ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2261 อารมณ์ของมนุษย์
“พรูดด มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นอย่างนั้นหรือ?” ไม้เทพแห่งชีวิตหัวเราะเยาะออกมา
“ข้าไม่อยากสนใจเจ้า ฉะนั้นเจ้าก็สงบลงหน่อยเถอะ”
ไม้เทพแห่งชีวิตได้ใช้เถาวัลย์แห่งขีวิตมัดชิงอิ่งเอาไว้จนแน่นหนา และไม่ปล่อยให้เขาเคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อย
“เจ้าคอยดูให้ดีก็พอ! เจ้าคิดว่ามนุษย์ผู้นี้ไม่สามารถเอาชนะได้อย่างนั้นหรือ? เพราะความจริงแล้วนางอ่อนแออย่ างนั้นสินะ!”
คู่ต่อสู้ของแต่ละประตูความจริงแล้วล้วนกำหนดตามความสามารถของผู้ที่เข้ามาทั้งนั้น แต่ทว่ามู่เฉียนซีนั้นเป็นเรื องที่ไม่คาดคิด เพราะตอนนี้นางเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่เหนือกว่านางมากเกินไป
ท่านหญิงโยวที่รออยู่ด้านนอก ก็บ่นพึมพำขึ้นมาว่า “มู่เฉินซีนี่ช้าจังเลย! ช่างทำให้ท่านหญิงอย่างข้าต้องมาเสีย ยเวลาจริง ๆ ไม่เช่นนั้นคนอื่น ๆ ก็น่าจะได้เข้าไปกันนานแล้ว”
หากต้องการที่จะเข้าไปยังใจกลางของตำหนักเทพแห่งชีวิต ทุกคนจะต้องถือตราสัญลักษณ์ถึงจะสามารถเข้าไปได้ แต่ทว่า มู่เฉียนซีกลับอยู่ข้างในนั้นนานมากเกินไปแล้ว
“เดิมทีข้าคิดว่าจะร่วมมือกับเจ้าในการกำจัดมู่หลินหลางเสียหน่อย แต่ตอนนี้รู้สึกว่าเจ้าควรตายอยู่ข้างในนั้น ไปเสียเถอะ” ท่านหญิงโยวกล่าวอย่างชั่วร้าย
เวลาที่มู่เฉียนซีใช้เมื่อเข้าไปนานกว่าที่ท่านหญิงโยวใช้ไปถึงสี่เท่า และตอนนี้ก็ยังคงไม่เห็นวี่แววว่านางจะอ ออกมาเลย ฉะนั้นพวกเขาจึงรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้มากที่มู่เฉียนซีจะตายอยู่ข้างในนั้นแล้ว
แน่นอนว่าคนของราชวงศ์ตงหวงเหล่านั้นไม่พอใจท่านหญิงโยวเป็นอย่างมาก พวกเขากล่าวว่า “มู่เฉินซีเป็นถึงอัจฉริยะอั นดับหนึ่งแห่งราชวงศ์ตงหวงของพวกเรา ฉะนั้นเมื่ออยู่ที่นี่นางย่อมต้องได้รับการท้าทายที่ไม่เหมือนคนทั่วไปอย ยู่แล้ว จะนานไปสักหน่อยก็เป็นเรื่องที่ปกติมาก”
“ใช่แล้ว! ก่อนหน้านี้แม้แต่หอคอยตงหวงมู่เฉียนซียังเคยไต่ขึ้นไปถึงขั้นที่สิบเก้าได้เลย ข้าคิดว่าคราวนี้นาง งก็จะต้องสามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้อีกเป็นแน่”
“เฮอะ! ขยะอย่างพวกเจ้า คิดไม่ถึงเลยว่าจะกล้าโต้แย้งข้า” ท่านหญิงโยวหัวเราะเยาะออกมา และเสียงหัวเราะนั้นก็ทำ ำให้ผู้คนต้องตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว
ทันใดนั้น ก็แมลงสีดำหลายตัวก็พุ่งเข้าใส่คนที่พูดสองสามคนนั้นในทันที
อันตราย!
พวกเขาสัมผัสได้ถึงสิ่งที่อันตรายเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังคงหลบหลีกไม่พ้นและถูกแมลงเหล่านี้กัดอยู่ดี!
“อ๊ากกกก!”
