ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2271 เมืองธรณีพฤกษ์
ที่เป่ยกงลั่วกระหายเลือดและชอบฆ่าคนอย่างโหดร้าย ไม่ใช่เพราะความชอบของเขา แต่เป็นเพราะเขาตั้งใจที่จะค้นหาวิธี การพิเศษในการฝึกฝนต่างหาก
นอกจากนี้การล่าเหยื่อไม่เพียงสามารถทำให้เขาอารมณ์ดีได้เท่านั้น แต่ยังสามารถยกระดับความสามารถของเขาได้ด้วย น นี่ถือเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยมิใช่หรือ?
เคล็ดวิชานี้มันจะระเบิดพลังสูงสุดออกมา และยังทำให้เขาสามารถหลบหนีได้
แต่ทว่าผลข้างเคียงของมันก็น่ากลัดกลุ้มใจมากเช่นกัน เขาเหลือบมองไปที่มู่เฉียนซีอย่างเหี้ยมโหดพลันนั้นคลื่นควา ามร้อนสีเลือดอันน่าสะพรึงกลัวก็พุ่งไปทางพวกเขา
ซึ่งมันดูเหมือนกับว่าเขาต้องการจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัว ฉะนั้นพวกเขาจึงอุทานออกมาด้วยความตกใจว่า “นายน้อย ระวังขอรับ!”
ตูมมม โครมมม!
ด้วยพลังที่ระเบิดออกมาอย่างกะทันหันของเป่ยกงลั่วได้สร้างความเสียหายและวุ่นวายแก่พื้นที่โดยรอบ ทั้งต้นไม้หัก โค่น เศษหินดินทรายปลิวว่อน จากนั้นเขาจึงฉวยโอกาสนี้หายไปต่อนหน้าต่อตาของทุกคนทันที
ถึงซวนอู่อยากจะไล่ตามไป แต่มู่เฉียนซีกลับกล่าวขัดขึ้นมาว่า “อย่าเพิ่งตามไป เราจะมามัวเสียเวลากับเขาไม่ได้ พ พวกเรามีเรื่องที่สำคัญมากกว่าที่จะต้องทำ”
“อย่างไรเสียเขาก็เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงด้านความเก่งกาจมาก่อนเป่ยกงจั๋ว แม้ว่าอยากจะฆ่าเขาจริง ๆ เจ้าก็อาจจะต ต้องตกอยู่ในอันตรายก็ได้ ตรงนี้มีคนบาดเจ็บถึงสองคนแล้ว ข้าไม่อยากให้มีเพิ่มอีกคนหรอกนะ”
ซวนอู่ไม่ได้ให้พวกเขาไล่ตามไปอีกแล้ว และกล่าวถามว่า “อาการบาดเจ็บของพวกเราทั้งสองคนเป็นอย่างไรบ้าง?”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “มีข้าอยู่ ไม่มีปัญหามากหรอก! เพียงแต่ทั้งสองคนต้องการเวลาฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ และหลังจา ากนี้ไปพวกเขาไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมใดได้แล้ว”
“ส่งพวกเขาไปยังสถานที่ที่ปลอดภัยเพื่อให้พวกเขาได้พักฟื้นก่อนเถอะ”
แม้ว่าเป่ยกงลั่วจะถูกพวกเขาทุบตีจนหนีไป แต่หากปล่อยให้เขาหายอดฝีมือคนอื่นของราชวงศ์เป่ยกงเจอ และถ้ามีความส สามารถมากพอที่จะต่อต้านพวกเขาได้ เขาจะต้องตามมาฆ่าพวกเขาอย่างแน่นอน
และมันก็ไม่ปลอดภัย ที่จะปล่อยให้คนเจ็บอยู่ที่เดิมเช่นนี้อีกด้วย
ซวนอู่กล่าวว่า “ตกลง!”
