ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2301 เขายอมเฉียนเท่านั้น
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกเฉียนตะคอกใส่เช่นนี้ และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นเฉียนร้องไห้ออกมาต่อหน้าของเขา ซึ่งมันก็ทำให้ชิงอิ่งทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียว
เขาจึงจำเป็นที่จะต้องเชื่อฟังและหยุดมือก่อน และคำขอโทษของมนุษย์ก็น่าจะเป็น…
“เฉียน ข้าขอโทษ!”
“ข้าทำให้เจ้าตกใจอย่างนั้นสินะ!”
“เจ้าอย่าร้องไห้เลย…”
“เจ้ามันโง่! เจ้าคนโง่ ไม้เทพแห่งชีวิตกล่าวถูกต้องแล้ว เจ้ามันโง่มากจริง ๆ!” มู่เฉียนซีร้องคำรามออกมา
จะมีใครที่ควักหัวใจของตนเองออกมาได้อย่างใจเย็น โดยแทบจะไม่กระพริบตาเช่นนี้กัน?
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “ไม้เทพแห่งชีวิต นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”
“ข้าก็คือเขา เขาก็คือข้า! ข้าคือไม้เทพแห่งชีวิต เขาก็ใช่เช่นกัน! แน่นอนว่า ตอนนี้เขายังไม่ใช่ข้าอย่างสมบูรณ์” เพราะอย่างน้อยนิสัยก็ยังไม่ได้เหมือนกันเท่าไรอยู่ดี
การมีอายุยืนยาวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด สำหรับไม้เทพแห่งชีวิตแล้วมันน่าเบื่อเป็นอย่างมากจริง ๆ
นับตั้งแต่ความบริสุทธิ์ที่สุดของโลกได้เปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากจำนวนของมนุษย์ที่มากขึ้นเรื่อย ๆ จึงทำให้คนที่เต็มไปด้วยจิตใจอันชั่วร้ายอยู่ทั่วทุกมุมโลกไปหมด
ซึ่งทุกครั้งที่ไม้เทพแห่งชีวิตสอดส่องไปทั่วโลกมนุษย์แห่งนี้ มันก็เต็มไปด้วยความรู้สึกเกลียดชัง และมันก็รู้สึกรังเกียจจนอยากจะทำลายล้างโลกไปเลยด้วยซ้ำ
มันคือไม้เทพแห่งชีวิต ถึงจะทำอย่างไรก็ไม่สามารถทำเรื่องอย่างการทำลายโลกได้สำเร็จอยู่ดี แต่ทว่าต้นไม้ปีศาจแห่งความตายสามารถทำได้!
และนี่ก็ทำให้มันได้เห็นถึงโชคชะตาของตนเอง
และสวรรค์ก็ได้ออกคำสั่งให้มันได้เห็น ว่าจิตใจของมนุษย์ในตอนนี้เริ่มดำมืดมากขึ้นเพียงใดแล้ว
ทั้งการต่อสู้อย่างโหดเหี้ยม และการเข่นฆ่าอย่างป่าเถื่อนที่มีมากขึ้นเรื่อย ๆ ได้ทำให้มนุษย์เริ่มหวาดกลัวความตายมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตอนนั้นต้นไม้ปีศาจแห่งความตายก็จะทำลายผนึกด้วยตัวมันเองได้
ในตอนแรกต้องใช้พลังที่แข็งแกร่งของผู้อาวุโสในการพยายามที่จะผนึกมันเอาไว้ และเพราะจิตใจของมนุษย์ในตอนนี้ได้ทำให้มันหวนคืนกลับมาแล้ว ทั้งยังทำให้มันก็แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
แต่ไม้เทพแห่งชีวิตอย่างมันกลับอ่อนแอมากขึ้นเรื่อย ๆ และตอนนี้มันก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของต้นไม้ปีศาจแห่งความตายอีกแล้ว
เป็นเช่นนั้นก็ดีเหมือนกัน เพราะการที่มนุษย์ตกลงสู่ความตาย และเดินไปสู่พินาศก็ไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดีแต่อย่างใด
ตัวมันเองทำได้เพียงเฝ้ามองโลกนี้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น และไม่สามารถออกไปเดินด้วยตนเองได้ แต่มันก็โชคดีที่พบเข้ากับนักทำหุ่นเชิดที่บุกเข้ามาในอาณาเขตของมันเข้าพอดี
