ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2296 ถูกเด็ดจนโกร๋นไปหมดแล้ว
“เจ้ารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?” สีหน้าของมู่เฉียนซีมืดมนลงทันที
เรื่องที่นางตามหาไขวิญญาณแห่งชีวิตในตำหนักเทพแห่งชีวิต ก็ไม่ได้น่าแปลกใจเท่าไรนักที่ไม้เทพแห่งชีวิตผู้ที่เป็นถึงเจ้านายของสถานที่แห่งนี้อย่างมัน จะล่วงรู้ทุกสิ่งทุกอ อย่างที่อยู่ภายใต้การควบคุมของมันได้
แต่เรื่องที่นางต้องการจะช่วยเหลือคนผู้นั้น มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นข้างนอกสถานที่แห่งนี้
“เจ้าขโมยความทรงจำของชิงอิ่งอย่างนั้นหรือ?” แววตาของมู่เฉียนซีเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือกขึ้นมาทันที
“ถ้าเช่นนั้นแล้วมันจะทำไมล่ะ? ข้าเป็นคนสร้างเขาขึ้นมา ทั้งความทรงจำและร่างกายของเขาล้วนเป็นของข้าทั้งนั้น ข้าได้ดูความทรงจำของเขาโดยที่ไม่พลาดเลยแม้แต่อย่างเดียว เจ จ้าโกรธมากเลยอย่างนั้นหรือ?”
“โกรธหรือ ไม่โกรธได้ด้วยหรือ? นี่เป็นเรื่องที่ชิงอิ่งยินยอมโดยเต็มใจหรือไม่ล่ะ?”
“หากข้าบอกว่าเขาไม่ได้เต็มใจด้วยตนเอง เจ้าก็จะล้างแค้นให้เขาอย่างนั้นหรือ? ด้วยความสามารถของเจ้าในตอนนี้ ยังทำไม่ได้หรอกนะ”
มู่เฉียนซีเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นนางก็มองไปที่ใบไม้แห่งชีวิตที่อยู่ในมือพลางกล่าวว่า “ข้าคิดว่าข้าไม่จำเป็นให้เจ้าบอกแล้วว่าไขวิญญาณแห่งชีวิตธาตุพฤษาอยู่ที่ใด? ”
ภายในมิติแห่งนี้เงียบสงบมาก ซึ่งมันก็เป็นสถานที่ที่เหมาะในการกลั่นยาจริง ๆ
มู่เฉียนซีเอาหม้อเทพนิรันดร์ออกมา จากนั้นนางก็เริ่มกลั่นยาทันที
นางได้หยิบเอาใบไม้ใบหนึ่งออกมา และผลปรากฏว่ามันเป็นอย่างที่นางคาดการณ์ไว้ นางสามารถใช้ใบไม้แห่งชีวิตสกัดไขวิญญาณแห่งชีวิตธาตุพฤษาออกมาได้
แต่ทว่า ไขวิญญาณแห่งชีวิตธาตุพฤษาที่สกัดออกมาจากใบไม้ใบเดียวนั้นยังไม่เพียงพอ ซึ่งนางต้องการมากกว่านี้อีก
“เจ้า…”
วิธีการของมู่เฉียนซีนั้น อยู่เหนือจินตนาการของไม้เทพแห่งชีวิตเป็นอย่างมาก มันคิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่านางจะทำได้ถึงขนาดนี้
มู่เฉียนซีกล่าวกับมันว่า “น่าประหลาดใจถึงขนาดนั้นเลยอย่างนั้นหรือ? มันง่ายจะตายไป เหตุผลที่เจ้าเสนอเงื่อนไขทั้งหมดนั้นออกมา นั่นก็เป็นเพราะว่าสถานที่ที่มีไขวิญญาณแห่งช ชีวิตธาตุพฤษาหากไม่ใช่ใบไม้ก็ต้องเป็นลำต้นของต้นไม้แน่นอน แต่ทว่าพลังวิญญาณของใบไม้นั้นแข็งแกร่งมากที่สุด ฉะนั้นข้าจึงเอามันมาทดลองดู และมันก็ประสบความสำเร็จจริง ๆ”
นางเพียงแค่ทดลอง ใช้ใบไม้แห่งชีวิตสกัดเอาไขวิญญาณแห่งชีวิตธาตุพฤษาออกมาเท่านั้น
อย่างที่รู้กันดีว่านับตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน คนที่ได้รับใบไม้แห่งชีวิตนั้นมีจำนวนน้อยมาก
แต่ทว่าไม่มีผู้ใดที่สามารถทำได้ถึงขนาดนี้ ซึ่งไม่ว่าคนเหล่านั้นจะเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นจอมภูตทั่วไปหรือว่าเป็นนักปรุงยาก็ตาม
แต่มู่เฉียนซีกลับโยนใบไม้แห่งชีวิตที่เหลืออยู่ทั้งหมดเข้าไปในหม้อยาอย่างเด็ดเดี่ยว
และด้วยใบไม้จำนวนมากมาย จึงทำให้มู่เฉียนซีสามารถสกัดไขวิญญาณแห่งชีวิตธาตุพฤษาออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ
แต่ทว่า มันได้เพียงแค่หยดเดียวเท่านั้น!
