ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2263 ไขวิญญาณแห่งชีวิต
ตอนนี้โม่ซวนทำได้เพียงแค่กำหนดเป้าหมายไว้เท่านั้น แต่กลับยังไม่มีหนทางเข้าไปได้เลย!
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ดูเหมือนว่าที่นี่จะถูกร่ายค่ายกลเอาไว้สินะ?”
โม่ซวนผงะไปครู่หนึ่ง “ค่ายกลหรือ น่าเสียดายที่อากุ่ยไม่ได้มาด้วย มิเช่นนั้นพวกเราคงไม่ต้องถูกขวางเอาไว้ข้าง งนอกแบบนี้”
“ข้าดูก่อนว่าจะสามารถหาทางเข้าไปได้หรือไม่?” ปลายนิ้วของมู่เฉียนซีสัมผัสลงบนลำต้นของต้นไม้ต้นนี้ นางกล่าวถ ถามว่า “สุ่ยจิงอิ๋ง พอมีหนทางหรือไม่?”
“ซีเอ๋อร์ลองรับรู้ถึงมิติที่อยู่โดยรอบให้ดีสิ ข้าเชื่อว่าด้วยความสามารถของซีเอ๋อร์ จะต้องหาทางเข้าได้ไม่ยากอ อย่างแน่นอน” สุ่ยจิงอิ๋งกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
จิตวิญญาณของมู่เฉียนซีแผ่กระจายออกไป จากนั้นร่องรอยของพลังแห่งมิติก็ไหลทะลักออกไปจากปลายนิ้วของนาง และมัน นก็พุ่งจากด้านล่างตรงขึ้นไปถึงยอดของต้นไม้ต้นนี้
ตอนนี้มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของนาง มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ข้าหาทางเข้าไปข้างในเจอแล้ว! ทุกคนตามข้ามา!”
มู่เฉียนซีแตะปลายเท้าเล็กน้อย จากนั้นก็พุ่งทะยานขึ้นไปกลางอากาศ และพุ่งตรงไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง!
คนอื่น ๆ ต่างพากันตกใจเป็นอย่างมาก “ที่นั่นมีทางเข้าจริง ๆ อย่างนั้นหรือ? หากว่าไม่มีทางเข้าแล้วละก็ การที่ท ท่านมู่พุ่งขึ้นไปเช่นนั้นอาจจะถูกกระแทกจนได้รับบาดเจ็บเอาได้นะ”
โม่ซวนกล่าวว่า “พวกเจ้าเคยเห็นนางทำเรื่องที่ไม่มั่นใจเมื่อใดกัน!”
โม่ซวนรีบตามขึ้นไปทันที และเพียงไม่นานมู่เฉียนซีก็หายไปจากเบื้องหน้าของพวกเขาแล้ว
พวกเขาเหล่านี้กล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “ท่านมู่ช่างน่าทึ่งเหลือเกิน นางไม่ใช่ปรมาจารย์ค่ายกลเสียหน่อย! คิดไม่ถึงเล ลยว่าจะหาทางเข้าเจอได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ พวกเรารีบตามขึ้นไปกันเถอะ!”
ภายในมิติของต้นไม้ต้นนี้มีเพียงความมืดมิดอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเท่านั้น โม่ซวนที่อยู่ข้างหลังมู่เฉียนซีกล่าวขึ นมาว่า “ดูเหมือนว่าต้นไม้ต้นนี้จะไม่มีอะไรเลย คงต้องไปหาที่อื่นแล้วล่ะ”
การที่เขากระตือรือร้นหาสมบัติมากขนาดนี้ นั่นเป็นเพราะเขาคาดหวังว่าจะได้รับของล้ำค่ามากมายจากที่นี่ ซึ่งสิ่ งนั้นก็คือพืชวิญญาณฟ้าดิน นอกจากนี้ยังเป็นพืชวิญญาณฟ้าดินที่เต็มไปด้วยพลังแห่งชีวิตอีกด้วย และเมื่อได้รับ ของล้ำค่ามากมายแล้ว มันก็จะต้องมีบางอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายของพ่อบุญธรรมอย่างแน่นอน
มู่เฉียนซีกล่าว “นั่นก็ไม่แน่หรอก อีกอย่างข้ารู้สึกได้ว่าข้างหน้านี้มีธาตุวายุที่ข้าคุ้นเคยอยู่ด้วย! พวกเ เราเข้าไปดูกันก่อนเถอะ”
“ตกลง!”
