ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2270 การต้อนรับขับสู้
ถึงเขาจะรู้สึกน่าเสียดายที่เจอกันช้าไป แต่มู่เฉียนซีกลับไม่มีความคิดเช่นนั้นเลยแม้แต่น้อย
มู่เฉียนซีกล่าวตอบว่า “ขนาดเป่ยกงจั๋วยังไม่สามารถทำอะไรข้าได้ อ๋องลั่วเจ้าคิดว่าเจ้าจะทำอะไรข้าได้อย่างนั้น หรือ? หรือว่าเจ้าแข็งแกร่งกว่าเป่ยกงจั๋วกันล่ะ ข้าคิดว่าคนบ้าอย่างเจ้าคงเทียบกับเป่ยกงจั๋วไม่ได้หรอก!”
เมื่อได้ยินคำพูดของมู่เฉียนซี ภายในแววตาของเป่ยกงลั่วก็เปล่งประกายสีแดงเลือดออกมา
“ข้าเทียบกับเจ้าหนูเป่ยกงจั๋วนั่นไม่ได้หรือ มู่เฉินซี เจ้าประเมินเขาสูงเกินไปแล้ว รอให้ข้าค่อย ๆ ระบายเลือดใ ในร่างกายของเจ้าออกมา เมื่อถึงตอนนั้นเจ้าก็จะได้รู้ ว่าข้าเหมาะที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของเป่ยกงจั๋วหรือไม่?”
ร่างของเขาพุ่งทะยานมาทางมู่เฉียนซีราวกับลูกกระสุนปืนใหญ่ก็มิปาน และลูกน้องของเป่ยกงลั่วเหล่านั้นก็เริ่มต่อสู กับคนของหอหมอปีศาจแล้วเช่นกัน
มู่เฉินซีผู้นี้จะรนหาที่ตายเกินไปแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่านางจะยั่วโมโหท่านอ๋องลั่วเช่นนี้
อย่างที่รู้กันว่าเรื่องที่ท่านท่านอ๋องเกลียดมากที่สุด ก็คือการที่ถูกคนอื่นบอกว่าเขาด้อยกว่าองค์รัชทายาท ทเป่ยกงจั๋ว
“เกราะพลังวายุ!”
“โล่วิญญาณน้ำแข็ง!”
เป่ยกงลั่วพุ่งเข้ามาอย่างป่าเถื่อน และทุกการโจมตีของเขานั้นก็เฉียบคมเป็นอย่างมาก ราวกับว่าต้องการที่จะฉีกร่า างของนางออกเป็นชิ้น ๆ อย่างไรอย่างนั้นเลย
ถึงเขาจะเป็นเพียงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับหก แต่เขากลับเป็นคนที่โหดเหี้ยมมากคนหนึ่ง
ร่างกายของมู่เฉียนซีสามารถสกัดกั้นได้เพียงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับห้าเท่านั้น เดิมทีแล้วนาง ไม่กล้าที่จะสู้แบบตัวต่อตัวกับเขาเลยด้วยซ้ำ
ปัง ปัง ปัง!
ด้วยพลังของการใช้การเคลื่อนย้ายภายในชั่วพริบตา ทำให้นางสามารถหลบหลีกการโจมตีของเป่ยกงลั่วได้อย่างหวุดหวิดครั งแล้วครั้งเล่า
และเป่ยกงลั่วก็หัวเราะขึ้นมาอย่างสนุกสนานพลางกล่าวว่า “การเคลื่อนย้ายภายในชั่วพริบตารึ ฮ่า ฮ่า ฮ่า! เจ้านี่ทำให้ ข้าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วจริง ๆ มู่เฉินซี”
แววตาของเขาทั้งเย็นยะเยือกและบ้าคลั่ง แม้ว่าความเร็วของมู่เฉียนซีจะรวดเร็วปานสายฟ้า แต่ภายในสายตาของเขา มู่เ เฉียนซีเป็นเพียงเหยื่อที่เขากำหนดเอาไว้แล้วอยู่ดี
เขามั่นใจมากว่า ทุกการลงมีดของเขาบนร่างกายของนางจะสามารถทำให้เลือดทุกหยดของนางพุ่งกระฉูดออกมาได้อย่างแน่ นอน
ตูมมม โครมม!
