ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2310 ความแข็งแกร่งของจิ่วเยี่ย
จักรพรรดิตงหวงกล่าวว่า “ยังไม่ให้พวกเขาเข้ามาอีก หลินหลางสามารถมีชีวิตกลับมาได้ ข้าก็โล่งใจแล้ว โล่งใจแล้วจริง ๆ!”
“เหตุใดแดนซวนเทียนถึงได้เกิดภัยพิบัติมากมายเช่นนี้? จะให้ข้านั่งบนบัลลังก์ดี ๆ สักหน่อยไม่ได้เลยหรืออย่างไรกัน ต้นไม้ปีศาจแห่งความตายนี่ก็เกิดที่ไหนก็ไม่เกิด เหตุใดต้อ องเลือกมาเกิดในแดนซวนเทียนของข้าด้วย” จักรพรรดิตงหวงกล่าวอย่างสิ้นหวังเป็นอย่างมาก
เฟิงฉางหยูพามู่หลินหลางเข้ามา แม้ว่ามู่หลินหลางจะได้รับการช่วยเหลือจากคนของเผ่าคำสาปมาแล้ว แต่ก็ยังคงอยู่ในสภาวะหมดสติ และยังไม่ฟื้นขึ้นมาอยู่ดี
เมื่อจักรพรรดิตงหวงเห็นรอยบนต้นคอของมู่หลินหลาง เขาก็ชักกระบี่ออกมาจ่อที่ต้นคอของเฟิงฉางหยูทันทีพลางกล่าวว่า “เฟิงฉางหยู เจ้าบ้าไปแล้วอย่างนั้นหรือ? คิดไม่ถึงเลยว่า เจ้าจะกล้าแตะต้องหลินหลางเช่นนี้”
เฟิงฉางหยูคลี่ยิ้ม “เจ้าคิดว่าข้าจะแตะต้องของแปลกประหลาดอย่างนางอย่างนั้นหรือ?”
รอยยิ้มบนใบหน้าของเฟิงฉางหยู ทำให้จักรพรรดิตงหวงตื่นตกใจเป็นอย่างมาก เขากล่าวถามว่า “เช่นนั้นผู้ใดเป็นคนทำ?”
“เป่ยกงลั่ว!”
“เหตุใดหลินหลางถึงได้ไปยั่วยุเป่ยกงลั่วได้เล่า? มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ เจ้าอธิบายมาให้ข้าฟังเดี๋ยวนี้”
หลังจากที่จักรพรรดิตงหวงได้ฟังเรื่องที่เฟิงฉางหยูเล่าแล้ว เขาก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาทันที!
“เป่ยกงลั่ว ช่างบังอาจนัก บัดซบเอ้ย!”
“นอกจากนี้เจ้ายังบอกว่า นายท่านเผ่าคำสาปเหล่านั้นถูกคนอื่นกำจัดไปแล้ว และคนพวกนั้นก็รู้จักกับมู่เฉินซีด้วยอย่างนั้นหรือ?”
“ใช่แล้ว ตอนนี้พวกเขาน่าจะกำลังต่อสู้กับต้นไม้ปีศาจแห่งความตายอยู่อย่างแน่นอน และพวกเขาทั้งหมดก็จะต้องตายไปด้วยกัน ดังนั้นองค์จักรพรรดิตงหวงทรงวางพระทัยเถิด ขั้นต่อไปท ที่เราต้องทำก็คือคิดหาทางว่าจะเอาใจนายท่านต้นไม้ปีศาจอย่างไร เมื่อเราเชื่อฟังมันแล้ว หลังจากนั้นก็ขอให้มันปล่อยพวกเราไป ซึ่งเราต้องชิงลงมือก่อนราชวงศ์เป่ยกง เพื่อที่จะ ครองโอกาสนี้ไว้ให้ได้” เฟิงฉางหยูกล่าว
“ต้องขอบคุณพี่หยูที่กล่าวเตือนข้า เหตุใดข้าถึงคิดเช่นนั้นไม่ได้กันนะ! ความจริงแล้วพวกเราไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวต้นไม้ปีศาจแห่งความตายเลย ขอเพียงไม่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับมัน และตอบสนองความต้องการของมันได้ มันก็น่าจะไม่ฆ่าพวกเราทั้งหมดแล้วล่ะ!” และในที่สุดคิ้วที่ขมวดกันมุ่นอยู่ตลอดของจักรพรรดิตงหวงก็ผ่อนคลายลงได้เสียที
พวกเขาไม่มีความคิดว่าไม้เทพแห่งชีวิตจะได้รับชัยชนะอยู่เลย นั่นก็เป็นเพราะพวกเขาเห็นว่าพลังแห่งความตายที่แผ่ขยายออกมานั้นแข็งแกร่งกว่าพลังแห่งชีวิตมากเพียงใด
และในเมื่อพลังแห่งความตายแข็งแกร่งกว่าพลังแห่งชีวิต มันก็แสดงให้เห็นว่าไม้เทพแห่งชีวิตนั้นอ่อนแอกว่าอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งมันต้องถูกต้นไม้ปีศาจแห่งความตายทำลายล้างอย่างแ แน่นอน
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ!
