ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2350 เมืองของหน่วยบัญชาการหลัก
“ลองใช้อันนี้ดูเถอะ!”
ภายในมือของมู่เฉียนซีมีขวดยาอยู่หลายขวด หลังจากนั้นไม่นานขวดยาเหล่านั้นก็ระเบิดขึ้นมากลางอากาศ
เพล้ง เพล้ง เพล้ง!
“เสี่ยวโม่โม่ เสี่ยวหง!” มู่เฉียนซีตะโกนออกไป
ทันใดนั้น พวกเขาทั้งสามก็ระเบิดพลังธาตุอัคคีออกมาอย่างสมบูรณ์
พลังธาตุอัคคีอันน่าสะพรึงกลัวบวกกับยาน้ำที่สาดกระเซ็นไปทั่วพื้นดิน ได้ทำให้เขตรอบนอกของเมืองหนามโลหิตเปลี่ยนกลายเป็นทะเลเพลิงไปในทันที
เปลวเพลิงนี้คือสิ่งที่สามารถหักล้างพวกมันได้ ซึ่งหนามโลหิตเหล่านี้ก็ถูกเผาจนกลายเป็นเถ้าถ่าน หลังจากนั้นที่เหลืออยู่บางส่วนก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นเชื่องช้าลง และไม่กล้าเข้า าใกล้พวกเขาอีก
ด้วยการระเบิดพลังทั้งหมดออกมาอย่างสมบูรณ์ ทำให้มู่เฉียนซีและพวกเสี่ยวโม่โม่ค่อนข้างเหนื่อยล้ากันเล็กน้อย
และตอนนี้แมวสีขาวขนาดใหญ่ขนยาวปุกปุยตัวหนึ่งก็จับพวกมันยกขึ้นมา ร่างของมันพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นมันก็เหลือบมองไปยังมนุษย์ที่กำลังมองทะเลเพลิงที่อยู่ตรงหน้ าอย่างมึนงงพลางกล่าวว่า “พวกเจ้าจะมัวยืนบื้ออยู่ทำไมกัน? หรืออยากโดนเจ้านายของข้าใช้เปลวเพลิงนี้แผดเผาพวกเจ้าจนกลายเป็นตอตะโกอย่างนั้นหรือ?”
“ขอรับ! พวกเราจะรีบล่าถอยกันเดี๋ยวนี้เลยขอรับ!”
แน่นอนว่าพวกเขาไม่อยากที่จะถูกเผาจนกลายเป็นตอตะโกอยู่แล้ว ฉะนั้นแต่ละคนจึงรีบล่าถอยออกไปยังสถานที่ที่ปลอดภัยอย่างรวดเร็ว
และสิ่งที่เรียกว่าปลอดภัย ก็เป็นเพียงแค่การออกมานอกระยะการโจมตีของหนามโลหิตเท่านั้น แต่ทว่ามันก็ยังคงมีอันตรายอื่น ๆ ซ่อนอยู่อีก
เพียงแต่ว่าหลังจากที่ได้รับรู้ถึงพลังทำลายล้างของฝูงหนามโลหิตเหล่านั้นแล้ว ก็รู้สึกว่าคู่ต่อสู้เหล่านี้ถูกจัดการได้อย่างง่ายดาย จนไม่คุ้มค่าที่จะกล่าวถึงเลยด้วยซ้ำ
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เยาเยี่ย แจกจ่ายยาน้ำและยาลูกกลอนให้ทุกท่านด้วย และทำให้พวกเขาฟื้นตัวให้เร็วที่สุด! สถานที่แห่งนี้ยังคงมีอันตรายอยู่มาก พวกเราไม่สามารถเปิดเผยช่องโหว่ ให้มากเกินไปจนศัตรูสามารถโจมตีได้”
“เจ้าค่ะ นายท่าน!” และเยาเยี่ยก็ทำตามคำสั่งด้วยการแจกจ่ายยาน้ำและยาลูกกลอนให้กับพวกเขา
ในตอนที่พวกเขาเหล่านี้รับยามาต่างก็พากันตกตะลึงไปตาม ๆ กัน คุกโลหิตถือว่าเป็นคุกนรกแห่งหนึ่ง ฉะนั้นจึงเป็นเรื่องยากมากที่นักปรุงยาที่ยอดเยี่ยมจะถูกโยนมาในสถานที่อัน นมืดมิดเช่นนี้
และที่นี่ก็มีเพียงไม่กี่คนที่อุทิศตนเพื่อฝึกฝนการกลั่นยา ดังนั้นยาลูกกลอนของคุกโลหิตของพวกเขาจึงล้วนเป็นการแย่งชิงมาจากที่อื่นทั้งสิ้น
และเนื่องจากว่ามันไม่ใช่ยาลูกกลอนของคุกโลหิต จึงทำให้มันมีราคาที่สูงมากแน่นอนอยู่แล้ว
คนส่วนใหญ่ของที่นี่ต่างก็ไม่กลัวตายทั้งนั้น ฉะนั้นการยกระดับความสามารถจึงไม่ค่อยอาศัยการใช้ยาลูกกลอนแต่อาศัยการต่อสู้ ที่สำคัญยาลูกกลอนนั้นมีน้อยมาก ๆ อีกทั้งยังมีราคาท ที่แพงมากอีกด้วย!
