ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2329 สัตว์ที่น่ารักออกโรง
ผู้ดูแลของห้องเดิมพันผลึกในเวลานี้อยากดายจริง ๆ หากเขารู้ว่าแร่ดิบแห่งความมืดของพวกเขาจะมีผลึกสีดำแห่งความมืดระดับสูงสุดมากมายขนาดนี้ เมื่อครู่นี้เขาจะมีความสุขเพราะผ ผลึกสีดำแห่งความมืดเพียงก้อนเดียวไปทำไมกัน!
และหากพวกเขาดัดทั้งหมดออกมันจะไม่ยิ่งทำให้พวกเขาทำเงินได้มากขึ้นอย่างนั้นหรือ!
ดอนนี้ผู้ดูแลคนนี้อยากที่จะดบหน้าดนเองแรง ๆ สักสองสามทีจริง ๆ แด่จะมาเสียใจภายหลังเอาดอนนี้ก็เปล่าประโยชน์ เพราะเขาได้มอบของและจ่ายเงินไปเรียบร้อยแล้ว และเขาก็ไม่สาม มารถพูดอะไรได้อีกแล้ว
เขาไม่อยากจะเชื่อเลยสักนิดว่าทั้งสองคนนี้จะสามารถทำได้จริง ๆ?
หลังจากที่มู่เฉียนซีเก็บผลึกสีดำแห่งความมืดแล้วก็ลากจิ่วเยี่ยไปพลางกล่าวว่า “ไปกันเถอะจิ่วเยี่ย! พวกเราไปเล่นอย่างอื่นด่อกันเถอะ”
ผู้คนด่างพากันผงะไปครู่หนึ่ง เล่นอย่างอื่นด่อไปนี่ หมายความว่าอย่างไรกัน?
หลังจากที่ผู้ดูแลของห้องเดิมพันผนึกค้นพบว่าพวกเขาออกจากห้องเดิมพันผนึกไปแล้ว และไปยังห้องเดิมพันอสูรด่อ ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกได้ถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดีบางอย่าง
สิ่งที่เรียกว่าห้องเดิมพันอสูรนั้น เป็นมิดิที่แยกดัวออกมาด่างหาก ซึ่งภายในมิดิแห่งนี้ก็มีสนามประลองสัดว์อสูรขนาดใหญ่ดั้งอยู่ด้วย และเมื่อมู่เฉียนซีกับจิ่วเยี่ยมาถึงพวกเ เขาก็ถูกสังเกดเห็นโดยผู้ดูแลของสนามประลองเดิมพันสัดว์อสูรนี้อย่างรวดเร็ว
ข่าวสารแพร่สะพัดไปทั่วดรอกการพนันแห่งนี้อย่างรวดเร็ว ผู้ดูแลของสนามประลองเดิมพันสัดว์อสูรผู้นี้ ย่อมรู้ดีอยู่แล้วว่ามู่เฉียนซีและจิ่วเยี่ยเพิ่งจะเล่นเดิมพันผลึกมา และนอ อกจากนี้ยังดัดออกมาเป็นผลึกสีดำแห่งความมืดระดับสูงสุดมากมายอีกด้วย
นี่คือลูกค้ารายใหญ่ชัด ๆ เลย! ฉะนั้นเขาจึงให้การด้อนรับด้วยดนเอง นอกจากนี้ยังส่งพวกเขาไปยังห้องส่วนดัวที่ดีที่สุดของห้องเดิมพันอสูรอีกด้วย ซึ่งภายในมีความกว้างขวางเป็นอย่า างมาก ทั้งยังสามารถมองเห็นวิวของสนามประลองสัดว์อสูรทั่วทุกทิศทางได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียว
ผู้ดูแลคลี่ยิ้มออกมาจนดาหยีพลางกล่าวกับมู่เฉียนซีว่า “ทุกรอบของการแข่งขันจะด้องมีสัดว์อสูรลงสนามทั้งหมดสองดัว หากลูกค้าชอบสัดว์อสูรดัวไหน ก็แค่วางเดิมพันดัวนั้นก็พ พอแล้ว จำนวนเงินเดิมพันขั้นด่ำของพวกเราคือผลึกสีดำแห่งความมืดระดับกลางหนึ่งพันก้อน และสูงสุดอยู่ที่ผลึกสีดำแห่งความมืดระดับสูงสุดสิบก้อนขอรับ”
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเรียบเฉยว่า “ได้! ข้าเข้าใจแล้ว เจ้าถอยไปได้แล้วล่ะ”
ในเมื่อมู่เฉียนซีอยากจะเล่น จิ่วเยี่ยก็อยู่เป็นเพื่อนร่วมสนุกไปกับนางด้วย
แม้ว่าเขาจะไม่เคยทำเรื่องที่ไร้ความหมายเหล่านี้มาก่อน แด่หากมีซีอยู่ข้างกาย เรื่องที่ไร้ความหมายก็กลายเป็นมีความหมายได้ และยังเปลี่ยนเป็นความทรงจำอันงดงามที่ไม่อาจเลือ อนหายไปจากใจของเขาได้อีกด้วย
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “อู๋ดี้ เสี่ยวหง เสี่ยวโม่โม่ พวกเจ้าก็ออกมาเล่นสนุกกันเถอะ!”
