ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2273 ทะลวงออกไปได้สำเร็จ
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “มันก็แค่เขาวงกตเองไม่ใช่หรือ? พวกเราบุกเข้าไปกันเถอะ!”
ขอเพียงสถานที่แห่งนั้นมีไขวิญญาณแห่งชีวิตธาตุธรณี แม้เขาวงกตแห่งนี้จะเปลี่ยนเป็นมีความยากมากกว่านี้อีกร้อย เท่า พวกเขาก็จะต้องบุกผ่านไปให้ได้อยู่ดี
ทุกคนต่างเข้าไปในเขาวงกตแห่งนั้น และมู่เฉียนซีก็นึกถึงโครงสร้างของเมืองแห่งนี้ที่เคยเห็นจากบนอากาศ ซึ่งตอ อนนี้ก็มีมันเป็นเบาะแสแค่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ซวนอู่กล่าวว่า “เลิกคิดเถอะ โครงสร้างจริงที่อยู่ด้านล่างไม่เหมือนกับที่ข้าเห็นจากด้านบนเลย ไม่มีประโยชน์หรอก !”
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “ดูท่าว่าคงจะบุกทะลวงเข้าไปได้ยากจริง ๆ!”
“ไม่ว่าจะบุกไปได้ยากมากเพียงใด แต่เขาวงกตนี้ก็ไม่อาจขัดขวางข้าว่านซือเยี่ยนผู้นี้ได้หรอก”
มู่เฉียนซีกับซวนอู่พยายามใช้ทุกวิถีทางเพื่อผ่านเขาวงกตนี้ไปให้ได้ แต่ทว่าวิธีการเหล่านี้มีประโยชน์แค่กับเขาวง งกตธรรมดาเท่านั้น ซึ่งมันใช้ไม่ได้ผลกับที่นี่เลยแม้แต่น้อย
ซวนอู่กล่าวว่า “เขาวงกตแห่งนี้เคลื่อนไหวได้ และทุกครั้งที่มันเคลื่อนไหวก็จะทำลายเบาะแสที่พวกเราได้ทิ้งเอาไว้ อีกด้วย และหลังจากนั้นมิติทั้งหมดก็จะเปลี่ยนแปลงไป”
“เช่นนั้นเจ้าคิดว่ามีหนทางอื่นอีกหรือไม่?” มู่เฉินซีกล่าวถาม
“มันย่อมต้องคิดหาทางออกได้แน่นอนอยู่แล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจยอมแพ้ได้ ไปกันเถอะ! หากลองเดินกันไปอีกสักห หน่อย สุดท้ายก็จะต้องเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของมันได้อย่างแม่นยำแน่นอน” ซวนอู่กล่าวพลางกำหมัดแน่น
มู่เฉียนซีกล่าวตอบว่า “อื้ม! เขาวงกตแห่งนี้แปลกประหลาดมาก แต่ทว่าสติปัญญาของมนุษย์ก็ไม่ได้แย่เช่นกัน มาลองดูก กันว่าใครจะเหนือกว่าใครกันแน่?”