มู่เฉียนซีค้นพบโพรงขนาดใหญ่ของต้นไม้ที่มีพลังแห่งชีวิตที่แข็งแกร่งโพรงหนึ่ง และภายในโพรงไม้นั้นก็ไม่ได้มีม มิติอื่นอยู่อีก อีกทั้งยังเป็นเพียงแค่โพรงไม้ธรรมดาเท่านั้น
มู่เฉียนซีสั่งการคนของหอหมอปีศาจว่า “พวกเจ้าอยู่ที่นี่คอยดูแลทั้งสองคนนั้นเอาไว้ และรักษาอาการบาดเจ็บบนร่าง งกายของตนเองด้วย”
“ขอรับ! ท่านมู่”
หลังจากนั้น มู่เฉียนซีก็โบกมือให้ซวนอู่พลางกล่าวว่า “ภารกิจหลังจากนี้ ซวนอู่เจ้าไปด้วยกันกับข้าก็แล้วกัน!”
เมื่อพวกเขากลับไปยังสถานที่ที่ต่อสู้กับเป่ยกงลั่วก่อนหน้านี้ กลิ่นคาวเลือดของสถานที่แห่งนี้กลับคละคลุ้งมากยิ่ งขึ้นกว่าเดิมเสียอีก
เมื่อซวนอู่นึกถึงเรื่องที่จูเชว่เกือบจะถูกเป่ยกงลั่วสังหารอย่างโหดร้ายแล้ว สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นมืดมนขึ นทันที
เขากล่าวกับมู่เฉียนซีว่า “มู่เฉินซี ที่เจ้าให้เข้ามาไม่ใช่ว่าต้องการให้เก็บศพของคนเหล่านี้หรอกใช่หรือไม่! ข้ าไม่มีเวลาว่างมากขนาดนั้นหรอก”
“แน่นอนว่าไม่ใช่อยู่แล้ว!”
มู่เฉียนซีใช่พลังธาตุวารี เพื่อย้ายพวกเขาออกไป ทันใดนั้นก็เจอก้อนหินก้อนหนึ่ง ในตอนที่นางดันก้อนหินก้อนนั้น นออกไป ก็พบว่าสถานที่ที่ยืนอยู่นั้นเป็นมิติที่บิดเบี้ยวมิติหนึ่ง
“รีบตามข้ามาเร็วเข้าเถอะ!” นางกล่าวกับซวนอู่
ซวนอู่รู้ว่า สิ่งที่มู่เฉียนซีได้ค้นพบก็คือมิติที่แยกตัวออกมาของตำหนักเทพแห่งชีวิต
ถึงแม้จะไม่รู้ว่านางใช้วิธีไหนถึงสามารถรับรู้ได้กันแน่ แต่เขาก็ยังคงติดตามนางไปอยู่ดี
“มู่เฉินซี ข้าไม่คิดที่จะทำธุรกิจที่ขาดทุน ฉะนั้นหวังว่าเมื่อเข้าไปข้างในแล้วคงจะไม่ได้กลับมามือเปล่าหรอกนะ ะ!”
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “สถานที่ที่ข้าค้นหา จะไม่ได้อะไรเลยได้อย่างไร มันจะต้องมีเรื่องที่ทำให้ประหลาด ดใจแน่นอน”
เมื่อพวกเขาเข้าไปแล้ว ก็มองเห็นเมืองขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง
สิ่งปลูกสร้างของทั้งเมืองล้วนทำมาจากไม้และดิน อีกทั้งฝีมือที่ประณีตอย่างเหนือธรรมชาตินั้นก็ดูราวกับว่าไม่ใช่ สิ่งที่มนุษย์จะสามารถทำขึ้นมาได้ก็มิปาน
เมืองแห่งนี้กว้างใหญ่และงดงามเป็นอย่างมาก แต่ทว่าภายในกลับว่างเปล่า ไม่มีสิ่งของมากมายนัก และยิ่งไม่ต้องพูดถึง งพืชวิญาณฟ้าดินเลย
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “จะมีหรือไม่ เข้าไปดูก่อนค่อยว่ากัน เจ้าไม่รู้สึกถึงกลิ่นอายของธาตุดินที่แข็งแกร่งของที่นี่ อย่างนั้นหรือ?”