แน่นอนโม่ซวนย่อมเชื่อในการตัดสินใจของมู่เฉียนซีอยู่แล้ว ฉะนั้นเขาจึงติดตามมู่เฉียนซีผ่านไปในความว่างเปล่าที่ด ดำมืดนี้ทันที
และผลก็ปรากฏว่าเขาได้เห็นพระราชวังสีดำซ่อนอยู่ภายในความมืดมิดแห่งนี้
“ข้างในนี้มีสิ่งของบางอย่างจริง ๆ ด้วย!”
“ขึ้นไปกันเถอะ!”
ในตอนที่มู่เฉียนซีและพรรคพวกขึ้นมาถึงยังด้านบน พระราชวังสีดำแห่งนี้ก็ได้เปลี่ยนกลายเป็นหยกขาว นอกจากนี้ป้าย จารึกที่อยู่เหนือประตูยังสลักข้อความไว้บรรทัดหนึ่ง
“วังวายุพฤกษ์!”
เมื่อเข้าไปในพระราชวังใหญ่แล้ว ก็มีสายลมเย็นพัดเข้ามา และเมื่อถูกห่อหุ้มไปด้วยสายลมเหล่านี้แล้ว มู่เฉียนซี ก็รู้สึกว่าพลังวิญญาณธาตุวายุของนางเริ่มเคลื่อนไหวเองตามธรรมชาติ และมันก็ได้ผสมผสานไปกับธาตุวายุที่อยู่ภ ภายในวังวายุพฤกษ์แห่งนี้
นัยน์ตาของนางหดลงอย่างกะทันหัน แม้ว่าผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงในตอนนี้จะยังไม่ชัดเจนนัก แต่นางก็สามารถมั่นใจได ด้ว่าธาตุวายุของวังวายุพฤกษ์นี้มีประโยชน์ต่อการฝึกฝนพลังธาตุวายุของนางเป็นอย่างมาก
พระราชวังนี้โล่งกว้างเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งยังปราศจากกลิ่นอายของมนุษย์อีกด้วย ซึ่งมันก็เย็นยะเยือกมากเลยทีเด ดียว
ติ๋ง!
เมื่อมู่เฉียนซีได้ยินเสียงของหยดน้ำ ก็พบว่าที่ใจกลางของพระราชวังมีโดมโปร่งใสอยู่แห่งหนึ่ง ซึ่งบนโดมนั้นก็ มีรูขนาดเล็กที่เป็นสีเขียวอ่อนจาง ๆ อยู่ และตอนนี้ยังมีของเหลวสีเขียวหยดลงไปในรูขนาดเล็กนั้นอีกด้วย
มู่เฉียนซีได้รับข้อมูลที่เกี่ยวกับการปรุงยาเกือบทั้งหมดของนิรันดร์มาแล้ว ฉะนั้นทันทีที่นางได้เห็นพืชวิญญาณฟ ฟ้าดินที่หายากเช่นนี้ก็สามารถจำได้ในพริบตา “นะ…นี่มันคือไขวิญญาณแห่งชีวิตของต้นวายุพฤกษ์!”