ภายในชนบทเล็ก ๆ ที่เร้นลับแห่งหนึ่ง ก็มีใบไม้แห่งชีวิตอีกใบหนึ่งถูกบดขยี้จนกลายเป็นริ้วแสงออกมา
บนหน้าผากของพวกจูเชว่ต่างก็มีเหงื่อเย็นไหลทะลักออกมา “ยังมีอยู่ ยังเหลือของไป๋เจ๋อ! ท่านพ่อบุญธรรมท่านต้องทนเอาไว้ให้ได้นะขอรับ!”
พลังที่ไร้ขอบเขตที่อยู่เหนือมหาสุทรของแดนซวนเทียน และการต่อสู้นั้นยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง
และการต่อสู้ในคราวนี้ก็ไม่รู้ว่าจะต่อสู้กันไปจนถึงเมื่อไร? และจะมีผลลัพธ์เป็นอย่างไรกันแน่? ซึ่งพวกเขาก็ไม่แน่ใจเช่นกัน!
แต่ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาจะไม่มีทางยอมแพ้ ไม่มีทางเด็ดขาด!
ฉงหมิง อากุ่ยรวมไปถึงชิงหลง นอกจากนี้ยังมีไป๋หู่ และเทียนจือรออยู่ด้านอีกด้วย
“หมอปีศาจที่สามารถช่วยพ่อบุญธรรมได้ไปไหนแล้วล่ะ? ข้าจะไปเอาเขากลับมาเอง ข้าไม่สนใจว่าสถานการณ์ตอนนี้จะวุ่นวายมากเพียงใด ข้าก็จะเอาเขากลับมาให้ได้” ไป๋หู่กล่าว
“นางผู้หญิงบ้านั่นไปอยู่ที่ไหนแล้วล่ะ?”
“ข้าจะไปลากซวนอู่ออกมาเอง!”
ตอนนี้ทั้งซวนอู่และจูเชว่ต่างก็ออกมากันหมดแล้ว ส่วนไป๋เจ๋อก็ค่อยดูแลพ่อบุญธรรมของพวกเขาอยู่ข้างใน
ไป๋หู่กล่าวพลางจ้องมองไปยังซวนอู่ด้วยดวงตาที่เหมือนกับเหยี่ยวก็มิปานของเขา “หมอปีศาจอยู่ที่ใด?”
“ข้ารู้! แต่ว่า…”
แน่นอนว่าเขาต้องรู้อยู่แล้วว่านางอยู่ที่ใด แต่หากบอกไป๋หู่ เขาจะต้องตรงไปที่นั่น โดยไม่สนว่าจะมีอันตรามากเพียงใดอย่างแน่นอน
ในบรรดาพวกเขา ไป๋หู่เห็นพ่อบุญธรรมเป็นคนสำคัญมากที่สุดแล้ว และตัวเขาเองก็เป็นคนที่ไม่กลัวตายคนหนึ่งอีกด้วย!
ไป๋หู่ปล่อยหมัดตรงเข้าไป พลางกล่าวอย่างเย็นชาว่า “หากไม่บอกข้า เช่นนั้นข้าก็จะต่อยเจ้าจนกว่าเจ้าจะยอมบอกข้า”
“พี่ใหญ่ซวนอู่!”
ในฐานะที่อากุ่ยเป็นผู้ติดตามอันดับหนึ่ง เขาจึงรีบพุ่งทะยานเข้ามาช่วยเหลือทันที!
จูเชว่กล่าวว่า “ต้องการจะสู้อย่างนั้นสินะ! ข้าเองก็ไม่ได้ประลองกับพี่ไป๋หู่มานานมากแล้วเช่นกัน พวกเราย้ายสถานที่กันเถอะ อย่าให้ต้องไปรบกวนท่านพ่อบุญธรรมเลย”
ภายในใจของจูเชว่กำลังไม่สงบเป็นอย่างมาก แต่เพราะอาการป่วยของพ่อบุญธรรม เขาเลยต้องระงับอารมณ์ของตนเองเอาไว้ และไม่กล้าที่จะระบายออกมา!