ซวนอู่และมู่เฉียนซีเดินเข้าไปภายในเมื่อแห่งนี้ แววตาของมู่เฉียนซีกวาดมองไปรอบบริเวณ ถึงไขวิญญาณแห่งชีวิตขอ องต้นวายุพฤกษ์จะสามารถหามาได้อย่างง่ายดาย
แต่ทว่าการรวบรวมหนึ่งในธาตุทั้งห้าอย่างไขวิญญาณแห่งชีวิตธาตุทอง ไขวิญญาณแห่งชีวิตธาตุวารี และไขวิญญาณแห ห่งชีวิตธาตุอัคคีนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย นอกจากนี้ไขวิญญาณแห่งชีวิตธาตุธรณีนี้ ก็ไม่รู้ว่าถูกเก็บซ่อนไว้ท ที่ใดกันแน่อีกด้วย?
พวกเขาค้นหาเมืองทั้งเมืองด้วยความรวดเร็วแต่กลับไม่เจอแม้แต่ขนสักเส้นเดียว และซวนอู่ก็รู้สึกว่ามิติแห่งนี ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อล่อลวงผู้คนเท่านั้น
“มู่เฉินซี พวกเราไม่รู้ว่าเมื่อไรที่จะถูกโยนออกไปจากตำหนักเทพแห่งชีวิตแห่งนี้ ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องเร่ งค้นหาสิ่งของที่สามารถช่วยเหลือพ่อบุญธรรมได้ แม้ว่าตอนนี้ในมือของข้าจะหามาได้บ้างแล้ว แต่ว่ามันต้องไม่พอแ แน่นอน! และยิ่งได้มามากเท่าไรก็ยิ่งดี!” น้อยครั้งนักที่ซวนอู่จะร้อนใจเช่นนี้ แต่เพื่อที่จะทำให้พ่อบุญธรรมมี โอกาสมีชีวิตได้นานขึ้น เขาก็อดไม่ได้ที่จะใช้ทุกลมหายใจของเขาทำในเรื่องที่มีความสำคัญมากที่สุด
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เจ้าคิดว่าข้ามาที่นี่เพื่อมาเล่นหรืออย่างไร? ข้าก็กำลังหาพืชวิญญาณที่สามารถช่วยเขาได้อ อยู่เหมือนกัน พืชวิญญาณของตำหนักเทพแห่งชีวิตมีความซับซ้อนมากเกินไป แม้ว่ามันจะเต็มไปด้วยพลังแห่งชีวิตแต่ต้อง ให้เหมาะสมถึงจะสามารถสร้างผลที่น่าอัศจรรย์ได้”
“ลองดูซิว่านี่คืออะไร?”
