ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2351 จัดการเรียบร้อยแล้ว
พวกนางพุ่งทะยานผ่านพื้นดินไหม้เกรียมที่เป็นหลุมเป็นบ่ออยู่บนพื้น และเป้าหมายก็คือประตูเมืองที่มีหนามโลหิตเติบโตอยู่เต็มไปหมดนั่นเอง
บริเวณโดยรอบมีความเงียบสงบเป็นอย่างมาก ซึ่งพวกเขาก็ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงของลมเลยด้วยซ้ำ
ตั้งแต่แรกที่เข้ามาใกล้ พลังจิตวิญญาณของมู่เฉียนซีก็ได้ปกคลุมไปทั่วทั้งบริเวณโดยรอบทุกซอกทุกมุมแล้ว และในตอนนี้นางก็รู้สึกได้ว่ามีการเคลื่อนไหวอยู่บนพื้นดิน
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “มาแล้ว!”
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
จากนั้นหนามโลหิตจำนวนนับไม่ถ้วนก็พุ่งออกมาจากพื้นดิน และจู่โจมเข้าใส่มู่เฉียนซีอย่างกะทันหัน
บนพื้นดินที่ไหม้เกรียมของเมืองหนามโลหิต ในเวลานี้เต็มไปด้วยหนามโลหิตที่เลื่อนขั้นแล้วอีกครั้ง ราวกับว่าก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดการเผาไหม้มาก่อนก็มิปาน
เยาเยี่ยผงะไปครู่หนึ่ง นี่คือสิ่งที่พระชายาบอกว่าพวกมันไม่ได้เปราะบางอย่างนั้นสินะ?
นี่เรียกว่าไม่ค่อยเปราะบางที่ไหนกันล่ะ นี่เรียกว่ามีพลังชีวิตที่แข็งแกร่งเกินไปต่างหาก!
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เยาเยี่ย เจ้าปกป้องตนเองเอาไว้ให้ดี”
“อู๋ตี้ เสี่ยวหง เสี่ยวโม่โม่! พวกเราออกไปสู้กันเถอะ!”
“พลังวายุทำลาย ดาวกระจาย!” ทันใดนั้นพลังธาตุวายุก็ระเบิดออกมา
หลังจากนั้นมู่เฉียนซีก็ใช้การเคลื่อนย้ายภายในชั่วพริบตาบุกทะลวงเข้าไปในหนามโลหิตเหล่านั้น
พวกมันกางตาข่ายขนาดใหญ่เอาไว้ผืนหนึ่ง เพื่อต้องการจะจับเหยื่อของพวกมันให้ได้
แต่ทว่าเหยื่อของพวกมันในครานี้ชาญฉลาดเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีความเร็วที่ผิดปกติอีกด้วย ถึงพวกมันอยากจะจับให้ได้ แต่มันก็ไม่ได้ราบรื่นขนาดนั้น
“เพลิงนภาพิฆาต!”
“พลังวายุทำลาย ดาวกระจาย!”
“มังกรวารีจงบังเกิด!”
การโจมตีของผู้บำเพ็ญภูตพลังธาตุสามธาตุนั้นยอดเยี่ยมมากจริง ๆ ซึ่งมันก็ทำให้มุมปากของเยาเยี่ยยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย พระชายาของพวกเรานี่ช่างยอดเยี่ยมเหลือเกิน
แม้ว่าระดับของนางจะสูงกว่าของพระชายา แต่อย่างไรก็ต้องคิดแบบนี้อยู่ดี
ท่ามกลางอันตรายจากการโจมตีที่แฝงตัวอยู่รอบด้าน นางยังคงสามารถสงบนิ่งได้เป็นอย่างดี และด้วยพลังจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งของนาง ก็ทำให้สามารถจับสังเกตบริเวณโดยรอบทั้งหมดได ด้ อีกทั้งยังสามารถหลบหลีกการลอบโจมตีต่าง ๆ ของหนามโลหิตได้อีกด้วย
ตึงง!
