ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2312 ความหลงใหลที่ลึกซึ้ง
จูเชว่กำหมัดแน่น พลางกล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “ข้าทนต่อไปไม่ไหวแล้ว ข้าต้องขออภัยพ่อบุญธรรม ที่ข้าอกตัญญู! แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ข้าก็ต้องไปเจอซีซีให้ได้!”
ร่างสีแดงสว่างวาบขึ้น และจูเชว่ก็พุ่งทะยานออกไปทันที
“หมอปีศาจอยู่ทางด้านนั้นอย่างนั้นหรือ? ข้าก็จะไปด้วย!” ไป๋หู่ก็ไล่ตามไปเช่นกัน
“ตอนนี้พวกข้าก็จนปัญญาแล้วเช่นกัน แม้ว่าพลังแห่งความตายจะหายไปแล้ว แต่ท่านพ่อบุญธรรมยังต้องอาศัยใบไม้แห่งชีวิตในการรักษาชีวิตรอด ฉะนั้นการพามู่เฉินซีกลับมาจึงเป็นทางเล ลือกเดียวเท่านั้น” และซวนอู่เองก็ไล่ตามไปอีกคนหนึ่ง
ตอนนี้มีเพียงไป๋เจ๋อคนเดียวเท่านั้นที่คอยดูแลพ่อบุญธรรมอยู่ เขากล่าวด้วยเสียงเคร่งขรึมว่า “เฉียนซี เจ้าจะต้องกลับมาได้แน่”
หลังจากที่พลังแห่งความตายหายไปแล้ว ไป๋เจ๋อก็ค้นพบว่าพ่อบุญธรรมกล่าวพึมพำบางอย่างออกมาขณะที่กำลังหมดสติอยู่ “ซีเอ๋อร์…”
“ซีเอ๋อร์…”
เขารู้ดีว่า เขาไม่รู้ชื่อเต็มของน้องสาวบุญธรรมของเขา แต่รู้ว่าในชื่อของนางนั้นมีคำว่าซีอยู่ด้วย ซึ่งมันก็คือซีเดียวกันกับชื่อของเฉียนซีเลย
ในตอนที่พ่อบุญธรรมรู้สึกสิ้นหวังก่อนหน้านี้ ชื่อเหล่านี้ก็มักจะคอยสนับสนุนให้พ่อบุญธรรมฝ่าฟันไปได้เสมอ และในบรรดาชื่อเหล่านั้นน้องสาวบุญธรรมของเขาก็มีความสำคัญมากเป็นพิเ เศษ
เขาหวังว่าคราวนี้ พ่อบุญธรรมก็จะสามารถอาศัยความคิดถึงและความยึดติดต่อน้องสาวบุญธรรมรวมไปถึงท่านแม่บุญธรรม ฝ่าฟันความยากลำบากในครั้งนี้ไปได้เช่นกัน
จิ่วเยี่ยในตอนนี้กำลังยืนอยู่กลางอากาศ สายลมที่บ้าคลั่งนั่นพัดเส้นผมสีดำขลับของเขาจนปลิวไสว เขาทำลายต้นไม้ปีศาจแห่งความตาย และกลืนกินพลังที่แข็งแกร่งของต้นไม้ปีศาจแห ห่งความตาย โดยที่ใบหน้าของเขาไม่แสดงออกเลยแม้แต่นิดเดียว
ดวงตาของเขาหันกลับมา จากนั้นก็จ้องมองไปที่ร่างของมู่เฉียนซี
เขาต้องการนาง!
