ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2285 เส้นทางแห่งชีวิต
ภายในใจของมู่หลินหลางสั่นกระเพื่อมซ้อนกันราวกับคลื่นที่ม้วนเป็นชั้น ๆ และนางก็อดใจที่จะเข้าไปฉีกทึ้งคนที่อยู่ตรงหน้าออกเป็นชิ้น ๆ ไม่ไหวแล้ว
มู่เฉียนซีกล่าวกับพวกเขาด้วยรอยยิ้มว่า “ขอแสดงความยินดีที่พวกเจ้าเลื่อนขั้นได้สำเร็จ”
ซวนอู่กล่าวว่า “ดูเหมือนว่าความสามารถของข้าจะเหนือกว่าเจ้าไป๋หู่นั่นแล้ว สุดท้ายแล้วคนชนะจะต้องเป็นข้าอย่างแน่นอน”
“เจ้าคิดว่าเจ้ามีความสามารถที่แข็งแกร่งที่สุดแล้วจะเอาชนะได้จริง ๆ น่ะหรือ ซวนอู่ เจ้าคิดเพ้อเจ้อเกินไปแล้ว” จูเชว่กล่าว
“ข้าไม่ได้มีเพียงแค่ความสามารถที่แข็งแกร่งเท่านั้น แต่ข้ายังมีเงินอีกด้วยนะ!” รอยยิ้มที่เชื่อมั่นปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของซวนอู่
จำเป็นต้องบอกว่า ความสามารถระดับนี้ของซวนอู่ ทำให้จูเชว่และไป๋เจ๋อมีความรู้สึกที่ร้อนรนเป็นอย่างมาก
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ผู้คนที่อยู่ในทะเลอีกสามแห่งก็กำลังดูดซับพลังจากดวงดาวแห่งชีวิตอยู่เช่นกัน
ทะเลเหล่านั้นมีเงื่อนไขทางด้านอายุมากเท่าไร ความสามารถของดวงดาวแห่งชีวิตเหล่านั้นก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นไปอีก และยิ่งมันยากที่จะจัดการได้ ก็ยิ่งยากที่จะจับได้มากขึ้นด้ วยเช่นกัน!
และแน่นอนว่ามีผู้ที่แข็งแกร่งบางคนรวบรวมได้มากมายเช่นกัน แต่ยิ่งระดับสูงเท่าไรความเร็วในการเลื่อนขั้นยิ่งช้ามากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นทะเลอื่นจึงไม่ได้มีการเลื่อนขั้นอย่างบ บ้าคลั่งเหมือนกับทะเลใต้แห่งชีวิตนี้เลย
รอหลังจากที่พวกเขาเลื่อนขั้นเรียบร้อยแล้ว ก็มีคนกล่าวขึ้นมาว่า “พวกเราไม่ใช่คนที่เก็บมาได้มากที่สุด ไม่รู้ว่าผู้ใดคือผู้โชคดีที่ได้รับดวงดาวแห่งชีวิตมากที่สุด และสามาร รถเข้าไปในทะเลต้นกำเนิดแห่งชีวิตที่ลึกลับนั้นได้กันแน่?”
“ใช่แล้ว! ข้าเองก็สงสัยเช่นกัน”
“…”
ในตอนที่พวกเขากำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ดวงดาวแห่งชีวิตที่มู่เฉียนซีเก็บรวบรวมไว้ก็ได้ก่อตัวจนกลายเป็นบันไดเชี่ยมต่อขึ้นไปบนท้องฟ้า
มู่เฉียนซีผงะไปครู่หนึ่ง “นี่คือเส้นทางดวงดาวแห่งชีวิตอย่างนั้นหรือ?”
มู่หลินหลางขบริมฝีปากแน่น “นี่มันเส้นทางดวงดาวแห่งชีวิต เป็นไปไม่ได้! จะต้องเป็นของปลอมแน่นอน มู่เฉินซีจะเป็นที่หนึ่งเพราะวิธีฉวยโอกาสที่เอาเปรียบผู้อื่นเช่นนั้นได้อย่างไร รกัน? ไม้เทพแห่งชีวิตจะไม่ยุติธรรมเกินไปแล้วนะ”
ไม่ว่ามู่หลินหลางจะไม่เชื่อเรื่องนี้มากแค่ไหน แต่ความจริงก็เป็นเช่นนี้อยู่ดี ซึ่งตอนนี้มู่เฉียนซีก็ได้ก้าวขึ้นไปบนเส้นทางดวงดาวแห่งชีวิตนั้นแล้ว
นางกล่าว “เช่นนั้นข้าลองไปดูทะเลต้นกำเนิดแห่งชีวิตก่อนก็แล้วกัน”
การปรากฏตัวขึ้นของเส้นทางดวงดาวแห่งชีวิตได้สร้างความโกลาหลขึ้นมาทันที “นะ…นั่นคือเส้นทางดวงดาวแห่งชีวิต!”