หลังจากที่เดินกันมาหลายรอบแล้ว ภายในใจของมู่เฉียนซีและซวนอู่ก็เริ่มมีความมั่นใจมากขึ้น
ซวนอู่ได้หยิบเอากระดาษออกมา จากนั้นก็ลงมือวาดภาพเมืองที่พวกเขาเห็นบนอากาศก่อนหน้านี้ออกมาว่าเป็นเช่นไร
“เมื่อตอนที่พวกเราเดินเข้ามาก็ค้นพบว่ามันไม่เหมือนกับก่อนหน้านี้เลย มันไม่ใช่ว่าเมืองแห่งนี้มีวิธีการที่สามา ารถบดบังสายตาได้ แต่เป็นเพราะมันเปลี่ยนไปทั้งเมือง หลังจากที่ลองเดินมาแล้วหลายรอบ ข้าก็สามารถทดลองกฎบางอย่า างออกมาได้!” ซวนอู่อธิบายให้มู่เฉียนซีฟัง
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “บังเอิญจริง ข้าก็ทดลองกฎบางอย่างออกมาได้แล้วเหมือนกัน! อย่างไรเสียเมืองนี้ก็ ไม่ใช่มนุษย์ ฉะนั้นจึงไม่มีความคิดของมนุษย์ ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดจะใช้กฎอยู่อย่างหนึ่ง ซึ่งมักจะมีความสอดค คล้องกันอยู่เสมอ”
หลังจากที่ค้นหากฎของมันเจอแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็เป็นการคำนวณถึงความเปลี่ยนแปลงที่เป็นไปได้นับครั้งไม่ถ้วน
และในตอนนี้มู่เฉียนซีก็รับรู้ได้ถึงพรสวรรค์อีกอย่างหนึ่งของซวนอู่ นั่นก็คือคนที่มีความสามารถในการคำนวณเช่น นนี้ ช่างสมกับที่ถูกเรียกว่าเป็นอัจฉริยะในโลกของธุรกิจมาตั้งแต่กำเนิดจริง ๆ
แม้ว่าจะเทียบกับความสามารถในการคำนวณของเครื่องคิดเลขไม่ได้ แต่ทว่าเมื่ออยู่บนโลกใบนี้ ก็คงยากที่จะหาคนที่ สองได้เช่นกัน
มู่เฉียนซีเองก็คอยช่วยเหลืออยู่ข้างกาย และได้คำนวณไปพร้อมกับซวนอู่ด้วยเช่นกัน
และหลังจากที่รอให้ทุกอย่างเสร็จสิ้นลงแล้ว ซวนอู่ก็กล่าวขึ้นมาว่า “ไปเถอะ! เร็วเข้า!”
“เราจำเป็นที่จะต้องหาหอคอยสูงที่มีไขวิญญาณแห่งชีวิตธาตุธรณีนั้นให้เจอก่อนที่มันจะเริ่มเปลี่ยนแปลงในครั้งต่ อไป” หากทำไม่ได้แล้วละก็ เช่นนั้นก็จะต้องคำนวณใหม่อีกครั้ง และในเมื่อหาวิธีการเจอแล้ว อีกไม่ช้าก็เร็วพวกเ เขาจะต้องเอามันมาครอบครองได้อย่างแน่นอน”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ซวนอู่ คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะมีความสามารถในการคำนวณถึงเพียงนี้ มันทำให้ข้าประทับใจมากจริง ๆ !”
“แม้ว่าข้าจะมีพรสวรรค์ในด้านนี้ แต่ก็ไม่ได้แข็งแกร่งมากมายขนาดนั้น และพ่อบุญธรรมก็เป็นคนค้นพบความสามารถทาง ด้านนี้ของข้า ฉะนั้นเขาจึงสอนข้าด้วยตนเอง อีกทั้งยังช่วยข้าดึงศักยภาพที่อยู่ลึกยิ่งกว่าให้ออกมาอีกด้วย ซ ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุผลว่าทำไมถึงมีข้าในวันนี้” ถึงซวนอู่จะไม่เคยภูมิใจในสิ่งนี้ แต่เขาก็ชื่นชมพ่อบุญธรรมของเขา าเป็นอย่างมากอยู่ดี
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “อันที่จริงแล้วเขาเป็นคนที่เก่งกาจมากคนหนึ่ง เขาไม่ควรถูกทำลายด้วยความทุกข์เข็ญเช่นนี้มิ ใช่หรือ?”