ทุกอณูในร่างกายรวมไปถึงจิตวิญญาณกำลังกรีดร้องออกมา แม้ว่าพลังคำสาปของจิ่วเยี่ยจะระเบิดออกมาอย่างสมบูรณ์ แต่ความหลงใหลในหญิงสาวอันเป็นที่รักของตนเองนั้นยังคงลึกซึ้งอยู่ เช่นเคย
เขาได้ลืมความคาดหวังที่ต้นไม้ปีศาจแห่งความตายต้องการให้เขาทำลายล้างโลกต่อจากนี้ไปแล้ว และก็คิดถึงเพียงคนคนเดียวเท่านั้น เมื่อได้รับมันแล้ว เขาก็จะทำให้ทุกอย่างว่างเปล่ าอีกครั้ง
ตอนที่พลังแห่งคำสาปปะทุขึ้นมาก่อนหน้านี้ นางก็เคยเห็นแววตาเช่นนี้ของจิ่วเยี่ยมาแล้ว แต่ทว่าคราวนี้กลับอันตรายมากยิ่งกว่าเดิมมากนัก
แววตาของมู่เฉียนซีมืดมนลง พลางกล่าวว่า “จิ่วเยี่ย พาข้าไปเถอะ! ไปยังสถานที่ที่ไม่มีคนกันเถอะ”
อย่างน้อยหลังจากที่กลืนกินพลังแห่งความตายเสร็จแล้วเขาก็ไม่ได้ลงมือทำลายแดนซวนเทียน และฆ่านางกับพวกของจื่อโยวทั้งหมดในทันที เขาเพียงแค่มองมาที่นางเท่านั้น ถึงแม้ว่า สายตานั้นราวกับว่าจะกลืนกินชีวิตของนางก็ตาม
มู่เฉียนซีไม่กลัว แม้ว่าต้นกำเนิดของคำสาปแห่งความมืดจะส่งผลกระทบต่อจิ่วเยี่ยอย่างสมบูรณ์ แต่คนที่อยู่ตรงหน้าของนางก็ยังคงเป็นเขาอยู่ดี
“เจ้าบ้าไปแล้วอย่างนั้นหรือ? คิดไม่ถึงเลยว่าจะกล้าไปกับเขาเพียงลำพัง เจ้ายอมแพ้ที่จะมีชีวิตอยู่แล้วหรืออย่างไรกัน?”
ไม้เทพแห่งชีวิตพุ่งขึ้นมาทันที ส่วนชิงอิ่งก็กระโจนขึ้นไปกลางอากาศด้วยเช่นกัน ชิงอิ่งกล่าวว่า “เฉียน เขาอันตรายมากเกินไป จะปล่อยให้เขาพาเจ้าไปไม่ได้!”
ชิงอิ่งและไม้เทพแห่งชีวิตผสานเข้าด้วยกัน จากนั้นพลังของมันก็กลับมาถึงจุดสูงสุดในชั่วพริบตาอีกครั้ง
แต่เมื่อศัตรูที่มันต้องเผชิญหน้าคือจิ่วเยี่ย ก็ได้ทำให้สภาพจิตใจของมันตึงเครียดขึ้นมาทันที
อันตรายเกินไปแล้ว แม้แต่ต้นไม้ปีศาจแห่งความตายยังถูกเขาทำลาย ฉะนั้นมันจึงไม่แน่ใจเลยว่าจะจัดการเขาได้
ไม่ว่าจะลงมือหรือไม่ ผลสุดท้ายก็เหมือนกันอยู่ดี
ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าเด็กโง่ผู้นี้ยังเตรียมที่จะแลกทุกอย่างเพื่อไปจัดการคนผู้นี้แล้ว มันจึงหมดทางเลือกเช่นกัน
อย่างไรเสียมันก็เลือกที่จะหายไปตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ฉะนั้นการตายด้วยน้ำมือของชายผู้นี้ก็จะทำให้มันหายไปอย่างสมบูรณ์มากขึ้นไปอีก นั่นมันไม่เท่ากับว่าสมความปรารถนาของมัน พอดีเลยอย่างนั้นหรือ? ดังนั้นจึงไม่มีอะไรน่ากลัวเลย
ไม้เทพแห่งชีวิตทุ่มสุดตัวเพื่อจัดการจิ่วเยี่ย แต่พวกเขาต่างก็รู้ดีว่า ความสามารถในการต่อสู้นี้มีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดมากเพียงใด
จื่อโยวกล่าวว่า “คนงาม หนีไปเถอะ! ให้ผู้พิทักษ์นิรันดร์พาเจ้าหนีไปซะ”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ไปหรือ! ข้าจะไปที่ใดได้ล่ะ? ข้ามั่นใจเลยว่า หลังจากที่ข้าไปแล้วจิ่วเยี่ยจะต้องทำลายโลกนี้แล้วหาข้าจนเจอแน่นอน ฉะนั้นต่อให้ไปที่ไหนก็ไม่มีประโยชน์หรอก ก!”