“ไขวิญญาณแห่งชีวิตของต้นวายุพฤกษ์หรือ?” โม่ซวนก็เป็นนักปรุงยาคนหนึ่งเช่นกัน แต่เขากลับไม่เคยได้ยินชื่อข ของเจ้าของสิ่งนี้มาก่อน อีกทั้งยังไม่เคยเห็นมาก่อนอีกด้วย
“นี่คือไขวิญญาณแห่งชีวิตของธาตุวายุที่ผสมรวมกันมานานหลายปีอย่างไม่จบไม่สิ้นอยู่ในตำหนักเทพแห่งชีวิตแห่ง งนี้ ไขวิญญาณแห่งชีวิตธาตุวายุนี้ไม่ได้ยอดเยี่ยมมากที่สุด แต่สิ่งที่ยอดเยี่ยมมากที่สุดคือไขวิญญาณแห่งชีวิ ตเบญจธาตุ ซึ่งไขวิญญาณแห่งชีวิตเบญจธาตุนั้นจะมีการข่มต่อกันเป็นทอดๆ อีกทั้งยังให้พลังชีวิตทางธรรมชาติอย่ างไม่มีที่สิ้นสุด หาก…หากสามารถหาไขวิญญาณแห่งชีวิตเบญจธาตุได้แล้วละก็ บางทีอาจจะสามารถฟื้นคืนพลังชีวิ ตที่สูญเสียไปแล้วให้กลับคืนมาอย่างค่อยเป็นค่อยไปได้ก็เป็นได้”
“แม้ว่าที่นี่จะมีไขวิญญาณแห่งชีวิตธาตุวายุ แต่ไขวิญญาณแห่งชีวิตเบญจธาตุแน่นอนว่าจะต้องเป็นไขวิญญาณแห่งชี วิตที่มีพลังวิญญาณธาตุทั้งทอง พฤกษา วารี อัคคี และธรณีห้าชนิดอยู่ด้วยกัน”
ถึงนางจะสามารถปรับสภาพร่างกายได้ สามารถถอนพิษได้ แต่เนื่องจากพลังลึกลับนั้นได้ตัดขาดพลังชีวิตไปจึงทำให้สุดท้ ายแล้วนางก็ไม่สามารถทำให้ฟื้นตัวได้ ฉะนั้นจึงทำให้เพียงประคับประคองต่อไป จนกว่านิรันดร์จะตื่นขึ้นมาเท่านั้นเอง ง
แต่ทว่าตัวแปรนี้ใหญ่มากเกินไป นางไม่สามารถรู้ได้อย่างแน่ชัดว่านิรันดร์จะตื่นขึ้นมาเมื่อไร บางทีอาจจะครั้งปี หรือบางก็อาจจะนานกว่าหนึ่งปีด้วยซ้ำ!
เขารอไม่ไหวหรอก!
“จริงหรือ?” โม่ซวนกล่าวอย่างตื่นเต้น
“ความรู้ในความทรงจำของข้าบอกกับข้าว่าวิธีการนี้สามารถเป็นไปได้ แต่ว่าข้าไม่เคยทำอย่างเป็นรูปธรรมมาก่อน เน นื่องจากว่าไม้เทพแห่งชีวิตนั้นลึกลับเกินไป อีกทั้งไขวิญญาณยังสร้างออกมาจากการบ่มเพราะของพืชเบญจธาตุ ซึ่งยั งไม่เคยมีผู้ใดสามารถรวบรวมได้มาก่อน แต่ทว่าที่นี่จะต้องมีแน่นอน! นอกจากนี้มันจะต้องสมบูรณ์มากอีกด้วย ไม่ว่าอ อย่างไรก็ต้องหามันทั้งหมดให้เจอให้ได้” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเคร่งขรึม
“ขอเพียงแค่มีประโยชน์ต่อพ่อบุญธรรม แม้ว่าจะต้องพลิกทั้งตำหนักเทพแห่งชีวิตข้าก็จะต้องรวบรวมมาให้ได้”
เดิมทีเขาเพียงแค่ต้องการสิ่งของที่มีประโยชน์ หรือพืชวิญญาณของพลังแห่งชีวิตที่สามารถบรรเทาความเจ็บปวดของพ่อบ บุญธรรมได้บ้างเท่านั้น แต่ทว่าตอนนี้มีโอกาสที่จะทำให้ร่างกายของพ่อบุญธรรมฟื้นคืนได้อย่างสมบูรณ์ มันจึงทำให้ภ ภายในใจของโม่ซวนตื่นเต้นเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เราเก็บไขวิญญาณแห่งชีวิตของต้นวายุพฤกษ์เหล่านี้ไปก่อนเถอะ”
ไม่รู้ว่าเจ้าสิ่งนี้ผ่านการเก็บสะสมมานานกี่หมื่นปีแล้ว ถึงสามารถทำให้ไขวิญญาณแห่งชีวิตของต้นวายุพฤกษ์เกาะ ตัวมากขนาดนี้ได้ และคราวนี้นางก็ได้รับอะไรกลับไปมากมายเลยทีเดียว
