก็รู้สึกว่าตำหนักเท ทพแห่งชีวิตที่อยู่กลางอากาศก็เริ่มจะโปร่งแสงมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วเช่นกัน
“นี่ตำหนักเทพแห่งชีวิตกำลังจะหายไปแล้วอย่างนั้นหรือ?”
“การที่มันปรากฏตัวในแดนซวนเทียนเช่นนี้ ไม่ได้เพื่อให้พวกเราเข้าไป แต่เพื่อยั่วยวนพวกเราอยู่อย่างนั้นหรือ?”
“ช่างดีใจอย่างเสียเปล่าจริง ๆ!”
สีหน้าของมู่เฉียนซีมืดมนลง ไม่ง่ายเลยกว่าจะหาไม้เทพแห่งชีวิตเจอ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจปล่อยให้มันหนีไปได้ หากรอให้มันปรากฏตัวขึ้นอีกในหกแสนปีข้างหน้า พวกเขาคงจะรอไม่ไหวแน่นอน!
สถานการณ์ตอนนี้ เกรงว่าอาจจะรอได้ไม่ถึงปีเลยด้วยซ้ำ
“ไปกันเถอะ! ไปเทือกเขาจูเทียนกัน!” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเคร่งขรึม
จิ่วเยี่ยติดตามมู่เฉียนซีมุ่งหน้าไปยังเทือกเขาจูเทียน พวกของซวนอู่และจูเชว่ก็ตามไปด้วยเช่นกัน
ซวนอู่กล่าวว่า “จะปล่อยให้นางหุนหันพลันแล่นเเกินไปไม่ได้”
ไม่ได้มีเพียงพวกของมู่เฉียนซีที่กำลังมุ่งหน้าไปยังเทือกเขาจูเทียนเท่านั้น แต่ตอนนี้มีคนมารวมตัวอยู่ที่เทือกเ เขาจูเทียนมากมายเลยทีเดียว
มีคนที่ไม่อยากให้ตำหนักเทพแห่งชีวิตต้องหายไปเช่นนี้ และพุ่งทะยานไปยังตำหนักเทพแห่งชีวิตโดยไม่สนว่าต้องแ แลกด้วยอะไร ราวกับแมลงเม่าบินเข้ากองไฟอย่างไรอย่างนั้น