และถึงจะเป็นคำสั่งของพระชายาก็ตาม แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะให้สาวงามเยาเยี่ยจะนำยาลูกกลอนมากมายขนาดนี้มาแบ่งให้กับพวกเขาจริง ๆ นี่มันจะหรูหรามากเกินไปหน่อยแล้ว
“พระชายา พวกเราไม่เกะกะแล้วขอรับ! และมันก็เป็นเพียงแค่อาการบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้นเอง”
“พลังวิญญาณของข้าถูกผลาญไปจนหมดแล้ว พวกเจ้าต้องการยาลูกกลอนอะไรล่ะ?”
“……”
มู่เฉียนซีเคี้ยวยาลูกกลอนเพื่อฟื้นฟูพลังของตัวเองขวดหนึ่ง มันคือหนึ่งขวด ไม่ใช่แค่หนึ่งเม็ดนะนั่น!
พวกเขาเบิกตาโพลงด้วยความตื่นตะลึง พระชายา! แม้ว่ายาลูกกลอนของท่านอ๋องจิ่วเยี่ยจะมากมายจนกินไม่หมดไปหลายชั่วอายุคน แต่หากสิ้นเปลืองเช่นนี้ มันก็ทำให้พวกเขารู้สึกเจ็บปวดใ ใจมากเช่นกัน
คนกลุ่มแรกที่อยู่ในหอหมอปีศาจของคุกโลหิตเหล่านั้นเห็นจนเคยชินแล้ว อย่างไรเสียตอนนี้หอหมอปีศาจของคุกโลหิตก็ยังไม่มีนักปรุงยาคนอื่นอยู่เลยสักคน แต่ทว่าพระชายากลับสามา ารถส่งยาลูกกลอนมายังหอหมอปีศาจได้กองแล้วกองเล่า ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะว่ายาลูกกลอนเหล่านี้ล้วนเป็นยาที่พระชายากลั่นขึ้นมาเองนั่นเอง
พระชายาสามารถกลั่นยาออกมาได้มากมาย ฉะนั้นในสายตาของพระชายา ยาลูกกลอนเหล่านี้ก็มีค่าเท่ากับถั่วหวานเท่านั้น
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ในเมื่อติดตามข้าแล้ว! เช่นนั้นก็จงฟังคำสั่งของข้าและทำงานให้ดีก็พอ พวกเจ้าจำเป็นที่จะต้องฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บโดยเร็ว มันก็แค่ยาลูกกลอนเท่านั้น ต ตราบใดที่พวกเจ้าทำงานได้ดี หลังจากนี้จะกินมันจนอ้วกก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรเลย”
กินยาลูกกลอนจนอ้วกอย่างนั้นหรือ! ไม่ได้มีอะไรผิดพลาดใช่หรือไม่? พวกเขามีตั้งมากมายขนาดนี้เลยนะ?
นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้รู้ว่าพระชายาเป็นคนที่ฟุ่มเฟือยขนาดนี้!
ภายใต้การจ้องมองที่เย็นชาของมู่เฉียนซี ทำให้พวกเขารู้สึกได้ถึงแรงกดดัน และพวกเขาก็ทำได้เพียงกินยาลูกกลอนที่แสนแพงเหล่านั้นลงไปเท่านั้น
แต่หากจะให้กินมากกว่านี้ ถึงจะขายพวกเขาก็คาดว่าน่าจะชดใช้ไม่พออยู่ดี!
