ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2259 อาจจะโกรธได้เหมือนกัน
ตูมมม!
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรค์เช่นนี้ ชิงอิ่งก็พุ่งทะยานออกไปโจมตีทันที
“เจ้าลงมือกับข้า หรือเจ้าไม่รู้ว่าสิ่งเล็กน้อยเหล่านี้มันไม่มีประโยชน์อย่างนั้นหรือ?” ยังไม่ทันที่พลังของชิงอ อิ่งจะสัมผัสกับลำต้น มันก็ได้กลายเป็นความว่างเปล่าไปเสียแล้ว
ดวงตาของชิงอิ่งมืดมนลงเล็กน้อย “ข้าโมโหแล้วนะ ส่วนเจ้าเองก็จะโมโหเช่นกัน และก็อาจจะร้อนใจด้วย ในเมื่อมีห หัวใจเจ้าก็ต้องไม่เหมือนเดิมแน่นอนอยู่แล้ว!”
มู่เฉียนซีร่อนลงมาจากกลางอากาศ จากนั้นก็ค้นพบว่าตนเองนั้นอยู่กลางเทือกเขาแห่งหนึ่ง
ด้วยเหตุนี้ทำให้นางสามารถยืนยันได้สองเรื่อง เรื่องแรกก็คือไม้เทพแห่งชีวิตจะต้องอยู่ข้างในนี้อย่างแน่นอน ส ส่วนเรื่องที่สองก็คือ ชิงอิ่งก็อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน
ร่างเงาสีม่วงลอยออกไปกลางอากาศ ทั่วทั้งตำหนักเทพแห่งชีวิตไม่ได้ง่ายดายเหมือนห้องโถงขนาดใหญ่ อีกทั้งยังมีพื้ นที่ที่กว้างใหญ่มากอีกด้วย นางจำเป็นที่จะต้องหามิติที่ไม้เทพแห่งชีวิตนั่นตั้งอยู่ให้เจอ เช่นนั้นนางถึงจะสา ามารถเจอไม้เทพแห่งชีวิตได้!
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
ที่นี่มีทั้งค่ายกล และยังมีหุ่นเชิดมนุษย์ตัวเล็กอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งมันก็ได้กลายเป็นอุปสรรคของมู่เฉียนซีไปตลอด ดทั้งเส้นทาง!
“พวกเจ้าทั้งหมดหลีกทางให้ข้าเดี๋ยวนี้!”
ถึงเจ้าหุ่นเชิดเหล่านี้จะดูเหมือนว่าตัวเล็ก แต่ทุกตัวล้วนมีความประณีตงดงามเป็นอย่างมาก คิดไม่ถึงเลยว่าไม้เทพแห่ งชีวิตจะสามารถทำสิ่งนี้ออกมาได้
จากนั้นมู่เฉียนซีก็ผงะไปเล็กน้อย หรือว่า…หรือว่าชิงอิ่งก็เป็นหุ่นเชิดที่ไม้เทพแห่งชีวิตสร้างออกมาอย่างนั้น หรือ?
ในตอนที่ออกไปจากเทือกเขาแห่งนี้ได้แล้ว นางก็เห็นประตูบานใหญ่บานหนึ่ง และบนประตูบานนั้นก็เขียนตัวอักษร ไว้ตัวหนึ่งอีกด้วย
แต่ทว่าตอนนี้กลับมีคนยืนอยู่ที่นี่มากมาย และการมาถึงของมู่เฉียนซีก็ทำให้พวกเขากล่าวอย่างประหลาดใจว่า “คิดไม ม่ถึงเลยว่ามู่เฉินซีก็จะมาถึงที่นี่ด้วย?”
“คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นมู่เฉินซี!”
