ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2317 นางทำสำเร็จแล้ว
ซิงเฉินกล่าวว่า “ไปกันเถอะ! พวกเราเอาศพของจื่อโยวไปหานายหญิงด้วย นายหญิงหยุดการทำงานของอวัยวะในร่างกายของเขา คาดว่าน่าจะตายจริง ๆ ไม่ได้ จะช่วยช้าหรือเร็วก็มีค่าเ เท่ากันนั่นแหละ”
มู่เฉียนซีมาถึงหมู่บ้านแห่งนั้น จากนั้นก็เห็นว่าสถานที่แห่งนี้มีการต่อสู้กันมาก่อน
“ใครน่ะ?” ในตอนที่พวกเขาปรากฏตัวขึ้นมาอย่างไม่ให้สุ่มให้เสียง มันก็ได้ดึงดูดการเฝ้าระวังของพวกเขาทันที
สถานที่แห่งนี้ได้ถูกเปิดเผย และไม่ปลอดภัยเป็นอย่างมาก แต่ทว่านายท่านไม่เหมาะที่จะทำการเคลื่อนย้าย ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้เคลื่อย้ายไปไหน
ซึ่งพวกเขาก็เตรียมพร้อมรับมือกับศัตรูที่จะบุกเข้ามาอยู่ตลอดเวลา
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ข้าเอง!”
“แม่นางมู่…”
เมื่อพวกเขาเห็นมู่เฉียนซีต่างก็ร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ พวกเขากล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “ดีเหลือเกิน เจ้ากลับมาแล้ว”
“รีบไปเร็วเข้า! นายท่าน!”
ใบไม้แห่งชีวิตเก้าใบสุดท้ายกำลังจะหายไปอย่างรวดเร็ว และลำแสงสีเขียวนั้นก็เปลี่ยนเป็นจางลงไปมากแล้ว
หัวใจของไป๋เจ๋อกระตุกอย่างรุนแรงขึ้นมาทันที มันจะไม่ทันการณ์จริง ๆ อย่างนั้นหรือ?
ปังงง!
ในเวลานี้ มู่เฉียนซีได้ผลักประตูและพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว
เมื่อนางเห็นว่าใบไม้แห่งชีวิตชุดสุดท้ายกำลังจะหายไป นางก็นำเอาใบไม้แห่งชีวิตของนางเติมเข้าไปอีก
เมื่อเห็นคนที่นอนอยู่บนเตียง มีพลังชีวิตที่อ่อนแอจนแทบจะมองไม่ออกอยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้หยุดลงอย่างสมบูรณ์ ยังดี! ยังทันอยู่!
มู่เฉียนซีมองไปทางไป๋เจ๋อพลางกล่าวว่า “ขอโทษด้วย ข้ามาสายไปหน่อย จากนี้มอบให้เป็นหน้าที่ข้าเถอะ!”
“จิ่วเยี่ย ช่วยเฝ้าข้างหน้าให้ข้าหน่อย อย่าให้ผู้ใดบุกเข้ามาได้เป็นอันขาด”
อ่อนแอเกินไปแล้ว แม้ว่านางจะสามารถควบคุมเส้นทางแห่งชีวิตได้ หรือรวบรวมไขวิญญาณแห่งชีวิตเบญจธาตุได้ก็ตาม แต่นางก็ไม่กล้ารับประกันว่าจะสามารถทำให้สำเร็จ และช่วยชีวิตเขา าไว้ได้อยู่ดี
มู่เฉียนซีเอื้อมมือออกไปคว้ามือที่แห้งเหี่ยวราวไม้สีดำก็มิปานของเขา ซึ่งมือนั้นไม่มีเลือดไหลเวียนอยู่เลย
เขารั้งนางเอาไว้ด้วยพลังที่อ่อนแรงนั้น จากนั้นนางก็เห็นริมฝีปากของเขาเปิดออกเล็กน้อย พร้อมพ่นคำออกมา…
เนื่องจากว่าเขาอ่อนแอมาเกินไป จึงทำให้มู่เฉียนซีไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูดเลยแม้แต่น้อย แต่คาดว่าน่าจะเป็นชื่อของใครสักคนหนึ่ง
และเขาที่รักลูกสาวของตนเองมากถึงขนาดนั้น ก็น่าจะเรียกนางด้วยชื่อของลูกสาวของเขาเป็นแน่!