พวกเขากรีดร้องออกมา จากนั้นก็จ้องมองไปทางท่านหญิงโยวด้วยความประหลาดใจ
“เมื่อข้าพูด ข้าไม่ชอบให้ผู้ใดมาโต้แย้งข้า! เพราะสาวน้อยแสนน่ารักอย่างข้าจะรู้สึกโมโหเมื่อถูกคนอื่นโต้แย้ง ง จนอยากจะเอาชีวิตของคนผู้นั้นเลยเชียวล่ะ!” ริมฝีปากสีม่วงเข้มนั้นยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย ซึ่งมันให้ความรู้สึ กที่เย็นชาแต่ก็มีเสน่ห์เป็นอย่างยิ่ง
“ทางที่ดีเจ้าเฝ้ารอให้มู่เฉินซีสามารถออกมาได้จะดีกว่า ถ้าอย่างนั้นข้าจะเหลือชีวิตน้อย ๆ ของพวกเจ้าเอาไว้ก่อน นก็แล้วกัน!”
ท่านหญิงโยวต้องการให้ตอนที่มู่เฉินซีออกมาอย่างทุลักทุเลได้เห็นสภาพที่น่าเวทนาของคนเหล่านี้ ซึ่งมันก็ทำให้ นางได้แสดงอำนาจพอดี ฉะนั้นตอนนี้นางจึงไม่ได้สังหารพวกเขาในทันที!
แม้ว่าจะยังมีชีวิตอยู่ แต่ก็ต้องทุกข์ทรมานอยู่ดี ท่านหญิงแห่งอาณาจักรเป่ยกงผู้นี้ช่างโหดเหี้ยมมากจริง ๆ
กิ่งไม้ขนาดเล็กนั้นตวัดผ่านมู่เฉียนซีครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งมันก็ได้แหวกมิติเข้ามาจนเกิดเสียงหวีดหวิวเลนทีเดี ยว และตอนนี้มู่เฉียนซีก็รู้สึกว่าตนเองใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้ว!
แต่ว่านางไม่มีทางเต็มใจยอมพ่ายแพ้ไปเช่นนี้เด็ดขาด!
ปัง ปัง ปัง!
ในตอนที่หุ่นเชิดตัวนั้นโบกกิ่งไม้เพื่อกวาดมันมาทางมู่เฉียนซีอีกครั้ง นางก็ขยับปลายนิ้วอย่างรวดเร็ว ฟิ้ว ฟิ ว ฟิ้ว! และเข็มยานับไม่ถ้วนก็ได้พุ่งเข้าหาหุ่นเชิดตัวนั้นทันที
เนื่องจากไม้เทพแห่งชีวิตได้สร้างหุ่นเชิดที่มีความคล้ายกับชิงอิ่งมาก ฉะนั้นโครงสร้างร่างกายของเขาจะต้องคล้ายค คลึงกันด้วย ดังนั้นเข็มยาเหล่านี้จึงปักลงไปบนจุดอ่อนของหุ่นเชิดตัวนั้นได้
ฟู่ ฟู่!
และไม่เพียงเท่านั้น เพราะเข็มยาเหล่านี้ยังเต็มไปด้วยยาน้ำที่มีฤทธิ์กัดกร่อนถึงชีวิตอยู่ด้วย ฉะนั้นมันจึงทำให ห้บนร่างกายของหุ่นเชิดในเวลานี้ก็มีรูเพิ่มขึ้นมาหลายรูเลยทีเดียว
ในที่สุดหุ่นเชิดตัวนี้ ก็ได้รับความเสียหายเสียที
น้ำเสียงของไม้เทพแห่งชีวิตตื่นตกใจเป็นอย่างมาก “เจ้าสิ่งนั้นคืออะไร? คิดไม่ถึงเลยว่าจะทำร้ายหุ่นเชิดที่สร้างข ขึ้นมาจากไม้เทพได้”
มุกปากของชิงอิ่งยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย พลางกล่าวว่า “เฉียนไม่ได้อ่อนแอ นางแข็งแกร่งมากต่างหาก!”
“แข็งแกร่งมากหรือ? ข้าไม่เห็นว่าจะเป็นอย่างนั้นเลย” ไม้เทพแห่งชีวิตยังคงกล่าวอย่างดูถูก
แม้ว่าหุ่นเชิดจะถูกทำให้เสียหาย แต่ทว่าหุ่นเชิดตัวนั้นก็ไม่รู้สึกเจ็บปวดแต่อย่างใด เพราะหลังจากนั้นมันก็ยังพ พุ่งเข้ามาจู่โจมมู่เฉียนซีราวกับสายฟ้าฟาดก็มิปาน
มู่เฉียนซีสูดลมหายใจเข้าลึก จากนั้นก็ใช้ความเร็วที่รวดเร็วที่สุดในการหลบหลีก “โล่วิญญาณน้ำแข็ง!”