“……”
มู่เฉียนซีจ้องมองไปที่ประตูหมายเลขหนึ่งที่อยู่ตรงหน้าของนาง และนี่ก็ถือว่าเป็นการทดสอบของไม้เทพแห่งชีวิตที มอบให้กับผู้ที่มาถึงที่นี่ได้ ซึ่งหลังจากที่บุกเข้ามาที่นี่และทำการทดสอบสำเร็จก็จะได้รับตราสัญลักษณ์อันหน นึ่ง
ซึ่งระดับของตราสัญลักษณ์ ก็แสดงถึงจำนวนของใบไม้แห่งชีวิตที่สามารถนำกลับไปด้วยได้เมื่อถึงเวลา
มู่เฉียนซีเคยเห็นความยิ่งใหญ่ของไม้เทพแห่งชีวิตมาก่อน ถึงใบไม้ของมันจะมีจำนวนนับไม่ถ้วน แต่ก็ไม่มีทางยอมให้ม มนุษย์คนใดเอาไปโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตจากมันเป็นแน่
“ที่แท้ เจ้าก็คือมู่เฉินซี อัจฉริยะอันดับหนึ่งของราชวงศ์ตงหวงในข่าวลืออย่างนั้นสินะ!” ในเวลานี้ มีหญิงสาวที่ ดูงดงามมากคนหนึ่งเดินเข้ามา
ในมือของนางถือขลุ่ยหยกเอาไว้อันหนึ่ง ทั้งเล็บมือและริมฝีปากของนางต่างก็เป็นสีม่วงเข้ม เนื่องจากหน้าตาที งดงามของนาง จึงทำให้สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ดูน่าเกลียดเลย แต่มันกลับทำให้คนรู้สึกหวาดกลัวเสียมากกว่า
มีคนมากมายที่รู้สึกว่าคนผู้นี้อันตราย ฉะนั้นจึงได้ล่าถอยไปอย่างรวดเร็ว
ส่วนคนที่รู้ถึงตัวตนของหญิงสาวผู้นี้ ก็มีสีหน้าที่ซีดเผือดขึ้นมาทันที เขากล่าวขึ้นมาว่า “สตรีนางนี้ คือท ท่านหญิงโยวแห่งราชวงศ์เป่ยกง”
ทั่วทั้งร่างของนางเต็มไปด้วยกลิ่นอายที่แปลกประหลาดมากบางอย่าง นางจ้องไปที่มู่เฉียนซีพลางกล่าวว่า “เรื่องที่ เจ้าสามารถเอาชนะผู้หญิงที่น่ารังเกียจอย่างมู่หลินหลางได้ มันทำให้ข้าชื่นชมเจ้ามากเลยทีเดียว แต่เจ้าไม่ควรที่ จะมีสกุลว่ามู่เลยจริง ๆ เพราะว่าข้ารังเกียจคนสกุลมู่ทั้งหมดเลยอย่างไรล่ะ!”
ในตอนที่นางกล่าวคำว่ารังเกียจสองคำนั้นออกมา ทุกคนต่างพากันตัวสั่นเทาสั่นขึ้นทันที
แย่แล้ว แย่แล้ว มู่เฉินซีแย่แล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าจะต้องมาเจอกับนางแม่มดร้ายเข้าพอดีเช่นนี้
หากกล่าวถึงความแข็งแกร่ง ท่านหญิงโยวผู้นี้ไม่สามารถเทียบกับองค์หญิงหลินหลางได้เลย และแน่นอนว่าคงเทียบคน นที่เอาชนะองค์หญิงหลินหลางอย่างมู่เฉินซีไม่ได้ด้วยเช่นกัน
แต่ทว่าสิ่งที่ผู้หญิงคนนี้ฝึกฝนนั้นมีความแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก และในราชวงศ์เป่ยกง นางก็ค่อนข้างได้รับความ โปรดปรานมากเลยทีเดียว เพราะพวกเขาได้ปล่อยให้นางเก็บรวบรวมแมลงพิษมากมายนับไม่ถ้วนจากทั่วทุกมุมโลกได้ตามใจ ทำให้นางสามารถควบคุมแมลงพิษเหล่านั้นไปปลิดชีพคนอื่นได้โดยที่ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นอีกด้วย
และถึงแม้ว่ามู่เฉินซีจะเป็นอัจฉริยะผู้มากความสามารถ แต่ก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงการคำนวณที่ผิดพลาด จนถูกนางลอบโ โจมตีได้อยู่ดี
มู่เฉียนซีรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้อันตรายเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นบุคคลที่มีชั่วร้ายมากคนหนึ่ง แต่ทว่านางก็ เคยปะทะกับสิ่งมีชีวิตอย่างห้าอสรพิษมากแล้ว ฉะนั้นนางยังต้องกลัวสัตว์ร้ายตัวน้อยนี้ด้วยอย่างนั้นหรือ?