มู่เฉียนซีพุ่งทะยานไปยังสถานที่อีกแห่งหนึ่งราวกับภูตวิญญาณก็มิปาน จากนั้นก็ตัดหนามด้วยกระบี่มังกรเพลิง
ถึงนางจะไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก แต่ทว่าเสื้อผ้าของนางกลับถูกหนามโลหิตที่แหลมคมเหล่านี้เกี่ยวจนขาดรุ่งริ่งไปหมด
มู่เฉียนซีส่งสัญญาณมือให้เยาเยี่ยแล้วกล่าวว่า “พอแล้ว พวกเราถอยกันเถอะ ฝ่าวงล้อมออกไปกัน”
อย่างไรเสียเยาเยี่ยก็เป็นถึงใต้เท้าระดับล่าง ฉะนั้นการจัดการหนามโลหิตที่อยู่รอบนอกเหล่านี้จึงเป็นเรื่องที่ง่ายดายมากอยู่แล้ว และในที่สุดนางกับมู่เฉียนซีก็ร่วมมือกันฝ่าว วงล้อมออกไปได้
ไม่ว่าอย่างไรหนามโลหิตเหล่านี้ก็ยังคงไล่ตามอย่างดุเดือด และมันก็ไม่คิดที่จะปล่อยพวกนางทั้งสองคนให้รอดพ้นไปได้อีกด้วย
ส่วนคนที่ถูกมู่เฉียนซีทิ้งเอาไว้ยังจุดเดิมต่างก็เป็นกังวลกันอย่างมาก และในที่สุดเมื่อพวกเขาสัมผัสได้ว่ามีกลิ่นอายที่คุ้นเคยกำลังเข้ามาก็พากันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอ อกทันที
“พระชายากลับมาแล้ว!”
“พระชายาได้รับบาดเจ็บอย่างนั้นหรือ?”
“……”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ทุกท่านไม่ต้องเป็นกังวล ข้าไม่เป็นไร!”
เยาเยี่ยกล่าวถามอย่างสงสัยว่า “คราวนี้พระชายาไปเอาอะไรมาอย่างนั้นหรือเจ้าคะ มีประโยชน์อะไรหรือไม่?”
ในมือของมู่เฉียนซีถือหนามโลหิตเอาไว้กำหนึ่ง นางกล่าวกับทุกคนว่า “พวกเราเคยปะทะกับหนามโลหิตมาแล้ว เช่นนั้นก็ต้องรู้ดีอยู่แล้วว่า ความสามารถของพวกเราในตอนนี้ไม่มีทางบ บุกเข้าไปภายในเมืองหนามโลหิตที่แข็งแกร่งนั้นได้ และหากทำเช่นนี้ต่อไป ผลลัพธ์ที่รออยู่ของพวกเราก็คงเป็นการถูกทำลายล้างแน่นอน”
“เนื่องจากว่าไม่สามารถใช้กำลังในการโจมตีได้ ฉะนั้นจึงทำได้เพียงใช้ความฉลาดเท่านั้น! หากพวกเราสามารถหาจุดอ่อนของหนามโลหิตนั้นได้ละก็ พวกเราก็จะสามารถจัดการหนามโลหิตได้ อย่างง่ายดาย และจะสามารถเข้าไปในเมืองได้อีกด้วย”
“แต่ทว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา พวกเราไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าหนามโลหิตจะมีจุดอ่อนอะไรแบบนี้ด้วย?” ทุกคนต่างกล่าวขึ้นพร้อมกัน
“ในเมื่อไม่มีจุดอ่อน เช่นนั้นก็ต้องหาจุดอ่อนออกมาให้ได้สิ!” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้ม
แม้แต่ไม้เทพแห่งชีวิตที่อยู่ขั้นสูงสุดของไม้เทพนางยังเคยรักษามาแล้วเลย แค่หาจุดอ่อนของพืชกลายพันธุ์อย่างหนามโลหิตแค่นี้ ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรเลย
สำหรับหมอปีศาจ นอกจากจะวางยาพิษมนุษย์ได้แล้ว ก็ยังสามารถทำกับพืชได้ด้วยเช่นกัน
ต่อมา มู่เฉียนซีก็ได้ให้พวกของอู๋ตี้กับเสี่ยวหงเป็นคนคุ้มกัน จากนั้นก็หาสถานที่ราบแห่งหนึ่ง และเริ่มกลั่นยาทันที
เหตุผลที่นางมาที่นี่ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าหนามโลหิตอันตรายมากเพียงใด นั่นก็เป็นเพราะว่านางต้องการที่จะใช้ยาน้ำในการจัดการพืชกลายพันธุ์เหล่านี้
เพราะหากสามารถใช้ยาน้ำจัดการได้ เมืองแห่งนี้ก็จะถือได้ว่ายึดครองได้ง่ายกว่าเมืองอื่น ๆ นั่นเอง
“พระชายาเป็นนักปรุงยาอย่างนั้นหรือ?” ทุกคนกล่าวพลางเบิกตากว้างด้วยความตื่นตะลึง
เยาเยี่ยกล่าวว่า “พวกเจ้านี่มันช่างโง่เขลาเสียจริง ๆ! พระชายาก็พูดแล้วว่านางคือหมอปีศาจของหอหมอปีศาจ แล้วนางจะไม่ใช่นักปรุงยาได้อย่างไร! ยาลูกกลอนทั้งหมดที่พวกเราเอามา าขายในหอหมอปีศาจ ต่างก็เป็นยาลูกกลอนที่พระชายากลั่นออกมาเองทั้งนั้น”
“พระเจ้า! หอหมอปีศาจขายยาลูกกลอนได้มากมายทุกวัน แล้วพระชายาเพียงคนเดียวจะสามารถทำได้อย่างไร?”