“เกราะพลังวายุ!”
“พลังวายุทำลาย ดาวกระจาย!”
“มังกรวารีจงบังเกิด!”
“เพลิงนภาพิฆาต!”
“ทักษะซิวหลัว!”
และทักษะวิญญาณที่แข็งแกร่งจำนวนนับไม่ถ้วนก็ระเบิดออกมาพร้อมกับโหมกระหน่ำเข้าใส่หุ่นเชิดตัวนั้นอย่างฉับพลัน แ แต่ความจริงแล้วมันเป็นเพียงแค่วิธีพรางตาเท่านั้น
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
มู่เฉียนซีปล่อยยาน้ำจำนวนนับไม่ถ้วนออกมาอีกครั้ง และยาน้ำเหล่านี้ก็ส่งเสียงร้องหวีดหวิวพร้อมทั้งจู่โจมหุ่นเชิดต ตัวนั้นราวกับห่าฝนก็มิปาน
ปัง ปัง ปัง!
ประสิทธิภาพของยาน้ำเหล่านี้ถือได้ว่าไม่เลวเลยทีเดียว แต่ทว่าภายในนี้คืออาณาเขตของไม้เทพแห่งชีวิต แม้ยาน้ำจะม มีประสิทธิภาพที่ไม่เลวแต่ก็ไม่อาจทำลายหุ่นเชิดตัวนี้ได้อย่างสมบูรณ์อยู่ดี
ถึงนางจะใช้ยาน้ำหมดไปแล้ว แต่หลังจากนั้นก็ยังต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีอย่างดุเดือดของหุ่นเชิดครั้งแล้วครั้งเล่ าอยู่ดี!
พรวด พรวด พรวด!
หุ่นเชิดนี้โจมตีอย่างไม่ออมมือเลยแม้แต่น้อย แม้ว่าพลังป้องกันทางกายภาพของมู่เฉียนซีจะน่าทึ่ง แต่ก็ยังถูกหุ่ นเชิดตัวนี้โจมตีจนได้รับบาดเจ็บสาหัส จนกระอักเลือดออกมา
“เฉียน!” ชิงอิ่งร้องตะโกนนออกมาพร้อมกับหมัดที่กำแน่น
“อารมณ์เช่นนี้เรียกว่าอะไรกัน? เรียกว่าปวดใจใช่หรือไม่?” มีเสียงเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากข้างหูของเขา
ชิงอิ่งหลับตาลง และไม่อยากที่จะสนใจมันเลยแม้แต่นิดเดียว
“นอกจากนี้ยังมีความเกลียดชังอีกด้วย! เจ้าเกลียดชังข้าเพราะมนุษย์ผู้นั้นหรือ! ภายใต้สภาพที่ไม่รับรู้ของข้า เจ จ้ากลับได้ไปเรียนรู้อารมณ์ที่ไร้สาระเหล่านี้มา แต่มันก็ค่อนข้างน่าสนใจเลยทีเดียว” ไม้เทพแห่งชีวิตกำลังบ่นพึมพ พำกับตัวเอง
หุ่นเชิดนี้แข็งแกร่งมาก ความโชคดีเดียวของนางก็คือเจ้าหุ่นเชิดตัวนี้ไม่มีความคิดเป็นของตนเอง และยังมีความคิด ดที่ต้องการจะต่อสู้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ฉะนั้นมันจึงทำให้มู่เฉียนซีสามารถหลีกเลี่ยงอันตรายมากมายเหล่านั้นมา าได้
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ดูเหมือนว่าสุดท้ายแล้วก็มีเพียงแต่ต้องใช้พลังนั้นสินะ ต้องใช้พลังของวิชาคำสาปแล้วล่ะ”
ครั้งหนึ่งนางเคยใช้พลังแห่งชีวิตต่อสู้กับวิชาคำสาปมาก่อน ฉะนั้นหากกลับกันก็น่าจะได้เหมือนกัน หลังจากนั้นมู่ เฉียนซีก็วาดอักขระคำสาปที่ซับซ้อนออกมารอบตัวของนางภายในชั่วพริบตา และนางก็กล่าวอย่างเย็นชาว่า “ผูก!”
