ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2291 ถูกคนพาไป
องค์ชายสามกอดนางแน่นขึ้น พลางกล่าวว่า “น้องหญิง ข้าไม่ปล่อยหรอก ข้าไม่อยากตาย! หากท่านอ๋องเป่ยกงลั่วคิดที่จะฆ่าข้า เจ้าก็จะต้องตายไปพร้อมกับข้าด้วย!”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! เจ้ามีสิทธิ์อะไร? ข้าเป็นถึงพระราชโอรสของเสด็จพ่อ ทั้งยังมีพรสวรรค์ที่โดดเด่น! เหตุใดเสด็จพ่อถึงต้องมอบความโปรดปรานทั้งหมดให้เจ้าตั้งแต่แรกเกิดด้วยล่ะ เจ้าได้ ทุกสิ่งที่เจ้าต้องการแล้วมิใช่หรือ? นั่นไม่ใช่เพราะนางแม่ชั้นต่ำของเจ้าหรอกหรือ? ถึงจะเป็นคนของแดนศักดิ์สิทธิ์ แต่ก่อนหน้านี้ก็เป็นเพียงทาสคนหนึ่งเท่านั้น ไม่เห็นจะวิเศษ ตรงไหนเลย”
คนของราชวงศ์ตงหวงแต่ละคนล้วนตายภายใต้คมดาบของเพชฌฆาตของเป่ยกงลั่ว พลันนั้นเลือดสด ๆ ที่สาดกระเซ็น ก็ได้กระตุ้นให้ประสาทขององค์ชายสามตื่นตัวขึ้นอย่างสมบูรณ์
และเมื่อเงาแห่งความตายกำลังปกคลุม มันก็ทำให้องค์ชายสามลังเลที่จะพูดออกมา
ใบหน้าของมู่หลินหลางมืดมนลง องค์ชายสามกล่าวถึงแม่ของนาง และมันก็ทำให้นางนึกถึงนางผู้หญิงต่ำช้าอย่างมู่เฉียนซีคนนั้นมากขึ้นไปอีก ภายในใจของนางจึงเต็มไปด้วยความโกรธขึ้น นมาอีกครั้ง!
ตึงง!
“มู่หงจือ เจ้ารนหาที่ตายหรือ!”
ตึง ตึง ตึง!
เหล่ายอดฝีมือจากทางด้านราชวงศ์ตงหวงถูกคนของราชวงศ์เป่ยกงฆ่าตายไปมากมาย ในขณะที่พวกเขาต่างก็ต่อสู้อย่างสุดกำลังเพื่อปกป้องพวกเขาทั้งสองคนเอาไว้ แต่คิดไม่ถึงว่าในเวลานี ร่างของคนทั้งสองจะกลิ้งไปบนพื้นอย่างไม่ทันได้รู้ตัวเช่นนี้
ยอดฝีมือเหล่านั้นเต็มไปด้วยความปวดใจเป็นอย่างมาก “ฝ่าบาทหลินหลาง องค์ชายสาม มาถึงตอนนี้แล้วพวกท่านสองพี่น้องยังจะทะเลาะกันได้อีกอย่างนั้นหรือ รีบหาทางออกไปกันเถิดพ่ะย่ะ ะค่ะ! ช่วยกันรีบหาทางแจ้งท่านเฟิง…”
พรวดด!
หัวใจของคนที่กำลังพูดผู้นั้นถูกควักออกมา จนทำให้เลือดสด ๆ พุ่งกระฉูดออกมาเลยทีเดียว
เดิมทีมู่หลินหลางคิดว่าตนเองสามารถจัดการมู่หงจือได้ แต่นางค้นพบว่าร่างกายของนางเริ่มอ่อนแอลงมากขึ้นเรื่อย ๆ และหมัดที่ปล่อยออกไปก็ราวกับว่ากำลังหยอกล้อกับองค์ชายสาม มเล่นอย่างแผ่วเบาอย่างไรอย่างนั้น ซึ่งมันไม่สามารถทำให้เขาได้รับบาดเจ็บได้เลยแม้แต่น้อย
ภายในใจขององค์ชายสามก็กรุ่นโกรธขึ้นเช่นกัน ทันใดนั้นเขาก็หัวเราะขึ้นมา “ฮ่า ฮ่า ฮ่า! น้องหญิง ร่างกายของเจ้าอ่อนแอมากเลยสินะ! ก่อนหน้านี้เจ้ายังมีท่าทางหยิ่งผยองราวกับหงส์ อยู่เลย คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะเป็นเพียงแค่คนต่ำช้าคนหนึ่งเท่านั้น แม้แต่ข้าที่เป็นพี่ชายของเจ้า ก็ยังต้องการจะล่อลวงไปด้วยอย่างนั้นหรือ”
“หากว่าเจ้าช่วยให้เป่ยกงลั่วไม่ฆ่าข้าได้ เช่นนั้นข้าก็จะทำให้เจ้าพึงพอใจเอง!”
ดวงตาคู่นั้นของมู่หลินหลางแดงก่ำไปด้วยความโกรธเคือง นางคำรามกล่าว “ไสหัวไป! รีบไสหัวออกไปซะ! มันไม่ใช่แบบนี้…ไม่ใช่…”
ตอนนี้นางไม่มีแม้แต่แรงที่จะผลักมู่หงจือได้อีกแล้ว! นี่ร่างกายของนางกำลังเป็นอะไรกันแน่?
พรึ่บ!
ร่างไร้ชีวิตร่างหนึ่งล้มลงมาข้างกายของพวกเขา เลือดสด ๆ พลันสาดกระเซ็นไปทั่วร่างกายของพวกเขาเช่นกัน ซึ่งคนผู้นี้ก็คือยอดฝีมือระดับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณระ ะดับสูงสุดที่คอยคุ้มครองพวกเขาอยู่นั่นเอง
และก่อนที่พวกเขาจะตายก็ได้เห็นว่าพวกเขานั้นนอนตายตาไม่หลับเลยทีเดียว
เป่ยกงลั่วเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าที่เต็มไปด้วยเลือดของพวกเขา แล้วกล่าวว่า “ที่แท้องค์ชายและองค์หญิงของราชวงศ์ตงหวงก็มีงานอดิเรกเช่นนี้นี่เอง! และดูเหมือนว่าข้าจะมีงานอดิเร รกใหม่แล้ว องค์ชายสาม เช่นนั้นข้าจะไม่ฆ่าเจ้าอีกแล้ว เพราะอย่างไรเสียถึงจะฆ่าเจ้าไปข้าก็คงต้องชดใช้อยู่ดี แม้ว่าเจ้าจะไม่ได้เป็นที่ได้รับสนใจมากนัก แต่เจ้าก็ยังคงเป็นองค์ ชายของราชวงศ์ตงหวงอยู่ดี!”
“หยุด! ไม่ต้องฆ่าคนที่เหลืออีกแล้ว ตอนนี้ข้ามีวิธีเล่นแบบใหม่! ฉะนั้นจงพาทุกคนไปให้หมด!”
“พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องลั่ว!”
ถึงพวกเขาจะสามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้ แต่ทว่าเป่ยกงลั่วผู้นี้นั้นกระหายเลือดและโหดร้ายมากเกินไปอยู่ดี
แต่มู่หลินหลางและองค์ชายสามต่างก็ไม่รู้ว่า หลังจากที่พวกเขาถูกพาตัวไปแล้ว จะต้องเผชิญหน้ากับอะไรบ้าง?
เมื่อพวกของมู่เฉียนซีไล่ตามออกมา ก็เห็นซากศพที่เต็มไปด้วยเลือดมากมาย และคิดไม่ถึงเลยว่าคนที่ปะทะฝีมือกับพวกเขาก่อนหน้านี้จะตายไปในระยะเวลาอันสั้นเช่นนี้ได้
นอกจากนี้ยังเป็นการตายที่น่าสังเวชมากอีกด้วย!
จูเชว่กล่าวว่า “ดูเหมือนว่าคนของราชวงศ์ตงหวงเหล่านี้จะสร้างบาปมามากมายเกินไป ขนาดพยายามหนีออกมาอย่างสุดชีวิตแล้วก็ยังต้องมาเจอกับศัตรูของพวกเขาอีก ทั้งยังถูกฆ่าไปไม่น น้อยเลยด้วย! แต่ก็ทำให้เราประหยัดแรงไปได้มากเลยทีเดียว”
ซวนอู่กล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “ยังมีคนที่มีชีวิตอยู่ เช่นนั้นก็หมายความว่ามู่หลินหลางน่าจะหนีรอดไปได้ หรือไม่ก็ถูกคนจับตัวไปแล้ว”
“เอ๊ะ! จะเป็นอย่างนั้นไปได้อย่างไร?” ในเวลานี้ ก็มีเสียงอุทานเสียงหนึ่งดังขึ้นมา
เป่ยกงโยวที่คอยติดตามพวกเขาราวกับหางก่อนหน้านี้ ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยหลังจากนั้น และสุดท้ายก็ไม่รู้ว่าหนีหายไปอยู่ที่ใด?
เป้าหมายของมู่เฉียนซีคือไขวิญญาณแห่งชีวิตธาตุอัคคี ฉะนั้นย่อมขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจนางอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังไม่คิดว่านางจะปรากฏตัวออกมาในเวลาเช่นนี้ได้อีกด้วย
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าเมื่อครู่นี้ผู้ใดเป็นคนจัดการมู่หลินหลาง?”
ถึงวิธีการที่โหดร้ายเช่นนี้จะค่อนข้างเหมือนกับเป่ยกงลั่ว แต่มันก็ไม่ได้เหมือนไปซะทีเดียว นอกจากนี้ยังเป็นได้ว่าราชวงศ์ตงหวงอาจจะทำให้กองกำลังอื่นต้องขุ่นเคืองจนถูกจัดการ ไปก็เป็นได้
ท่านหยิงโยวกล่าวว่า “ข้าเพิ่งจะออกมาทีหลัง แต่หากแม่นางมู่ต้องการจะตามหามู่หลินหลางนั้นง่ายดายมาก เพราะในตอนที่พวกเขากำลังหนี ข้าได้ใส่สิ่งของเล็ก ๆ น้อย ๆ ลงไปบนต ตัวของมู่หลินหลาง ฉะนั้นไม่ว่านางจะไปที่ใดข้าก็สามารถหานางเจอได้อยู่แล้ว”
ท่านหญิงโยวยื่นนิ้วออกมา จากนั้นก็มีผีเสื้อกลางคืนตัวหนึ่งบินออกมาจากปลายนิ้วของนาง
ท่านหญิงโยวกล่าวด้วยอารมณ์ที่ดีว่า “แม่นางมู่ เจ้าสนใจจะไปเจอมู่หลินหลางด้วยกันกับข้าหรือไม่!”
มู่เฉียนซีสังเกตเห็นว่าดวงตาของท่านหญิงโยวนั้นเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง และรู้สึกว่านางไม่ได้ปล่อยเพียงแค่แมลงติดตามง่าย ๆ เท่านั้นด้วย ซึ่งนางต้องทำเรื่องอื่นอีกด้วยอย่าง งแน่นอน
แต่ทว่าหากมู่เฉียนซีต้องการที่จะตามหามู่หลินหลาง นางก็ไม่สามารถปล่อยคนที่อยู่ข้างกายนางไปได้เลยแม้แต่คนเดียว
แม้ว่าจักรพรรดิตงหวงจะเหลือพลังในการคุ้มครองชีวิตไว้บนร่างกายของนาง แต่มู่เฉียนซีก็รู้ดีว่าด้วยสถานะของมู่หลินหลาง จะต้องไม่ปล่อยให้นางมีชีวิตต่อไปอย่างง่ายดายแน่นอน !
ไม่ใช่เพราะนางเป็นลูกสาวของมู่เฟิงอวิ๋นเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์อีกด้วย
หากถูกคนของราชวงศ์ตงหวงรู้เข้า มันคงจะยุ่งยากไม่น้อยเลยทีเดียว แม้ว่าจะไม่ฆ่ามู่หลินหลาง แต่ทางที่ดีที่สุดก็อย่าให้เหลือความทรงจำนี้ไว้จะดีกว่า
“เช่นนั้นต้องรบกวนท่านหญิงโยวนำทางให้เสียแล้วล่ะ!” มู่เฉียนซีกล่าว
“ตกลง! ข้าจะนำทางเจ้าไปเดี๋ยวนี้แหละ เสี่ยวเฮย ไปกันเถอะ!”
ผีเสื้อกลางคืนสีดำตัวนั้นบินตรงไปข้างหน้า จากนั้นมู่เฉียนซีและคนอื่นต่างก็เดินตรงเข้าไปในป่าทึบ และตอนนี้ท่านหญิงโยวก็ได้พบกับใครบางคนเข้าแล้ว
“นะ…นี่มันคนของเสด็จอาลั่วมิใช่หรือ? นะ…นางอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”
เป่ยกงโยวรู้สึกว่าตนเองกำลังประสบปัญหาใหญ่เข้าให้แล้ว และร่างกายของนางก็สั่นสะท้านขึ้นมาทันที
และในตอนนี้ก็มีใครบางคนเดินออกมา “ท่านอ๋องสนุกได้ไม่เต็มที่เท่าไรนัก พวกเจ้าไปหาคนมาอีกหน่อย นายท่านต้องการเลือดมากกว่านี้ ที่นี่เดี๋ยวข้าจะเป็นคนเฝ้าเอาไว้เอง คนของ งราชวงศ์ตงหวงเหล่านั้นตายไปเยอะแล้ว ไม่มีใครกล้ามารนหาที่ตายด้วยการลงมือโจมตีท่านอ๋องอีกแล้ว”
“ขอรับ!”
ทันทีที่คนเหล่านั้นออกไป ก็เหลือเพียงแค่เขาคนเดียวแล้วจริง ๆ
มู่เฉียนซีโบกมือส่งสัญญาณให้ซวนอู่ พลางกล่าวว่า “จัดการคนผู้นี้ไปซะ”
เนื่องจากว่าผู้อาวุโสของสมาคมการค้าเฉินซีนั้นเก่งกาจมาก จึงทำให้คนผู้นี้ล้มลงได้ทันทีที่โจมตี
มู่เฉียนซีปกปิดกลิ่นอายเอาไว้เพราะต้องการที่จะเข้าใกล้ แต่นางกลับถูกท่านหญิงโยวดึงเอาไว้เสียก่อน “แม่นางมู่ พวกเรา…พวกเราอย่าเข้าไปเลยดีกว่า! เสด็จอาลั่วอยู่ที่นี่ด้ วย ขะ…ข้า…”
โรคจิตแห่งราชวงศ์เป่ยกงอย่างท่านหญิงโยวนั้นหวาดกลัวคนวิปริตอย่างท่านอ๋องลั่วผู้นั้นมากที่สุด ซึ่งดูเหมือนว่าเรื่องมันจะแตกต่างจากที่นางจินตนาการเอาไว้มากเลยทีเดียว
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เจ้าเป็นคนวางแผนด้วยตนเอง เจ้าไม่อยากเห็นว่ามู่หลินหลางน่าสังเวชมากแค่ไหนอย่างนั้นหรือ?”
ต้องบอกว่า ท่านหญิงโยวหวั่นไหวไปกับคำพูดของมู่เฉียนซีมากจริง ๆ
ใช่แล้ว! นางวางแผนมาเป็นเวลานานขนาดนี้ จนในที่สุดนางก็มีโอกาสได้แก้แค้นมู่หลินหลางแล้ว
หากไม่ได้เห็นสภาพว่ามู่หลินหลางน่าสังเวชมากเพียงใด แล้วนางจะไปพึงพอใจได้อย่างไรเล่า?
นางแน่ใจว่า ตอนนี้มู่หลินหลางจะต้องตกอยู่ในมือของอ๋องลั่วแล้ว และน่าจะมีสภาพที่น่าสังเวชกว่าที่นางวางแผนเอาไว้เป็นร้อยเท่าอย่างแน่นอน!
แม้ว่าตอนนั้นท่านอาลั่วจะโมโหมาก แต่นางก็แค่โยนความผิดทั้งหมดให้มู่เฉินซีก็พอแล้วมิใช่หรือ?
อย่างไรเสียท่านอาลั่วก็ต้องเชื่อคำพูดของนางแน่นอนอยู่แล้ว
แผนการของท่านหญิงโยวผู้นี้ช่างรอบครอบมากจริง ๆ จากนั้นนางก็กล่าวกับมู่เฉียนซีว่า “ตกลง! เช่นนั้นพวกเราเข้าไปกันเถอะ!”