ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2335 ท่านอู๋หยา
จื่อโยวหอมแก้มเยาเยี่ยไปฟอดใหญ่ “คนสวยของข้าฉลาดเช่นนี้ หากปล่อยให้ติดตามคนงามคงจะทำให้ข้าผ่อนคลายไม่น้อยเลย ช่างยอดเยี่ยมจริง ๆ!”
ผู้ดูแลทั้งสามคนนั้นต่างก็ตะลึงงันไปในทันที จากนั้นเหงื่อของพวกเขาก็ไหลทะลักออกมา!
ชายชุดดำผู้นั้นคือท่านอ๋องจิ่วเยี่ยหรือ? เช่นนั้น…เช่นนั้นแม่นางน้อยคนนั้นจะต้องเป็นพระชายาที่ท่านอ๋องจิ่วเยี่ยพากลับมาด้วยตามข่าวลืออย่างแน่นนอน
คิดไม่ถึงว่าท่านอ๋องจะมายังตรอกเดิมพันของพวกเขา จนพวกเขาพ่ายแพ้อย่างไม่ยุติธรรมเช่นนี้!
โชคดีที่พวกเขายังไม่ได้ทำให้นายท่านทั้งหลายต้องขุ่นเคือง มิเช่นนั้นก็คงไม่รู้ว่าจะต้องตายเช่นไรไปแล้วเป็นแน่
หลังจากนั้นเจ้านายจอมเจ้าชู้ก็อุ้มเยาเยี่ยเดินออกไป ส่วนพวกเขาทั้งสามคนยังคงยืนตะลึงเป็นไก่ตาแตกอยู่ตรงนั้น
มู่เฉียนซีเตรียมที่จะเปิดหอหมอปีศาจสาขาแรกที่เมืองเทพสังหาร ส่วนยาลูกกลอนก็ให้หม้อหลุนหุยแห่งความตายรีบกลั่นออกมา
เมื่อเตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้ว นางก็ตรงไปยังตรอกร้อยเดิมพันทันที
ปัง ปัง ปัง!
ผลปรากฏว่าทันทีที่นางไปถึง คนเหล่านี้ก็ปฏิบัติต่อนางอย่างมีมารยาทมาก จนทำให้มู่เฉียนซีผงะไปครู่หนึ่ง นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?
คนที่อยู่ภายในตรอกการพนันแห่งนี้ทั้งฉลาดและหยิ่งผยอง และไม่ใช่คนที่จะยอมคุกเข่าให้ผู้อื่นง่ายดายเช่นนี้
หลังจากนั้นร่างเงาที่ทรงเสน่ห์ก็ปรากฏตัวขึ้นมา และมู่เฉียนซีก็สัมผัสได้ว่ากลิ่นอายของเยาเยี่ยนั้นมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้นกว่าเดิมเสียอีก
บนคอของนางมีร่องรอยที่จื่อโยวทำเอาไว้หลายแห่ง แน่นอนว่ามู่เฉียนซีย่อมต้องสามารถมองออกอยู่แล้วว่ามันคือร่องรอยอะไร
นางย่อยตัวเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า “เยาเยี่ยคารวะเจ้านายเจ้าค่ะ!”
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างประหลาดใจเล็กน้อยว่า “เมื่อวานนี้ข้าไม่เห็นว่าพวกเจ้าจะมีท่าทางที่ให้เกียรติเช่นนี้เลย! วันนี้พวกเจ้ากินยาผิดมาอย่างนั้นหรือ?”
เยาเยี่ยกล่าวว่า “เนื่องจากว่าเมื่อคืนนายท่านทำให้ข้าน้อยได้รับความอิ่มเอมที่ไม่เลวนัก ข้าจึงอารมณ์ดี ดังนั้น…”
“พวกเราไปคุยกันเถอะ!” มู่เฉียนซีกล่าว
“เจ้าค่ะ!”
เห็นได้ชัดว่าผู้รับผิดชอบที่นี่ก็คือเยาเยี่ย มู่เฉียนซีจึงกล่าวว่า “บอกเหตุผลข้ามา!”