ถึงมันจะไม่ใช่มนุษย์ แต่ก็สามารถเรียนรู้วิธีการทำหุ่นเชิดจากนักทำหุ่นเชิดได้เช่นกัน
มันเคยเห็นผู้คนมามากมาย ดังนั้นมันจึงต้องการที่จะให้ร่างกายของตนเองงดงามมากที่สุด อีกทั้งมีความสมบูรณ์แบบมากที่สุดอีกด้วย
หุ่นเชิดนี้ถูกสร้างขึ้นมาได้สำเร็จ และมันก็ทำออกมาจากท่อนไม้ที่สมบูรณ์แบบที่สุดของมันส่วนหนึ่ง
จิตวิญญาณของมันถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนและได้ผูกติดเอาไว้ตรงนี้ หลังจากนั้นมันก็ได้ปล่อยให้ออกไปจากมิติแห่งชีวิต เพื่อท่องไปทั่วโลกมนุษย์
มันไม่รู้ว่าเดินไปนานมากแค่ไหน เพราะสำหรับมันแล้วเวลาไม่ได้มีความหมายอะไรเลยแม้แต่น้อย
และมันก็รู้เพียงแค่ว่าหุ่นเชิดตัวนั้นเริ่มอยู่ไกลจากมันมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งในที่สุดมันก็ได้ขาดการติดต่อกับอีกส่วนหนึ่งไปจนได้
มันรู้ดีว่าจะต้องเป็นเพราะว่าหุ่นเชิดตัวนี้สูญเสียพลังแห่งชีวิตไปจนต้องเข้าสู่การจำศีลเป็นแน่
แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะทันทีที่ต้นไม้ปีศาจแห่งความตายถือกำเนิดขึ้น มันก็จะปรากฏตัวขึ้น และเมื่อถึงเวลานั้นมันย่อมต้องได้รับพลัง จนถูกนำทางให้กลับมาอีกครั้งอย่างแน่นอน
แต่มันไม่คิดมาก่อนเลยว่า ในช่วงระยะเวลาหนึ่งที่ขาดการติดต่อไป อีกส่วนหนึ่งของมันจะได้มีชีวิตใหม่ไปแล้ว
และมันที่ไม่เคยมีชื่อก็ได้มีชื่อ ซึ่งชื่อของมันก็คือชิงอิ่ง!
แม้ว่าพลังแห่งชีวิตจะถูกผลาญไปจนหมด แต่เมื่อกินยาน้ำและยาลูกกลอนที่นางกลั่นออกมาแล้ว กลับสามารถเคลื่อนไหวได้ใหม่อีกครั้ง
แต่สิ่งที่น่าเหลือเชื่อยิ่งกว่านั้นก็คือ มู่เฉียนซีได้มอบหัวใจให้เขาดวงหนึ่ง
มันช่างน่ามหัศจรรย์มากจริง ๆ เป็นเพียงแค่เมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตเท่านั้น เดิมทีแล้วมันไม่สามารถกลายเป็นหัวใจได้ ซึ่งนี่ช่างเป็นการพัฒนาที่น่าเหลือเชื่อมากจริง ๆ
เดิมทีแล้วไม้เทพนั้นไร้หัวใจ ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่ถูกกำหนดไว้ทันทีที่มันถือกำเนิดขึ้นมา แต่มันกลับปรากฏเรื่องที่เหนือความคาดหมายเช่นนี้ได้
ถึงเจ้าหมอนี่จะกลับมาแล้ว แต่เขากลับพูดออกมาว่าจะมอบของที่ได้รับมาจากสวรรค์ให้กับผู้หญิงคนนั้น
การมีหัวใจเพิ่มขึ้นมาก็ไม่เห็นจะวิเศษวิโสตรงไหนเลย แล้วพวกเขาคิดจะทำอะไรกับต้นไม้ต้นหนึ่งกัน? แต่ไม้เทพแห่งชีวิตรู้สึกว่า ของดีที่ได้รับมาจากสวรรค์นี้คือสมบัติ เป็นสมบัติอันล้ำค่า ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจปล่อยให้ตายได้อยู่ดี
และไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถมอบให้คนอื่นได้!
มู่เฉียนซีกล่าวถามว่า “หากชิงอิ่งไม่มีหัวใจ เขาจะเป็นเช่นไร?”
ไม้เทพแห่งชีวิตกล่าวว่า “การที่ไม้เทพแห่งชีวิตมีหัวใจเดิมทีแล้วมันคือเรื่องเหนือความคาดหมายอย่างหนึ่ง ซึ่งแม้แต่สวรรค์ก็ไม่อาจควบคุมเรื่องที่ไม่คาดฝันเช่นนี้ได้ ดังนั้นข้าก็ไม่รู้ว่าหากนำมันออกมาแล้วจะเป็นเช่นไรเหมือนกัน?”
