ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2279 ทำลายตนเอง
มู่หลินหลางกล่าวอย่างเดือดดาลว่า “เจ้าพวกสารเลวพวกนั้นล่ะ! พวกมันเอาของบ้าอะไรมาให้ข้า คิดไม่ถึงเลยว่าจะบังอาจแว้งกัดข้าเช่นนี้ สมควรตายนัก!”
“ฝ่าบาท ระวังพ่ะย่ะค่ะ!” มีดวงดาวแห่งชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งทะยานเข้ามา และเนื่องจากมีจำนวนที่มหาศาลเช่นนี้จึงทำให้พลังโจมตีของพวกมันยิ่งน่าสะพรึงกลัวมากขึ้นไปด้วย
ในตอนที่มู่หลินหลางกำลังถูกโอบล้อมอยู่นั้น ทางด้านนั้นก็มีแสงส่องสว่างที่พร่างแพรวของดวงดาวแห่งชีวิตขนาดใหญ่ทั้งสี่ปรากฏขึ้นมากลางอากาศ ซึ่งมันช่างแตกต่างจากทางด้านของนางที่มีสภาพอันน่าเวทนาเป็นอย่างยิ่ง
“ไม่ได้บอกว่าคนหนึ่งมีเพียงขวดเดียวอย่างนั้นหรือ? เหตุใดถึงปรากฏขึ้นมาสี่อันได้ล่ะ เจ้าพวกสารเลวนั้นถูกหลอกหรือ?” มู่หลินหลางโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
ตอนที่ลูกน้องเหล่านั้นเตรียมตัวที่จะไปหาจูเชว่และซวนอู่ก็ชะงักงันไปทันที เมื่อเห็นแสงสว่างถึงสี่อันปรากฏขึ้นพร้อมกัน “พวกเราถูกมู่เฉินซีหลอกเข้าแล้ว นั่นก็เท่ากับว่าหลอกฝ่าบาทหลินหลางในเวลาเดียวกันด้วย ฉะนั้นพระองค์จะต้องไม่ปล่อยพวกเราไปแน่”
“พวกเราไม่ต้องไปหานายน้อยว่านซื่อแล้ว กลับไปรับโทษกับฝ่าบาทก่อนเถอะ และหลังจากนั้นค่อยบอกพระองค์ว่ายาน้ำนั้นเป็นของมู่เฉินซี เราจะได้โยนความผิดทั้งหมดไปให้กับมู่เฉินซีเสีย”
และในตอนที่พวกเขารีบกลับมายังสถานที่ที่เจ้านายของพวกเขาอยู่อย่างรวดเร็วนั้น ผลปรากฏว่าพวกเขาก็ได้เห็นสถานการณ์ที่ย่ำแย่เป็นอย่างมาก และกลุ่มของฝ่าบาทหลินหลางก็ได้ถูกดวงดาวแห่งชีวิตโจมตีอย่างโหดร้าย
ปัง ปัง ปัง!
มู่หลินหลางถูกดวงดาวแห่งชีวิตเหล่านั้นเข้ามาพัวพัน อีกทั้งยังถูกพวกมันพุ่งชนอย่างบ้าคลั่ง และถึงแม้ว่าจะมีมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพป้องกัน แต่นางก็ยังได้รับบาดเจ็บจนเลือดตกยางออกอยู่ดี
“ฝ่าบาท!” พวกเขาร้องตะโกนขึ้น
“บัดซบเอ้ย! คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าพวกคนทรยศเหล่านี้จะกล้าทำร้ายข้า ผู้ใดเป็นคนมอบความกล้าหาญให้พวกเจ้ากัน?” มู่หลินหลางกล่าวอย่างเดือดดาล
พวกเขากล่าวอย่างร้อนรนว่า “กระหม่อมผิดไปแล้วพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท! พวกเราไม่ได้ทรยศฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ พะ…พวกเราก็ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ”