ยอดฝีมือของราชวงศ์เป่ยกงมีจำนวนมากเกินไป และโม่ซวนในเวลานี้ก็ไม่สามารถต้านทางเอาไว้ได้ไหวอีกแล้ว
ในตอนที่มู่เฉียนซีปะทะกับเป่ยกงลั่วก็ทำได้แค่ฝืนทนปกป้องตนเองเอาไว้เท่านั้น จากนั้นมู่เฉียนซีได้หยิบเอาตรีศู ลไห่หวงออกมา แล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า “มังกรวารีจงบังเกิด!”
ปัง ปัง ปัง!
เป่ยกงลั่วยกฝ่ามือขึ้น และชั้นน้ำแข็งก็ได้ก่อตัวขึ้นมาเป็นชั้น ๆ เพื่อสกัดกั้นการโจมตีจากมังกรวารียักษ์สีฟ้าเอ อาไว้
“ที่แท้เจ้าก็เป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังธาตุสามธาตุนี่เอง! นอกจากนี้ยังได้สมบัติดี ๆ มาจากตำหนักเทพแห่งชีวิตอีกด้ว วยสินะ แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็ยังน่าเสียดายอยู่ดี เพราะเจ้าไม่มีทางเอาชนะข้าได้หรอก มู่เฉินซี!”
“ก่อนหน้านี้ที่เจ้าต่อสู้กับนางคนชั้นต่ำมู่หลินหลางผู้นั้นในงานแข่งขันอัจฉริยะอันดับของราชวงศ์ตงหวง เจ้ายัง ไม่ได้ใช้พลังอย่างเต็มที่สินะ! คิดไม่ถึงเลยว่าจะยังซ่อนพลังเช่นนี้เอาไว้ด้วย” ดวงตาของเขาส่องประกายอย่างน่า ากลัว
แน่นอนว่าสำหรับเป่ยกงลั่วเองก็ประหลาดใจเช่นกัน “ดูเหมือนว่าเป่ยกงจั๋วจะรู้เรื่องนี้อยู่แล้วสินะ มิเช่นนั้นคงไม่ ให้ความสำคัญกับเจ้าเช่นนี้ เจ้าเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังธาตุสามธาตุเพียงคนเดียวที่ข้าเคยเจอมา ดูเหมือนว่าจะต้องต้อ อนรับขับสู้เจ้าเป็นอย่างดีเสียแล้วสิ”
ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ!
เขาไล่ตามความเร็วของมู่เฉียนซี จนสามารถทำลายการป้องกันของมู่เฉียนซีจนแตกออกได้ และในตอนที่มีดเล่มนั้นก็กำ ำลังจะตวัดโดนต้นคอของมู่เฉียนซี
เคร้ง เคร้ง!
ตรีศูลไห่หวงก็เข้ามาขัดขวางการโจมตีนั้นเอาไว้ได้อย่างรวดเร็ว!
ปึงง!
จากนั้นตัวของมู่เฉียนซีก็ถอยร่นออกไป
เป่ยกงลั่วโจมตีมู่เฉียนซีอย่างต่อเนื่อง และในตอนที่เขากำลังจะเข้าใกล้มู่เฉียนซีนั้น ก็ได้ยินเสียงแหวกอากาศดัง งขึ้นมาอย่างกะทันหัน
ร่างเงาสีทองร่างหนึ่งพุ่งไปทางเป่ยกงลั่ว และสีหน้าของเป่ยกงลั่วก็มืดมนขึ้นทันที มีตัวก่อกวนโผล่มาอีกแล้ว?