“บางทีเขาอาจจะตาย หรือบางทีข้าก็อาจจะต้องตายไปพร้อมกับเขา เพราะเดิมทีแล้วพวกเราคือร่างเดียวกัน แต่ก็อาจจะไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นเลยก็เป็นได้ ดังนั้นเจ้าเอาเจ้าโง่นี่ออกไปเถอะ! ข้าจะตายไปพร้อมกับต้นไม้ปีศาจแห่งความตายเหล่านี้ โลกนี้ไม่ต้องการไม้เทพแห่งชีวิตอีกแล้ว แต่ข้าก็ไม่อาจปล่อยให้ศัตรูคู่อาฆาตของข้าหลุดรอดไปบนโลกมนุษย์ได้ ตอนนี้พวกเราไม่ได้เหมือนกันอย่างสมบูรณ์แล้ว ถึงข้าตายไปแล้ว แต่บางทีเขาอาจจะมีโอกาสรอดเมื่ออยู่ข้างกายเจ้าก็เป็นได้”
“อะไรคือโลกนี้ไม่ต้องพลังแห่งชีวิตแล้ว ใบไม้ของเจ้ายอดเยี่ยมมาก มันสามารถสกัดไขวิญญาณแห่งชีวิตธาตุพฤษาออกมาได้มากมายเชียวนะ!” มู่เฉียนซีกล่าว
“นี่เจ้าคิดถึงแต่ใบไม้ของข้าอย่างนั้นหรือ?” ไม้เทพแห่งชีวิตกล่าวขึ้นมาอย่างโมโห
มู่เฉียนซีกล่าวถามว่า “ไม่ใช่น่า! เจ้าจะยอมรับชะตากรรมเช่นนี้จริง ๆ อย่างนั้นหรือ?”
“ข้าเบื่อที่จะต้องอยู่แต่ข้างในนี้ตลอดไป และไม่สามารถออกไปไหนมาไหนได้ อีกอย่างสวรรค์ก็ได้บอกไว้แล้ว ว่าโลกนี้จะต้องมีเทพเจ้าคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นมาแน่นอน เมื่อเขาปรากฏตัวขึ้นมา ผู้คนทั้งหมดบนโลกก็จะสร้างพลังแห่งชีวิตขึ้นมาได้ด้วยตนเอง และไม่จำเป็นต้องอาศัยไม้เทพแห่งชีวิตที่ตายไปแล้วต้นนี้อีกแล้ว”
“แล้วมันอย่างไรล่ะ? ถึงเจ้าจะยอมรับโชคชะตา แต่ข้าไม่มีทางปล่อยให้ชิงอิ่งต้องรับโชคชะตาไปด้วยหรอกนะ!”
นางรู้ดีว่าหากไม้เทพแห่งชีวิตถูกทำลาย ก็มีความเป็นไปได้ถึงแปดส่วนที่ชิงอิ่งอาจจะไม่รอดด้วยเช่นกัน เนื่องจากว่าเดิมทีแล้วพวกเขาคือหนึ่งเดียวกัน
มู่เฉียนซีไม่มีทางยอมให้เกิดความเสี่ยงเช่นนั้นได้แน่ นอกจากนี้นางก็รู้สึกไม่ชอบใจกับความคิดแย่ ๆ ของไม้เทพแห่งชีวิตนี้เลยจริง ๆ
ชิงอิ่งกล่าวตอบว่า “ข้าเชื่อฟังเฉียน”
เขาไม่รู้ว่าโชคชะตาคืออะไร? วิถีแห่งสวรรค์คืออะไร? แต่เขายอมรับเพียงแต่เฉียน และยอมรับเชื่อฟังเพียงคำพูดของเฉียนเท่านั้น!
“เจ้า…พวกเจ้า…”
เฟี้ยว เฟี้ยว เฟี้ยว!
