ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2269 เสียดายที่รู้จักกันช้าไป
คนที่ยืนอยู่เหนือซากศพนั้น เป็นคนที่รูปร่างหน้าตาดีมากคนหนึ่ง แต่ทว่าดวงตาคู่นั้นกลับเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ งเป็นอย่างมาก
“ตรงนี้มีทางเข้ามิติอยู่ด้วยนะ! ในเมื่อข้าใจดีบอกข้อมูลเช่นนี้ให้พวกเขาทั้งหมดแล้ว แต่เหตุใดถึงได้มากันน้อ อยขนาดนี้ล่ะ?” เขาแสดงสีหน้าที่ดูผิดหวังออกมา
“ไอ้บ้า!” คนที่อยู่ตรงหน้าเขาได้ล้มลงไปหมดแล้ว และเหลือเพียงชายหนุ่มในชุดคลุมสีแดงเพลิงที่ยืนอยู่เพียงคน นเดียวเท่านั้น
และบนร่างกายของเขามีบาดแผลจำนวนนับไม่ถ้วน อีกทั้งยังมีเลือดไหลซึมออกมาอย่างไม่ขาดสายอีกด้วย
จูเชว่คิดว่าตนเองนั้นก็โชคร้ายเช่นกัน ทันทีที่เข้ามาในตำหนักเทพแห่งชีวิตเขาก็หาไม่พบแม้แต่เงาของซีซี ฉะนั้ นเขาจึงได้เริ่มพาคนค้นหาพืชวิญญาณที่มีประโยชน์และเต็มไปด้วยพลังชีวิต
เขาเก็บเกี่ยวมาได้ไม่มากไม่น้อย และอย่างไรก็ตาม เขาชื่นชอบเสื้อผ้าที่ใช้งานได้มากกว่า
มันไม่ง่ายเลยกว่าเขาจะหาสถานที่แห่งนี้จนพบ แต่กลับต้องมาเผชิญหน้ากับคนบ้าคนหนึ่ง ซึ่งคนบ้าคนนั้นก็คือเป่ ยกงลั่วนั่นเอง
เป่ยกงลั่วเป็นคนบ้าที่กระหายเลือดคนหนึ่ง เขาชอบความรู้สึกที่เสื้อผ้าถูกย้อมไปด้วยเลือดของคนที่ถูกเขาสังหาร ร
มีเพียงการย้อมเสื้อผ้าทุกซอกทุกมุมให้เป็นสีแดงเท่านั้น ถึงจะสามารถหยุดการสังหารอันบ้าเลือดเช่นนี้ได้
และตอนนี้เสื้อผ้าของเขาและคนที่พามาด้วย ยังไม่ได้เปลี่ยนกลายเป็นสีแดงอย่างสมบูรณ์ ซึ่งอย่างน้อยก็ยังขาดอี กหลายสิบคน ดังนั้นเป่ยกงลั่วจึงไม่ค่อยพอใจเท่าไรนัก
ลมหนาวอันหน้าสะพรึงกลัวจู่โจมเข้าใส่จูเชว่ พลันนั้นพลังธาตุอัคคีของจูเชว่ก็ระเบิดออกมาเพื่อขวางการโจมตีนั้น นเอาไว้!
ปังง!
ร่างเงาของเป่ยกงลั่วหายไปจากที่เดิมที่เคยอยู่ และมาปรากฏตัวอยู่ด้านหลังของจูเชว่อย่างกะทันหัน จากนั้นมีดเล่ มหนึ่งก็พุ่งเข้ามาจ้วงแทงจูเชว่อย่างรุนแรง
กลิ่นอายสังหารที่กระหายเลือดให้ความรู้สึกราวกับว่ากำลังตกลงไปในบ่อเลือดอย่างไรอย่างนั้น ซึ่งมันก็ทำให้จูเชว่เ เย็นเยือกไปทั่วทั้งตัวเลยทีเดียว!
ฉัวะ!
มีดเล่มนั้นแทงลงไปบนร่างกายของจูเชว่ หลังจากนั้นมันก็ได้เกี่ยวเนื้อชิ้นใหญ่ออกมาโดยตรง และเลือดสีแดงสดกระ พุ่งกระฉูดออกมาทันที
ตึงงงง!