“เป็นมู่เฉินซีพ่ะย่ะค่ะ มู่เฉินซีไม่เพียงแต่หลอกลวงพวกเรา นอกจากนี้ยังมอบยาน้ำปลอมให้กับพวกเรา เพื่อมาลอบแว้งกัดฝ่าบาทด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
เห็นได้ชัดว่าตอนปรากฏตัวขึ้น มู่เฉียนซีไม่มีโอกาสได้เปลี่ยนยาเลยสักนิดเดียว! และเหตุใดสถานการณ์ของฝ่าบาทถึงได้แตกต่างกับมู่เฉินซีอย่างสิ้นเชิงเช่นนี้ได้
เมื่อได้ยินชื่อคนที่ทำให้นางโกรธจัด มู่หลินหลางก็กล่าวขึ้นมาอย่างเดือดดาลว่า “พวกเจ้าพูดว่าอะไรนะ? มู่เฉินซีรึ? คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นมู่เฉินซี? ยาขวดนี้เจ้าได้รับมาจากมือของมู่เฉินซี คิดไม่ถึงว่าพวกเจ้าจะไม่บอกข้า”
หากรู้ว่าเป็นสิ่งของของมู่เฉินซี นางไม่มีทางกล้าใช้อย่างไม่ระมัดระวังเช่นนี้แน่
“พวกเรา…เพราะว่าพวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมู่เฉินซี หลังจากที่พยายามต่อสู้กับนางจนจะพินาศไปด้วยกัน มู่เฉินซีถึงได้ยอมประนีประนอม ทว่าพวกข้ากลัวถูกลงโทษที่ไม่ได้นำมู่เฉินซีกลับมาด้วย ดังนั้น…ดังนั้น…”
“ดังนั้นก็เลยปิดบังเรื่องสำคัญขนาดนี้อย่างนั้นสินะ พวกเจ้าทั้งหมดไปตายซะเถอะ!”
มู่หลินหลางในตอนนี้โกรธเกรี้ยวขึ้นอย่างสมบูรณ์แล้ว นางไม่เพียงแต่ปะทะเข้ากับดวงดาวแห่งชีวิตที่ล้อมโจมตีนางเท่านั้น แต่ในเวลาเดียวกันพลังธาตุวายุที่กำลังกรีดร้องก็พุ่งไปทางคนที่ตัวสั่นเทาเหล่านั้นด้วย
“ไปตายซะ!”
ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ!
ตวามสามารถของมู่หลินหลางเหนือกว่าพวกเขามากนัก ทันทีที่นางลงมือด้วยความเดือดดาล ระดับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นจอมภูตอย่างพวกเขาจึงไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลย
พวกเขาถูกมู่หลินหลางสังหารภายในพริบตาเดียวทันที มีเลือดสาดกระเซ็นออกมาจากร่างกายแม้แต่น้อย จากนั้นร่างพวกเขาก็จมดิ่งลงสู่ใต้ทะเลลึก
ส่วนคนอื่นก็ตื่นตกใจกันเป็นอย่างมาก แต่ทว่าคนเหล่านี้ก็สมควรตายจริง ๆ
หากไม่ใช่เพราะพวกมัน พวกเขาและองค์หญิงก็คงจะไม่ต้องตกอยู่ในสภาพที่ยากลำบากเช่นนี้
“ฝ่าบาท เรื่องเล็กน้อยหลังจากนี้มอบให้ข้าไปคนจัดการก็พอแล้วพ่ะย่ะค่ะ โปรดอย่าทำให้พระหัตถ์ของพระองค์ต้องสกปรกเลยพ่ะย่ะค่ะ”
แม้ว่าจะสังหารคนเหล่านี้ไปแล้ว มู่หลินหลางก็ยังคงไม่อาจบรรเทาความเกลียดชังลงได้ นางกัดฟันกรอดพลางกล่าวว่า “มู่เฉินซี!”
“ไป!”
นางไม่สามารถเสียเวลาอยู่กับดวงดาวแห่งชีวิตนี้ต่อไปได้อีกแล้ว นางจำเป็นที่จะต้องออกไปฆ่า!
ตูมมม โครมมม!