ในเวลานี้ ได้มีคนพุ่งเข้ามาภายในม่านแสงนั้นอย่างทุลักทุเล และเมื่อเขาได้เห็นไม้เทพแห่งชีวิตที่น่าตื่นตะลึงนั้นก็ผงะไปในทันที
“นี่ก็คือไม้เทพแห่งชีวิต ต้นกำเนิดพลังแห่งชีวิต หากสามารถได้รับการยอมรับจากไม้เทพแห่งชีวิตได้ พวกเรา…พวกเราก็จะสามารถครอบครองพลังแห่งชีวิตที่ไม่มีที่สิ้นสุดได้ ทีนี้ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะตายก่อนบรรลุเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นเทพวิญญาณอีกแล้ว”
ผู้อาวุโสกลุ่มก่อนหน้านี้นั้นมีคุณธรรมมากกว่ามากมายนัก แม้ว่าไม้เทพแห่งชีวิตจะเพิกเฉยต่อพวกเขาแต่ก็ไม่ได้รังเกียจพวกเขา แต่ทว่าเมื่อจ้องมองไปที่คนกลุ่มนี้กลับทำให้ไม้เทพแห่งชีวิตไม่พอใจเป็นอย่างมาก!
มันช่างเป็นความโลภที่น่าขยะแขยงเสียจริง ๆ!
“เจ้าดูสิ จิตใจของมนุษย์เป็นเช่นนี้ ข้ารู้สึกว่าการมีชีวิตต่อไปเช่นนี้มันช่างไร้ความหมายนัก! ปล่อยให้สิ่งที่เรียกว่าเทพเจ้าองค์ใหม่สร้างโลกและมนุษย์ที่สามารถสร้างพลังชีวิตได้ด้วยตนเองขึ้นมาใหม่เถอะ! ข้าไม่สนใจแล้ว ข้าไม่อยากทำอะไรแล้ว พวกเจ้ารีบไสหัวออกไปซะ!”
“ไม่สนใจโลกนี้แล้วยังไงล่ะ จิตใจมนุษย์มันทำไมอย่างนั้นหรือ? มีเฉียนอยู่ด้วย อย่างไรเสียมันก็ต้องดีขึ้นอยู่แล้ว!”
ความคิดของพวกเขาทั้งสองคนแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ท่อนไม้ที่มีหัวใจแล้ว ย่อมต้องดื้อรั้นกว่ามันที่ไม่มีหัวใจอยู่แล้ว และไม้เทพแห่งชีวิตก็ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดีแล้วเช่นกัน
มีคนที่มาถึงที่นี่มากขึ้นเรื่อย ๆ พลังแห่งความตายที่ปรากฏตัวขึ้นตรงชายขอบเป็นเหมือนกับเมฆดำที่กำลังปกคลุมไปทั่วทั้งเมืองก็มิปาน
ต้นไม้ปีศาจแห่งความตายกำลังใกล้เข้ามาแล้ว ฉะนั้นวิกฤตก็กำลังใกล้เข้ามาแล้วเช่นกัน!
ผู้อาวุโสที่มาก่อนหน้านี้เหล่านั้นจ้องมองไปยังคนที่มาใหม่พลางกล่าวว่า “ที่แท้ก็เป็นตาแก่อย่างพวกเจ้านี่เอง เลิกคิดที่จะใช้นายท่านไม้เทพแห่งชีวิตเพื่อบรรลุเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นเทพวิญญาณได้แล้ว ตอนนี้มาคิดหาทางช่วยกันจัดการเจ้าต้นไม้ปีศาจแห่งความตายนั้นเถอะ!”
“ตามคำเล่าลือเมื่อนานมาแล้ว เมื่อต้นไม้ปีศาจแห่งความตายปรากฏตัว สิ่งมีชีวิตเกือบทั้งหมดได้ถูกตัดขาดไปอย่างสมบูรณ์”
“เช่นนั้นสุดท้ายแล้วมันจะถูกนายท่านไม้เทพแห่งชีวิตจัดการใช่หรือไม่? คราวนี้นายท่านไม้เทพแห่งชีวิตก็ต้องสามารถจัดการได้เช่นกัน พวกเราเพียงแค่ลงมือให้ความช่วยเหลือ เมื่อถึงตอนนั้นนายท่านไม้เทพแห่งชีวิตจะต้องมอบรางวัลให้พวกเราอย่างงามแน่นอน”
ตูมมม!
แรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัวได้กระทบลงบนม่านพลังสีเขียวอ่อนนั้น ซึ่งพลังแห่งความตายนั้นก็ได้โจมตีเข้ามาด้วยพลังอันยิ่งใหญ่
พรวด พรวด พรวด!
ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณระดับสูงเหล่านั้นถูกแรงกดดันอันมหาศาลตรงเข้ามาโจมตีจนกระเด็นออกไปกลางอากาศและกระอักเลือดออกมา
นี่มันช่างน่าสะพรึงกลัวเหลือเกิน!