ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2313 จะกินเจ้าแล้วนะ
ตูมม โครมมม!
มีเสียงระเบิดดังกึกก้องขึ้นมาในกลางอากาศ
บนลำต้นของไม้เทพแห่งชีวิตปรากฏรอยแตกมากมายนับไม่ถ้วน และมันก็ไม่สามารถใช้พลังแห่งขีวิตในการซ่อมแซ่มรอยแตกเหล่านั้นได้อีกด้วย
การที่หวงจิ่วเยี่ยได้ต่อสู้กับต้นไม้ปีศาจแห่งความตาย แต่มันก็ไม่ได้ผลาญพลังของเขาไปมากมายอย่างที่มันจินตนาการเอาไว้ นอกจากจากนี้ยังตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง และเขากลับ แข็งแรงมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ถึงไม้เทพแห่งชีวิตจะเริ่มโจมตี แต่ก็ยังคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจิ่วเยี่ยอยู่ดี
ตูมมม!
จิ่วเยี่ยได้โจมตีไม้เทพแห่งชีวิตจนลอยกระเด็นออกไปโดยตรง
เขาไม่ค่อยสนใจในการต่อสู้นี้มากเท่าไรนัก เพราะตอนนี้เขาสนใจคนผู้นั้นมากกว่า คนคนนั้น…
คนผู้นั้นถูกจารึกไว้ในกระดูกดำ และจิตวิญญาณส่วนที่ลึกที่สุดของเขา ซึ่งยากที่จะลืมเลือนคนผู้นี้ได้
มู่เฉียนซีที่เพิ่งจะหยุดการทำงานภายในร่างกายให้จื่อโยวได้ถูกดึงตัวไปด้วยพลังที่แข็งแกร่ง และตกลงสู่อ้อมกอดที่อันตรายนั้นอย่างรวดเร็ว
แม้ว่าทั่วทั้งตัวของคนที่อยู่ข้างกายนางนั้นจะมีกลิ่นอายที่สามารถทำลายทุกสรรพสิ่งได้ แต่มู่เฉียนซีก็ยังคงกล่าวขึ้นมาอย่างปกติว่า “จิ่วเยี่ย…”
“พวกเรา…อุ้บ…”
คำพูดที่อยากจะพูดของนาง ได้ถูกจิ่วเยี่ยผนึกเอาไว้ พร้อมกับความปรารถนาภายในหัวใจที่กำลังกรีดร้องของเขาอย่างสมบูรณ์แล้ว
เขารอไม่ไหวแล้ว รออีกไม่ไหวแล้ว
เขาจุมพิตมู่เฉียนซีด้วยหัวใจที่ร้อนรุ่ม จนกระทั่งมู่เฉียนซีใกล้จะหายใจไม่ออก เขาถึงได้ยอมปล่อยนางไป
มืออันเรียวบางของมู่เฉียนซีสัมผัสไปบนใบหน้าที่เต็มไปด้วยอักขระคำสาปนั้น และนางก็กล่าวด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่นว่า “จิ่วเยี่ย ข้ายังไม่ได้รักษาเจ้าจนหายดีเลย! ดูเหมือนว่าข ข้าคงไม่มีทางทำให้เจ้ากลายเป็นของข้าแล้วสินะ”
“ตัวเจ้าเป็นของข้า!” น้ำเสียงที่แหบพร่าดังเข้ามาในหูของมู่เฉียนซี
จิ่วเยี่ยกอดมู่เฉียนซีเอาไว้ และเตรียมที่จะหายไปจากที่นี่ เขาคิดที่จะซ่อนนางไว้ในสถานที่ที่ไม่มีคน หลังจากนั้นนางก็จะเป็นของตนเขาโดยสมบูรณ์
ในตอนที่จิ่วเยี่ยออกไป ร่างเงาสีเขียวอ่อนร่างหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน ซึ่งก็คือชิงอิ่งนั่นเอง
ชิงอิ่งกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ปล่อยเฉียนซะ!”
