ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2332 กินจนพอใจ
ทั่วทั้งตรอกการพนัน คนที่ร่ำรวยที่สุดก็คือนางแม่มดเยาเยี่ยของห้องที่สี่นี่แหละ
ด้วยเหตุนี้หลังจากนั้นไม่นาน จำนวนที่ชนะของมู่เฉียนซีก็เท่ากับยอดรวมที่ชนะไปก่อนหน้านี้แล้ว
“อัยหยา! ตรอกการพนันของพวกเราได้พ่ายแพ้จนเสียผลึกสีดำแห่งความมืดระดับสูงสุดไปจนหมดแล้ว! ส่วนผลึกสีดำแห่งความมืดที่ระดับต่ำกว่านี้ข้าก็คิดว่ามันคงไม่เข้าตาของพวกท ท่านเป็นแน่ เช่นนั้นควรจะทำอย่างไรดีล่ะ? ในเมื่อเราเปิดกิจการแล้ว ก็คงไม่สามารถขับไล่คนออกไปได้หรอก!” นางแม่มดเยาเยี่ยกล่าวด้วยท่าทางกลัดกลุ้มใจเป็นอย่างมาก
ด้วยท่าทางที่น่าหลงใหลและมีเสน่ห์ของนางนี้ ทำให้ผู้คนอดที่จะกระโจนออกมาแล้ววางผลึกสีดำแห่งความมืดทั้งหมดที่มีไว้ตรงหน้านางไม่ได้
ถึงลูกค้าของห้องที่สี่จะล้วนเป็นคนใจกว้าง แต่ให้เอาผลึกสีดำแห่งความมืดระดับสูงสุดออกมาทันที พวกเขาก็ไม่อาจทำได้เช่นกัน ฉะนั้นจึงทำได้เพียงแค่เฝ้ามองหญิงงามที่กำลังปวดศ ศีรษะด้วยความปวดใจเท่านั้น
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ข้าจะวางเดิมพันด้วยผลึกสีดำแห่งความมืดระดับสูงสุดที่ข้าได้รับมาจากตรอกการพนันนี้ทั้งหมด ส่วนเจ้าก็วางเดิมพันด้วยห้องของตรอกการพนันทั้งหมดของเจ้า จากน นั้นเราก็มาเดิมพันรอบสุดท้ายกัน เจ้าว่าเป็นอย่างไร?”
“เหตุใดแม่นางถึงได้ชอบตรอกการพนันเล็ก ๆ ของพวกข้านักล่ะ?” เยาเยี่ยกล่าวอย่างจนปัญญา
“ก็จะเอาไว้หาเงินน่ะสิ! ข้าค่อนข้างยากจนน่ะ ดังนั้นจึงถูกใจตรอกการพนันของพวกเจ้า” มู่เฉียนซีตอบอย่างจริงจัง
ทุกคนจ้องมองไปที่มู่เฉียนซี และมุมปากก็กระตุกขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง จนรึ!
เจ้ามีผลึกสีดำแห่งความมืดระดับสูงสุดจำนวนพันถึงสองพันก้อนได้แล้วนะ คิดไม่ถึงเลยว่าจะพูดคำว่าจนออกมาต่อหน้าพวกเขาเช่นนี้ แล้วจะให้พวกเขาทนได้อย่างไร
“เรื่องนี้ ข้าไม่สามารถตัดสินใจได้! แม่นางก็รู้ว่าตรอกการพนันอย่างพวกเรา มีเพียงภูมิหลังเล็ก ๆ ในเมืองเทพสังหารแห่งนี้เท่านั้น ด้วยท่าทางที่หยิ่งผยองเช่นนี้ของแม่นาง ไ ไม่กลัวว่าจะสร้างปัญหาให้ตนเองอย่างนั้นหรือ?” เยาเยี่ยกล่าว
มู่เฉียนซีกล่าวกับนางว่า “ประการแรก เจ้ามีรูปร่างหน้าตาที่งดงามถึงเพียงนี้ ฉะนั้นเจ้าสามารถเป็นผู้ตัดสินใจเรื่องตรอกการพนันนี้ได้ด้วยตนเอง! เพราะในตรอกการพนันเล็ก ๆ แห่งน นี้ ไม่มีสิ่งใดมีค่าเท่าความงดงามของเจ้าอีกแล้วไม่ใช่หรือ?”