“มู่เฉินซี ที่แท้เจ้าก็อยู่ที่นี่เองหรือ?” ร่างเงาสีทองปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน และกลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้ง งก็ทำให้เขาต้องขมวดคิ้วมุ่น
ในที่สุดซวนอู่ก็มาถึงแล้ว ก่อนหน้านี้ซวนอู่ยังคงดูนิ่งสงบมากเมื่อเห็นท่าทางที่จนตรอกของมู่เฉียนซี แต่ในตอ อนที่เขาเห็นจูเชว่อาบไปด้วยเลือดและไป๋เจ๋อที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนหน้าซีดเผือด ร่างของเขาก็ได้ระเบิดกลิ่นอาย ที่อันตรายออกมาทันที
ดวงตาของซวนอู่หรี่ลงอย่างอันตราย เขาคือพ่อค้าอัจฉริยะ ซึ่งเขานั้นมีความสนใจในการทำเงินมากกว่าการต่อสู้มากมา ายนัก แต่ทว่าตอนนี้เขาต้องการที่จะฆ่าคนที่อยู่ตรงหน้าเหล่านี้จริง ๆ
เมื่อคนที่ไม่ค่อยเปิดเผยจิตสังหารออกมามีใจที่อยากจะฆ่าเช่นนี้ มันก็จะต้องเป็นเรื่องที่อันตรายมากอย่างแน่นอน และทันใดนั้นกลิ่นอายที่เย็นยะเยือกก็ระเบิดออกมาจากรอบตัวของเขา
ซวนอู่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “อ๋องลั่ว สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นจริง ๆ!”
“นายน้อยว่านซื่อ เจ้าก็มารนหาที่ตายด้วยอย่างนั้นหรือ?” เป่ยกงลั่วกล่าวพร้อมกับนัยน์ตาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ทั้งสองจ้องมองหน้าของกันและกัน จากนั้นก็พุ่งทะยานออกไปอย่างกะทันหัน!
ตูมมม!
ว่านซือเยี่ยนไม่ใช่คนหุนหันพลันแล่น เขาเป็นคนที่ค่อนข้างมีโชคที่ดีมาก และนอกจากนี้ข้างกายของเขาก็ยังมียอดฝ ฝีมือจากสมาคมการค้าอยู่มากมายอีกด้วย
แต่ด้วยความสามารถของเขา เขาไม่ได้คิดที่จะต่อสู้แบบตัวต่อตัว แต่เขาคิดที่จะต่อสู้แบบกลุ่มต่างหาก!
“โจมตี!”
“ขอรับ นายน้อย!”
ยอดฝีมือของสมาคมการค้าเฉินซีเหล่านี้เป็นคนที่ไม่ควรประมาทจริง ๆ และตอนนี้สีหน้าของเป่ยกงลั่วก็เปลี่ยนเป็นมืด ดมนขึ้นมาทันที
ในเมื่อมียอดฝีมือเหล่านี้ออกโรง ความกดดันของคนจากหอหมอปีศาจก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว
มู่เฉียนซีเองก็รักษาตนเองอย่างรีบร้อน มีซวนอู่คอยสกัดกั้นเป่ยกงลั่วเอาไว้ นางจึงสามารถไปตรวจสอบอาการของจูเชว่ ได้อย่างวางใจแล้ว
เป่ยกงลั่วกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “นายน้อยว่านซื่อ ถึงทำเช่นนี้แล้วเจ้าจะชนะ มันก็ไม่ใช่ชัยชนะที่ได้มาอ อย่างยุติธรรมมิใช่หรือ!”
ว่านซือเยี่ยนกล่าวว่า “ข้าไม่สนใจว่าจะเป็นชัยชนะที่ยุติธรรมหรือไม่ เพราะข้าต้องการเพียงแค่ชีวิตของเจ้าก็เท่าน นั้นเอง ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีการใดก็ตาม ขอเพียงบรรลุเป้าหมายได้ก็เพียงพอแล้ว”
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
แผงลูกคิดสีทองไม่ได้หมุนเคว้งมากนัก แต่มันก็ได้ควบคุมเป่ยกงลั่วเอาไว้ข้างในแล้ว
ยอดฝีมือของสมาคมการค้าเฉินซีคนอื่น ๆ เริ่มเคลื่อนไหว ทันใดนั้นก็เกิดระเบิดเสียงดังกึกก้อง ตูมมม! และเป่ยกงลั่ว ก็ถูกกระแทกจนลอยกระเด็นออกไป
“ท่านอ๋องลั่ว!” อ๋องลั่วผู้บ้าคลั่งได้ถูกว่านซือเยี่ยนทำให้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งมันก็ทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป มากเลยในทันที
การต่อสู้ในเวลาต่อมา เขาก็ได้ถูกว่านซือเยี่ยนบดขยี้ด้วยกำลังไปอย่างสมบูรณ์
สีหน้าของเป่ยกงลั่วนั้นมืดมนเป็นอย่างมาก ให้ตายเถอะ ว่านซือเยี่ยนผู้นี้มาได้ผิดเวลาจริง ๆ เลย
ซึ่งเป่ยกงลั่วก็รู้ดีว่าหากยังดึงดันเช่นนี้ต่อไป มันก็ไม่ส่งผลดีอะไรแน่นอน
ดวงตาของเขามองไปที่จูเชว่และมู่เฉียนซี จากนั้นเขาก็แสยะยิ้มกล่าวว่า “การที่จะฆ่าเหยื่อที่น่าสนใจเช่นนี้ในค คราเดียว มันก็ดูจะเป็นเรื่องที่น่าเบื่อเกินไปหน่อย และอาจจะทำให้ความสนุกน้อยลงไปมากอีกด้วย! อย่างไรเสียมู่เฉิ นซีก็เป็นเหยื่อที่หลายชายของข้าชื่นชอบเช่นกัน! หากถูกข้าฆ่าได้ในพริบตาเช่นนี้ ข้าคงต้องถูกหลานชายโกรธเคื องจนตายเป็นแน่ ดังนั้นข้าจะเตรียมล่าเหยื่อที่น่าสนใจเหล่านี้อย่างช้า ๆ เอง”
“พวกเราไปกันเถอะ!”