“ชิงอิ่ง เจ้าถอยออกไปซะ เร็วเข้า!” มู่เฉียนซีกล่าว
แต่ชิงอิ่งไม่ยอมถอยไปแม้แต่ก้าวเดียว เขาไม่ยอมปล่อยให้คนผู้นี้พาเฉียนไปแน่ และเขาก็ไม่กล้าจะจินตนาการเลยว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง?
“ข้าสามารถปกป้องเฉียนได้!”
“ช่างรนหาที่ตายนัก!”
จิ่วเยี่ยกล่าวอย่างดุดัน จากนั้นก็ลงมือทันที ตูมม! ร่างของชิงอิ่งถูกโจมตีจนลอยกระเด็นออกไป และแขนของเขาก็หายไปทันที
ด้วยเหตุนี้ร่างกายของหุ่นเชิดนี้ ก็เปลี่ยนกลายเป็นรูพรุนขึ้นมาทันที
“ข้าไม่มีทางอนุญาตให้เจ้าทำร้ายเฉียนแน่นอน แม้ว่าเจ้าจะเป็นคนรักของเฉียนก็ตาม!” ดวงตาสีดำคู่นั้นของชิงอิ่งเปล่งประกายด้วยลำแสงสีเขียวทันที และทันใดนั้นพลังแห่งชีวิตก็ได ด้มารวมตัวกันขึ้นมา ซึ่งก็รวมไปถึงพลังแห่งชีวิตจากโลกต่าง ๆด้วย
มันรวมไปถึงพืช สัตว์ สัตว์วิญญาณ และยังมีมนุษย์…
ไม้เทพแห่งชีวิตไม่คิดทำเรื่องเช่นนี้มาก่อน แต่ว่าชิงอิ่งกลับทำมัน มิเช่นนั้นตอนที่ไม้เทพแห่งชีวิตจัดการกับต้นไม้ปีศาจแห่งความตายก่อนหน้านี้คงไม่มีทางเสียเปรียบแน่นอน
แต่ชิงอิ่งไม่เหมือนกัน เพราะเขาสามารถทำทุกวิถีทางเพื่อคนที่เขาต้องการจะปกป้องได้นั่นเอง
ทั่วทั้งแดนซวนเทียนรวมไปถึงดินแดนทั้งสี่ทิศ โลกของหงส์ โลกของมังกรต่างก็มีพลังแห่งชีวิตพวยพุ่งออกมา และมารวมตัวกันอยู่ที่ร่างของเขา
“นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? ไม้เทพแห่งชีวิตกำลังสูบเอาพลังแห่งชีวิตไปอย่างนั้นหรือ”
“มันจะต้องเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแน่นอน พวกเราจะต้องช่วยนายท่านไม้เทพแห่งชีวิต ต้องเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือเขา”
“……”
ทั้งพืชและสัตว์ต่างมีความศรัทธาต่อพลังชีวิตอย่างจริงใจ รวมไปถึงมนุษย์ด้วยเช่นกัน
แม้จะมีบางคนที่หวาดกลัวการสูญเสียพลังแห่งชีวิตไปบ้าง แต่ก็มีผู้คนมากมายที่ยอมช่วยเหลือด้วยความจริงใจจริง ๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนของแดนซวนเทียนยิ่งมีความกระตือรือร้นมากเป็นพิเศษ เนื่องจากพวกเขารู้ดีว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นที่นี่
พวกเขาต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป ต้องการที่จะอยู่รอด แม้ว่าจะต้องใช้พลังชีวิตไปครึ่งหนึ่งก็ต้องการที่จะช่วยนายท่านไม้เทพแห่งชีวิตอยู่ดี
เมื่อได้รับพลังแห่งชีวิตเหล่านี้มาแล้ว ไม้เทพแห่งชีวิตก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกของคนเหล่านี้ มีมนุษย์บางคนที่ชิงดีชิงเด่นกัน หลอกลวง และเห็นแก่ตัว ซึ่งก็ทำให้มันรู้สึกรัง งเกียจเป็นอย่างมาก
แต่ทว่าก็ยังมีคนประเภทที่น่ารักอยู่บ้าง เพราะภายในใจของพวกเขาเต็มไปด้วยสุจริต มีความศรัทธา รักชีวิตของตนเอง และรักชีวิตของครอบครัว เพื่อน รวมไปถึงคนรักอีกด้วย
ไม้เทพแห่งชีวิตกล่าวว่า “ชิงอิ่ง หากเจ้าต้องการที่จะทำเช่นนี้! ข้าก็จะช่วยเจ้าขัดขวางเขาเอง และช่วยปกป้องคนที่เจ้าอยากจะปกป้องด้วย”
พลังแห่งชีวิตอันทรงพลังระเบิดออกมาอย่างสมบูรณ์ จากนั้นก็ปกคลุมชิงอิ่งเอาไว้จนกลายเป็นลูกบอล และลูกบอลนั้นก็จู่โจมเข้าใส่จิ่วเยี่ยอย่างกะทันหัน
ในเวลาเดียวกันนั้นจิ่วเยี่ยเองก็ระเบิดพลังแห่งความมืดไร้ขอบเขตออกมาด้วยเช่นกัน แต่ทว่าพลังแห่งชีวิตนี้ในเวลานี้แตกต่างจากก่อนหน้านี้แล้ว
มันมาพร้อมกับพลังเจาะทะลุที่แข็งแกร่ง และหลังจากนั้นมันก็ได้เจาะทะลุพลังที่ปกคลุมเขาเข้าไป
“ซี!” จิ่วเยี่ยกอดมู่เฉียนซีเอาไว้แน่น จากนั้นก็ปกป้องนางเอาไว้ในอ้อมแขนของตนเอง และพลังแห่งชีวิตนี้ก็ห่อหุ้มพวกเขาเอาไว้เป็นชั้น ๆ ราวกับรังไหมก้อนหนึ่ง
พลังแห่งชีวิตนี้ไม่ได้ทำร้ายมู่เฉียนซีได้เลยแม้แต่นิดเดียว นอกจากนี้ยังมีพลังชีวิตส่วนหนึ่งที่ไหลเข้าสู่ร่างกายของนางแทนอีกด้วย
แน่นอนว่าชิงอิ่งย่อมที่จะไม่ทำร้ายนางอยู่แล้ว และพลังของเขาเองก็ไม่ทำเช่นกัน
แต่ทว่าสำหรับจิ่วเยี่ยนั้นไม่เหมือนกัน เพราะพลังนี้ได้ทำลายพลังของเขา
หลังจากนั้นมู่เฉียนซีก็ออกมาจากอ้อมกอดของเขา และกอดคอของเขาเอาไว้พร้อมกับโน้มตัวเข้าไปประทับริมฝีปากของเขา
“จิ่วเยี่ย ไม่ว่าผลสรุปจะเป็นเช่นไร? ข้า…ข้าก็รักเจ้า รักเจ้ามาก ๆ อยู่ดี!”
หลังจากนั้นมู่เฉียนซีเงยหน้าขึ้นไปปิดริมฝีปาก และจุมพิตเขา
นางไม่รู้ว่ายาน้ำที่นางกลั่นไปก่อนหน้านี้เหล่านั้น จะมีประโยชน์บ้างหรือไม่ แต่ภายใต้พลังแห่งชีวิตที่แข็งแกร่งขนาดนี้ ประสิทธิภาพของยาน้ำจะต้องเพิ่มสูงขึ้นอย่างแน่นอน
นางต้องการที่จะลองดู แม้ว่าจะมีผลลัพธ์ที่ไม่แน่นอนแต่นางก็ยังอยากที่จะลองอยู่ดี!
ฉึก ฉึก ฉึก!
มู่เฉียนซีหยิบเข็มยาออกมาจากนั้นก็ปักลงไปที่แขนและต้นคอของจิ่วเยี่ย แต่จิ่วเยี่ยกลับไม่สนใจอันตรายจากพลังแห่งชีวิตที่อยู่รอบตัวเขา และไม่สนใจอันตรายเล็ก ๆ น้อย ๆ จาก การฝังเข็มของมู่เฉียนซีเหล่านั้น ทว่าเขากลับขบริมปากของของมู่เฉียนซีอย่างบ้าคลั่งมากขึ้นไปอีก
แม้ว่าพลังแห่งชีวิตจะสร้างความเจ็บปวดให้เขามากแค่ไหนเขาก็ไม่สนใจ ราวกับเป็นสัตว์ป่าก็มิปาน ดวงตาสีฟ้าเข้มของเขาในขณะนี้สั่นไหวราวกับเปลวเพลิง และหลังจากนั้นเขาก็ล้ม ไปทางมู่เฉียนซี!