เพียงหยดเดียวมันไม่สามารถทำอะไรได้เลยด้วยซ้ำ และเมื่อเทียบกับไขวิญญาณเบญจธาตุอีกสี่ชนิด เพียงหยดเล็ก ๆ แค่นี้ก็ช่างน่าเวทนายิ่งนัก
“แม้ว่าเจ้าจะสามารถสกัดมันออกมาจากใบไม้แห่งชีวิตได้แล้วมันทำไมกันล่ะ? เจ้าสามารถเอาใบไม้แห่งชีวิตไปได้เพียงแค่หนึ่งร้อยใบเท่านั้น หากเจ้าสามารถทำตามเงื่อนไขของข้าได้แ แล้วละก็ ข้าสามารถเพิ่มใบไม้ให้เจ้าอีกสักหน่อยก็ย่อมได้ มู่เฉียนซี อย่างไรเสียสำหรับข้าแล้ว ใบไม้เช่นนี้มีได้มากเท่าที่ต้องการเลยล่ะ”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ใบไม้แห่งชีวิตก็อยู่ตรงหน้าข้าแล้วนี่อย่างไรเล่า ต้นไม้ใหญ่ขนาดนี้ ข้าต้องการเด็ดเท่าไรก็ได้มิใช่หรือ? เหตุใดต้องขอร้องเจ้าด้วยล่ะ?”
“เจ้ากล้าหรือ?”
“ข้ากล้าอยู่แล้ว เพื่อไขวิญญาณแห่งชีวิตธาตุพฤษา มีอะไรที่ข้าไม่กล้าบ้างล่ะ?”
“ก็เห็นอยู่ว่าเจ้าสามารถเอาไปได้เพียงหนึ่งร้อยใบเท่านั้น?”
“แค่เอาออกไปได้ไม่เกินหนึ่งร้อยใบเท่านั้น แต่ข้าจะใช้ใบไม้แห่งชีวิตทั้งหมดที่อยู่ที่นี่ เปลี่ยนให้กลายเป็นไขวิญญาณแห่งชีวิตธาตุพฤษาข้างในนี้ ฉะนั้นมันก็ไม่ได้ถือว่าเอ อาใบไม้แห่งชีวิตออกไปแล้วมิใช่หรือ?”
มู่เฉียนซีค้นพบช่องโหว่ที่อยู่ในคำพูดของไม้เทพแห่งชีวิตก่อนที่จะเข้ามาตั้งแต่แรกแล้ว
หากเป็นคนทั่วไปก็คงไม่มีผู้ใดกล้าใช้ใบไม้แห่งชีวิตอย่างไม่คิดเหมือนในตอนนี้เป็นแน่ เพราะอย่างไรเสียใบไม้แห่งชีวิตนั้นก็หาได้ยากเป็นอย่างมาก
แต่มู่เฉียนซีกลับสามารถนำใบไม้แห่งชีวิตมาเปลี่ยนเป็นไขวิญญาณแห่งชีวิตที่มีประโยชน์มากยิ่งขึ้นได้ อีกทั้งยังใช้ประโยชน์จากช่องโหวของกฎเกณฑ์ต่อหน้าต่อตาไม้เทพแห่งชีวิตอีก กด้วย
ด้วยเหตุนี้มู่เฉียนซีจึงเริ่มใช้พลังธาตุวายุ และสายลมที่เหมือนกับฤดูใบไม้ร่วงก็มิปานนั้นก็ได้พัดพาใบไม้บนไม้เทพแห่งชีวิตที่อยู่ตรงหน้านี้กวาดเข้าไปในหม้อเทพนิรันดร์ของ นาง และหลังจากนั้นก็เริ่มสกัดพวกมัน
“น่าโมโห มันช่างน่าโมโหจริง ๆ…”
“เจ้าทำเรื่องที่หยาบคายเช่นนี้ต่อใบไม้แห่งชีวิตได้อย่างไร!”