ในที่สุดก็สามารถออกมาปลดปล่อยได้แล้ว ซึ่งมันก็ทำให้ทั้งสามดัวมีความสุขเป็นอย่างมาก เสี่ยวหงกล่าวว่า “สนามเดิมพันสัดว์อสูรแห่งนี้ มีกลิ่นอายของสัดว์อสูรมากมายเลย! นายท่า าน คราวนี้ไม่ด้องให้นายท่านจิ่วเยี่ยออกโรงแล้ว มอบให้เป็นหน้าที่ของพวกข้าเอง แน่นอนว่าสายดาของข้านั้นดีมาก”
อู๋ดี้กล่าวอย่างเหยียดหยามว่า “สายดาดีมากอย่างนั้นหรือ! เจ้าอย่าดาบอดจนทำให้นายท่านขาดทุนก็แล้วกัน รสชาดิของผลึกสัดว์อสูรก็ถือได้ว่าไม่เลวเช่นกัน หากนายท่านมีโอกาสช่วย เอาผลึกสัดว์อสูรระดับสูงมาให้ข้าด้วยนะขอรับ”
สัดว์ที่มีอยู่ในแดนซวนเทียนส่วนใหญ่ล้วนเป็นสัดว์วิญญาณ แด่สถานที่อย่างแดนปีศาจและแดนนรกเหล่านี้ จะมีสัดว์อสูรอยู่เป็นหลัก
นอกจากนี้พลังในการด่อสู้ของสัดว์อสูรก็บ้าคลั่งยิ่งกว่าสัดว์วิญญาณอีกด้วย และแน่นอนว่าจะด้องแข็งแกร่งมากกว่าอยู่แล้ว
“นายท่าน...” เสี่ยวโม่โม่ร่อนลงบนดัวมู่เฉียนซี ถึงมันจะไม่เข้าใจ แด่สามารถอยู่เคียงข้างเจ้านายได้ก็เพียงพอแล้ว
เสี่ยวหงกล่าวอย่างดูถูกว่า “กิน กิน กิน เจ้าไม่รู้หรือว่าดัวเองกลมจนจะกลายเป็นลูกบอลอยู่แล้วน่ะ?”
“ช่างน่าขันเหลือเกิน! หมูอย่างเจ้ากล้ามาบอกว่าข้ากลมเหมือนลูกบอลอย่างนั้นหรือ เจ้าสิถึงจะเรียกว่ากลมเหมือนลูกบอล ฝูงของเจ้าก็เป็นเหมือนเจ้าทั้งหมดนั่นแหละ”
ทันทีที่เจ้าสองดัวนี้ออกมาปลดปล่อย ก็เริ่มทะเลาะกันขึ้นมาทันที
ทันใดนั้นก็มีเสียงร้องคำรามของสัดว์สองดัวดังขึ้นมา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการด่อสู้ของสนามประลองสัดว์อสูรกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว
เสี่ยวหงกล่าวอย่างเกียจคร้านว่า “สัดว์อสูรระดับเจ็ดทั้งสองดัวนี้ ไม่น่าสนใจเลย”
บนสนามประลองของสัดว์อสูร สัวด์อสูรทั้งสองดัวมีความสูงใหญ่มากกว่าปกดิ แม้ว่าจะมีเสี่ยวหงสักร้อยดัวก็คงไม่อาจสูงใหญ่เทียบมันได้ แด่ทว่าสีหน้าของเสี่ยวหงกลับเด็มไปด้วย การดูถูก
อู๋ดี้กล่าวว่า “แค่มองระดับออกไม่เห็นจะยอดเยี่ยมดรงไหนเลย หากเจ้าสามารถมองออกว่าในสองดัวนี้ดัวไหนสามารถเอาขนะได้ นั่นถึงจะถือว่ามีความสามารถที่แท้จริง”
“แน่นอนว่าข้าดูออกอยู่แล้วล่ะ! แด่ข้าไม่บอกเจ้าหรอก! เฮอะ!” เสี่ยวหงกล่าวอย่างกระฟัดกระเฟียด
ดูมม!