มู่เฉียนซีจ้องมองไปยังผู้หญิงที่อยู่เบื้องหน้าคนนี้ และนางก็มีความสามารถในการดึงดูดผู้คนที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก
เยาเยี่ยปิดปากพลางกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “คำพูดของน้องสาวช่างน่ารักเสียเหลือเกิน ข้าได้ยินคำพูดของเจ้าแล้วมีความสุขมากจริง ๆ! แต่นี่เป็นเพียงแค่ประเด็นเดียวเท่านั้น นอกจากน นี้ล่ะ?”
“ประการที่สอง!” มุมปากของมู่เฉียนซียกขึ้นเล็กน้อย
“แน่นอนว่าข้ากล้าทำอยู่แล้ว ซึ่งนั่นก็หมายความว่าข้ามีคนหนุนหลังเช่นกัน ดังนั้นตรอกการพนันของพวกเจ้าอย่าคิดที่จะทำอะไรบุ่มบ่ามจะดีกว่า หากถึงเวลาที่ต้องเจอกับเรื่องเล ลวร้ายก็อย่าโทษว่าข้าไม่เกรงใจก็แล้วกัน”
คนหนุนหลังของนางนั้นใหญ่ที่สุดในคุกโลหิตแล้ว หรืออาจจะใหญ่ที่สุดในแดนนรกเลยก็เป็นได้ ผู้ใดกล้าใช้อำนาจมารังแกนาง ก็คาดว่าอาจจะต้องตายโดยที่ไม่ทันได้รู้ตัวเลยด้วย ยซ้ำ
อย่างไรเสียนางก็เป็นถึงคู่หมั้นของหวงจิ่วเยี่ย ผู้เป็นท่านอ๋องจิ่วเยี่ยของคุกโลหิตแห่งแดนนรกแห่งนี้
เยาเยี่ยผงะไปครู่หนึ่ง บางทีสาวน้อยที่อยู่ตรงหน้านี้อาจจะดูธรรมดาจนผิดปกติ แต่เยาเยี่ยกลับเห็นแสงแวววาวเปล่งประกายมาจากดวงตาคู่นี้ ซึ่งนั่นก็คือความมั่นใจที่เปี่ยมล้นอ อย่างแน่นอน
เยาเยี่ยกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เช่นนั้นก็ดี! ข้าเดิมพัน จะแพ้ก็แพ้ ความจริงข้าเองก็ไม่อยากทำตรอกการพนันนี้ต่อไปแล้วเช่นกัน”
เยาเยี่ยรู้ว่า ตนเองมีโอกาสสูงมากที่จะพ่ายแพ้ เพราะหลังจากที่ต่อสู้กันมาหลายสิบรอบ นางก็สัมผัสได้ว่าพลังจิตวิญญาณของแม่สาวน้อยผู้นี้แข็งแกร่งจนถือได้ว่าโกงเลยทีเดียว
และก็เป็นไปตามที่คาดไว้ ด้วยการแข่งขันที่เรียบง่ายในรอบนี้ นางก็พ่ายแพ้ไปอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
เยาเยี่ยกล่าวพลางยิ้มอย่างจนปัญญา “ดูเหมือนว่า พวกเราจะพ่ายแพ้จนต้องสูญเสียตรอกร้อยเดิมพันไปอย่างสมบูรณ์แล้ว นี่คือโฉนดที่ดีของตรอกร้อยเดิมพันของพวกเรา เจ้าโปรดรับเอา าไว้เถิด”
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เช่นนั้นข้าไม่เกรงใจก็แล้วกัน”
หลังจากที่รับโฉนดที่ดินมาเรียบร้อยแล้ว นางก็เก็บผลึกสีดำแห่งความมืดระดับสูงสุดทั้งหมดไป และมู่เฉียนซีก็คว้าจิ่วเยี่ยเอาไว้พลางกล่าวว่า “วันนี้ข้าหาเงินได้มากมาย เจ้าอยาก จะไปกินข้าวที่ไหน? ข้าเป็นคนจ่ายเอง ข้าจะให้เจ้ากินจนพอใจเลย”
ดวงตาของจิ่วเยี่ยเปล่งประกายแสงวิบวับอย่างมีความหมาย จากนั้นก็มองไปทางมู่เฉียนซีพลางกล่าวว่า “กินจนพอใจเลยอย่างนั้นหรือ?”