“พวกเจ้าไปเถอะ! หาสถานที่ที่ปลอดภัย พวกเจาล้วนเป็นคนที่จิ่วเยี่ยเชื่อใจ หากเขาไม่ได้รับผลกระทบจากคำสาป เขาคงไม่อยากให้พวกเจ้าต้องมาตายแน่นอน” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยเสียงทุ มต่ำ
“แต่พวกข้าจะละเลยคำสั่งของเยี่ยได้อย่างไร! เยี่ยไม่สนใจหรอก ถึงโลกจำนวนนับไม่ถ้วนจะถูกทำลายแล้วจะทำไมล่ะ? หากทำอันตรายเจ้าได้ช้าไปอีกสักหน่อย สำหรับเขาถือว่าเป็นผลลัพธ์ ที่ดีที่สุดแล้ว ฉะนั้นเขาจึงพูดมาตั้งแต่แรกแล้ว ว่าจะต้องพาเจ้าหนีไป ข้ารู้จักมิติลึกลับสองสามแห่ง คนงาม ไปกันเถอะ! ถือว่าข้าขอร้องเจ้าเถอะ”
น้ำเสียงของจื่อโยวแหบพร่าขึ้นมาทันที เจ้าพวกสารเลวกลุ่มนั้น หากไม่ใช่เพราะพวกมันวางแผนร้ายกับเยี่ยอย่างชั่วร้าย และต้องการจะจัดการเยี่ย เขาคงไม่มีทางเดินมาถึงจุดนี้ได ด้หรอก?
ถึงมีคนที่รักแต่ก็ไม่สามารถรักกันได้อย่างราบรื่น ทั้งยังไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ และต้องมาเผชิญหน้ากับชะตากรรมที่เจ็บปวดยิ่งกว่าการพลัดพรากจากกันอีก
“ข้าไม่อยากไป ข้าไม่อยากซ่อนตัวจากจิ่วเยี่ย จื่อโยวเจ้ายอมแพ้เถอะ! เจ้าพาข้าไปไม่ได้หรอก?” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างหนักแน่น
จื่อโยวรู้ดีว่าคนงามมีความยึดมั่นของตนเอง และตอนนี้นางก็ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น อีกทั้งยังไม่กลัวท่าทางที่บ้าคลั่งของเยี่ย ไม่กลัวเยี่ยจะทำร้าย หรือถูกเขาฆ่าเลยด้วยซ้ำ
แต่เยี่ยกลัว! เยี่ยกลัวที่จะทำร้ายนาง เขากลัวมากจริง ๆ! ฉะนั้นเขาจึงได้มอบภารกิจที่ยากลำบากนี้ให้กับเขา
“ข้าต้องขอโทษเจ้าแล้วล่ะคนงาม ข้าจำเป็นที่จะต้องทำภารกิจนี้ให้สำเร็จให้ได้”
ในเมื่อจื่อโยวลงมือ แล้วมู่เฉียนซีจะเป็นคู่ต่อสู้ของเจ้าหมอนี่ได้อย่างไร
หากไม่อยากถูกจื่อโยวตีจนสลบแล้วพาตัวไป มู่เฉียนซีก็ทำได้เพียงอาศัยการป้องกันของสุ่ยจิงอิ๋งเท่านั้น เพราะถึงแม้ว่าจะเป็นจื่อโยว ก็ไม่มีทางทำลายการป้องกันของสุ่ยจิงอิ งได้อยู่ดี
แต่ทว่าในตอนที่มู่เฉียนซีร้องเรียกสุ่ยจิงอิ๋งนั้น สุ่ยจิงอิ๋งกลับกล่าวว่า “ซีเอ๋อร์ ต้องขอโทษด้วย! ข้าทำไม่ได้”
สุ่ยจิงอิ๋งคิดว่า สามารถฝืนซื้อเวลาได้ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น
แม้ว่าจะฝืนบังคับให้พวกเขาทั้งสี่ตื่นขึ้นมา เมื่อถึงเวลาที่ต้องต่อสู้กับจิ่วเยี่ยอย่างสุดชีวิต ก็จะไม่มีทางปล่อยให้เขาที่กำลังบ้าคลั่งทำร้ายซีเอ๋อร์ได้แม้แต่ปลายเล็บแน น่นอน
จิ่วเยี่ยคือคนรักของซีเอ๋อร์ แต่คนที่นางสนใจมากที่สุดก็คือซีเอ๋อร์ เพราะนางคือผู้ทำสัญญาของพวกเขานั่นเอง
ร่างของมู่เฉียนซีสั่นเทาเล็กน้อย และในตอนที่จื่อโยวกำลังเขามาใกล้ แม้นางจะใช้การเคลื่อนย้ายภายในชั่วพริบตาแต่ก็หลบหลีกไม่พ้นอยู่ดี
ในตอนที่จื่อโยวกำลังจะสัมผัสมู่เฉียนซี พลังที่น่าสะพรึงกลัวก็เจาะทะลุร่างของจื่อโยวโดยตรง
ตึงง!