“ข้าน้อยน้อมรับคำสั่ง!” เยาเยี่ยกล่าวพร้อมคลี่ยิ้มอย่างเย้ายวน
“สามารถกลายมาเป็นลูกน้องของพระชายาได้ ช่างเป็นเกียรติของข้าน้อยยิ่งนัก”
“ตรอกการพนันแห่งนี้ ที่แท้จื่อโยวก็เป็นคนเปิดนี่เอง!” และมู่เฉียนซีก็นึกถึงเรื่องที่จื่อโยวพูดขึ้นมาเมื่อวานนี้ได้
ตรอกการพนันครึ่งหนึ่งของเมืองเทพสังหารมีเขาเป็นเจ้าของ เช่นนั้นจึงมีโอกาสสูงที่นางจะสุ่มเลือกมาโดนตรอกการพนันของเขา คิดไม่ถึงเลยว่าจะเอาชนะตรอกการพนันของจื่อโยวได้
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ข้ามาเยือนที่นี่เป็นครั้งแรก จึงต้องการผู้ช่วยที่มีความสามารถสักคนหนึ่ง และข้าก็พอใจเจ้าเป็นอย่างมาก หากไม่ว่าอะไรก็อยากให้เจ้ามาทำงานให้ข้า แต่ข้าก็ไม่อยากให้เป็นเพราะว่ามันคือคำสั่งของจื่อโยว ฉะนั้นเจ้ามีเงื่อนไขอะไรหรือไม่?”
เยาเยี่ยกระพริบตาปริบ ๆ พลางกล่าวว่า “ข้าน้อยต้องการเพียงแค่เรื่องเดียวเท่านั้นเจ้าค่ะ หากพระชายารับปาก ข้าก็ยินดีที่จะทำเพื่อพระชายาอย่างสุดความสามารถเจ้าค่ะ”
“พูดมาเถอะ!” มู่เฉียนซีกล่าว
“ข้าน้อยอยากให้พระชายาให้ใต้เท้าจื่อโยวมาหาข้าที่นี่บ่อยๆ เอ่อ! เพราะใต้เท้าจื่อโยวทำให้ข้าหยุดไม่ได้จริง ๆ ทั้งยังเป็นชายที่ยากจะปล่อยไป…” หางเสียงของเยาเยี่ยราวกับว่าเต็มไปด้วยตะขอก็มิปาน หากให้ผู้ชายมาได้ยินเข้าคงจะจิตใจเตลิดเปิดเปิง จนอดกระโจนเข้าใส่นางไม่ได้อย่างแน่นอน
ใบหน้างามนั้นแดงระเรื่อขึ้นมาทันที เหมือนกับดอกกุหลาบที่งดงามก็มิปาน เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนี้ยอมสยบอยู่แทบเท้าของจื่อโยว และตอนที่อยู่บนเตียง หญิงสาวผู้นี้ก็ถูกจื่อโยวพิชิตได้ไปแล้ว
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ได้อยู่แล้ว!”
เงื่อนไขที่ง่ายดายเช่นนี้ มู่เฉียนซีเองก็เป็นเจ้านายที่มีความตรงไปตรงมาเช่นกัน
หากจื่อโยวปฏิเสธ นางก็แค่วางยาจื่อโยวแล้วรวบมาโยนให้เยาเยี่ยก็สิ้นเรื่องแล้ว
แต่จื่อโยวไม่มีทางที่จะไม่รักนางแน่นอน อย่างที่รู้กันว่าจื่อโยวชื่นชอบหญิงสาวที่งดงามเช่นนี้เป็นอย่างมาก ฉะนั้นเขาต้องมีความสุขมากแน่นอน!
จื่อโยวที่กำลังยุ่งอยู่กับการจัดการเรื่องอื่น ๆ ข้างกายจิ่วเยี่ยอดที่จะตัวสั่นเทาขึ้นมาไม่ได้ และเขาก็รู้สึกได้ถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดีบางอย่าง เขาควรจะทำเช่นไรดี?