เยาเยี่ยหัวเราะออกมาเบา ๆ น้องสาวผู้นี้จะหลอกล่อผู้ชายเช่นนี้ไม่ได้นะ! มันจะอันตรายเกินไปแล้ว
เยาเยี่ยเป็นคนส่งมอบตรอกร้อยเดิมพันออกไปด้วยตนเอง ฉะนั้นพวกเขาที่เหลืออีกสามคนจึงเข้ามาห้อมล้อมเยาเยี่ยไว้พลางกล่าวว่า “เจ้า…เจ้าเอาตรอกการพนันมอบให้คนอื่นเช่นนี้ นะ …นี่เจ้าทำได้อย่างไร หากเจ้านายรู้เข้า…”
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ข้าไม่อยากทำมันมาตั้งนานแล้ว! มีคนเอาไปก็ดีเหมือนกัน หากเขารู้ เขาก็มาจัดการกับข้าเองนั่นแหละ!” เยาเยี่ยกล่าวอย่างฮึดฮัด
พวกเขาทั้งสามคนจนปัญญาแล้ว ความคับข้องใจที่หญิงสาวผู้นี้ถูกโยนเข้าไปในตำหนักเย็นนั้นน่ากลัวมากเกินไปแล้วจริง ๆ
ความจริงแล้วทั้งมู่เฉียนซีและจิ่วเยี่ยต่างก็ตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนมากมาย และนางก็แน่ใจว่าคนเหล่านี้ไม่ใช่คนที่อยู่ในตรอกร้อยเดิมพันอีกด้วย เพราะนางมองออกว่าเยาเยี่ย ผู้นั้นไม่ใช่คนที่พ่ายแพ้ไม่ได้
คนที่มาก่อนหน้านี้เหล่านั้นเห็นได้ชัดว่าเป็นคนอื่น ๆ ที่อยู่ในตรอกการพนัน เมื่อได้เห็นว่าพวกเขาเอาชนะจนได้เงินมากมาย และชนะจนเอาตรอกร้อยเดิมพันมาไว้ในกำมือได้ พวกเขา ย่อมตื่นเต้นมากอยู่แล้ว
“คนที่อยู่ข้างหน้าสองคนนั้น หยุดเดี๋ยวนี้!” น้ำเสียงที่โกรธเกรี้ยวดังขึ้นมาจากข้างหลังของพวกเขา
อีกฝ่ายพาคนมาด้วยมากมาย และพวกเขาก็จ้องมองไปทางมู่เฉียนซีกับหวงจิ่วเยี่ยตาเขม็ง
กลิ่นอายของทั้งสองคนนี้ยังไม่ถึงระดับเจ้าครองดินแดนเลยด้วยซ้ำ คิดไม่ถึงเลยว่าจะกล้าสร้างข่าวลือเช่นนี้ ช่างรนหาที่ตายนัก
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่จัดการ แต่คนอื่นก็คงไม่มีทางปล่อยพวกเขาไปอยู่ดี!
“ข้าไม่ได้ต้องการผลึกสีดำแห่งความมืดระดับสูงสุดของพวกเจ้า แต่จงมอบโฉนดที่ดินของตรอกร้อยเดิมพันของเจ้าออกมาให้ข้าซะ ข้าชื่นชมยกย่องคนงามอย่างเยาเยี่ยมานานมากแล้ว ขอเพ พียงทำให้ตรอกการพนันเป็นของข้า นางจะต้องเป็นคนของข้าแน่นอน เพียงเท่านี้ข้าจะทำทุกอย่างกับนางได้ตามที่ต้องการแล้ว” ทันทีที่พูดเช่นนี้ออกมา สีหน้าของผู้ชายเหล่านี้ก็ปั่ นป่วนขึ้นมาทันที
พวกเขานี่ช่างเป็นคนที่หลงใหลในความงามนั่นจริง ๆ นางมีแรงดึงดูดยิ่งกว่าผลึกสีดำแห่งความมืดเสียอีก
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชาว่า “นี่พวกเจ้ากำลังฝันกลางวันอยู่อย่างนั้นหรือ?”
“นี่ข้าถือว่าสุภาพมากแล้วนะ หากเจ้าไม่ให้ หรือว่าเจ้าไม่กลัวที่จะต้องตายอยู่ในเมืองเทพสังหารแห่งนี้อย่างนั้นหรือ?”
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้ว อยากสู้ก็เข้ามาสิ ข้าจะรีบไปกินข้าวเย็นกับจิ่วเยี่ยของข้านะ!”