“มันมาจากทางด้านของทะเลใต้แห่งชีวิต คิดไม่ถึงเลยว่ากลุ่มของเจ้าพวกเด็กรุ่นเยาว์ของทะเลใต้แห่งชีวิตจะเป็นผู้ที่สามารถรวบรวมดวงดาวแห่งชีวิตได้มากที่สุด พวกเขาทำได้อย ย่างไรกัน?”
“คนผู้นั้นดูเหมือนจะเป็นแม่นางน้อยมู่เฉินซีใช่หรือไม่! คนที่เป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งของราชวงศ์ตงหวงน่ะ”
พวกเขาที่กำลังให้ความสนใจกับเส้นทางดวงดาวแห่งชีวิตเหล่านั้น ก็ได้สังเกตเห็นร่างสีม่วงร่างหนึ่งแล้ว
“เป็นนางจริง ๆ ด้วย!”
“ที่แท้นางก็เป็นคนที่รวบรวมดวงดาวแห่งชีวิตได้มากที่สุดนั่นเอง!”
“ช่างเป็นคนรุ่นเยาว์ที่เก่งกาจเกินหน้าผู้ใหญ่อย่างเราไปแล้วจริง ๆ!”
ในตอนที่มู่เฉียนซีเดินมาถึงกลางอากาศ คนที่อยู่ในทะเลทั้งสี่ก็ถูกเคลื่อนย้ายออกมา พื้นทะเลที่เปล่งประกายระยิบระยับที่อยู่กลางอากาศนั้นก็ได้หายไปอย่างสมบูรณ์
ซึ่งตอนนี้กลางอากาศก็เหลือพื้นทะเลเพียงแห่งเดียวเท่านั้น และทะเลแห่งนั้นก็คือทะเลต้นกำเนิดแห่งชีวิตนั้นเอง
หลังจากที่พวกเขาร่วงลงมาจากกลางอากาศ พวกเขาก็ได้จ้องมองไปยังสาวน้อยคนหนึ่งที่กำลังเดินไปบนเส้นทางดวงดาวแห่งชีวิตนั้น
แสงสว่างระยิบระยับนั้นปกคลุมไปทั่วทั้งร่างกายของนาง ด้วยความสามารถที่โดดเด่น อีกทั้งบุคลิกอันสูงส่ง ซึ่งให้ผู้คนต่างแหงนมองนางราวกับเทพธิดาอย่างไรอย่างนั้น
แต่ทว่ายังมีบางคนที่ไม่ยอมแพ้ และอยากที่จะพุ่งขึ้นไปบนเส้นทางดวงดาวแห่งชีวิตด้วยเช่นกัน แต่ในตอนที่คิดจะติดสอยห้อยตามไปด้วยนั้น ผลปรากฏว่ากลับถูกพลังนั้นสูบลงไปทันที
ปังง!
