ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2276 อยากไปช่วยเฉียน
ชิงอิ่งกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “ข้าไม่ต้องการให้เจ้ามาเข้าใจหรอก”
เมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้ในมหาสมุทรแห่งชีวิต ทุกคนต่างก็พยายามคิดหาหนทางกันอย่างเต็มที่ เพราะอย่างไ ไรเสียพวกเขาก็ไม่ยอมที่จะกลับไปมือเปล่าเป็นแน่
มีผู้คนมากมายที่พยายามอย่างเต็มกำลัง เพื่อที่จะไขว่คว้าดวงดาวแห่งชีวิตมาให้ได้สักดวงหนึ่ง!
ทันใดนั้น ก็มีดวงดาวดวงหนึ่งเปล่งประกายขึ้นที่ขอบฟ้า
และมีคนกล่าวขึ้นด้วยความตกอกตกใจว่า “มีคนเก็บดวงตาวแห่งชีวิตได้ดวงหนึ่งแล้ว เขาคือผู้ใดกันแน่? จะเก่งกาจ จเกินไปแล้วนะ!”
“มีคนที่เก็บดวงดาวแห่งชีวิตได้เป็นคนแรกแล้ว”
เนื่องจากว่าทะเลใต้แห่งชีวิตกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา และคนส่วนใหญ่ต่างก็กระจัดกระจายกันออกไป ฉะนั้นถึงจะมีแสงส่อง งสว่างมาจากทางด้านนั้น พวกเขาก็ไม่รู้อยู่ดีว่าคนที่เก็บดวงดาวแห่งชีวิตได้นั้นคือผู้ใดกันแน่?
และตอนนี้เองก็มีคนกล่าวขึ้นมาว่า “ทางด้านนั้น…ดูเหมือนว่าพื้นที่ทางด้านนั้นทั้งหมดจะถูกฝ่าบาทหลินหลางยึด ดเอาไว้แล้ว ก่อนหน้านี้ข้าก็ถูกไล่ออกมาจากทางด้านนั้นเช่นกัน หากข้าคาดเดาไม่ผิดแล้วละก็ คนที่เก็บดวงดาวแห ห่งชีวิตได้ก็น่าจะเป็นองค์หญิงหลินหลางกระมัง”
“คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นองค์หญิงหลินหลาง!”
“หากคนที่ได้รับดวงดาวแห่งชีวิตดวงแรกคือองค์หญิงหลินหลางแล้วละก็ เช่นนั้นก็คงจะสมเหตุสมผลแล้วล่ะ! เพราะอ อย่างไรเสียก็เป็นถึงองค์หญิงแห่งราชวงศ์ตงหวง ฉะนั้นย่อมมีวิธีที่ยอดเยี่ยมมากมายอยู่แล้ว”
ดวงตาของมู่เฉียนซีมืดมนลงไปเล็กน้อย คิดไม่ถึงเลยว่าจะปล่อยให้มู่หลินหลางเก็บดวงดาวแห่งชีวิตดวงแรกได้เช่นนี้
ซวนอู่เดินมาอยู่ตรงหน้าของมู่เฉียนซีพลางกล่าวว่า “ข้ามีคำแนะนำอย่างหนึ่ง”
“คำแนะนำอะไรอย่างนั้นหรือ?” มู่เฉียนซีกล่าวถาม
“มันยากมากที่พวกเราจะคุ้นเคยกับแรงกดดันของน้ำทะเลได้ นอกจากนี้ความเร็วในการหนีของดวงดาวแห่งชีวิตก็รวดเร็ว มากอีกด้วย แม้ว่าพวกเราสี่คนจะมีจำนวนน้อยไปหน่อย แต่การร่วมมือกันปิดล้อมดวงดาวแห่งชีวิตดวงหนึ่งก็ไม่ใช่ปัญหา าเลย! และข้าคิดว่ามู่หลินหลางก็ทำแบบนี้เช่นกัน คราวนี้ราชวงศ์ตงหวงได้ส่งอัจฉริยะอายุน้อยมาด้วยมากมาย แน่นอ อนว่าต้องมีคนมากที่สุดอยู่แล้ว ฉะนั้นถึงสามารถเก็บดวงดาวแห่งชีวิตมาได้เป็นคนแรกเช่นนี้” การถูกผู้หญิงอย่าง มู่หลินหลางแย่งที่หนึ่งไปก่อนหนึ่งก้าวเช่นนี้ จึงทำให้ซวนอู่ไม่พอใจมาก
ไป๋เจ๋อกล่าวว่า “เมื่อถึงตอนนั้นดวงดาวแห่งชีวิตที่เราเก็บได้ก็จะมอบให้เฉียนซีทั้งหมด และหวังว่าสุดท้ายเจ้าจะ ะสามารถพุ่งไปเป็นที่หนึ่งได้”
จูเชว่กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “นี่เป็นความคิดที่ดีเลย ข้าเห็นด้วย!”