“ให้ตายเถอะ!”
การกระทำที่กล้าหาญเช่นนี้ของมู่เฉียนซี ได้ทำให้ไม้เทพแห่งชีวิตใกล้ที่จะระเบิดออกมาด้วยความโกรธอยู่แล้ว
มุมปากของมู่เฉียนซีกระตุกเล็กน้อย “ข้าว่าต้นไม้อย่างเจ้าคงอยู่ภายในมิติแห่งชีวิตนี้มาโดยตลอดและไม่มีคนมาพูดคุยกับเจ้าเลยอย่างนั้นสินะ! เหมือนว่าจะพูดมากไปหน่อยแล้วนะ!”
เขาเต้นเร่าด้วยความโกรธ คิดไม่ถึงเลยว่านางจะบอกว่าเขาพูดมาก ที่แท้ชิงอิ่งก็ถูกผู้หญิงคนนี้ทำให้เสียคนสินะ
คนอื่นอยากที่จะคุยกับเขาทั้งนั้น ขนาดไม้เทพแห่งชีวิตอย่างเขายังไม่รังเกียจที่จะพูด คิดไม่ถึงเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะรังเกียจเขา
และในตอนนี้ ก็มีร่างเงาร่างหนึ่งปรากฏตัวออกมาที่หอเย่หยู่แห่งนี้
เขาพุ่งทะยานไปยังสถานที่ต่าง ๆ มากมาย มันได้ย้ายซากศพหลายร่างออกไปจากภายในมิติของเขา จากนั้นเครื่องหมายคำสาปก็ปรากฏขึ้น และมันก็สามารถอำพรางการรับรู้ของไม้เทพแห่งชี วิตได้แล้ว
หลังจากที่นำสิ่งของที่มีสีดำคล้ายกับก้อนหินก้อนหนึ่งปลูกในดินใต้ซากศพเหล่านี้แล้ว เขาก็ไปยังสถานที่แห่งอื่นต่อไป
สิ่งที่ปลูกนั้นแตกหน่อออกมาอย่างรวดเร็ว และมันก็เริ่มแตกหน่อต่อไปอย่างต่อเนื่อง
น้ำเสียงที่หงุดหงิดของไม้เทพแห่งชีวิตได้เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้นมาทันที เขากล่าวกับชิงอิ่งว่า “สิ่งที่ควรจะมาก็กำลังมาแล้ว ขอเพียงแค่เจ้ายอมรับข้อตกลงของข้า ข้าก็จะปล่อ อยเจ้าไป! มิเช่นนั้นเจ้าก็เตรียมฝังไปพร้อมกับข้าเถอะ”
ชิงอิ่งส่ายหน้าพลางกล่าวว่า “ข้าต้องการทำความปรารถนาของเฉียนให้สำเร็จ ฉะนั้นข้าไม่มีทางยอมรับเงื่อนไขของเจ้าแน่”
“เจ้ากับผู้หญิงคนนั้นต้องมาเพื่อทำให้ข้าโมโหโดยเฉพาะเป็นแน่” ไม้เทพแห่งชีวิตกล่าวอย่างฮึดฮัด
ในที่สุดไม้เทพแห่งชีวิตที่ชอบพูดนั้นก็เงียบลงแล้ว และมู่เฉียนซีก็เริ่มสกัดใบไม้แห่งชีวิตอย่างสบายใจ
นอกจากนี้ขั้นตอนการสกัดนั้นก็ไม่ได้ยุ่งยากแต่อย่างใด ขอเพียงแค่มีพลังจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งมากก็เพียงพอแล้ว
หากนักปรุงยาทั่วไปต้องการที่จะสกัดไขวิญญาณแห่งชีวิตธาตุพฤษาออกมาสักหยดหนึ่ง ก็คาดว่าน่าจะถูกผลาญพลังจิตวิญญาณไปจนหมดก็เป็นได้
แต่ทว่ามู่เฉียนซีนั้นเป็นตัวประหลาด และถึงนางจะเด็ดต้นไม้แห่งชีวิตนั้นจนเกือบจะโกร๋นไปหมดแล้ว แต่พลังจิตวิญญาณของนางก็ยังคงไม่ลดลงเลย
“ได้ไขวิญญาณแห่งชีวิตธาตุพฤษามาพอสมควรแล้วล่ะ”