หลายคนร่วมมือกัน จากนั้นก็โจมตีเพื่อเปิดทางและพุ่งทะยานออกไป
มู่เฉียนซีออกไปตามหาพวกจูเชว่เพื่อรวมกลุ่มกัน นางกล่าวว่า “มีของสิ่งนี้มากเท่าไรก็ยิ่งดีมากเท่านั้น แต่มีความเป็นไปได้ว่าปัญหากำลังใกล้เข้ามาแล้ว พวกเรารีบออกไปให้ไกลจากบริเวณนี้ก่อน จากนั้นก็ไปทิศทางตรงข้ามให้ไกลกว่านี้แล้วล่าต่อกันเถอะ”
จูเชว่กล่าวว่า “ปัญหา? ซีซีจะบอกว่าปัญหาคือมู่หลินหลางอย่างนั้นหรือ? นี่เจ้าทำอะไรไปกันแน่?”
มู่เฉียนซีกล่าวตอบว่า “ในเมื่อพวกเขาต้องการยาน้ำ ข้าก็แค่มอบยาน้ำให้พวกเขา และในตอนที่พวกเขาไม่ทันได้สังเกตข้าก็เพียงแค่ใส่อะไรบางอย่างลงไปเล็กน้อยในยาน้ำที่ข้าใช้อย่างใจเย็นเท่านั้นเอง”
“ยาน้ำนี้มีความละเอียดอ่อนมาก โดยปกติแล้วสามารถทำให้ดวงดาวแห่งชีวิตเหล่านี้อยู่ในสภาวะเหมือนมึนเมา แต่หากเพิ่มของบางอย่างลงไป ก็สามารถทำให้พวกมันบ้าคลั่งได้! ตอนที่คนเกิดเมาแล้วคลุ้มคลั่งขึ้นมาก็ยากที่จะควบคุมได้ ฉะนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึงดวงดาวแห่งชีวิตที่มีความสามารถอันแข็งแกร่งเหล่านี้เลย หากมู่หลินหลางใส่ยาลงไปน้อยหน่อย ปัญหาก็จะไม่มากเท่าไรนัก แต่หากใส่ในจำนวนมากแล้วละก็ ข้าคิดว่าดวงดาวแห่งชีวิตก็คงจะคลุ้มคลั่งขึ้นมาอย่างโหดร้ายมากเป็นแน่”
แต่สิ่งที่แม้แต่มู่เฉียนซีก็คิดไม่ถึงนั่นก็คือ มู่หลินหลางจะเทยาน้ำที่เหลืออยู่หนึ่งในสามของขวดไปจนหมดในคราวเดียวนั่นเอง
สาเหตุที่ทำให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่เช่นนี้ ความจริงแล้วนั่นถือได้ว่าตัวนางเองที่ทำลายตนเองต่างหาก
เมื่อซวนอู่ได้ยินก็ผงะไปเล็กน้อย “ที่แท้เจ้าก็ขุดหลุมพลางเช่นนี้เอาไว้อย่างเงียบ ๆ สินะ โชคดีจริง ๆ ที่ข้าไม่ได้หลอกเจ้าแรงเกินไป! มิเช่นนั้นหากวันใดเจ้าต้องการคิดบัญชีขึ้นมาก็คงต้องแย่แน่”
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ฉะนั้น! ซวนอู่ หลังจากนี้ไปเจ้าก็ใจกว้างกับข้าหน่อยก็แล้วกัน หากเจ้ายังขี้งกขนาดนี้ต่อไปแล้วละก็ รับรองได้เลยว่าหากข้าไม่พอใจขึ้นมา ข้าจะวางยาพิษเจ้าเล็กน้อยอย่างที่ไม่ทันได้รู้ตัวเลยล่ะ”
“ไปเถอะ!”
มู่หลินหลางไม่มีทางเลือก เพราะคนคน หนึ่งไม่สามารถจัดการกับดวงดาวแห่งชีวิตมทราากมายเช่นนี้ได้แน่
ดังนั้นนางจึงคิดที่จะดึงดูดดวงดาวแห่งชีวิตเหล่านี้ไปทางมู่เฉียนซี และลากมู่เฉียนซีให้ต้องโชคร้ายไปกับนางด้วย!