หุ่นเชิดนั้นไม่กลัวเจ็บไม่กลัวตาย อีกทั้งยังไม่มีสัญชาตญาณในการรับรู้ถึงอันตรายอีกด้วย ดังนั้นมันจึงเข้ามาใกล ล้ โดยที่มันก็ไม่รู้ว่าอักขระคำสาปนั้นอันตรายมากเพียงใด!
ปังง!
ยังไม่ทันได้รอให้หุ่นเชิดตัวนี้ได้เข้ามาทำอันตรายใด ๆ นางได้ มันก็ถูกพลังคำสาปที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายที่ม มืดมนตรึงเอาไว้แล้ว สุดท้ายหุ่นเชิดที่หล่อเหลาตัวนี้ก็เริ่มดิ้นรนอย่างสุดชีวิตขึ้นมาทันที!
“ยังสามารถดิ้นรนได้อีกอย่างนั้นหรือ? เจ้านี่ช่างมีพลังชีวิตที่แข็งแกร่งเหลือเกินนะ!” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยเสีย ทุ้มต่ำ หลังจากนั้นก็ร่ายวิชาคำสาปอีกครั้ง!
“คำสาปเทียนหลัว!”
ตูมมม!
พลังคำสาปสีดำสนิท ได้เผาผลาญพลังแห่งชีวิตที่อยู่ในร่างของเจ้าหุ่นเชิดตัวนี้ไปจนหมดสิ้นได้ในที่สุด
ในเมื่อไม่มีพลังแห่งชีวิตแล้ว เจ้าหุ่นเชิดตัวนี้ก็ใช้งานไม่ได้เหมือนกับเครื่องจักรมนุษย์ที่ใช้งานไม่ได้อย่าง งไรอย่างนั้นเลย ซึ่งหลังจากนั้นมันก็หลับตาและล้มฟุบลงไปกับพื้นทันที
“มังกรเพลิงทำลายมันซะ!”
มู่เฉียนซีชนะแล้ว แต่ไม่ว่าอย่างไรนางก็ยังต้องการที่จะทำลายเจ้าหุ่นเชิดตัวนี้ให้สิ้นซากอยู่ดี
“ขอรับ นายท่าน!”
หุ่นเชิดที่สูญเสียพลังแห่งชีวิตไปแล้วตัวนี้ได้ถูกเผาทำลายโดยมังกรเพลิง แม้ว่าวัตถุดิบในการสร้างหุ่นเชิดต ตัวนี้จะเป็นถึงไม้เทพแห่งชีวิตแต่มังกรเพลิงก็สามารถเผาทำลายมันจนไม่เหลือซากได้อยู่ดี
พรึ่บบ!
ภายใต้เปลวเพลิงที่ลุกโชนของราชันย์แห่งเปลวเพลิง ทำให้หุ่นเชิดตัวนี้ถูกเผาทำลายจนกลายเป็นเถ้าถ่านภายในพริบตา าเดียว
เมื่อมู่เฉียนซีได้รับตราสัญลักษณ์ที่เขียนตัวเลขหนึ่งร้อยชิ้นนั้นแล้ว นางก็ออกไปจากที่นี่ทันที และจำนวนหนึ่ งร้อยก็ถือว่าสูงที่สุดในบรรดาตราสัญลักษณ์ทั้งหมดแล้ว นั่นก็เป็นเพราะหากไม้เทพแห่งชีวิตมอบใบไม้แห่งชีวิตใ ให้กับมนุษย์คนหนึ่งเกินหนึ่งร้อยใบ เกรงว่าสมดุลของโลกนี้จะถูกทำลาย และใบไม้นั้นก็จะต้องถูกทำลายด้วยการ ลงโทษจากสวรรค์เป็นแน่
และในทันทีที่มู่เฉียนซีออกไป ก็มีลำแสงสีเขียวอ่อนปรากฏขึ้นมากลางอากาศ อีกทั้งยังพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าอีกด้วย
เหล่าผู้คนที่อยู่ตรงประตูใหญ่ต่างจ้องมองไปที่ลำแสงนั้นอย่างตื่นตะลึง “คิดไม่ถึงเลยว่าจะปรากฏลำแสงแห่งชีวิต ตที่แข็งแกร่งขนาดนี้ ไม่รู้ว่าผู้ใดเป็นคนทำกันแน่?”