เยาเยี่ยกล่าวด้วยความเคารพว่า “เช่นนี้เยาเยี่ยต้องขอขอบคุณเจ้านายล่วงหน้าแล้ว”
นี่คือโอกาสของนาง ฉะนั้นนางจึงจำเป็นต้องคว้าเอาไว้ให้ได้
แม้ว่าจะเคยเป็นตรอกการพนันของใต้เท้าจื่อโยวมาก่อน แต่บนโลกใบนี้ก็มีสาวงามมากมาย คิดไม่ถึงว่ามาที่นี่เพียงปีเดียว แต่ก็ถือว่าดีกว่าต้องรอไปอีกหลายสิบปี หรือหลายร้อยปีเลยทีเดียว
แต่หากตั้งใจทำงานอยู่ข้างกายพระชายา ก็จะได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น และมีความเป็นไปได้ว่าจะได้รับการสนับสนุนจากพระชายาอีกด้วย
และผู้ชายจอมเจ้าชู้คนนั้น ที่ไม่มีทางหมกมุ่นอยู่กับผู้หญิงเพียงคนเดียว แต่นางก็คือหญิงที่ร้ายกาจ และนางก็ชอบมันมาก
นอกจากใบหน้าที่ชั่วร้ายที่ทำให้นางใจเต้นแรงและความสามารถที่แข็งแกร่งแล้ว แน่นอนว่าก็เป็นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากที่หลับนอนกับนาง…
เพียงครั้งเดียวก็เหมือนว่ามันทำให้นางเสพติดไปแล้วก็มิปาน และนางก็ไม่สามารถควบคุมตนเองได้เลย
หลังจากนั้น มู่เฉียนซีก็พูดคุยเกี่ยวกับแผนการของนาง และเยาเยี่ยก็เข้าใจในทันที นางกล่าวว่า “เจ้านายโปรดวางใจ ข้าจะทำให้หอหมอปีศาจเปิดกิจการในเมืองเทพสังหารให้เร็วที่สุดแน่นอน ส่วนเรื่องของแหล่งลูกค้าเจ้านายก็มิต้องกังวล ข้าเปิดตรอกการพนันมานานหลายปี ฉะนั้นย่อมรู้จักผู้คนมากมายอยู่แล้ว”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ตรอกการพนันก็ทำเงินได้มากเช่นกัน แน่นอนว่าจะต้องเปิดต่อไป เพียงแต่ให้คนอื่นเป็นคนรับผิดชอบแทน พวกเขาทั้งสามคนก็สามารถเป็นลูกน้องคอยช่วยงานเจ้าได้! ข้าคิดว่าเจ้าน่าจะคุ้นเคยในการใช้งานพวกเขาแล้ว”
เยาเยี่ยกล่าวว่า “เจ้าค่ะ!”
เมื่อหาลูกน้องที่น่าเชื่อถือได้แล้ว มู่เฉียนซีก็รู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก และคาดว่านี่น่าจะเป็นเพราะเสน่ห์ของจื่อโยว ที่สามารถดึงเอาลูกน้องที่งดงามและมากความสามารถเช่นนี้มาได้
“คนงาม เจ้าพอใจมากหรือไม่?” ทันทีที่มู่เฉียนซีกลับมา จื่อโยวก็มาหานาง และเขาก็คลี่ยิ้มราวกับอยากจะขอรางวัลก็มิปาน
“ข้าพอใจมาก เจ้านี่มีเสน่ห์มากจริง ๆ ถึงได้มีเพื่อนสาวที่เก่งกาจเช่นนั้นได้!”
“ในเมื่อพอใจ คนงามเจ้าช่วยไปขอร้องเยี่ยให้ข้าหน่อยได้หรือไม่!”