พระราชวังแห่งนี้มีสมบัติล้ำค่าเพียงแค่ชิ้นนี้เท่านั้น ซึ่งพวกของมู่เฉียนซีก็ไม่ได้โลภมากแต่อย่างใด เพราะหลังจ จากที่หาไขวิญญาณแห่งชีวิตของต้นวายุพฤกษ์เจอแล้วพวกเขาก็ออกไปจากที่นี่ทันที และไปค้นหาโลกของต้นไม้ต้นอื่ นต่อไป
ภายในตำหนักเทพแห่งชีวิตแห่งนี้ คนที่มีพลังจิตวิญญาณค่อนข้างอ่อนแอจะไม่สามารถใช้พลังจิตวิญญาณภายใต้แรงกดดันขอ องของไม้เทพแห่งชีวิตได้เลย แต่มู่เฉียนซีนั้นเป็นข้อยกเว้น เพราะนางสามารถใช้พลังจิตวิญญาณได้อย่างราบรื่น อีก กทั้งยังสัมผัสถึงความผันผวนของจิตวิญญาณในวงกว้างได้อีกด้วย
ภายในตำหนักเทพแห่งชีวิตแห่งนี้ พลังธาตุพฤกษามีความแข็งแกร่งมากที่สุด และหากมีการผันผวนของพลังวิญญาณธาตุท ที่แข็งแกร่งอื่น ๆ มู่เฉียนซีก็สามารถรับรู้ได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ทางด้านนั้นมีความผันผวนของพลังธาตุทองอยู่ พวกเราไปดูกันเถอะ”
มีแสงสีทองอร่ามปรากฏขึ้นอยู่กลางทะเลสาบสีเขียวแห่งหนึ่ง ดอกไม้เหล่านั้นมีลักษณะคล้ายกับดอกทานตะวันก็มิปาน แต่ ทว่าสีทองของมันกลับเจิดจรัสและแวววาวกว่าสีของดอกทานตะวันมากมายนัก
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “หากซวนอู่ได้มาเห็นดอกไม้เหล่านี้คาดว่าเขาน่าจะต้องชอบมากอย่างแน่นอน อย่างไรเสียเขาก็ ชอบสิ่งของที่เป็นสีทองอร่ามเหล่านี้อยู่แล้ว”
โม่ซวนกล่าวถามว่า “เฉียนซี เจ้าว่าเป็นไปได้ไหมที่จะมีมิติซ่อนอยู่ในทุ่งดอกไม้สีทองแห่งนี้น่ะ”
“มีความเป็นไปได้มากเลยล่ะ ข้าจะลองไปหาดูก่อน!”
มู่เฉียนซีเขย่งปลายเท้าและพุ่งทะยานอกไป ในตอนที่มู่เฉียนซีได้บดบังแสงแดดของดอกไม้เหล่านั้น พวกมันก็ไม่ได้อ อารมณ์ดีจนอยากขอบคุณนางเหมือนกับต้นไม้ก่อนหน้า แต่มันกลับโมโหและเริ่มลงมือเคลื่อนไหวโจมตีขึ้นมาทันที!
เฟี้ยว เฟี้ยว เฟี้ยว!
ดอกไม้ดอกใหญ่หนึ่งดอกของพวกมันประกอบไปด้วยกลีบดอกไม้รูปกลมรีขนาดเล็กสีทองมากมาย แน่นอนว่าเมื่อโจมตีก็ต้อ องใช้กลีบของมันในการโจมตีอยู่แล้ว และทันใดนั้นกลีบดอกไม้สีทองอร่ามจำนวนนับไม่ถ้วนเหล่านี้ก็ได้หลายเป็นอาวุธ ลับที่พุ่งเข้าจู่โจมมู่เฉียนซีอย่างฉับพลัน
สีหน้าของโม่ซวนเปลี่ยนไปมาก เขาร้องตะโกน “เฉียนซี!”
“แม่นางมู่!”
พวกเขาไม่สนใจอะไรมากอีกต่อไป และรีบร้อนเข้าไปช่วยนางทันที!
ปัง ปัง ปัง!
พลังวิญญาณของพวกเขาแผ่ขยายออกไป จากนั้นก็ร่ายการป้องกัน กลีบดอกไม้เหล่านี้แข็งแกร่งราวกับเหล็กกล้าก็มิปาน อีก กทั้งมันยังแหลมคมเหมือนกับใบมีดอย่างไรอย่างนั้น
ในตอนที่พวกเขากำลังเข้าไปใกล้ การโจมตีของกลีบดอกไม้เหล่านี้ก็ทวีความบ้าคลั่งมากยิ่งขึ้น และดูท่าว่าหากไม่ส สามารถสังหารพวกเขาได้ มันก็จะไม่ยอมแพ้อย่างแน่นอน
เจ้าพวกนี้มันมีความเคียดแค้นอะไรกันแน่นะ!