มู่เฉียนซีผงะไปครู่หนึ่ง “เช่นนั้นพวกเจ้าก็ถือว่ามาเสียเที่ยวมิใช่หรือ?”
ซวนอู่กล่าวว่า “มาเสียเที่ยวตรงไหนกัน? พวกเราถือว่าโชคดีมากแล้วที่ตามหาไขวิญญาณแห่งชีวิตที่สามารถรักษาชีวิต ตของพ่อบุญธรรมได้ในตำหนักเทพแห่งชีวิตแห่งนี้ ถือเสียว่านี่คือค่าตอบแทนเพื่อขอบคุณสำหรับเจ้าก็แล้วกัน!”
“ซีซี ยากที่ซวนอู่จะใจกว้างขนาดนี้ เจ้าเห็นด้วยกับเขาเถอะ!”
มู่เฉียนซีเงียบไปครู่หนึ่ง หลังจากนั้นจึงกล่าวว่า “ลองดูก่อนเถอะ! แต่โอกาสเช่นนี้ข้าไม่สามารถกอบโกยไว้แต่เพียงผ ผู้เดียวแน่นอน ไม่ได้ไปทะเลต้นกำเนิดแห่งชีวิตนั่นก็ช่างมันเถอะ เก็บดวงดาวแห่งชีวิตให้ได้สักดวงก่อนค่อยว่ากัน น”
“ตกลง!”
พรวด พรวด พรวด!
ว่าแล้วพวกเขาก็ดำดิ่งลงไปกลางน้ำทะเลอีกครั้ง มู่เฉียนซีโบกไม้โบกมือให้พวกเขาล้อมเข้ามาจากอีกทั้งสามทิศ
ดวงดาวแห่งชีวิตนั้นฉลาดมาก เพราะเมื่อมันรับรู้ได้ว่ามีคนเข้ามาใกล้มันก็รีบหนีไปอย่างรวดเร็วทันที
แต่ทว่าในเวลานี้พวกเขาได้ตีโอบเข้าไป และมันที่ถูกล้อมเอาไว้ก็ส่องแสงสว่างมากขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับอยากที่จะระ ะเบิดออกก็มิปาน
มู่เฉียนซีใช้การเคลื่อนย้ายภายในชั่วพริบตา และเมื่อเข้าใกล้มันแล้ว นางก็ใช้พลังธาตุวารี เพื่อตรึงพื้นที่บริเว วณโดยรอบเอาไว้
ซึ่งเคล็ดลับนี้มันก็ได้ผลจริง ๆ!
ร่างของมันหยุดนิ่งไม่ขยับเขยื้อน จากนั้นมู่เฉียนซีจึงใช้พลังวิญญาณเพื่อกักขังมันเอาไว้ และในที่สุดก็สามารถเก็บ บดวงดาวแห่งชีวิตดวงแรกได้แล้ว
“ไปกันเถอะ!”
ในตอนที่เขากระโดดขึ้นมาจากทะเล ก็ปรากฏว่ามีแสงของดวงดาวพร่างแพรวส่องสว่างระยิบระยับอยู่เหนือพวกเขา
“มีคนเก็บดวงดาวแห่งชีวิตได้อีกแล้ว!”
“นั่น…เหมือนว่าจะเป็นมู่เฉินซีกับนายน้อยว่านซื่อ พวกเขาร่วมมือกันจับดวงดาวแห่งชีวิตเอาไว้ เป็นการผนึกกำลัง งที่แข็งแกร่งมาก มิแปลกใจเลยที่มันจะประสบความสำเร็จ”
“ยอดเยี่ยม ศิษย์พี่ พวกเราก็ร่วมมือกันบ้างเถอะ!”