แต่ด้วยความอารมณ์ร้อนของไป๋หู่มันจึงได้จุดชนวนไฟโทสะขึ้นอย่างสมบูรณ์ จะสู้ก็สู้สิ ใครกลัวใครกัน?
พวกเขาได้ไปถึงตำหนักเทพแห่งชีวิต ทั้งยังยกระดับความสามารถที่มหาสมุทรแห่งชีวิตมาไม่น้อยอีกด้วย
“ตกลง!” การจะมาสู้กันนี้เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงได้เปลี่ยนสถานที่กัน
พวกเขาทั้งแปดคนได้ถูกแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ซวนอู่ จูเชว่ ชิงหลง ปี้ฟางและฉงหมิงทั้งห้าคนคือฝ่ายเดียวกัน
ส่วนไป๋หู่กับเทียนจือทั้งสองคนก็อยู่ฝ่ายเดียวกัน ฉะนั้นจึงไม่มีข้อได้เปรียบเกี่ยวกับจำนวนคนแต่อย่างใด!
แต่ก่อนหน้านี้ถึงจะมีข้อได้เปรียบเรื่องจำนวนคน เขาก็สามารถทรมานพวกเขาได้อยู่ดี ฉะนั้นไป๋หู่จึงเริ่มลงมือทันที
ตูมมม!
ครั้งแรกที่ปะทะกัน ก็ทำให้ไป๋หู่ค้นพบว่าความสามารถของน้องชายเหล่านี้สูงขึ้นมาไม่น้อยเลย และพลังในการต่อสู้ที่อยู่ในสายตาของเขาก็แข็งแกร่งมากขึ้นเช่นกัน
การต่อสู้ระหว่างต้นไม้ปีศาจแห่งความตายกับจิ่วเยี่ยก็มีความดุเดือดเป็นอย่างมาก และมู่เฉียนซีที่กำลังกลั่นยาเพื่อระงับสถานการณ์ในตอนนี้ของจิ่วเยี่ยก็ได้กลั่นยาโดยไม่สนใจเร รื่องวันเวลาไปอย่างสิ้นเชิง และตอนนี้มันก็ผ่านไปเป็นเวลาสามวันสามคืนแล้ว
เพียงแต่ตอนนี้ทั้งพลังแห่งความมืดและพลังแห่งความตายได้ปกคลุมไปทั่วทั้งท้องฟ้า จนทำให้ทั้งดวงอาทิตย์กับจันทราล้วนถูกบกบังอยู่ตลอดทั้งวัน
พลังของจิ่วเยี่ยในเวลานี้ได้ปะทุขึ้นมาอย่างบ้าคลั่งมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว ซึ่งนี่ก็ทำให้ต้นไม้ปีศาจแห่งความตายสูญเสียไปมากเช่นกัน
ปัง ปัง ปัง!
ด้วยระยะเวลาการต่อสู้ที่ยาวนานทำให้ต้นไม้ปีศาจแห่งความตายมีความหวาดกลัวต่อจิ่วเยี่ยมากขึ้นไปอีก
และเมื่อมองดูเขาก็รู้สึกราวกับว่าคนผู้นี้เหมือนสัตว์ร้ายบ้าคลั่งที่หลุดออกมาจากกรงขังอย่างไรอย่างนั้น ซึ่งทุกอย่างในสายตาของเขาก็เป็นเพียงมดปลวกเท่านั้น
และมดปลวกตัวหนึ่งนั้นก็รวมถึงมันด้วย มันที่ซึ่งเป็นต้นไม้ปีศาจแห่งความตายของเทพปีศาจยักษ์โบราณอันทรงพลังผู้นั้น
“พวกเรา…พวกเรามาคุยกันดี ๆ ก็ได้นะ ความจริงแล้วไม่จำเป็นที่จะต้องสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายเช่นนี้เลย”
น้ำเสียงของต้นไม้ปีศาจแห่งความตายไม่ได้จองหองเหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว และมันยังดูค่อนข้างจะนอบน้อมมากอีกด้วย
แม้จะเผชิญหน้ากับไม้เทพแห่งชีวิตมันก็ไม่เคยที่จะอึดอัดใจเช่นนี้มาก่อนเลย แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับชายที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ มันกลับจนปัญญาแล้วจริง ๆ
สภาวะของจิ่วเยี่ยในตอนนี้ไม่ได้ยินแม้แต่คำพูดของมู่เฉียนซีเลยด้วยซ้ำ แล้วเขาจะไปฟังคำพูดไร้สาระของต้นไม้ปีศาจแห่งความตายได้อย่างไร?