คนเหล่านั้นกระแทกลงบนพื้นจนเกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่ มีคนกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ข้าจะบอกว่าพวกเจ้านี่เป็นคนที่แก่แล้วแก่เลยจริง ๆ ขณะนี้กำลังอยู่ในตำหนักเทพแห่งชีวิตผู้ ใดกล้าหุนหันพลันแล่นกัน? พวกเจ้ากล้าตั้งใจฝ่าฝืนกฎของไม้เทพแห่งชีวิตอย่างนั้นหรือ ช่างรนหาที่ตายจริง ๆ”
พวกเขารู้ดีว่า เส้นทางดวงดาวแห่งชีวิตนี้มีเพียงมู่เฉินซีเท่านั้นที่สามารถเดินได้
เมื่อเดินขึ้นไปตามเส้นทางดวงดาวแห่งชีวิตแล้ว ในที่สุดมู่เฉียนซีก็เดินเข้าไปในทะเลต้นกำเนิดแห่งชีวิต
ทะเลต้นกำเนิดแห่งชีวิตนั้นงดงามมากกว่าทะเลใต้แห่งชีวิตมากมายนัก ภายใต้พื้นผิวแห่งท้องทะเลเต็มไปด้วยดวงดาวแห่งชีวิต และพวกมันก็ได้ก่อตัวเป็นพรมอันไร้ขอบเขตอยู่ใต้ท้อง งทะเลแห่งนี้
มู่เฉียนซีพุ่งทะยานไปถึงพื้นผิวน้ำทะเล ผลปรากฏว่านางถูกห่อหุ้มด้วยดวงดาวแห่งชีวิตที่มารวมตัวกัน จากนั้นก็ถูกลากไปยังใต้ท้องทะเลทันที
มู่เฉียนซีไม่รู้สึกถึงแรงกดดันใด ๆ ใต้ท้องทะเลแห่งนี้เลย หลังจากนั้นนางก็ถูกวางลงบนพรมของดวงดาวแห่งชีวิตเหล่านั้น และพลังวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนก็ไหลทะลักเข้าสู่ภายในร่า างกายของนางทันที
ความรู้สึกเช่นนี้ช่างสบายเหลือเกิน มู่เฉียนซีนอนลงบนพรมแห่งดวงดาวนั้นและหลับตาทั้งสองข้างลง จากนั้นนางก็ปล่อยให้ร่างกายเริ่มดูดซับพลังวิญญาณเหล่านี้
ผู้คนภายนอกไม่สามารถมองเห็นสถานการณ์ข้างในทะเลต้นกำเนิดแห่งชีวิตได้ รู้เพียงแค่ว่าดวงดาวที่อยู่ข้างในนั้นเปล่งประกายเจิดจรัสเป็นอย่างมาก นอกจากนี้พลังยังแข็งแกร่งกว่าที่พ พวกเขาแต่ละคนเคยเจอมาก่อนหน้านี้เสียอีก
ความผันผวนของพลังอันแข็งแกร่งได้แผ่ขยายออกมา แม้ว่าจะอยู่ห่างไกลถึงเพียงนี้ก็ยังสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนอยู่ดี
“มู่เฉินซีกำลังจะเลื่อนขั้นแล้ว!”
ในตอนแรกสิ่งที่แผ่กระจายออกมานั้นคือพลังของผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับหนึ่ง ซึ่งผู้คนที่คอยเฝ้ามองอยู่ในสถานที่แห่งนี้ น่าจะไม่มีคนที่มีระดับต่ำถึงเพียงน นี้แน่นอน
สุดท้ายแล้วหากมีความสามารถเพียงเท่านี้ ก็คงจะไม่มีผู้ใดกล้าบุกเข้าไปอย่างไม่กลัวตายเช่นนี้แน่
แต่มู่เฉินซีกลับไม่เหมือนกัน แม้ว่าจะเป็นเพียงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับหนึ่ง แต่คนที่เป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ขั้นต่ำทั่วไปก็มีความเป็นไปได้ มากกว่าจะพ่ายแพ้ให้แก่นาง
และทันใดนั้นพลังของผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับหนึ่งก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างกะทันหัน ซึ่งเพียงพริบตาเดียวก็ยกระดับขึ้นไปถึงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่ งภูตระดับสอง ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับสาม ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับสี่…
“เลื่อนขั้นติดต่อกันสามระดับแล้ว!” และผู้คนก็ต่างพากันอ้างปากค้างด้วยความตื่นตะลึง
“นี่ยังไม่น่าตกใจนัก เพราะถึงจะเลื่อนไปสามระดับแล้วแต่มันก็ยังไม่หยุดเลย มันยังยกระดับขึ้นอยู่เลย!”
“ทะเลต้นกำเนิดแห่งชีวิตเป็นสถานที่ที่น่าอัศจรรย์มาก คิดไม่ถึงเลยว่าจะเลื่อนขั้นมากมายภายในพริบตาเช่นนี้”
มีเสียงบ่นอย่างอิจฉามากมายแพร่กระจายออกมา และมู่เฉียนซีก็ยังคงเลื่อนขั้นต่อไป!
“ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับห้าแล้ว!”