หลังจากที่พวกเขากินยาลูกกลอนแล้ว ก็รู้สึกว่าประสิทธิภาพของยาลูกกลอนเหล่านี้ช่างน่าอัศจรรย์มากจริง ๆ
บาดแผลที่อยู่บนร่างกายของพวกเขาหายไปอย่างรวดเร็ว และพลังวิญญาณที่ถูกเผาผลาญไปจนหมดก็ถูกเติมเต็มขึ้นมาทันที ซึ่งยาก็ออกฤทธิ์ได้อย่างรวดเร็วมากอีกด้วย
“แม้ว่าข้าจะเก็บสะสมเอาไว้ไม่มากเท่าไร แต่ก็เคยลองยาลูกกลอนมาก่อน! แม้ยาลูกกลอนนั้นจะแพงมากแค่ไหนก็ไม่มีเท่าไร ทว่าความเร็วของผลลัพธ์นี้กลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง! เมื อเทียบกับของพระชายาแล้ว มันช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหวเลยทีเดียว!”
“มันน่าทึ่งมากจริง ๆ! ข้าหายดีแล้ว”
ในแดนนรก ยาลูกกลอนมักจะไม่ค่อยได้รับความนิยมมากเท่าไรนัก เนื่องจากว่ายาลูกกลอนที่นำมาขายส่วนใหญ่ล้วนมีคุณภาพที่ไม่ค่อยดีเท่าไรนักนั่นเอง
หากคนของแดนนรกต้องออกไป ถ้าตรงไปยังพื้นที่ด้านล่างก็จะค่อนข้างสะดวกหน่อย แต่หากต้องการขึ้นไปบนพื้นที่ด้านบนก็จะมีเพียงใต้เท้าระดับบนเท่านั้นถึงจะสามารถขึ้นไปได้
และการที่จะให้ใต้เท้าระดับบนคนหนึ่งนำยาลูกกลอนมาและทำการซื้อขายกับพวกเขา ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
แต่ยาลูกกลอนที่นำมาจากข้างล่างนั้นก็มีคุณภาพที่ไม่ดีเอาเสียเลย นอกจากนี้ราคายังแพงมากอีกด้วย ฉะนั้นมันย่อมไม่เป็นที่นิยมอยู่แล้ว
ส่วนยาลูกกลอนของนักปรุงยาท้องถิ่นที่โดดเด่นในคุกโลหิตเหล่านั้นก็ไม่นำออกมาขายให้กับบุคคภายนอก และที่เอามาขายข้างนอกนั้นก็ล้วนแล้วแต่เป็นของที่ไม่สมบูรณ์ทั้งนั้น ซึ่ งมันก็ทำให้ยาลูกกลอนเหล่านั้นแย่ยิ่งกว่าของจากพื้นที่ด้านล่างเสียอีก
“พระชายา ยาลูกลอนเหล่านี้คงไม่ใช่ของที่ท่านอ๋องจิ่วเยี่ยนำมาจากแดนซวนเทียนใช่หรือไม่ขอรับ?”
“ข้าจำได้ว่าช่วงนี้สาวงามเยาเยี่ยไม่ได้เปิดกิจการของตรอกเดิมพันอีกแล้ว แต่เปิดหอยาแทน และยังได้ยินข่าวลือมาอีกว่าประสิทธิภาพยาลูกกลอนของหอยานี้ดีมากอีกด้วย”
“……”
เนื่องจากว่าสาวงามเยาเยี่ยเป็นผู้ดูแล จึงทำให้ทุกวันนี้คนอื่นไม่สามารถเข้าไปในหอยาได้เลย ซึ่งมันก็ทำให้พวกเขาเหล่านี้ไม่มีโอกาสได้เข้าไปประสมโรงด้วย และทำได้เพียงฟังมาจา ากข่าวลือเหล่านี้เท่านั้น
สาวงามเยาเยี่ยกล่าวว่า “คุณภาพของยาลูกกลอนนี้ เหมือนกับที่หอหมอปีศาจทุกประการ และผลของมันก็เหมือนกันอีกด้วย! ข้าลืมบอกทุกคนไป เจ้าของหอของหอหมอปีศาจก็คือพระชายาของพ พวกเรา และจุดมุ่งหมายที่พระชายาพาข้ามายังเมืองหนามโลหิตในครั้งนี้ นั่นก็เป็นเพราะว่าต้องการที่จะสร้างหน่วยบัญชาการหลักของหอปีศาจที่เมืองหนามโลหิตแห่งนี้”
“ฮะ! สร้างหอหมอปีศาจที่เมืองหนามโลหิตอย่างนั้นหรือ! ที่นั่นไม่มีมนุษย์อยู่เลยสักคนเดียวนะ!”