เป่ยกงลั่วเตรียมตัวที่จะล่าถอยแล้ว แต่ว่านซือเยี่ยนจะปล่อยคนที่ชั่วช้าเช่นนี้ให้หนีรอดไปได้อย่างไร
ว่านซือเยี่ยนเองก็มีต่อมโมโหเช่นกัน แน่นอนว่าอันดับแรกที่เขารักมากที่สุดก็ย่อมต้องเป็นเงินอยู่แล้ว แต่อั นดับที่สองนั้นคือครอบครัวของเขา ซึ่งนั่นก็คือพ่อบุญธรรมและน้องชายของเขานั่นเอง!
เมื่อเห็นว่าจูเชว่และไป๋เจ๋อได้บาดเจ็บสาหัส มันก็ถือว่าเขาได้ถูกยั่วโมโหโดยสมบูรณ์แล้ว ท่าทางที่ก้าวร้าวเช ช่นนี้ทำให้แม้แต่มู่เฉียนซีก็ไม่รู้จักเจ้าขี้เหนียวซวนอู่ผู้นี้อีกแล้ว!
เป่ยกงลั่วรู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที สมาคมการค้าเฉินซีนั้นมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดากับหอหมอปีศาจ แต่ว่านซือเยี่ยน นนั้นไม่ใช่พ่อค้าที่ทำสิ่งใดโดยไม่หวังผลกำไร แต่เหตุใดถึงทุ่มสุดตัวกับเขาราวกับเป็นคนบ้าคลั่งก็มิปานเพื่อม มู่เฉินซีผู้นั้นด้วย!
ปัง ปัง ปัง!
องครักษ์ติดตามของเป่ยกงลั่วเหล่านั้นได้ถูกคนของสมาคมการค้าเฉินซีฆ่าไปทีละคน และดวงตาคู่นั้นของเป่ยกงลั่วก็แ แดงก่ำขึ้นมาทันที
“ข้าเป็นถึงชินอ๋องของราชวงศ์เป่ยกง เป็นน้องชายแท้ ๆ ของจักรพรรดิเป่ยกง สมาคมการค้าเฉินซีอย่างเจ้าคิดจะรนหาที่ ตายอย่างนั้นหรือ?” เขาตะโกนกล่าวด้วยความโกรธ
“อ๋องลั่ว หากเจ้าตายอยู่ที่ตำหนักเทพแห่งชีวิตนี้ ข้าคิดว่าเรื่องมันคงไม่มีทางแพร่งพรายไปถึงราชวงศ์เป่ยกงหร รอก? มิใช่หรือ?” ว่านซือเยี่ยนกล่าวขึ้นมาอย่างใจเย็น
“บัดซบเอ้ย!” จากนั้นเป่ยกงลั่วกัดฟันแล้วโต้กลับอีกครั้ง
“หากนายน้อยว่านซื่อต้องการจะฆ่าข้า มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้นหรอก!” เป่ยกงลั่วคำราม ทันใดนั้นกลิ่นอายที่ก กระหายเลือดก็ได้ระเบิดออกมา และดวงตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำทันที