ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2292 จุดจบอันน่าสังเวช
หลังจากที่รู้สถานการณ์ภายในแล้ว มู่เฉียนซีก็รู้สึกว่า รสนิยมของเป่ยกงลั่วนั้นหนักเอาเรื่องจริง ๆ
มีศพมากมายนอนกระจัดกระจายอยู่ทั่วทุกย่อมหญ้า ซึ่งคนเหล่านี้ต่างก็เป็นคนที่มู่เฉียนซีเคยเห็นมาแล้วทั้งนั้น และคนเหล่านั้นก็คือคนจากราชวงศ์ตงหวงที่เคยปะทะฝีมือกับพว วกเขามาก่อนหน้านี้นั่นเอง
พวกเขาถูกปล่อยให้เลือดไหลออกมาจนแห้งเหือด จากนั้นก็ถูกปล่อยให้ทุกข์ทรมานจนตาย
นอกจากเป่ยกงลั่วแล้ว ก็มีเพียงมู่หลินหลางและองค์ชายสามเท่านั้นที่ยังมีชีวิตอยู่
ในตอนนี้ มู่หลินหลางและองค์ชายสามทั้งสองคนต่างก็บ้าคลั่งกันไปแล้วอย่างสมบูรณ์ และบนร่างกายของพวกเขาไม่มีเสื้อผ้าติดกายอยู่เลยแม้แต่ชิ้นเดียว
เรื่องที่เป่ยกงลั่วทำไปก่อนหน้านี้ มันเลวร้ายยิ่งว่าฝันร้ายที่เลวร้ายที่สุดของพวกเขาเสียอีก ซึ่งความวิปริตของเจ้าหมอนี่มันจะเกินมนุษย์มนาไปแล้ว
หลังจากที่เขาฆ่าคนเหล่านี้ไปแล้ว ก็ได้ย้อมทั้งร่างของนางด้วยเลือดสด ๆ จากนั้น…จากนั้นก็…
นิ้วของมู่หลินหลางนั้นเปลี่ยนเป็นสีขาวซีด ทั่วทั้งร่างของนางพลันสั่นเทาขึ้นเล็กน้อย
และทุกครั้งหลังจากที่เขาดื่มเลือดที่ตกลงมาบนร่างกายของนางและมู่หงจือเรียบร้อยแล้ว เขาก็จะฆ่าคนอีกคนหนึ่ง…
และมันก็เป็นเช่นนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า ทีละคน ๆ ซึ่งสิ่งนี้ก็เจ็บปวดเสียยิ่งกว่าการฆ่านางโดยตรงเสียอีก
มู่หลินหลางร้องไห้ออกมาอย่างน่าเวทนา แต่ยิ่งนางร้องไห้อย่างน่าสังเวชมากเท่าไร เป่ยกงลั่วก็ยิ่งทรมานนางมากขึ้นเท่านั้น
นางเป็นถึงองค์หญิงแห่งราชวงศ์ตงหวง นางมั่นใจว่าในแดนซวนเทียนนี้ไม่มีผู้ใดที่เหมาะสมกับนางอีกแล้ว แม้แต่เป่ยกงจั๋วเองก็เช่นกัน
เสด็จพ่อให้นางรักษาความบริสุทธิ์ของตนเองมาโดยตลอด และนางก็ไม่มีชายหนุ่มที่หลงรักเหมือนกับเสด็จพี่หญิงคนอื่น ๆ ของนาง
แต่นางกลับคิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้มันจะถูกทำลายด้วยน้ำมือของคนวิปริตอย่างเป่ยกงลั่ว นอกจากนี้มันยังเป็นวิธีที่สยดสยองและนองเลือดอีกด้วย
มู่หลินหลางน่าสังเวชเป็นอย่างมาก ส่วนองค์ชายสามมู่หงจือก็ไม่ได้แตกต่างกันเท่าไรนัก
ความอัปยศอดสูเช่นนี้ทำให้เขาไม่หวาดกลัวที่จะก่นด่าเหลือบไรที่วิปริตอย่างเป่ยกงลั่วออกมาเลยแม้แต่น้อย ทว่ามันก็แลกมาด้วยการเอาคืนที่โหดเหี้ยมยิ่งกว่าเดิมเสียอีก
ท่านหญิงโยวอดที่จะตัวสั่นสะท้านขึ้นมาไม่ได้ คิดไม่ถึงเลยว่าเสด็จอาลั่วจะน่าหวาดกลัวถึงเพียงนี้!
เรื่องที่เขาไม่ปล่อยผู้หญิงอย่างมู่หลินหลางไปนั้นไม่เท่าไร แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะไม่ปล่อยแม้กระทั่งองค์ชายสามด้วย
หลังจากที่มู่เฉียนซีกวาดตามองจนรอบ นางก็ไม่อยากดูอีกต่อไปแล้ว และจากนั้นมู่เฉียนซีก็พุ่งทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว
จูเชว่กล่าวว่า “ซีซี ข้าคิดว่าพวกเราไปหาน้ำพุแห่งชีวิตล้างตาให้เจ้าหน่อยดีกว่า”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ช่างมันเถอะ! อีกอย่างตอนนี้คนของเป่ยกงลั่วก็ได้เริ่มออกหาเหยื่อกันแล้ว เพราะเลือดจากยอดฝีมือของราชวงศ์ตงหวงที่พวกเขาสังหารไปแล้วก่อนหน้านี้ คงไม่อา าจทำให้เขาพึงพอใจได้ แต่มันก็ทำให้พวกเราสามารถเอาชนะพวกเขาทีละคนได้พอดี!”
ไม่ใช่ว่านางไม่อยากฉวยโอกาสตอนที่เป่ยกงลั่วกำลังสนุกสนานลอบวางยาพิษเพื่อฆ่าเขา แต่นางสังเกตเห็นว่าสภาพของเป่ยกงลั่วในเวลานี้อันตรายเป็นอย่างมาก และนางก็ไม่รู้ว่าความสามารถ ถของเขาจะน่าสะพรึงกลัวมากเพียงใดอีกด้วย
นางไม่อยากเสี่ยง ดังนั้นจึงเลือกที่จะไปจัดการลูกน้องเพื่อตัดแขนตัดขาของเป่ยกงลั่วเสียก่อน
เดิมทีแล้วนางต้องการที่จะทำให้มู่หลินหลางต้องตายทั้งเป็น แต่สิ่งที่เป่ยกงลั่วทำทั้งหมดนั้น ดูเหมือนว่ามันจะทำให้มู่หลินหลางทรมานกว่าเรื่องที่นางเคยทำมาก่อนหน้านี้เสียอี ก ฉะนั้นมู่เฉียนซีจึงจะช่วยสนับสนุนพวกเขาเอง
จูเชว่พยักหน้าพลางกล่าวว่า “เจ้าพูดมาก็ถูก!”
“เช่นนั้นพวกเราแบ่งกองกำลังออกเป็นสี่กลุ่ม ลงมือได้!”
ในเวลานี้ มู่เฉียนซีเหลือบมองไปยังเป่ยกงโยว
“ขะ…ข้าจะไม่พูดอะไรเด็ดขาด อีกอย่างข้าเป็นคนที่มีความซื่อสัตย์มากคนหนึ่งด้วย ฉะนั้นเจ้าวางใจเถอะ!” เป่ยกงโยวกล่าว
“ข้าคิดว่าตอนนี้เจ้าเองก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปรบกวนเป่ยกงลั่วเช่นกัน มิฉะนั้นเจ้าก็คงจะถูกลากไปพร้อมกับมู่หลินหลางแล้วเป็นแน่ ดังนั้นเจ้าก็เฝ้าเป่ยกงลั่วและมู่หลินหลางอยู่ ที่นี่ก็แล้วกัน” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชา
เป่ยกงโยวพยักหน้าเล็กน้อยพลางกล่าวว่า “ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจะเฝ้าพวกเขาอย่างดีเลย”
จากนั้นมู่เฉียนซีก็กล่าวอย่างเย็นชาว่า “ไปกันเถอะ!”
และในที่สุดการล่าของพวกเขาก็ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ซึ่งเป้าหมายก็คือลูกน้องของเป่ยกงลั่วนั่นเอง
หลังจากที่มู่เฉียนซีจากไปแล้ว เป่ยกงโยวก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก โชคดีจริง ๆ ที่นางไม่ได้ถูกมู่เฉียนซีฆ่าปิดปากไปเสียก่อน
เมื่อนางได้ยินเสียงที่เจ็บปวดทรมานของมู่หลินหลาง จึงก้าวไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญ และเฝ้าดูเรื่องเลวร้ายต่อไป
ถึงแม้ว่าการดูเพียงอย่างเดียวจะยังไม่พอ แต่ก็ไม่สามารถทำให้พวกเขาเหล่านั้นรู้ตัวได้อยู่ดี
นางต้องการให้คนทั้งแดนซวนเทียนได้รับรู้ ว่ามู่หลินหลางองค์หญิงแห่งราชวงศ์ตงหวงผู้สูงศักดิ์ผู้นี้เป็นคนต่ำช้ามากเพียงใด
เมื่อถึงเวลานั้น ท่านพี่จั๋วก็คงจะต้องโมโหมาก จนทำการยุติการหมั้นหมายกับนางอย่างแน่นอน
และนอกจากนี้จักรพรรดิตงหวงก็ไม่มีหน้าจะมาปฏิเสธได้อีกด้วย เพราะอย่างไรเสียลูกสาวของเขาก็เปลี่ยนกลายเป็นเช่นนี้ไปแล้วนั่นเอง
เมื่อท่านหญิงโยวคิดถึงแผนการของตนเอง นางก็ได้หยิบหยกนิลชิ้นหนึ่งออกมา
หยกสีนิลชั้นนั้นหมุนเวียนลำแสงออกมา และมันก็สามารถบันทึกเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้ นอกจากนี้มันยังมีความชัดเจนมากอีกด้วย
เมื่อถึงตอนที่ออกจากตำหนักเทพแห่งชีวิต นางจะสั่งให้คนกระจายเรื่องนี้ออกไปอย่างเงียบ ๆ และถึงแม้ว่าท่านอาลั่วจะโกรธ นางก็แค่ให้คนอื่นบอกว่ามู่เฉินซีเป็นคนทำก็สิ้นเรื องแล้ว
เพราะอย่างไรเสียความเกลียดชังระหว่างมู่เฉินซีกับมู่หลินหลางก็ลึกซึ้งเป็นอย่างมาก ฉะนั้นการที่นางจะทำเรื่องเช่นนี้ออกมาเพื่อจัดการมู่หลินหลาง ก็ไม่ใช่น่าสงสัยเลยแม้แต่นิดเ เดียว
หินวิญญาณหยกนิลสีดำได้บันทึกความวิปริตของเป่ยกงลั่วอีกทั้งยังมีความอัปยศอดสูของมู่หลินหลาง และองค์ชายสามมู่หงจืออีกด้วย
ฟิ้ว!
มีเสียงแหวกอากาศเสียงหนึ่งดังขึ้นมา
เข็มยาของมู่เฉียนซีพุ่งเข้าโจมตีคนคนหนึ่งอย่างเงียบเชียบ เขาที่เดิมทีค้นพบเหยื่อที่ต้องการจะลอบโจมตี ตอนนี้กลับต้องมาหลบหลีกอย่างรวดเร็วแทน!
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
และหลังจากนั้นก็มีเข็มยาจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งโจมตีเข้ามา
“ใครกัน! ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้นะ! มาแอบแทงข้างหลังคนอื่นคิดว่ามีความสามารถนักหรือไง!”
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ!
ผลปรากฏว่ามีร่างเงาสองสามร่างปรากฏตัวขึ้นมา และสาวน้อยที่สวมชุดสีม่วงคนหนึ่งก็ปรากฏตัวอยู่ด้านหน้าสุด
“หากไม่ให้ลอบแทงข้างหลัง เช่นนั้นก็ปิดล้อมโจมตีเอาก็แล้วกัน! ฆ่าเขาซะ!”
“ขอรับ! ท่านมู่!”
เมื่อคนของหอหมอปีศาจได้รับคำสั่ง ก็ได้เริ่มลงมือจัดการชายชราผู้มืดมนคนนี้ทันที
และในที่สุดคนที่ถูกเขาเห็นเป็นเหยื่อก่อนหน้านี้ก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เขาปิดแขนที่มีเลือดไหลทะลักออกมาและเดินไปตรงหน้ามู่เฉียนซีพลางกล่าวว่า “ที่แท้ก็เป็นอัจฉริย ยะอันดับหนึ่งแห่งราชวงศ์ตงหวงของพวกเรา แม่นางมู่แห่งหอหมอปีศาจนี่เอง ขอบคุณท่านมากที่ให้การช่วยเหลือ ถือว่าข้าเป็นหนี้บุญคุณท่านครั้งหนึ่งแล้ว”
ความสามารถของคนผู้นี้ไม่อ่อนแอเลย ฉะนั้นจึงมิแปลกใจที่เขาจะสามารถรับมือกับยอดฝีมือระดับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณของเป่ยกงลั่วผู้นี้ได้นานถึงเพียงนี้
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ในเมื่อเป็นหนี้บุญคุณข้าแล้ว เช่นนั้นตอนนี้เจ้าก็รีบตอบแทนบุญคุณข้าเสียสิ! และข้าก็อยากที่จะฆ่าคนผู้นั้นโดยเร็วที่สุด”
“คือ…ข้าได้รับบาดเจ็บ เกรงว่าจะถ่วงแข้งถ่วงขาคนอื่นเสียเปล่า ๆ!” เขานั้นรู้ความสามารถของตนเองดี นอกจากนี้คนผู้นี้ยังมีวิธีการที่โหดร้าย จนทำให้ร่างกายของเขาบาดเจ็บสา าหัสอีกด้วย
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เจ้าไม่รู้หรือว่าหอหมอปีศาจของข้าทำกิจการอะไร? นี่ใช้ภายนอก แล้วนี่ก็ใช้ภายใน!”
มู่เฉียนซีให้ยาลูกกลอนผู้ชายคนนั้นไปสองขวด จากนั้นเขาก็กล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “ขอบคุณท่านมาก!”
หลังจากที่กินยาลูกกลอนเข้าไป เขาก็ดีขึ้นมาในทันที และหลังจากที่ใช้ยาไปแล้ว เลือดที่บาดแผลของเขาก็หยุดไหลไปทันทีเช่นกัน
เขากล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ข้ารู้สึกว่าข้าสามารถต่อสู้กับตาแก่นั้นได้อีกหลายสิบรอบแล้ว ข้าจะรีบเข้าไปช่วย และแก้แค้นให้กับตัวเองด้วย!”
ทันทีที่พูดจบ เขาก็พุ่งทะยานเข้าไปอย่างกล้าหาญเป็นอย่างยิ่ง
คิดไม่ถึงเลยว่าคนที่เกือบจะถูกเขาฆ่าก่อนหน้านี้จะฟื้นตัวและกลับมาสู้กับเขาอีกครั้ง ซึ่งนั่นก็ทำให้คนผู้นี้ประหลาดใจเป็นอย่างมาก
“มู่เฉินซี ให้ตายเถอะ คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะตั้งตัวเป็นศัตรูของพวกเราเช่นนี้ ท่านอ๋องลั่วของพวกเราไม่มีทางปล่อยเจ้าไปแน่นอน”
“คิดว่าข้าจะกลัวเป่ยกงลั่วอย่างนั้นหรือ?” มู่เฉียนซีกล่าวพลางเลิกคิ้ว
การโจมตีหลักมอบให้เป็นหน้าที่ของผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณผู้เป็นลูกน้องของนาง ส่วนมู่เฉียนซีมีหน้าที่ในการลอบโจมตีเท่านั้น
ฟิ้ว!
มีเสียงแหวกอากาศเสียงหนึ่งดังขึ้นมา
เดิมทีเจ้าหมอนี่สามารถเอาชนะคนมากมายได้อย่างง่ายดาย แต่ทว่าตอนนี้เขาไม่สามารถป้องกันการโจมตีจากมุมต่าง ๆ ของมู่เฉียนซีได้ชั่วขณะหนึ่งแล้ว!
ฉึก!
เข็มยาเจาะเข้าไปในผิวหนังของเขา และทันใดนั้นพิษที่ทาไว้ก็ระเบิดออกมา
“จะ…เจ้า…”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ถึงเวลาตายของเจ้าแล้ว!”