จูเชว่กลิ้งตัวออกไปบนพื้น จากนั้นดวงตาก็ฉายแววจริงจังออกมา
ความสามารถของเป่ยกงลั่วนั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่าเป่ยกงจั๋วมากมายนัก และเขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเป่ยกงลั่วเลยแม้แต่น้ อย
“คุณชายจูเชว่ ก็ไม่เห็นจะเท่าไรเลย” รอยยิ้มที่กระหายเลือดปรากฏขึ้นมาที่มุมปากของเป่ยกงลั่ว
“เพียงแต่เหยื่อที่มีชื่อเสียง ทำให้ข้ารู้สึกตื่นเต้นกว่าการฆ่าคนที่ไม่มีชื่อเสียงเหล่านั้นมากมายนัก สนุกมาก ส สนุกจริง ๆ!” เป่ยกงลั่วหัวเราะขึ้นมาอย่างสนุกสนาน ทันใดนั้นก็พุ่งเข้าไปหมายจะสังหารจูเชว่อีกครั้ง
ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ!
หลังจากที่เผชิญหน้ากันอีกหลายครั้ง จูเชว่ในก็ตอนนี้กำลังจะหมดแรงแล้ว
เนื่องจากว่าตอนนี้ยังไม่มีคนอื่นมาติดกับ และเป่ยกงลั่วก็ยังไม่มีเหยื่ออื่น ดังนั้นเขาจึงได้ค่อย ๆ เล่นจูเชว่ไป ปอย่างช้า ๆ
ทุกครั้งที่มีดของเขาแทงเข้าไปกระชากชิ้นเนื้อบนร่างกายของจูเชว่ออกมา มันก็ได้สร้างบาดแผลที่ลึกจนเห็นกระดูก กเอาไว้ด้วย
เป่ยกงลั่วจ้องมองเลือดที่ไหลทะลักออกมาจากร่างกายของเหยื่อ จากนั้นสีหน้าของเขาก็ยิ่งบ้าคลั่งมากขึ้นเรื่อย ๆ
หลังจากที่มู่เฉียนซีกับโม่ซวนและพรรคพวกออกมาจากวังวารีพฤกษ์แล้ว ก็ได้ออกตามหาไขวิญญาณแห่งชีวิตธาตุธรณี ไข วิญญาณแห่งชีวิตธาตุพฤษา และไขวิญญาณแห่งชีวิตธาตุอัคคีที่เหลือต่อไป
แต่ทว่าที่เหลือนั้นค่อนข้างที่จะค้นหายากเป็นพิเศษ และในที่สุดมู่เฉียนซีก็สัมผัสได้ถึงความผันผวนเล็กน้อยของธาต ตุธรณีแล้ว
ไม่ว่าจะมีหรือไม่ มู่เฉียนซีและโม่ซวนก็พร้อมที่จะเดินทางไปตรวจสอบดู!
นางชี้ไปยังทิศทางหนึ่งพลางกล่าวว่า “มันอยู่ทางนั้น”
ยิ่งเข้าไปใกล้ มู่เฉียนซีก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงพลังธาตุธรณีที่แข็งแกร่ง บางทีพวกนางอาจจะมาหาถูกทางแล้วก็เป็นได ด้
แต่นางกลับรู้สึกว่าในอากาศนั้น เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดที่รุนแรงมาก
ทันใดนั้นก็มีร่างเงาร่างหนึ่งกระโดดพรวดออกมา และขวางทางมู่เฉียนซีเอาไว้ “แม่นางมู่ คุณชายโม่ซวน พวกท่านห้ามไป ปทางนั้นเด็ดขาดเลยนะ! ปีศาจบ้าเลือดเป่ยกงลั่วผู้นั้นอยู่ทางนั้น ขะ…เขาฆ่าคนอย่างบ้าคลั่งไปมากมายแล้ว”
“เป่ยกงลั่วหรือ!” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำ
เป่ยกงลั่ว เป็นเสด็จอาของเป่ยกงจั๋ว และเขาก็เป็นผู้นำกลุ่มที่ราชวงศ์เป่ยกงส่งมาตรวจสอบตำหนักเทพแห่งชีวิตใน ครั้งนี้
แต่ทว่าจูเชว่กลับไม่ได้บอกเกี่ยวกับสถานการณ์ของคนผู้นี้กับนางมากเท่าไรนัก แต่การที่เป่ยกงลั่วถูกส่งมานี่ไ ได้ จะต้องเป็นเพราะเขามีความสามารถที่แข็งแกร่งมากแน่นอน
“ขอบคุณท่านมากที่เตือน! แต่อย่างไรข้าก็ต้องไปดูอยู่ดี!”