“ไม่มีผู้ใดสามารถทำลายพ่อบุญธรรมของข้าได้ และเขาก็จะต้องดีขึ้นได้อย่างแน่นอน” ซวนอู่กล่าวพลางกำหมัดแน่น
“อื้ม! นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว!” มู่เฉียนซีกล่าวพลางพยักหน้าเล็กน้อย
มู่เฉียนซีและพรรคพวกรีบพุ่งทะยานออกไปจากใจกลางเมืองแห่งนี้ด้วยความรวดเร็ว แต่ทว่าเส้นทางการคำนวณแรกกลับล้มเห หลว จากนั้นพวกเขาก็เริ่มเส้นทางที่สอง เส้นทางที่สาม…
พวกเขาทุ่มเทอย่างเต็มที่ พยายามอย่างเต็มที่ และก่อนที่จะหมดเวลา พวกเขาก็หาหอคอยสูงแห่งนั้นเจอจนได้
มู่เฉียนซีรู้สึกว่าบนพื้นนั้นเกิดการสั่นสะเทือนขึ้นมาเล็กน้อย อีกทั้งธาตุดินโดยรอบก็เคลื่อนไหวอย่างผิดปกติอ อีกด้วย
มู่เฉียนซีกล่าวกับพวกเขาว่า “รีบไต่ขึ้นไปบนหอคอยเร็วเข้า ตอนนี้ตำแหน่งมันกำลังจะเปลี่ยนอีกแล้ว”
หากพวกเขาไม่รีบขึ้นไปบนหอคอย แล้วรอต่อไปเช่นนี้ก็ไม่รู้ว่าจะต้องไปโผล่ที่ไหน และเมื่อถึงตอนนั้นก็ต้องหาทาง งใหม่อีกรอบหนึ่ง
แม้ว่าซวนอู่จะเก่งกาจมาก แต่กว่าจะคำนวณชุดตัวเลขจำนวนมหาศาลเช่นนี้ออกมาได้มันก็จำต้องใช้เซลล์สมองเป็นจำนวน นมากเลยทีเดียว ฉะนั้นควรจะคำนวณให้น้อยครั้งจะดีกว่า
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ!
พวกเขาพุ่งทะยานขึ้นไปบนหอคอยแห่งนั้นด้วยความเร็วที่เร็วที่สุด และทันใดนั้นพวกเขาก็ได้เห็นเมืองของเขาวงกตปร ระกอบขึ้นมาใหม่ทั้งหมดอีกครั้ง และมีเพียงหอคอยนี้เท่านั้นที่ไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ขึ้นไปกันเถอะ! สิ่งของที่พวกเราต้องการอยู่ข้างบนนั้น”
เมื่อพวกเขาไต่ขึ้นไปบนจุดสูงสุดของหอคอยแล้ว มู่เฉียนซีก็เดินไปที่กรวยน้ำอันหนึ่งทันที
มันมีรูขนาดเล็กรูหนึ่งอยู่เหนือกรวยน้ำนั้น ซึ่งเหนือรูขนาดเล็กนั้นมีพลังธาตุดินที่เต็มไปด้วยพลังแห่งชีวิต พวยพุ่งเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และในที่สุดตรงกลางช่องว่างนั้นก็กลายเป็นไขวิญญาณแห่งชีวิตธาตุธรณีที่บริสุทธิ์!
เมื่อมู่เฉียนซีพลิกกรวยน้ำนั้นนี้เข้ามา ไขวิญญาณแห่งชีวิตธาตุธรณีก็ไหลย้อนกลับไปในกรวยน้ำอย่างรวดเร็ว หลั งจากนั้นมู่เฉียนซีก็เทพวกมันใส่เข้าไปในขวดหยก
กรวยน้ำนี้มีพื้นที่ที่ไม่น้อยเลย หลังจากที่มู่เฉียนซีเทพวกมันทั้งหมดออกมาแล้ว ก็เห็นได้ชัดว่าเก็บเกี่ยวมาได้ ไม่น้อยเลยทีเดียว
หลังจากที่รวบรวมมันได้สำเร็จแล้ว นางก็วางกรวยน้ำกลับเข้าไปไว้ที่เดิม
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เสร็จแล้ว! ธาตุทอง พฤษา วารี อัคคี ธรณี ตอนนี้พวกเราเอาทอง วารี และธรณีมาได้แล้ว เหลือเ เพียงแค่พฤษากับอัคคีแล้วล่ะ”
บนใบหน้าของซวนอู่เผยรอยยิ้มออกมา “เหลืออีกเพียงแค่สองอย่างแล้ว พวกเราจะต้องรวบรวมได้อย่างแน่นอน!”
เมื่อพวกเขาลงมาจากบนหอคอยเรียบร้อยแล้ว สายตาแต่ละคู่จ้องมองไปยังถนนสายหลักแต่ละสายอย่างทอดถอนใจ
กว่าจะหาที่นี่เจอก็ยากลำบากมากพออยู่แล้ว ทว่าการจะหาทางออกไปจากที่นี่นั้น ก็มีความยากลำบากพอกันเลย!