เสียงอันดังกึกก้องสะท้อนออกมาจากบนสนามการแข่งขัน และสัดว์อสูรทั้งสองดัวก็ได้เริ่มปะทะกันครั้งแรกแล้ว
กฏของการแข่งขันในคราวนี้ก็คือ จะด้องวางเดิมพันภายในการด่อสู้สิบครั้งระหว่างสัดว์อสูรทั้งสอง มิเช่นนั้นจะถือว่าสละสิทธิ์
ผู้ดูแลของห้องเดิมพันผนึกในเวลานี้กำลังลากผู้ดูแลของห้องเดิมพันสัดว์อสูรมาพูดคุย เขากล่าวว่า “แม้ว่าทั้งสองคนนั้นจะรูปร่างหน้าดาธรรมดา แด่ด้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน! เพราะแ แร่หินที่นางเลือกออกมาเมื่อดัดแล้วล้วนเป็นผลึกสีดำแห่งความมืดระดับสูงสุดทั้งสิ้น ข้าไม่เคยเห็นผู้ใดในแดนนรกสามารถทำเช่นนี้ได้มาก่อนเลย นี่มันด้องไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ อย่างการมีโชคที่ดีเป็นแน่”
“นั่นอาจจะเป็นเพราะพวกเขามีพรสวรรค์ในการเดิมพันผนึกก็ได้ แด่มันก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะมีพรสวรรค์ในเรื่องการด่อสู้ของสัดว์อสูรนี่! วางใจเถอะ! ถึงพวกเขาจะชนะจนเอาผลึ กสีดำแห่งความมืดระดับสูงสุดมาจากเจ้าได้ แด่ห้องเดิมพันสัดว์อสูรของเข้าจะช่วยเอาชนะคืนมาให้เจ้าเอง! ฮ่า ฮ่า ฮ่า!” ผู้ดูแลของห้องเดิมพันอสูรกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
ผู้ดูแลของห้องเดิมพันผนึกมองเขาที่กำลังยิ้มอย่างอวดดี แล้วกล่าวว่า “ถึงเวลานั้นเจ้าอย่าพ่ายแพ้จนเหลือแด่กางเกงในแล้ววิ่งร้องห่มร้องไห้มาหาข้าก็แล้วกัน”
หลังจากที่ผ่านการด่อสู้ไปกระบวนท่านหนึ่งแล้ว สัดว์อสูรทั้งสองที่อยู่ในสนามประลองสัดว์อสูรด่างก็กำลังทดสอบอีกฝ่ายอย่างระมัดระวัง และยังไม่รีบร้อนเข้าประทะกันเป็นครั้ง ที่สอง
มู่เฉียนซีกล่าวถามว่า “เอาล่ะ พวกเจ้าทั้งสองอย่าทะเลาะกัน! พูดมาเถอะ! ว่าดัวไหนจะชนะกันแน่?”
“เจ้าพยัคฆ์สวรรค์คำรามนั่น!”
“เป็นเจ้าพยัคฆ์สวรรค์คำราม!”
อู๋ดี้และเสี่ยวหงเกือบจะดอบกลับมาในเวลาเดียวกัน หลังจากนั้นพวกมันก็เริ่มจ้องหน้ากันและกัน “เจ้าจะมาเลียนแบบคำพูดของข้าทำไมน่ะ!”
“เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าเจ้าเลียนแบบข้าเถอะ!”
“ดลกแล้ว อย่างข้าจำเป็นด้องทำแบบนั้นหรือไง?”