เมื่อมู่เฉียนซีคิดมาถึงตรงนี้ หัวใจของนางก็รู้สึกเจ็บปวดอย่างยากที่จะควบคุมได้
นางคว้ามือเขาเอาไว้พลางกล่าวว่า “ข้าจะรักษาท่านให้หาย ข้าทำได้แน่ ท่านต้องเชื่อข้า พวกเรามาพยายามด้วยกัน ตกลงไหม!”
มู่เฉียนซีหยิบเข็มฉีดยาออกมาหลายอัน ซึ่งภายในเข็มฉีดยานั้นบรรจุไขวิญญาณแห่งชีวิตเบญจธาตุเอาไว้ด้วย
ฉึก ฉึก ฉึก!
เข็มฉีดยาห้าเล่ม เจาะเข้าไปในเส้นเลือดทั้งห้าจุดในร่างกายของเขา และไขวิญญาณแห่งชีวิตเบญจธาตุถูกฉีดเข้าไปพร้อมกัน
ฉึก ฉึก ฉึก!
หลังจากนั้นเข็มเงินจำนวนสิบกว่าเล่มก็ฝังลงที่จุดตายบนร่างกายของเขา
แกร่ก แกร่ก แกร่ก!
มู่เฉียนซีนำเอาไขวิญญาณแห่งชีวิตเบญจธาตุออกมาอีก
หลังจากนั้นมู่เฉียนซีก็ควบคุมไขวิญญาณแห่งชีวิตธาตุพฤษาห่อหุ้มตับของเขาเอาไว้
ไขวิญญาณแห่งชีวิตธาตุอัคคีห่อหุ้มหัวใจของเขาเอาไว้
ควบคุมไขวิญญาณแห่งชีวิตธาตุธรณีให้ซึมเข้าไปในม้าม
ควบคุมไขวิญญาณแห่งชีวิตธาตุทองให้ซึมเข้าไปในปอด
และควบคุมไขวิญญาณแห่งชีวิตธาตุวารีให้ซึมเข้าไปในไต
ทุกหมดดำเนินการไปในเวลาเดียวกัน ซึ่งมู่เฉียนซีก็ได้ควบคุมทั้งหมดนั้นได้อย่างยอดเยี่ยมมาก
นางซ่อมแซมหลอดเลือดให้เขาก่อน จากนั้นก็ค่อยซ่อมแซมอวัยวะภายในของเขา
หลังจากนั้นมู่เฉียนซีก็ได้ใช้ไขวิญญาณแห่งชีวิตเบญจธาตุเพื่อสร้างค่ายกลขนาดใหญ่ออกมารอบตัวของนาง จากนั้นก็ใช้พลังแห่งชีวิตปกคลุมไปทั่วทั้งห้องอย่างต่อเนื่อง!
มู่เฉียนซีปาดเหงื่อที่อยู่บนหน้าผากของนาง นี่มันเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น!
ในตอนที่มู่เฉียนซีกำลังยุ่งอยู่กับการรักษาผู้ป่วยข้างในห้องนั้น ไป๋เจ๋อก็กล่าวขึ้นมาว่า “สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?”
มีผู้คุ้มกันกล่าวขึ้นมาว่า “ตอนนี้ท่านไป๋ได้รับบาดเจ็บแล้วขอรับ ท่านไป๋หู่ได้พาคนไล่ล่าคนกลุ่มนั้นไป แน่นอนว่าไม่สามารถปล่อยให้รอดชีวิตจนดึงดูดศัตรูอื่นมาได้อีก ตอนนี้ พวกเราคอยเฝ้าอยู่ที่นี่ เพื่อปกป้องนายท่านอย่างสุดกำลัง และจะไม่ยอมให้ผู้ใดเข้าไปรบกวนการรักษานายท่านของแม่นางมู่ได้แน่นอน”
ในเวลานี้เอง ก็มีหน่วยกล้าตายกลุ่มหนึ่งบุกเข้ามาในเรือนที่เจ้านายของพวกเขาอยู่อย่างรวดเร็ว
“บัดซบเอ้ย! มาอีกแล้ว ฆ่าพวกมันซะ!”