จื่อโยวลอยกระเด็นออกไปทันที
เขามองเห็นเยี่ยของพวกเขาจ้องมองมาทางเขาอย่างน่าสะพรึ่งกลัว จากนั้นก็กล่าวอย่างเย็นชาว่า “อย่าแตะต้องนาง!”
แม้ว่าสติทั้งหมดของเขาจะหายไปแล้ว แต่เยี่ยก็ยังหึงหวงนางขนาดนี้เลยอย่างนั้นหรือ?
ถึงเขามักจะอยู่ในดงของมวลดอกไม้งามอยู่เสมอ แต่เขาก็ไม่เคยเชื่อเรื่องความรักเลย
แต่ทุกครั้งที่คนงามกับเยี่ยใกล้ชิดกัน ทุกครั้งที่อยู่ด้วยกัน มันได้ทำให้ความรู้สึกของพวกเขายิ่งลึกซึ้งมากขึ้นในทุก ๆ ครั้ง ซึ่งมันก็ทำให้เขาได้รู้ว่าความคิดของเขาก่อนห หน้านี้มันผิดไปมากนัก
พวกเขามีความรักต่อกันและกันมากจริง ๆ ซึ่งเขาก็หวังว่าพวกเขาจะต้องมีชีวิตที่ดียิ่งกว่านี้ และอยู่ด้วยกันตลอดไป แต่เหตุใดโชคชะตาถึงต้องมาเล่นตลกกับพวกเขาเช่นนี้ด้วย
พรวด!
และจื่อโยวก็กระอักเลือดสด ๆ ออกมา
ตอนที่คำสาปของเยี่ยระเบิดออกมาก่อนหน้านี้เขาก็ไม่เคยทำร้ายนางมาก่อน แต่คราวนี้หลังจากที่เยี่ยกลืนกินพลังแห่งความตายเข้าไป ความสามารถของเขาก็เปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งมากขึ้นไ ไปอีก ฉะนั้นเขาจึงรู้สึกว่าครั้งนี้เขาคงจะต้องตายจริง ๆ อย่างแน่นอน
แต่ก็ดีเหมือนกัน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ตกอยู่ในสภาวะลำบากใจ ฉะนั้นเขาต้องพาคนงามไปให้ได้ เพราะหากไม่พาไปก็ไม่ได้อยู่ดี!
ฉึก!
มีเข็มยาเล่มหนึ่งแทงทะลุเข้าไปในหน้าอกของเขา จื่อโยวกล่าวว่า “คนงาม หากข้าตายข้าก็จะพาเจ้าไปไม่ได้ ฉะนั้นเจ้าก็อย่าช่วยข้าอีกเลย”
“เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้ว!”
“อาการบาดเจ็บสาหัสเกินไป ข้าพยายามระงับพลังแห่งความตายเอาไว้แล้ว มาถึงตอนนี้ข้าทำได้เพียงให้อวัยวะภายในร่างกายของเจ้าหยุดทำงานชั่วคราวเท่านั้น ฉะนั้นเจ้าก็นอนสักตื่นหนึ่ง งเถอะ!” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำ
นางทำให้อวัยวะภายในร่างกายของเขาหยุดทำงานชั่วคราวเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้ หากนางเอาชีวิตไม่รอด แล้วผู้ใดจะสามารถช่วยชีวิตจื่อโยวได้อีกล่ะ?
สีหน้าของมู่เฉียนซีซีดเผือดทันที แต่นางกลับไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว เพราะอย่างไรเสียแค่มีความหวังเพียงเล็กน้อยก็เพียงพอแล้ว
รอยยิ้มที่มีเสน่ห์อย่างชั่วร้ายปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของจื่อโยว เขากล่าวว่า “ได้สิ! ข้าเริ่มง่วงแล้วเหมือนกัน ถูกพลังที่น่ากลัวนั่นโจมตีจนบาดเจ็บสาหัสติดต่อกันถึงสองครั้ง ง มันทำให้ข้าเจ็บปวดมากจริง ๆ”