สถานที่ที่มีแสงดาวส่องประกายก่อนหน้านี้ จะต้องเป็นที่อยู่ของมู่เฉินซีอย่างแน่นอน
แต่เมื่อนางนึกไปถึงแสงพร่างพราวของดวงดาวที่ปรากฏขึ้นมาครั้งแล้วครั้งเล่า คาดว่ามู่เฉินซีในเวลานี้น่าจะสามารถรวบรวมดวงดาวแห่งชีวิตมาได้จำนวนนับไม่ถ้วนแล้ว ฉะนั้นตอนนี้ที่หนึ่งก็คงต้องเป็นของนางแล้วอย่างแน่นอน
นางไม่ยอมหรอก อย่างไรเสียงนางก็ไม่ยอมให้มู่เฉินซีได้รับโอกาสมากกว่านางเด็ดขาด
นางต้องการที่จะไปหามู่เฉินซีนางคนสารเลวผู้นั้น ก่อนที่เวลาจะหมดลง นางจะต้องแย่งดวงดาวแห่งชีวิตที่อยู่กับมู่เฉินซีมาให้หมดให้ได้
มู่หลินหลางไม่ได้เพียงแค่จะนำปัญหาไปให้กับมู่เฉียนซี เท่านั้น แต่ยังเป็นคนนำกลุ่มดวงดาวแห่งชีวิตกลุ่มใหญ่ไปยังสถานที่ที่มีคนพลุกพล่านอีกด้วย
“พระเจ้า! นั่นมันอะไรน่ะ? ดวงดาวแห่งชีวิตหรือ!”
“ดวงดาวแห่งชีวิตเยอะแยะอะไรขนาดนั้น อย่างน้อยก็น่าจะมีมากกว่าหลายพันดวงแน่!”
“หญิงในชุดแดงผู้นั้นคือฝ่าบาทหลินหลางนี่ ฝ่าบาทหลินหลางไปยั่วยุดวงดาวแห่งชีวิตมากมายถึงขนาดนั้นได้อย่างไรกัน? แย่แล้ว! ดวงดาวแห่งชีวิตเหล่านั้นกำลังพุ่งมาทางนี้แล้ว นี่พวกมันโจมตีอย่างไม่เลือกหน้าเลยมิใช่หรือ”
ตูมมม โครมม!
เส้นทางที่กลุ่มของมู่หลินหลางผ่านไปทั้งหมด ล้วนถูกนางทำให้เดือดร้อนทั้งสิ้น
พลังในการต่อสู้ของดวงดาวแห่งชีวิตเหล่านี้บ้าคลั่งมาก จนกลายเป็นโศกนาฏกรรมสำหรับพวกเขาไปด้วยเช่นกัน
“นะ…นี่องค์หญิงมู่หลินหลางได้ไปทำเรื่องอะไรให้สวรรค์ขุ่นเคืองมากันแน่! คิดไม่ถึงเลยว่าจะถูกดวงดาวแห่งชีวิตไล่ล่าเช่นนี้”
“จะต้องทำเรื่องที่ผิดศิลธรรมเป็นแน่ รีบมาช่วยข้าเร็วเข้า ข้าจะตายแล้ว”
“……”
คนที่ถูกทำให้เดือดร้อนเหล่านั้นเริ่มตำหนิขึ้นมาแล้ว ฝ่าบาทหลินหลางเป็นถึงองค์หญิงสายตรงของราชวงศ์ตงหวง นางเกิดมาอย่างสูงส่ง มีพรสวรรค์อันโดดเด่น รูปร่างหน้าตาก็งดงามอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
ซึ่งสำหรับคนเช่นนี้ ทุกคนต่างก็ชื่นชมเป็นอย่างมาก
แต่ทว่าตอนนี้นางกลับทำให้ทุกคนต้องมาเดือดร้อนถึงเพียงนี้ มันจึงทำให้พวกเขาโกรธเคืองเป็นอย่างมาก!
ในตอนที่มู่หลินหลางกำลังจะจนตรอก นางก็ได้หนีมาถึงสถานที่ที่มีแสงส่องสว่างออกมาแห่งนั้นแล้ว แต่ทว่าสถานที่แห่งนั้นกลับไม่มีผู้ใดอยู่แม้แต่ผู้เดียว
แต่ในอีกสถานที่แห่งนี้ กลับมีลำแสงของดวงดาวส่องสว่างพร่างพราวสี่กลุ่มปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง และทางด้านนั้นก็มีแสงสว่างเปล่งประกายไปทั่วทั้งท้องฟ้า
.
.