มู่เฉียนซีหยิบขวดหยกออกมาสองใบ ขวดหยกใบแรกได้บรรจุไขวิญญาณแห่งชีวิตธาตุวารีสีฟ้าเอาไว้ ส่วนอีกใบได้บรรจ จุไขวิญญาณแห่งชีวิตธาตุทองสีทองเอาไว้
ในตอนที่ซวนอู่เห็นของเหลวสีทองนั้น ภายในดวงตาของเขาก็เปล่งประกายระยิบระยับออกมา “นะ…นี่คือไขวิญญาณอะไร มันจะต้องมีค่ามากเลยใช่หรือไม่?”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “นี่ก็คือไขวิญญาณแห่งชีวิตธาตุทองและไขวิญญาณแห่งชีวิตธาตุวารี มันคือสองในห้าธาตุของ ไขวิญญาณแห่งชีวิต หากสามารถรวบรวมไขวิญญาณแห่งชีวิตได้ครบทั้งห้าธาตุแล้ว เราก็จะสามารถใช้ประโยชน์จากพลังข ของธาตุทั้งห้าในการสร้างวงจรแห่งพลังชีวิตได้ เท่านี้ก็จะสามารถทำให้พ่อบุญธรรมของเจ้ามีชีวิตชีวาอยู่เสมอแล้ว ว และก็จะไม่มีอันตรายถึงชีวิตอีกแล้วด้วย”
ดวงตาของซวนอู่นั้นเปล่งประกายขึ้นมาอีกหลายส่วน “ขอเพียงแค่หาเจอ พ่อบุญธรรมก็จะไม่ต้องมีเรื่องกังวลเกี่ยวกับ ชีวิต อีกทั้งยังไม่ต้องดิ้นรนอยู่ที่เส้นขอบแห่งความตายครั้งแล้วครั้งเล่าอีกแล้ว ไม่ต้อง…”
มู่เฉียนซีพยักหน้าพลางกล่าวว่า “หากสามารถหาไขวิญญาณเบญจธาตุได้สำเร็จ ก็จะถือได้ว่าข้าบรรลุในสิ่งที่ข้าคาดหว วังได้เป็นผลสำเร็จ แล้วมันก็จะต้องเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ! แต่ว่า…”
แต่ทว่าร่างกายของเขาก็ยังคงหมดหนทางที่จะกลับคืนสู่สภาพเดิมได้อยู่ดี ตราบใดที่พลังลึกลับนั่นยังคงอยู่ภายในร่า างกายของเขา เขาก็จะไม่สามารถฝึกฝนได้ และไม่สามารถฟื้นฟูพลังจิตวิญญาณได้
สำหรับพลังนั้น มู่เฉียนซีทำอะไรกับมันไม่ได้เลย เนื่องจากว่าจนถึงตอนนี้นางก็ยังไม่สามารถรู้ได้อย่างชัดเจนเล ลยว่าพลังนั้นคืออะไรกันแน่?
ใครกันแน่ที่อยากจะสร้างปัญหาให้คนที่มีนิสัยเรียบง่าย และมีสติปัญญาที่หาผู้ใดเปรียบไม่ได้เช่นนี้กัน
นางรู้ว่าคนของราชวงศ์ตงหวงไม่ได้เป็นคนทำแน่นอน และมันก็ไม่ใช่สิ่งที่คนของเผ่าคำสาปสามารถทำได้ด้วยเช่นกั น
เนื่องจากว่าพวกเขาไม่มีความสามารถมากพอที่จะทำสิ่งที่สร้างความลำบากให้กับหมอปีศาจอย่างนางเช่นนี้ได้
“ยอดเยี่ยมมาก ไม่ว่าอย่างไรก็จะต้องตามหามันให้เจอ! ข้าไม่สนใจและไม่ค้นหาสมบัติล้ำค่าอื่น ๆ อีกแล้ว แค่หาของ งที่เหลืออีกสามอย่างนั้นให้ได้ก็พอ” ซวนอู่กล่าวพลางกำหมัดแน่น
“เจ้ารู้ก็ดีแล้ว อีกอย่างข้าสัมผัสได้ว่าสถานที่แห่งนี้มีพลังธาตุดินที่แข็งแกร่งที่สุดแล้ว ดังนั้นข้าจึงสงส สัยว่าไขวิญญาณแห่งชีวิตธาตุธรณีจะต้องอยู่ที่มิตินี้อย่างแน่นอน” มู่เฉียนซีกล่าวกับซวนอู่
“แต่ว่า…เราก็หาทั้งเมืองมารอบหนึ่งแล้ว หากมีไขวิญญาณแห่งชีวิตจริง ๆ มันน่าจะอยู่ที่ไหนได้ล่ะ?”
มู่เฉียนซีก้มหน้าลงและมองไปที่พื้นดินพลางกล่าวว่า “หากเป็นไขวิญญาณแห่งชีวิตธาตุธรณีแล้วละก็ มันก็มีความเป ป็นไปได้มากว่าจะถูกซ่อนเอาไว้ใต้ดินนี่แหละ”