“เจ้านี่ให้พูดดี ๆ ไม่ชอบ ชอบให้ต้องบังคับจริง ๆ สินะ ลงมือได้! เอาโฉนดที่ดินมาให้พวกข้า ตอนนี้แม้แต่ผลึกสีดำแห่งความมืดระดับสูงสุด พวกเราก็จะเอามาด้วยเช่นกัน”
ในเมื่อพวกเขาเริ่มลงมือ มู่เฉียนซีเองก็เริ่มลงมือแล้วเช่นกัน
ด้วยระดับพลังวิญญาณของมู่เฉียนซี ที่เป็นเพียงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับห้า ดูเหมือนว่าในสายตาของคนเหล่านี้นางจะดูอ่อนแอเกินไปอย่างเห็นได้ชัด
ความสามารถอ่อนแอขนาดนี้ยังจะกล้าอาละวาดเช่นนี้อีก แม้ว่าความสามารถของพวกเขาจะไม่ได้อยู่ในระดับเจ้าครองดินแดน แต่ก็ถือว่าแข็งแกร่งกว่านางมากเกินพอแล้ว
มู่เฉียนซีหยิบกระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณออกมา และเปลวเพลิงแห่งการทำลายล้างก็พุ่งทะยานออกไปทันที ซึ่งนี่ก็ทำให้คนที่เดิมทีเข้ามาอย่างมั่นใจเหล่านั้นรู้สึกหายใจไม่ออก อีก กทั้งหน้าผากก็มีเหงื่อเย็นไหลทะลักออกมาอีกด้วย
อันตราย!
“เก้าอัคคีพิฆาต!”
ตูมมม!
มังกรเพลิงเก้าตัวพุ่งเข้าจู่โจมพวกเขา ซึ่งมันก็ทำให้พวกเขาไม่มีแรงที่จะต้านทานเลยแม้แต่น้อย นอกจากนี้ยังถูกเปลวเพลิงแห่งราชันย์แผดเผาอย่างน่าสังเวชอีกด้วย และในที่สุดพวกเ เขาก็กลายเป็นอัมพาตจนล้มฟุบลงไปบนพื้น
พลังจิตวิญญาณของมู่เฉียนซีแพร่กระจายออกไป และโดยรอบบริเวณมีผู้คนกำลังซ่อนตัวอยู่มากมายเลยทีเดียว
“พวกเจ้าทั้งหมดไสหัวออกมาเถอะ! ต้องการจะมาแย่งชิงสิ่งของก็รีบเข้ามา หากไม่สู้ก็ไสหัวไปซะ!” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชา
พวกเขาโกรธเคืองขึ้นมาทันที ที่นี่คือเมืองเทพสังหาร เจ้าครองดินแดนระดับบนมีมากมายราวกับสุนัข อีกทั้งใต้เท้าระดับล่างก็สามารถพบเห็นได้ทั่วไป ผู้หญิงคนนี้มีพื้นฐานไม่ถึงเจ จ้าครองดินแดนเลยด้วยซ้ำ คิดไม่ถึงเลยว่าจะกล้าท้าทายพวกเขาอย่างหยิ่งผยองเช่นนี้ได้ ช่างรนหาที่ตายนัก
“โจมตีได้!”
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชาว่า “รนหาที่ตายกันจริง ๆ!”
“เพลิงนภาพิฆาต!”
“มังกรวารีจงบังเกิด!”
“พลังวายุทำลาย ดาวกระจาย!”
ปัง ปัง ปัง!
พลังการโจมตีพุ่งเข้าจู่โจมพวกเขาอย่างต่อเนื่อง จนยากที่จะต้านทานได้
และพลังของคนเหล่านี้ไม่สอดคล้องกับพลังในการต่อสู้ของนางอย่างสิ้นเชิง เพียงแต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีคนเช่นนี้ในคุกโลหิต แต่การเป็นถึงผู้บำเพ็ญภูตพลังธาตุสามธาตุก็น่ากลัวเกิน นไปหน่อยเช่นกัน!
หลังจากนั้นคนเหล่านี้ก็มองไปทางมู่เฉียนซีอย่างประหลาดใจ แต่มู่เฉียนซีกลับถามพวกเขาว่า “อ้อ! พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าร้านอาหารที่อร่อยที่สุดในเมืองเทพสังหารอยู่ที่ใด?”