ยังไม่ทันรอให้พวกเขาลงมือ พวกคนเหล่านี้ก็ได้เปลี่ยนกลายเป็นกระดูขาวภายในชั่วพริบตา ราวกับพวกเขาเห็นภูตผีวิญญาณก็มิปาน นี่…
ร่างเงาสีดำที่ผอมเพรียวร่างหนึ่งยืนอยู่นอกประตูห้องเจ้านายของพวกเขา และนายท่านผู้นี้ก็ได้สังหารศัตรูของพวกเขาไปจนหมดสิ้นแล้ว
ช่างแข็งแกร่งเหลือเกิน หากมีเขาอยู่ ผู้ใดจะกล้ามารบกวนนายท่านกัน?
เฟี้ยว เฟี้ยว เฟี้ยว!
ผลปรากฏว่ามีคนอีกกลุ่มหนึ่งได้มาถึง ซึ่งคนเหล่านี้ไม่เหมือนกันหน่วยกล้าตายก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ยังแบกคนที่ตายแล้วมาคนหนึ่งด้วย
พวกเขาคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าของจิ่วเยี่ยพลางกล่าวว่า “นายท่าน! ทางนั้นได้จัดเตรียมคนไว้เรียบร้อยแล้วขอรับ พวกเรามารายงานโดยเฉพาะ นอกจากนี้จื่อโยว…”
“เอาจื่อโยวไปโยนไว้ตรงไหนก็ได้ ส่วนพวกเจ้าก็ออกไปคอยเฝ้าข้างนอกเอาไว้ ข้าไม่อยากเห็นพวกแมลงวันบินเข้ามารบกวนซีได้แม้แต่ตัวเดียว” จิ่วเยี่ยออกคำสั่ง
“ขอรับ!” พวกของซิงเฉินรับคำสั่ง
ส่วนจื่อโยวนั้น ซิงเฉินได้นำร่างของเขาไปโยนให้กับไป๋เจ๋อพลางกล่าวว่า “น้องชาย ข้าฝากเจ้าโยนเจ้าหมอนี่ไปไว้ในห้องใดสักห้องก็ได้ ต้องรบกวนเจ้าแล้ว!”
ไป๋เจ๋อรับร่างของจื่อโยวเอาไว้และไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรดีเช่นกัน
ร่างนี้มีใบหน้าที่งดงามเป็นอย่างมาก ถึงใบหน้าของเขาจะดูชั่วร้าย แต่ก็น่าเสียดายที่หมดลมหายใจไปแล้ว
เพียงแต่เมื่อดูจากสถานการณ์ของพวกเขาแล้ว ไป๋เจ๋อก็รู้ดีว่าคนผู้นี้น่าจะยังสามารถช่วยชีวิตเอาไว้ได้ มิเช่นนั้นพวกเขาคงไม่มีทางวางใจเช่นนี้แน่
เขาพยักหน้าพลางกล่าวว่า “ตกลง!”
ในเมื่อมีซิงเฉินและเป๋ยโต่วคอยเฝ้าระวังอยู่รอบนอกของหมู่บ้าน ก็จะไม่มีผู้ใดสามารถบุกเข้ามาในหมู่บ้านนี้ได้อีกแล้ว
ผู้ใดกล้ามา ผู้นั้นถือว่ารนหาที่ตาย
การรักษาของมู่เฉียนซีกินเวลาไปกว่าสามวันสามคืน และในระหว่างนั้นก็มีพวกของไป๋หู่และชิงหลงมาคอยดูสถานการณ์อยู่เป็นระยะ แต่ทุกคนต่างก็ถูกขัดขวางเอาไว้
หลังจากผ่านไปแล้วสามวัน ในที่สุดมู่เฉียนซีก็สามารถทำให้ไขวิญญาณแห่งชีวิตเบญจธาตุแล่นไปทั่วร่างกายของเขาได้แล้ว และพลังชีวิตบริสุทธิ์ทั้งห้าธาตุก็ได้ไหลเวียนอยู่ในร่า างกายของเขา ซึ่งมันก็ทำให้ชีวิตของเขาค่อย ๆ ฟื้นฟูขึ้นมาอย่างช้า ๆ
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “จิ่วเยี่ย!”