“เราไม่สามารถขายยาลูกกลอนให้พืชได้หรอกนะ!”
พวกเขาไม่เข้าใจเลย เห็นได้ชัดว่าแค่สร้างหน่วยบัญชาการหลักที่เมืองเทพสังหารก็ได้แล้วไม่ใช่หรือ? แต่พวกเขาดันจะมาสร้างหน่วยบัญชาการหลักของหอหมอปีศาจที่เมืองหนามโลหิตที่ อันตรายและร้างผู้คนเช่นนี้เสียอย่างนั้น นี่มันจะประหลาดเกินไปแล้ว
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ถึงตอนนี้จะไม่มีคน แต่หากรอให้เมืองหนามโลหิตเข้าที่เข้าทาง และยาลูกกลอนของหอหมอปีศาจได้รับการเผยแพร่ ก็ย่อมมีคนมายังเมืองหนามโลหิตแน่นอนอยู่แล้ว”
ถึงพระชายาจะมั่นใจมาก แต่ทุกคนกลับมีความลังเลมากอยู่ดี
ตอนนี้พวกเขาแม้แต่จะเข้าใกล้เมืองหนามโลหิตก็ยังทำไม่ได้เลย แล้วจะสามารถทำให้เมืองหนามโลหิตเข้าที่เข้าทาง จนเปลี่ยนมันให้กลายเป็นเมืองปกติ ทั้งยังสามารถขายยาลูกกลอนได้ อย่างไรกันล่ะ!
“พระชายา ท่านมีแผนการอย่างไรขอรับ?” พวกเขากล่าวถาม
ในตอนที่พวกเขาเลือกติดตามพระชายามายังเมืองหนามโลหิต พวกเขาก็ได้มอบทั้งชีวิตและร่างกายให้แก่พระชายาไปแล้ว ถึงแม้ว่าจะต้องตายก็จะติดตามนางต่อไป
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เยาเยี่ย เจ้าพักผ่อนพอแล้วหรือยัง? ตามข้าไปเดินเล่นสักหน่อยสิ!”
ทุกคนต่างพากันตะลึงงัน ไปเดินเล่นหรือ ไปไหนกัน?
พระชายาคงไม่ได้คิดที่จะไปเมืองหนามโลหิตหรอกใช่หรือไม่?
เยาเยี่ยคลี่ยิ้มอย่างเย้ายวนพลางกล่าวว่า “ไม่มีปัญหา!”
“พระชายา…”
เมื่อเห็นว่ามู่เฉียนซีต้องการที่จะมุ่งหน้าไปทางเมืองหนามโลหิตจริง ๆ พวกเขาก็รีบตะโกนร้องออกมาอย่างร้อนรน
“รอคำสั่งอยู่ที่นี่แหละ! เดี๋ยวข้าก็กลับมาแล้ว”
และพระชายาพาเพียงสาวงามเยาเยี่ยไปเท่านั้น ถึงมันจะอันตรายมากเกินไป แต่พวกเขาก็ไม่สามารถขัดขวางเอาไว้ได้อยู่ดี
หลังจากที่เข้าไปใกล้เมืองหนามโลหิตแล้ว มู่เฉียนซีก็ได้กลิ่นไหม้โชยออกมา
เปลวเพลิงได้มอดดับลงไปแล้ว และบนพื้นดินก็ถูกเผาไหม้จนกลายเป็นสีดำ ซึ่งมันก็ทำให้สามารถมองเห็นกำแพงเมืองที่ถูกปกคลุมไปด้วยหนามสีแดงเลือดนั้นได้อย่างชัดเจนมากขึ้นไปอี ก
มีเพียงบนกำแพงเมืองเท่านั้นที่มีหนามโลหิต เพราะหนามโลหิตที่อยู่บนพื้นนั้นได้หายไปหมดแล้ว
เยาเยี่ยกล่าวว่า “ยาน้ำที่พระชายาใช้เมื่อครู่นี้ยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก นอกจากนี้มันยังทำให้หนามโลหิตถูกเผาทำลายไปจนหมดสิ้นอีกด้วย”
มู่เฉียนซีจ้องมองไปยังพื้นที่อยู่ตรงเท้าของนางพลางกล่าวว่า “แม้ว่าเปลวเพลิงของพวกข้าจะทรงพลังมากเพียงใด แต่หนามโลหิตก็ใช่ว่าจะเปราะบางถึงขนาดนั้น ถึงอย่างไรก็ต้องระวังต ตัวด้วย!”
“เจ้าค่ะ พระชายา!”