ทันทีที่จิ่วเยี่ยโบกมือ ก็ได้ใช้พลังแห่งความมืดทำลายล้างเข็มปีศาจแห่งความตายที่ต้นไม้ปีศาจแห่งความตายใช้ในการลอบโจมตีจนหมดสิ้น และตอนนี้ก็ทำให้พวกมันกลายเป็นเพียงความว่า างเปล่าไปเท่านั้น
มู่เฉียนซีจ้องมองยาน้ำที่อยู่ในมือของตนเอง มันยังไม่ได้ นางจึงขมวดคิ้วมุ่นขึ้นมาทันที
จื่อโยวทำได้เพียงเฝ้ามองอยู่อีกด้านหนึ่งเท่านั้น เพราะการต่อสู้ของทางฝั่งเยี่ยเขาก็ไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้ และการกลั่นยาน้ำของทางฝั่งคนงาม เขาเองก็ช่วยเหลือไม่ได ด้อีกเช่นกัน
เขากล่าวว่า “คนงาม เจ้าลองดูทางด้านนั้นสิ! ตอนนี้เยี่ยได้เปรียบแล้ว เจ้าต้นไม้ปีศาจแห่งความตายนั่นต้องตายแน่นอน”
ไม่ว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม แต่หากเยี่ยสามารถเอาชนะได้ มันก็จะต้องเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากแน่นอน
มู่เฉียนซีพยักหน้าเล็กน้อยพลางกล่าวว่า “จิ่วเยี่ยของข้า ย่อมต้องยอดเยี่ยมอยู่แล้ว!”
แต่ทว่าภายในใจของนางกลับขมขื่นเล็กน้อย เพราะเมื่อไรที่ต้นไม้ปีศาจแห่งความตายถูกจัดการไป ที่นี้ก็จะถึงคราวของพวกเขาที่ต้องปะทะกับจิ่วเยี่ยแล้วใช่หรือไม่?
นางกลั่นยาออกมาแล้วหลายสิบชนิด แต่ผลกลับไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าไรนัก และมู่เฉียนซีก็ไม่ได้หวังว่ายาที่นางกลั่นมาเหล่านี้จะสามารถระงับพลังคำสาปที่ระเบิดออกมาของเขาได้ อีกด้วย
มันไม่มีทางอื่นแล้วอย่างนั้นหรือ?
มู่เฉียนซีหยิบเอาคัมภีร์หมื่นคำสาปออกมาอีกครั้ง และเมื่อคัมภีร์หมื่นคำสาปนั้นถูกเปิดออกอย่างแผ่วเบา มันก็กล่าวว่า “อย่ามาถามข้า! ข้าเองก็ไม่รู้ว่าต้องทำเช่นไรเหมือนกั น เจ้าพวกเผ่าคำสาปกลุ่มนั้นก็โง่เง่าเสียเหลือเกิน! คิดไม่ถึงว่าจะใช้วิชาคำสาปแบบนี้กับเขา นี่คิดจะให้วิชาคำสาปนี้มาทดแทนความสามารถของตัวเขาอย่างนั้นหรือ ฮ่า ฮ่า ฮ่า! เจ้ าคนของเผ่าคำสาปเหล่านั้นต้องการที่จะทำลายโลกนี้อย่างสมบูรณ์หรืออย่างไรกัน?”
ร่างของมู่เฉียนซีสั่นเทาเล็กน้อย “คัมภีร์หมื่นคำสาป ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เจ้าจะมามีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นหรอกนะ”
“ข้าก็ไม่ได้มีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นสักหน่อย! เพราะในเมื่อเจ้าหมอนั่นกลายเป็นเช่นนั้นไปแล้ว ตัวข้าเองก็อาจจะถูกทำลายไปด้วย อย่างเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน” คัมภีร์หมื่นค คำสาปกล่าวอย่างจนปัญญา
คัมภีร์หมื่นคำสาปกล่าวว่า “ใช่แล้วล่ะ! ไม่มีทางแก้ไขได้หรอก ในสถานการณ์ที่ข้ารับรู้มันก็เป็นเช่นนี้แหละ”
“เช่นนั้นเจ้ารู้หรือไม่ ว่าเพราะเหตุใดในวิธีถอนคำสาปนี้ถึงจำเป็นต้องใช้หัวใจแห่งชีวิตด้วย?”