ทันใดนั้นร่างเงาสีดำก็พุ่งทะยานเข้าใส่มู่เฉียนซีด้วยความเร็วราวกับสายฟ้าแลบ ซึ่งนี่ก็ทำให้ทุกคนตื่นตกใจเป็น อย่างยิ่ง คิดไม่ถึงเลยว่าท่านหญิงโยวผู้นี้จะลงมืออย่างที่พูดไว้จริง ๆ
ซึ่งมันก็คือแมลงตัวหนึ่ง เป็นเพียงแมลงสีดำตัวเล็กที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า มู่เฉียนซีไม่ได้ใช้แม้กร ระทั่งพลังวิญญาณธาตุของนาง แต่ทำเพียงแค่โบกมือและปล่อยเข็มยาเล่มหนึ่งออกไปเท่านั้น!
ฉึก!
เข็มยาขนาดเล็กแทงทะลุเข้าไปในร่างของเจ้าแมลงตัวน้อยตัวนั้นอย่างแม่นยำ ฟู่! ทันใดนั้น แมลงตัวนั้นก็กลายเป็ นความว่างเปล่า
สีหน้าของท่านหญิงโยวผู้นั้นมืดมนลงไปเล็กน้อย มู่เฉียนซีเงยหน้าขึ้นไปมองท่านหญิงโยวแล้วกล่าวว่า “ในตอนที่ข ข้ากำลังเล่นอยู่กับเจ้าแมลงพิษเหล่านี้ ท่านหญิงโยวอาจจะกำลังถูกแมลงพิษเหล่านี้กัดอยู่ก็เป็นได้ ดังนั้นทาง งที่ดีเจ้าอย่ามายั่วยุข้าจะดีกว่า”
ดวงตาที่งดงามของท่านหญิงโยวสั่นไหว ถึงจะเผชิญหน้ากับคำพูดเช่นนี้ของมู่เฉียนซี นางก็ไม่ได้โมโหแต่อย่างใด แล ละยังกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “น่าสนใจจริง ๆ! นี่ถือว่าข้าเจอคู่ต่อสู้แล้วใช่หรือไม่? สมแล้วที่สามารถจับตัวพี่จั วเอาไว้ได้ และยังทำให้พี่จั๋วให้ความสำคัญต่อเจ้าเป็นพิเศษอีกด้วย!”
เดิมทีแล้วมู่เฉียนซีก็ไม่ได้อยากจะให้ความสนใจต่อนางมากนัก แต่สุดท้ายกลับทำให้นางต้องมาได้ยินชื่อที่ไม่ชอบ มากที่สุดเสียได้
“โอ้! ดูเหมือนว่าเจ้าจะสนิทกับเป่ยกงจั๋วมากเลยสินะ!”
“เฮอะ! เดิมทีแล้วข้าอาจจะได้กลายเป็นคู่หมั้นของพี่จั๋วก็เป็นได้ แต่กลับถูกนางผู้หญิงสารเลวอย่างมู่หลินหลา งแย่งไปเสียก่อน! นางก็แค่องค์หญิงของราชวงศ์ตงหวงเท่านั้นเอง ช่างต่ำช้ายิ่งนัก!” ทันทีที่กล่าวถึงเรื่องนี้ ใ ใบหน้ารูปไข่อันงดงามของท่านหญิงโยวก็บูดเบี้ยวขึ้นมาทันที
และในเวลาเดียวกันนั้นหัวใจของนางก็บิดเบี้ยวไปด้วยเช่นกัน!
สีหน้าของมู่เฉียนซีนิ่งสงบเป็นอย่างมาก หญิงสาวผู้นี้คือคนที่หลงใหลเป่ยกงจั๋วนี่เอง
“เพียงแต่ข้าเพิ่งนึกขึ้นมาได้ ศัตรูของศัตรูก็คือมิตร ดังนั้นเมื่อถึงเวลานั้นพวกเรามาร่วมมือกันจัดการมู่หลิ นหลางเถอะ! หากมู่หลินหลางตายไป เช่นนั้นการหมั้นหมายของนางกับพี่จั๋วก็จะกลายเป็นโมฆะ ใช่หรือไม่?” นางคลี่ย ยิ้มขึ้นมาอย่างเจิดจรัส
เมื่อทุกคนได้ยินต่างก็พากันเหงื่อแตกพลั่ก พวกเจ้าพูดคุยหัวข้อเช่นนี้อย่างเปิดเผยได้จริง ๆ อย่างนั้นหรือ?