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ซวนอู่ เรื่องนี้คงต้องมอบให้เป็นหน้าที่เจ้าแล้วล่ะ”
ซวนอู่นวดศีรษะที่เริ่มปวดของตนเองพลางกล่าวว่า “คงต้องจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จโดยเร็วแล้วล่ะ!”
ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะว่า เขาแทบรอที่จะไปตามหาไขวิญญาณแห่งชีวิตที่เหลืออีกสองชนิดไม่ไหวแล้วน่ะสิ ดังนั้นคราว วนี้ซวนอู่จึงเพิ่มความเร็วให้มากยิ่งขึ้นไปอีก
“ไปเถอะ! มาทางนี้!” ซวนอู่พุ่งทะยานออกไปอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ
มู่เฉียนซีไล่ตามไป จากนั้นนางก็กล่าวว่า “ซวนอู่ นี่เจ้ากำลังจะสลัดข้าทิ้ง เพื่อแก้แค้นเรื่องที่ข้าหัวเราะเจ้ าอย่างหนักก่อนหน้านี้อย่างนั้นหรือ?”
“แม้ว่าจะสลัดเจ้าทิ้งไปจริง ๆ เจ้าก็สามารถหาทางออกไปได้อยู่ดี เพียงแค่ต้องเปลืองสมองสักหน่อยก็เท่านั้นเอง” ซวน นอู่กล่าวตอบ
“ที่แท้เจ้าก็มีความคิดเช่นนี้จริง ๆ ด้วยสินะ!”
“หากไม่อยากใช้สมองหาทางออกไปด้วยตนเองแล้วละก็ มู่เฉินซี เจ้าก็คงต้องตามความเร็วของพวกเราให้ทันแล้วละสิ!”
“จะแข่งความเร็วกับข้า ซวนอู่ แผนการนี้ของเจ้าไม่มีทางได้ผลหรอก!”
รอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏขึ้นมาบนมุมปากของมู่เฉียนซี และหลังจากที่ใช้ความพยายามเพียงพริบตาเดียว นางก็ไล่ตามความเร็วของ งซวนอู่ทันแล้ว ซวนอู่กล่าวว่า “เจ้าโกงด้วยการใช้การเคลื่อนย้ายภายในชั่วพริบตานี่”
“ถูกข้าไล่ตามทันมาบอกว่าข้าโกง การยั่วยุเช่นนี้ใช้กับข้าไม่ได้ผลหรอก ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าสลัดข้าทิ้งแน่”
หลังจากนั้นความเร็วของซวนอู่ก็เร็วมากขึ้นไปอีก แต่มู่เฉียนซีก็ยังคงไล่ตามหลังเขามาติด ๆ ได้อยู่ดี
และภายใต้การแข่งขันดังกล่าว ทำให้พวกเขาพุ่งทะยานออกมาจากประตูใหญ่ของเมืองเขาวงกตแห่งนี้อย่างไม่ทันรู้ตัว
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “โชคดีจริง ๆ เลย! ที่หาทางออกเจอตั้งแต่เส้นทางแรกเช่นนี้”
ซวนอู่กล่าวว่า “รีบออกไปกันเถอะ! จูเชว่กับไป๋เจ๋อกำลังรอพวกเราอยู่”
มู่เฉียนซีและพวกของซวนอู่ไม่รู้เลยว่า ในตอนที่พวกเขาได้รับไขวิญญาณแห่งชีวิตธาตุธรณีมาแล้ว และกำลังเตรียมต ตัวที่จะออกไปนั้น ทั่วทั้งตำหนักเทพแห่งชีวิตก็ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นแล้ว
บนอากาศเหนือพวกเขา มีมหาสมุทรที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาปรากฏตัวขึ้นหลายจุด
พวกเขาไม่มีใครรู้เลยว่ามหาสมุทรนี้จะส่งผลกระทบอะไรออกมากันแน่?
และในเวลานี้เอง น้ำเสียงที่นิ่งสงบเสียงหนึ่งก็ได้ดังขึ้นมา