“คนเก่งย่อมต้องทำงานหนักกว่าคนอื่น ฉะนั้นข้าจึงจะมองเจ้าในแง่ดี!” มู่เฉียนซีกล่าวพลางแสยะยิ้ม
“พวกเจ้านี่จะรังแกคนอื่นเกินไปแล้วนะ” จื่อโยวคำรามออกมา
ภายในพระราชวัง มู่เฉียนซีและจิ่วเยี่ยต่างคุ้นเคยซึ่งกันและกันเป็นอย่างดี และมีความเข้าใจกันโดยปริยาย ยามตกกลางคืนพวกเขาก็เข้านอนและกอดกันหลับไป
มีข่าวลือภายในพระราชวังว่า หลังจากที่มีพระชายาแล้วท่านอ๋องจิ่วเยี่ยของพวกเขาก็แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง และความสัมพันธ์ระหว่างท่านอ๋องกับพระชายาก็ดีมากอีกด้วย
ในเวลานี้เอง เป๋ยโต่วที่ลึกลับซับซ้อนมาโดยตลอดก็ปรากฏตัวขึ้น และเขาก็คุกเข่าข้างหนึ่งลงตรงหน้าของจิ่วเยี่ยพลางกล่าวว่า “นายท่าน ท่านอู๋หยาเรียนเชิญขอรับ”
“อู๋หยาหรือ!” มู่เฉียนซีเองก็เคยได้ยินชื่อนี้จากปากของจื่อโยวมาก่อนเช่นกัน
การดำรงอยู่ของท่านอู๋หยาในคุกโลหิตค่อนข้างพิเศษ
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “จิ่วเยี่ย ข้าสามารถไปเจอเขาได้หรือไม่?”
“พระชายา…” เป๋ยโต่วกล่าวอย่างกระอักกระอ่วน
จิ่วเยี่ยพยักหน้าพลางกล่าวว่า “เอาสิ!”
ร่างเงาสีดำของเขาเปลี่ยนเป็นลำแสง จากนั้นก็ทะยานไปยังหอคอยสีขาวเพียงหนึ่งเดียวในเมืองเทพสังหารแห่งนี้
หอคอยสีขาวแห่งนี้มีชื่อว่าหอคอยเซียนหยา เป็นสถานที่ที่ท่านอู๋หยาผู้สูงศักดิ์อาศัยอยู่ในคุกโลหิต
จิ่วเยี่ยได้อุ้มมู่เฉียนซีมาจนถึงหน้าหอคอยสีขาวแห่งนี้ ทันทีที่ประตูเปิดออก คนที่อยู่ข้างในก็กล่าวด้วยความเคารพว่า “ฝ่าบาท เชิญได้ในพ่ะย่ะค่ะ นายท่านกำลังรอท่านอยู่”
หลังจากที่เข้าไปในหอคอแห่งนี้แล้ว มู่เฉียนซีก็สัมผัสได้ถึงพลังเทพที่น่าอัศจรรย์ของที่นี่ และนางก็อยากรู้อยากเห็นเรื่องของท่านอู๋หยาผู้นั้นเป็นอย่างมาก
ในตอนที่พวกเขาเดินขึ้นมาถึงชั้นบนสุด มู่เฉียนซีและจิ่วเยี่ยก็ถูกคนขวางเอาไว้
คนผู้นั้นกล่าวว่า “ฝ่าบาท ท่านอู๋หยาต้องการพบท่านเพียงคนเดียวเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ”
ดวงตาสีฟ้าเย็นยะเยือกของจิ่วเยี่ยฉายแววเย็นชาออกมา “ซีคือว่าที่ภรรยาของข้า สถานที่ที่ข้าสามารถไปได้ นางก็สามารถไปได้เช่นกัน!”
“นี่คือคำสั่งของท่านอู๋หยา แม้ว่ากระหม่อมจะต้องตาย ก็ต้องเชื่อฟังคำสั่งพ่ะย่ะค่ะ!”
ภายใต้พลังอันเย็นยะเยือกที่น่าสะพรึงกลัวของจิ่วเยี่ย ทำให้ความตายใกล้เข้ามามากแล้ว แต่ถึงกระนั้น เขาเองก็จะไม่ถอยแม้แต่ก้าวเดียวเช่นกัน
ซึ่งพลังของจิ่วเยี่ยนั้นสามารถบดขยี้เขา และจัดการสิ่งกีดขวางได้อย่างง่ายดายอยู่แล้ว
.
.