ปึกก!
แคว่ก!
เครื่องแต่งกายของนางกลายเป็นความว่างเปล่า มู่เฉียนซีกล่าวอย่างจนปัญญาว่า “เพื่อที่จะลวนลามข้า เจ้าหมอนี่ถึงกับไม่กลัวตายเลยอย่างนั้นหรือ?”
นางไม่รู้ว่าเป็นเพราะพลังแห่งชีวิตนี้กำลังทำลายเขา จนเขาไม่อาจต้านทานได้ จึงเลิกที่จะสนใจ และคิดที่จะเอาแต่แสวงหาความสุขดีกว่าหรือไม่
จิ่วเยี่ยจ้องมองไปที่มู่เฉียนซี และดวงตาสีฟ้าเข้มของเขาเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ชั่วร้าย “ข้าไม่ได้ลวนลามเสียหน่อย แต่ข้ากำลังจะกินเจ้าต่างหากล่ะซี!”
ตึง!
และชิงอิ่งร่อนลงมาจากกลางอากาศ
ไม้เทพแห่งชีวิตก็ร่อนลงมาและหยั่งรากลึกลงบนพื้นดินทันที จากนั้นก็จับเขาเอาไว้ และวางไว้บนกิ่งก้านของเขาเพื่อใด้เขาได้พักผ่อน
“เฉียน…”
แววตาของชิงอิ่งจ้องมองไปยังรังไหมที่ห่อหุ้มด้วยพลังแห่งชีวิตนั้น นางอยู่ข้างใน…
“พวกเราพยายามเต็มที่แล้ว เรื่องต่อจากนี้ ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของโชคชะตาเถอะ! จิตวิญญาณแห่งโชคชะตามักจะเป็นที่โปรดปรานของผู้คนเสมอ เจ้าจะต้องเชื่อนาง ว่าจะต้องไม่เป็นอะไร! ! เจ้าจะต้องอดทนให้ได้ ข้าเองก็จะอดทนด้วยเช่นกัน ถึงแม้ทั้งหมดนี้จะหายไป แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องให้เจ้าได้เห็นนางเป็นครั้งสุดท้ายให้ได้ มิเช่นนั้นเจ้าคงจะน่าเวทนามาก และข้ าเองก็จะน่าเวทนาไปด้วย เพราะมีร่างแยกเช่นเจ้า” ไม้เทพแห่งชีวิตกล่าว
“อื้ม!” ชิงอิ่งค่อย ๆ หลับตาลงเล็กน้อย แต่กลับไม่ได้หลับตาสนิทนัก
เนื่องจากว่าหากหลับตาสนิทแล้วละก็ เขาจะต้องหายไปอย่างสมบูรณ์แน่นอน
ตอนนี้เขากำลังฝืนทนอยู่ เพราะเขายังมีความคิดที่อยากจะเห็นมู่เฉียนซีเป็นครั้งสุดท้าย ฉะนั้นไม่ว่าอย่างไรเขาจะหายไปเร็วขนาดนั้นไม่ได้เป็นอันขาด
ไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด!
จิ่วเยี่ยกำลังลิ้มรส ไปกับมื้ออาหารมื้อใหญ่ที่แสนเลิศรสนี้อย่างช้า ๆ และไม่ว่าอะไรก็ไม่สามารถหยุดเขาได้แน่นอน!
ถึงแม้ว่าเสียงที่อยู่ภายในใจกำลังพยายามขัดขวางเขาเอาไว้ แต่เขาก็ไม่คิดที่จะสนใจมันเลยแม้แต่น้อย!
เขากล่าวด้วยเสียงที่แหบพร่าว่า “ข้าจะกินเจ้าจริง ๆ แล้วนะซี!”