เมื่อพูดจบ มู่เฉียนซีและพรรคพวกก็พุ่งทะยานไปทันที
“เฮ้! เหตุใดถึงไม่ยอมฟังคำแนะนำกันเล่า! หรือว่าอัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งราชวงศ์ตงหวงของพวกเราอยากจะถูกปีศาจบ้าเล ลือดของราชวงศ์เป่ยกงผู้นั้นฆ่าเอาหรืออย่างไร?” คนผู้นี้ถอนหายใจอย่างจนปัญญา
แต่มู่เฉียนซีกลับดีใจที่ก่อนหน้านี้นางเลือกที่จะมาที่นี่อย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย และไม่ได้เสียเวลามากจนเกิ นไปนัก เนื่องจากว่าหากนางมาช้ากว่านี้อีกหน่อยแล้วละก็ จูเชว่ก็คงจะถูกเป่ยกงลั่วผู้นี้ปาดคอไปแล้วเป็นแน่
“ไห่หวง ไป!”
หลังจากที่เติมพลังวิญญาณเข้าไปในตรีศูลไห่หวงแล้ว มู่เฉียนซีก็ใช้พลังทั้งหมดของนางเหวี่ยงตรีศูลไห่หวงออกไปท ทางเป่ยกงลั่วทันที
ตรีศูลไห่หวงพุ่งเข้าโจมตีอย่างรุนแรง จึงทำให้เป่ยกงลั่วจำเป็นต้องหลบหลีก และแน่นอนมีดเล่มนั้นของเขาย่อมต้อง งไม่มีความแม่นยำมากขนาดนั้นอยู่แล้ว
ฉัวะ!
และด้วยความผิดพลาดนี้ ถึงจะตัดเส้นผมช่อใหญ่ของจูเชว่ไปได้ ทว่าก็โชคดีที่มันไม่ได้ทำให้ศรีษะของเขาต้องหลุด ดออกมาจากบ่าไปแต่อย่างใด
หัวใจของโม่ซวนกระตุกวาบ เขารีบกล่าวอย่างร้อนรนว่า “รีบไปช่วยคนเร็ว ไปช่วยคุณชายจูเชว่เร็วเข้า”
“ขอรับ!”
ทันใดนั้นก็มีคนกระโจนออกมาขวางไม่ให้เขาสังหารคุณชายจูเชว่ ซึ่งนี่ก็ทำให้เป่ยกงลั่วไม่พอใจเป็นอย่างมาก
แววตาของเขามองไปรอบ ๆ และก็ได้เหลือบไปเห็นมู่เฉินซีเข้าพอดี
ปัง ปัง ปัง!
เขาสามารถหลบหลีกการโจมตีของคนอื่น ๆ จากหอหมอปีศาจได้อย่างง่ายดาย และเมื่อแววตาของเขาจ้องมองไปที่มู่เฉียนซี เขาก็ได้เผยสีหน้าที่แปลกประหลาดออกมา
เขากล่าวพร้อมรอยยิ้มว่า “หากข้าเดาไม่ผิดแล้วละก็ เจ้าก็คงจะเป็นมู่เฉินซีอย่างนั้นสินะ! เจ้าคือหญิงสาวที่เป ปิดประตูแห่งชีวิตนี้ เช่นนั้นข้าควรที่จะขอบใจเจ้าถึงจะถูก เป็นเพราะเจ้า ข้าถึงสามารถสังหารผู้คนได้อย่างเต็มที ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยพลังแห่งชีวิตแห่งนี้”
“นอกจากนี้ เจ้าก็ยังเป็นคนที่หลานชายของข้าให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เขาถึงกับยอมวิ่งมาไกลถึงราชวงศ์ตงหวงก็เพื่อ อเจ้า ขนาดข้าได้ยินยังต้องรู้สึกประหลาดใจเลยเชียวล่ะ!”
แววตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความมุ่งร้าย และมู่เฉียนซีก็กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “เป่ยกงลั่ว!”