และคนอื่น ๆ ก็เริ่มร่วมมือกันดำเนินการขึ้นมาเช่นกัน
ภายในพื้นที่ทางทิศตะวันออกของทะเลใต้แห่งชีวิต มู่หลินหลางจ้องมองไปยังแสงของดวงดาวดวงนั้นด้วยแววตาที่มืดลง เล็กน้อย “ทำต่อ! รีบเก็บดวงที่สองให้ได้เร็วเข้า ข้าคือองค์หญิงผู้สูงศักดิ์ที่สุดแห่งราชวงศ์ตงหวง บททดสอบขอ องทะเลแห่งชีวิตนี้ข้าจะต้องได้รับดวงดาวแห่งชีวิตให้มากที่สุดให้จงได้ จากนั้นก็เข้าไปยังทะเลต้นกำเนิดแห่งชี วิตอันลึกลับและทรงพลังนั้น เพื่อรับรู้ถึงเส้นทางแห่งชีวิตให้ได้”
“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทหลินหลาง”
จากนั้นผู้ติดตามของมู่หลินหลางเหล่านั้น ก็กระโจนเข้าไปกลางทะเลอีกครั้ง
และเมื่อได้รับรู้ว่าหากร่วมมือกันก็จะสามารถจับดวงดาวแห่งชีวิตได้ ฉะนั้นผู้คนส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะร่วมมือกั นทำงานทันที
ทันใดนั้นก็มีแสงของดวงดาวส่องสว่างระยิบระยับขึ้นมากลางอากาศ ซึ่งมันก็ได้ปรากฏไปทั่วทุกหนทุกแห่ง และดูเหมือนว่าจะ ะมีคนได้รับดวงดาวแห่งชีวิตมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วอีกด้วย
มู่เฉียนซีร่วมมือกับพวกเขาอีกครั้งจนได้ดาวดวงที่สอง แต่ทว่ามู่เฉียนซีก็ยังคงไม่พอใจกับระดับความเร็วเช่นนี้ เพ พราะเวลาเพียงหนึ่งวันไม่ได้ถือว่ามากมายนัก และเมื่อแบ่งดวงดาวให้ทั้งสี่คนเท่า ๆ กัน ก็จะยิ่งน้อยลงไปอีก
หากเป็นเช่นนี้แล้วละก็ ไม่เพียงแต่จะเอาที่หนึ่งมาไม่ได้เท่านั้น แต่คาดว่าพวกเขาก็น่าจะยกระดับความแข็งแกร่งข ขึ้นมาได้ไม่มากเท่าไรนักเช่นกัน
ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นที่จะต้องหาหนทางที่เร็วและดีมากยิ่งขึ้นไปอีก มู่เฉียนซีดำเนินการกับพวกซวนอู่ และได้ประลอ องฝีมือกับดวงดาวแห่งชีวิตครั้งแล้วครั้งเล่า นอกจากนี้ยังได้เฝ้าสังเกตพวกเขามานับครั้งไม่ถ้วน ซึ่งนางก็ต้องการท ที่จะหาวิธีการอื่นอีก
มู่เฉียนซีจิตใจเหม่อลอย จนเกือบที่จะทำให้ดวงดาวแห่งชีวิตที่พวกโอบล้อมไว้ครั้งนี้หนีรอดไปได้อยู่แล้ว
แต่ไป๋เจ๋อก็หยุดมันเอาไว้ด้วยความรวดเร็วอันฉับไว และไม่ยอมปล่อยให้มันหนีไปได้
มีดวงดาวปรากฏตัวขึ้นมากลางอากาศมากขึ้นเรื่อย ๆ จนบางครั้งก็เหมือนกับดอกไม้ไฟอย่างไรอย่างนั้นเลย
ไม้เทพแห่งชีวิตเฝ้าดูทั้งหมดนี้และกล่าวว่า “ในที่สุดเจ้าพวกมนุษย์เหล่านี้ก็รู้จักร่วมมือกัน และหากต้องการที่ จะได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุดก็ต้องมอบดวงดาวแห่งชีวิตให้คนเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น แต่ทว่ามนุษย์นั้นมีความเห็นแ แก่ตัวเป็นอย่างมาก ฉะนั้นพวกเขาจะยอมเสียสละผลประโยชน์ของตนเองได้อย่างไรกัน?”