ในตอนที่เลื่อนขั้นมาถึงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับห้าความผันผวนของพลังวิญญาณก็ไม่ได้ลดน้อยลงเลย แต่พลังนี้กลับไม่ได้ยกระดับความสามารถของนางอีกต่อไปแล้วเช่น นกัน
ทว่ากลับเริ่มใช้พลังแห่งชีวิตในการปรับปรุงโครงร่าง และเลือดเนื้อของนาง
พลังแห่งชีวิตนี้อบอุ่นเป็นอย่างมาก นอกจากการปรับปรุงร่างกายจะไม่ได้บัาคลั่งเหมือนกับพลังของอัสนีแล้ว มันยังทำให้มู่เฉียนซีรู้สึกสบายราวกับว่าอยู่ในบ่อน้ำพุร้อนก็มิปานอีก กด้วย
นี่คือความเพลิดเพลินสูงสุด และในที่สุดเมื่อร่างกายของนางแข็งแกร่งขึ้นมันก็ได้เริ่มการเลื่อนขั้นอีกครั้ง
มู่เฉียนซีพลางคิดในใจว่า ตอนนี้คนที่อยู่ระดับต่ำกว่าผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับหกก็อย่าคิดจะมาทำร้ายข้าได้เลย
ดวงตาทั้งสองข้างของมู่หลินหลางในตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำไปหมดแล้ว ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะมู่เฉินซีเลื่อนขั้นเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับสี่และระดับห้าแล้วน นั่นเอง
ด้วยความสามารถเช่นนี้ของมู่เฉินซี นางสามารถต่อสู้อย่างก้าวกระโดดได้ถึงหนึ่งขั้น ซึ่งนี่ก็ทำให้มู่หลินหลางรู้สึกหมดหาทางที่จะสู้กับนางได้เลย
มันไม่ง่ายเลยกว่าที่ความสามารถของนางจะสูงกว่ามู่เฉินซีเกินหนึ่งขั้นไปมากเช่นนี้ ผลปรากฏว่าในทะเลใต้แห่งชีวิตนางกลับเลื่อนขั้นได้เพียงแค่หนึ่งระดับ ส่วนมู่เฉินซีที่อยู ในทะเลต้นกำเนิดแห่งชีวิตได้เลื่อนขั้นไปถึงสี่ระดับเลยทีเดียว
ช่องว่างได้ถูกชดเชยเพียงแค่ข้ามคืนเท่านั้น ซึ่งมันก็ทำให้มู่หลินหลางรู้สึกว่าความพยายามก่อนหน้านี้ ความทรมานแสนสาหัสที่ได้รับก่อนหน้า แต่คิดไม่ถึงเลยว่ามันจะไม่สามารถทำใ ให้นางอยู่เหนือกว่ามู่เฉินซีได้มากนัก
บัดซบเอ้ย! มู่หลินหลางกำลังจะกลายเป็นบ้าไปแล้ว
มันจะต้องมีหนทางแน่ มีแน่นอน!
ตำหนักเทพแห่งชีวิตนี้มีสมบัติที่น่าอัศจรรย์มากมาย ขอเพียงนางได้รับสิ่งเหล่านั้นมาก็จะทำให้มีโอกาสยกระดับความสามารถ และจะสามารถอยู่เหนือมู่เฉินซีได้อีกครั้ง
เมื่อไรที่สามารถเอาชนะมู่เฉินซีได้ นางก็จะทรมานมู่เฉินซีอย่างโหดเหี้ยม หลังจากนั้นค่อยฆ่านางซะ
และหลังจากที่ความผันผวนทางพลังวิญญาณหยุดลงอย่างสมบูรณ์แล้ว แต่มู่เฉียนซีก็ยังคงไม่ออกมา เนื่องจากว่ามู่เฉียนซีในเวลานี้ยังคงหลับใหลอยู่ในทะเลต้นกำเนิดแห่งชีวิตแห่งนี้นั่ นเอง
แน่นอนว่านางไม่ได้หลับใหลเพราะการเลื่อนขั้นนั้นสบายเกินไป แต่เป็นเพราะนางรับรู้ได้ถึงพลังอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งมันคือเส้นทางแห่งชีวิตของพลังแห่งชีวิตนั่นเอง!
“เส้นทางแห่งชีวิตนั้นลึกลับ และเป็นสิ่งมนุษย์ยากจะรับรู้ได้ ข้าได้ให้โอกาสนางแล้ว แต่นางจะสามารถควบคุมได้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของนางแล้วล่ะ” ไม้เทพแห่งชีวิต กล่าวกับชิงอิ่ง
“เฉียนต้องทำได้แน่นอน!” ชิงอิ่งกล่าวอย่างมั่นใจ