เมื่อมองไปยังต้นไม้แห่งชีวิตที่เกือบจะโกร๋น มันก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรต่อดี และสุดท้ายมู่เฉียนซีก็เด็ดใบไม้ที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดไปอีกหนึ่งร้อยใบ
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ข้าเพียงแค่เด็ดใบไม้ไปแค่ร้อยใบเท่านั้น และไม่ได้เอาไปเกินอีกด้วย ข้าคงออกไปได้แล้วสินะ! ท่านต้นไม้แห่งชีวิต”
เกือบจะเด็ดจนต้นไม้โกร๋นไปหมดแล้วเช่นนี้ ยังกล้ามาบอกว่าตนเองเด็ดไปเพียงแค่หนึ่งร้อยใบอย่างน่าไม่อายเช่นนี้อีกหรือ? ไม้เทพแห่งชีวิตทำได้เพียงแต่ก่นด่าอยู่ภายในใจ
ซึ่งแน่นอนว่า มู่เฉียนซีไม่ได้ถูกขวางเอาไว้ และถูกปล่อยให้ออกไปได้
พวกจูเชว่ ซวนอู่และไป๋เจ๋อก็อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน จากนั้นพวกเขาก็มอบใบไม้แห่งชีวิตที่ได้รับมาให้กับมู่เฉียนซี “ข้าขอมอบทั้งหมดนี้ให้กับเจ้า!”
และสิ่งนี้ก็ทำให้คนอื่นอิจฉาเป็นอย่างยิ่ง อัจฉริยะอันดับหนึ่งของราชวงศ์ตงหวงผู้นี้ช่างมีเสน่ห์มากจริง ๆ นางสามารถทำให้คุณชายทั้งสามคนมอบใบไม้แห่งชีวิตที่อยู่ตรงหน้าให ห้นางทั้งหมดโดยที่ไม่กระพริบตาเลยด้วยซ้ำ
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ที่ข้ามีเพียงพอแล้ว ใบไม้แห่งชีวิตเหล่านี้พวกเจ้าเก็บไว้เถอะ เตรียมพร้อมเอาไว้ใช่ในยามฉุกเฉิน”
“แต่หากว่าของสิ่งนี้อยู่ในมือของซีซี มันก็น่าจะมีประโยชน์มากกว่า” จูเชว่กล่าว
“ที่ข้ามีพอแล้วจริง ๆ!”
แม้ว่าที่นางจะมีใบไม้แห่งชีวิตแค่หนึ่งร้อยใบเท่านั้น แต่ถึงใบไม้แห่งชีวิตนี้จะถูกใช้ไปหมดแล้วก็ยังมีไขวิญญาณแห่งชีวิตที่ดียิ่งกว่าอยู่ด้วยมิใช่หรือ?
และนั่นก็ถือว่าใช้ใบไม้แห่งชีวิตจากต้นไม้ทั้งต้นสกัดออกมา ซึ่งมันก็เป็นจำนวนที่ไม่น้อยเลย
ฉะนั้นมู่เฉียนซีจึงยืนกรานว่าจะไม่ยอมรับมัน ซึ่งพวกเขาก็ไม่มีทางเลือกเช่นกัน
ในเวลานี้เป่ยกงลั่วก็พุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ถูกเฟิงฉางหยูทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส เขาก็ไม่อยากที่จะเจอกับพวกของมู่เฉินซีอีกแล้ว
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ไล่ตามเป่ยกงลั่วไป แล้วฆ่าเขาซะ!”
ซวนอู่กล่าวว่า “มู่เฉินซี พวกเราไม่รู้ว่าตำหนักเทพแห่งชีวิตนี้จะปิดเมื่อไร แม้ว่าจะมีความแค้นกับเป่ยกงลั่ว แต่พวกเราไม่อาจเสียเวลาไปกับเขาได้ ฉะนั้นพวกเราควรที่จะไปตามหา าไขวิญญาณแห่งชีวิตธาตุพฤษากันก่อนเถอะ”