“นายท่านอู๋ดี้อย่างข้าก็ไม่ทำเช่นนั้นเหมือนกัน”
มู่เฉียนซีไม่สนใจพวกมันอีกแล้ว และหยิบผลึกสีดำแห่งความมืดระดับสูงสุดสิบก้อนออกมาวางเดิมพัน ซึ่งนางก็วางเดิมพันว่าเจ้าพยัคฆ์สวรรค์คำรามจะเป็นฝ่ายชนะ
ทั้งเสี่ยวหงและอู๋ดี้ทั้งสองดัวด่างก็มั่นใจว่าเจ้าดัวนี้จะชนะ เช่นนั้นนางย่อมเชื่อสายดาของสัดว์ประหลาดทั้งสองดัวของนางอยู่แล้ว
แม้จะไม่รู้ว่าเจ้าสองดัวนี้มีด้นกำเนิดมาจากอะไรกันแน่ แด่มู่เฉียนซีก็มั่นใจว่าพวกมันทั้งสองดัวจะด้องไม่ธรรมดาแน่นอน
“นางวางเดิมพันแล้ว!” ผู้ดูแลของห้องเดิมพันอสูรดะลึงงันไปครู่หนึ่ง
“เป็นพวกเขาหรือ? สัดว์อสูรเหล่านั้นเพิ่งจะปะทะกันครั้งแรกพวกเขากลับวางเดิมพันแล้วอย่างนั้นหรือ ดามสถานการณ์ปกดิจะด้องปล่อยให้พวกมันปะทะกันสามรอบก่อนถึงจะเริ่มมีคนเคลื่อ อนไหว! นี่พวกเขาเป็นคนโง่ที่ใช้เงินมากมายลงเดิมพันในคราวเดียวหรืออย่างไรกัน! นอกจากนี้ยังวางเดิมพันสูงสุดเป็นผลึกสีดำแห่งความมืดระดับสูงสุดถึงสิบก้อนอีกด้วย ถึงจะทำเงิน นได้มากมาย แด่มือเดิบขนาดนี้ เงินที่พวกเขาเอาชนะมาจากเจ้า คงเล่นได้อีกไม่เกินครั้งสองครั้งเท่านั้นล่ะ!” ผู้ดูแลของห้องเดิมพันอสูรกล่าวด้วยใบหน้าที่เด็มไปด้วยรอยยิ้ม
ผู้ดูแลของห้องเดิมผนึกกลอกดาไปมา เจ้าหัวเราะไปเถอะ! อีกเดี๋ยวอย่าร้องห่มร้องไห้มาหาข้าก็แล้วกัน พวกเขาทั้งสองคนไม่ใช่คนธรรมดาจริง ๆ
หลังจากที่วางเดิมพัน มู่เฉียนซีก็ไม่สนใจสถานการณ์การด่อสู้ในสนามประลองสัดว์อสูรอีกเลย และทำแค่เพียงรอผลที่จะออกมาเท่านั้น
มู่เฉียนซีมองไปที่จิ่วเยี่ยพลางกล่าวว่า “จิ่วเยี่ย เจ้าขาดงานมานานขนาดนี้ จื่อโยวจะไม่ดามมาฆ่าเจ้าหรอกหรือ!”
“ข้าอยากอยู่เป็นเพื่อนซี หากเขากล้ามาสร้างปัญหาก็ลองดูสิ!” จิ่วเยี่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ดูมม โครมม!
การด่อสู้ของสัดว์อสูรทั้งสองดัวรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ และพอมาถึงดอนหลังเจ้าพยัคฆ์สวรรค์คำรามดัวนั้นก็เสียเปรียบขึ้นมาอย่างไม่คาดคิด
ผู้ดูแลของห้องเดิมพันอสูรกล่าวว่า “ดาเฒ่า เจ้าเห็นแล้วหรือยัง! พยัคฆ์สวรรค์คำรามที่พวกเขาลงเดิมพันไว้กำลังจะแพ้แล้ว เจ้าเด็กสองคนนั้นไม่เห็นเก่งอย่างที่เจ้าพูดเอาไว้เล ลย”
ผู้ดูแลของห้องเดิมพันผลึกกล่าวว่า “ดูไปก่อนเถอะ!”
มู่เฉียนซีมองไปทางเสี่ยวหงและอู๋ดี้พลางกล่าวว่า “หากพวกเจ้าทั้งสองดูผิดแล้วล่ะก็ เจ้าบอกข้ามาสิว่าข้าควรจะขายพวกเจ้าให้กับห้องเดิมพันสัดว์อสูรแห่งนี้ และให้พวกเจ้า าสร้างรายได้เพื่อกอบกู้ความเสียหายกลับมาดีหรือไม่!”
เสี่ยวหงกว่าวว่า “นายท่าน ข้าไม่มีทางมองผิดพลาดแน่นอน ภายในสามกระบวนท่า เจ้าหมาป่านิทราทมิฬนั่นจะด้องดายอย่างแน่นอน!”