“เจ้ากล้าทำร้ายจูเชว่จนกลายเป็นเช่นนี้ หากเจ้าไม่หนีไปเสียตั้งแต่ตอนนี้ เจ้าก็จะไม่มีโอกาสอีกแล้ว”
พรวด พรวด พรวด! อาการบาดเจ็บของจูเชว่น่าเวทนาเป็นอย่างมาก และเขาก็ยังสูญเสียเลือดอย่างสาหัสอีกด้วย
มู่เฉียนซีใช้เข็มยาผนึกจุดฝังเข็มหลักของเขาเอาไว้ และทำให้เลือดของเขาหยุดไหลได้เสียที
หลังจากที่เทยาน้ำต่าง ๆ ลงไปเพื่อฟื้นฟูเลือดให้เขา ในที่สุดจูเชว่ก็ได้สติกลับมาอีกครั้ง
เขากล่าวด้วยเสียงที่แหบแห้งว่า “ซีซี! เป่ยกงลั่วผู้นี้รับมือได้ยากเกินไป พวกเจ้ารีบออกไปเร็วเข้าเถอะ”
เป่ยกงลั่วกล่าวอย่างหยอกล้อว่า “มู่เฉินซี เจ้าบอกว่าข้าจะไม่มีโอกาสอย่างนั้นหรือ ข้าว่าเป็นพวกเจ้ามากกว่า ที่จ จะไม่มีโอกาสหนีถึงจะถูก!”
เป่ยกงลั่วดีดนิ้วหนึ่งครั้ง จากนั้นก็มีร่างเงาสีขาวสองสามร่างปรากฏตัวออกมา
นอกจากนี้พวกเขายังจับคนอีกสองสามคนที่ตัวสั่นเทาเอาไว้ เมื่อพวกเขามองไปเห็นซากศพที่น่าสะพรึงกลัว และมองเห็น เป่ยกงลั่วที่กระหายเลือด สีหน้าของพวกเขาแต่ละคนก็ขาวซีดด้วยความหวาดกลัวทันที!
เดิมทีเป่ยกงลั่วเฝ้าอยู่ที่นี่เพื่อรอให้เหยื่อมาติดกับ แต่น่าเสียดายที่ไม่มีคนผ่านเข้ามาอีกแล้ว
ด้วยเหตุนี้ลูกน้องที่อยู่ข้างกายของเขาจึงปล่อยลูกแกะที่จับเอาไว้ออกมา เพื่อให้เขาได้ฆ่าเล่น!
แต่เป่ยกงลั่วกลับกล่าวด้วยเสียงที่ทุ้มต่ำว่า “พวกเจ้ามาสายเกินไป ข้ามีเหยื่อมาหาถึงที่แล้ว นอกจากนี้ยังเป็น เหยื่อที่ข้าสนใจมากที่สุดอีกด้วย! เจ้าลูกแกะน้อยเหล่านี้ ข้าไม่สนใจมันเลยแม้แต่น้อย เช่นนั้นพวกเจ้าก็จัดการ ด้วยตนเองเถอะ!”
แค่พวกเขาถูกคนกลุ่มนี้จับมาอย่างไม่มีเหตุผลก็โชคร้ายมากพอแล้ว คิดไม่ถึงว่าเป่ยกงลั่วจะดูถูกพวกเขาด้วยการสั่ งฆ่าพวกเขาเช่นนี้
“ท่านอ๋องลั่ว โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย!”
“ท่านอ๋องลั่วพ่ะย่ะค่ะ!”
พวกเขาร้องขอความเมตตาอย่างถ่อมตน แต่ทว่าลูกน้องที่จับคนเหล่านั้นมาก็ได้ใช้มีดพกจัดการพวกเขา จนเลือดสด ๆ สาดกร ระเซ็นออกมาทันที! ซึ่งดูแล้วโหดร้ายเป็นอย่างยิ่ง!
เป่ยกงลั่วมองไปที่มู่เฉียนซีแล้วกล่าวว่า “แม้แต่เป่ยกงจั๋วยังไม่สามารถจับเอาไว้ได้ อีกทั้งยังทำให้ตนเองตกไปเ เป็นเหยื่อที่น่าสนใจแทนอีกด้วย ข้าสนใจเจ้ามานานมากแล้ว แต่เพิ่งจะได้พบเจ้าตอนนี้ มันจึงทำให้ข้ารู้สึกเสียดา ายมาก ที่เรารู้จักกันช้าเกินหน่อยจริง ๆ!”