พวกเขากลัวว่าหากรู้เรื่องมากเกินไป จะถูกผู้หญิงสองคนนี้ฆ่าปิดปากเสียก่อนน่ะสิ!
“เจ้าไม่รู้หรือว่า หากต้องการจะฆ่ามู่หลินหลางนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะที่จริงแล้วจักรพรรดิตงหวงได้หลงเหลื อพลังไว้ในร่างกายของนางเพื่อคุ้มครองนางเอาไว้!” มู่เฉียนซีกล่าว
ท่านหญิงโยวลูบคางของตนเองพลางกล่าวว่า “นั่นก็ใช่นะ! เช่นนั้นก็ทำให้มู่หลินหลางเสียความบริสุทธิ์ไป หากเป็นเ เช่นนี้แล้วละก็นางยังจะมีหน้าแต่งงานกับพี่จั๋วอยู่อีกหรือไม่!”
ชื่อเรียกว่านางแม่มดของท่านหญิงโยวนั้นช่างสมคำร่ำลือจริง ๆ!
ส่วนคนอื่น ๆ โดยรอบ พวกเขารู้สึกว่าไม่สามารถรั้งรออยู่ที่นี่ได้อีกต่อไปแล้ว พลันนั้นก็มีคนคนหนึ่งพุ่งทะยาน นเข้าไปในประตูเป็นคนแรกแล้ว
หลังจากนั้นไม่นาน คนผู้นั้นก็ถูกโยนออกมา ในมือของเขาถือตราสัญลักษณ์ไม้อันหนึ่งเอาไว้ และบนตราสัญลักษณ์น นั้นก็เขียนอักษรตัวหนึ่งเอาไว้ด้วย!
“แม้แต่เจ้ายังได้แค่หนึ่ง ดูเหมือนว่ามันคงจะผ่านไปได้ไม่ง่ายเลย! ข้าเข้าไปบ้างก็แล้วกัน”
คนเหล่านี้ส่วนใหญ่แล้วเป็นอัจฉริยะของราชวงศ์ตงหวง นอกจากนี้บางคนก็มาจากที่ห่างไกลอย่างราชวงศ์เป่ยกงอีกด้วย และส่วนใหญ่แล้วก็ได้จำนวนที่ไม่เกินสิบอยู่ดี ซึ่งมันก็ไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าไรเลย
“ข้าเอง!” ชายร่างสูงใหญ่คนหนึ่งลุกยืนขึ้น
สำหรับคนผู้นี้มู่เฉียนซีมีความประทับใจต่อเขาเล็กน้อย และนางก็เคยเจอเขาในงานการแข่งขันอัจฉริยะของราชวงศ์ตง งหวง ซึ่งเขาก็คืออัจฉริยะอันดับห้าของราชวงศ์ตงหวงนั่นเอง
อันดับห้าผู้นี้ได้ผลักประตูแล้วเดินเข้าไป จากนั้นทุกคนก็ได้รู้ว่า เขาก็ยืนหยัดได้ค่อนข้างนานเลยทีเดียว
“สมแล้วที่พี่ฉินติดหนึ่งในสิบอัจฉริยะของราชวงศ์ตงหวง เขายืนหยัดเอาไว้ได้นานมากขนาดนี้ คะแนนของเขาจะต้อ องดีมากแน่นอน!”
ตึง!
ในตอนที่อัจฉริยะอันดับห้าผู้นั้นออกมาร่างกายของเขาก็เต็มไปด้วยบาดแผล และตราสัญลักษณ์ในมือของเขาก็เป็นเล ลขสามสิบ!
แค่สามารถได้รับใบไม้แห่งชีวิตถึงสามสิบอันก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว ทันใดนั้นก็มีลำแสงสีเขียวสาดส่องออกมาจาก กลางอากาศ