จากนั้นจิ่วเยี่ยก็ผลักประตูพร้อมเดินเข้ามา และเขาเข้าไปประคองมู่เฉียนซีที่กำลังจะล้มฟุบลงไปทันที ความน่าหวาดเสียวคราวนี้ ไม่ได้น้อยไปกว่าตอนที่กู้ชีพให้กับไม้เทพแห่งช ชีวิตคราวนั้นเลย แต่ทว่ามู่เฉียนซีที่ต้องเผชิญกับความตายมาตลอดสามวันสามคืนก็เหนื่อยจนแทบจะขาดใจตายอยู่แล้ว
หลังจากที่ผ่านไปสามวันสามคืน ในที่สุดประตูนั้นก็ได้ถูกเปิดออกแล้ว และตอนนี้ทุกคนต่างก็เฝ้ารอกันอยู่ด้านนอก
พวกเขาเห็นเพียงแต่ร่างเงาสีดำที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็มีน้ำเสียงที่เย็นชาดังขึ้นมาว่า “ดูสิ่งที่ซีทิ้งไว้บนหัวเตียงก็แล้วกัน”
หลังจากที่ทิ้งคำพูดนั้นไว้อย่างรวดเร็วแล้ว จิ่วเยี่ยก็รีบพามู่เฉียนซีไปพักผ่อนทันที
พวกเขาเดินเข้าไปภายในห้องอย่างระมัดระวัง ภายในนั้นเต็มไปด้วยพลังแห่งชีวิตที่หนาแน่นจนทำให้พวกเขารู้สึกสบายไปทั้งตัว และที่หัวเตียง…
ไป๋เจ๋อหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งขึ้นมา ซึ่งในนั้นเฉียนซีได้เขียนคำแนะนำในการดูแลพ่อบุญธรรมไว้อย่างละเอียดเพื่อมอบให้กับเหล่านักปรุงยา
คนที่อยู่บนเพียงหลับตาอยู่อย่างสงบ และตอนนี้ลมหายใจของเขาก็สม่ำเสมอเป็นอย่างมาก ซึ่งไม่เหมือนกับก่อนหน้านี้ที่หายใจติดขัด ราวกับว่าอาจจะตายในขณะที่หลับใหลอยู่ได้ทุกเมื่อ
และทั้งร่างของเขาก็ไม่รู้สึกเหมือนจะไร้ชีวิตอีกต่อไป ซึ่งในที่สุดก็เหมือนคนปกติแล้ว
ผู้คนมากมายต่างร้องห่มร้องไห้ด้วยความดีใจ “นาง…นางทำสำเร็จแล้วจริง ๆ!”
“นายท่าน...นายท่านดีกว่าก่อนหน้านี้มากแล้ว”
“พ่อบุญธรรม…”
เรื่องนี้ถึงพวกเขาพยายามอย่างหนักก็ไม่เคยประสบความสำเร็จมาก่อน จนพวกเขาต่างก็สิ้นหวังไปกันหมดแล้ว แต่ทว่าตอนนี้กลับมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นเสียที
การลอบสังหารล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า และพวกเขาต่างก็ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ซึ่งพวกเขาไม่สามารถเข้าใกล้หมู่บ้านได้เลยแม้แต่น้อย
“นายท่าน ไม่ว่าพวกเราจะส่งยอดฝีมือที่แข็งแกร่งมากเพียงใดไป พวกเขาต่างก็ถูกสังหารไปอย่างรวดเร็ว พวกเราไม่รู้เลยว่าคนที่ลงมือเหล่านั้นมาจากที่ใดกันแน่? พวกเรา…พวกเรายั งต้องทำภารกิจอยู่อีกหรือไม่ขอรับ?” ในสถานที่ลึกลับของราชวงศ์ตงหวง มีเสียงที่มืดมนเสียงหนึ่งดังขึ้น
“ไม่ต้องแล้ว รอโอกาสอื่น เราจะสูญเสียมากมายเพื่อคนที่ใกล้จะตายคนหนึ่งไปทำไม มันไม่คุ้มค่าหรอก”
“ขอรับ!”