“และในท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็จะไม่สามารถประสบความเร็จได้ เจ้าว่าเฉียนของเจ้าเลือกที่จะทำอย่างไร? นางจะกลืนกิ นมันเองอย่างเห็นแก่ตัว หรือว่าจะแบ่งให้ทุกคนเท่า ๆ กัน และทำให้ตนเองต้องเสียแรงเปล่า?” ไม้เทพแห่งชีวิตกล่าว วถาม
แต่ทว่าตอนนี้สายตาของชิงอิ่งกลับเอาแต่เฝ้ามองไปยังร่างเงาที่พยายามรวบรวมดวงดาวแห่งชีวิตด้วยความตั้งใจอย่างไม ม่หยุดหย่อน ซึ่งเขาก็ไม่คิดที่จะสนใจคำพูดของไม้เทพแห่งชีวิตเลยแม้แต่น้อย
“ตอบคำถามของข้าเดี๋ยวนี้!”
ชิงอิ่งกล่าวว่า “ดูเหมือนว่าช่วงนี้ เจ้าจะเปลี่ยนกลายเป็นพูดมากขึ้นแล้วนะ! มันหนวกหู!”
ไม้เทพแห่งชีวิตเดือดดาลขึ้นมาทันที!
“เจ้า…คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะบอกว่าข้าหนวกหู! การที่ข้าจะเปลี่ยนเป็นพูดมากขึ้น มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเจ้าส สักนิด!”
ชิงอิ่งไม่ได้ตอบกลับ และยังคงเฝ้ามองต่อไป
เขาอยากที่จะกลับไปอยู่ข้างกายเฉียนเป็นอย่างมาก อยากไปช่วยเฉียน และหากเป็นเช่นนั้นเฉียนก็จะได้ไม่ต้องลำบากลำ ำบนเพื่อเก็บดวงดาวแห่งชีวิตเหล่านั้นเช่นนี้
เมื่อไม้เทพแห่งชีวิตได้ยินความคิดของชิงอิ่งก็กล่าวว่า “เจ้ายอมแพ้เรื่องนี้เสียเถอะ! ข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไปเจอ นางแน่ เว้นแต่ว่านางจะหาทางมาจนถึงที่นี่ได้”
“ไม่ได้ ปล่อยข้าไปเจอนาง จะให้นางมาที่นี่ไม่ได้” ชิงอิ่งกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“ไม่มีทาง!”
ดวงตาของชิงอิ่งมืดมนลงเล็กน้อย และเขาก็ไม่พูดอะไรอีกเลย แต่ไม้เทพแห่งชีวิตก็รับรู้ถึงการตัดสินใจของเขาเรี ยบร้อยแล้ว
หลังจากที่ได้เจอกับผู้หญิงคนนี้ เขาก็ไม่อาจที่จะควบคุมทุกสิ่งอย่างได้อีกแล้ว
เขาสงสัยด้วยซ้ำไปว่าหากตนเองดึงดันจะทำตามใจเช่นนี้ต่อไปแล้วละก็ เจ้าหมอนี่คงจะลากเขาฝังไปพร้อมกันกับตนเอง ด้วยเป็นแน่
แม้ว่าจะมีตัวแปรปรากฏขึ้นมาเป็นจำนวนมาก และมีหลายครั้งที่ไม่เขาเข้าใจชิงอิ่ง แต่ไม้เทพแห่งชีวิตก็ยังสามารถรั บรู้ถึงแผนการและความคิดของเขาได้อยู่ดี
เมื่อทุกคนหาวิธีเก็บดวงดาวแห่งชีวิตได้ในระดับที่คงที่แล้ว พวกเขาก็ค้นพบว่าดวงดาวแห่งชีวิตได้ยกระดับขึ้น ซึ่งตอนนี้พวกมันไม่เพียงแต่หนีได้อย่างรวดเร็วเท่านั้น แต่ยังมีพลังในการต่อสู้ที่แข็งแกร่งมากอีกด้วย
ซึ่งความสามารถของพวกมันแต่ละดวงจะไม่ต่ำกว่าผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับหนึ่งไปจนถึงผู้บำเพ็ญภูต พลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสาม ถึงแม้ว่าผู้ที่มานี้ล้วนเป็นอัจฉริยะ อีกทั้งมีพรสวรรค์ที่โดดเด่น แต่ก็ยังเป ป็นเรื่องยากมากที่จะสามารถจัดการกับดวงดาวแห่งชีวิตที่มีพลังในการต่อสู้เช่นนี้ได้อยู่ดี