“พระชายายังอายุไม่ถึงยี่สิบปีเลยด้วยซ้ำนะ! นักปรุงยาที่อยู่นอกคุกโลหิต เปลี่ยนเป็นคนเก่งกาจเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน”
“……”
เมื่อได้รับรู้ข้อมูลที่น่าตื่นตกใจเช่นนี้ ทุกคนต่างก็ตะลึงงันไปตาม ๆ กัน
คิดไม่ถึงเลยว่าพระชายาจะยอดเยี่ยมถึงขนาดสามารถกลั่นยาลูกกลอนมากมายนี้เพียงตัวคนเดียวได้ เช่นนั้นอีกไม่นานคุกโลหิตของพวกเรา ก็จะมีความมั่งคั่งเพิ่มมากขึ้นแล้วสินะ!
นักปรุงยาที่แข็งแกร่งเช่นนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเหล่าราชทินนามจะยังกล้าพูดว่าความสามารถของพระชายาอ่อนแออีก อีกทั้งยังคิดว่าพระชายาจะคอยเป็นตัวถ่วงของท่านอ๋องจิ่วเยี่ย จนอ อยากที่จะขับไล่พระชายาออกไปจากคุกโลหิตอีกด้วย
เฮ้อ! ดูเหมือนว่าสมองของพวกเขาจะมีปัญหาไปแล้วจริง ๆ
ในระหว่างที่มู่เฉียนซีกำลังศึกษายาน้ำอยู่ คนอื่น ๆ ก็ไม่กล้าที่จะบ่นอะไรออกมา และทำได้เพียงคุ้มกันอยู่โดยรอบ เพื่อไม่ให้มีอันตรายใด ๆ เข้ามาใกล้ได้
ในที่สุดยาน้ำสีแดงเลือดขวดหนึ่งก็ถูกกลั่นออกมา ยาน้ำขวดนี้สามารถทำให้หนามโลหิตสีแดงเลือดเหี่ยวเฉาได้ในพริบตา และหลังจากนั้นก็เปลี่ยนกลายเป็นขี้เถ้าสีขาวเทาทันที
เมื่อทุกคนเห็นฉากนี้ก็รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่ยากจะเชื่อเป็นอย่างมาก “หนามโลหิตที่แม้แต่มีดก็ฟันไม่เข้า อีกทั้งยังไม่ได้รับผลกระทบจากภายนอก และนอกจากนี้ชนิดของพวกม มันหนามโลหิตก็ยังมีพรสวรรค์ที่ทำให้พวกมันสามารถทนต่อสารพิษทั้งหมดได้อีกด้วย แต่ทว่าสิ่งที่เรียกว่ายาน้ำที่พระชายากลั่นออกมานั้น กลับสามารถทำให้พวกมันโดนพิษได้ ซึ่งน นี่ช่างเป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้วจริง ๆ!”
มู่เฉียนซียังเตรียมยาพิษไว้อีกหลายขวด จากนั้นนางก็กล่าวว่า “นี่ยังไม่ได้รับการทดสอบในทางปฏิบัติ ฉะนั้นข้าจึงต้องการคนจำนวนหนึ่งร้อยคนที่จะไปทดลองผลของยาน้ำนี้ด้วยกันก กับข้า ผู้ใดอยากไป ก็จงออกจากแถวมา!”
มีคนลุกออกมามีจำนวนมาก ซึ่งหลังจากที่มู่เฉียนซีเลือกออกมาครบหนึ่งร้อยคนแล้ว นางก็พาเยาเยี่ยมุ่งหน้าไปยังหนามโลหิตที่อยู่บริเวณใกล้เคียงทันที
พื้นดินที่ถูกเผาไหม้จนกลายเป็นสีดำในตอนแรกได้เปลี่ยนกลายเป็นสีแดงเลือดอีกครั้ง และตอนนี้ทุกคนก็เตรียมพร้อมรบอย่างเต็มที่แล้ว
“ในตอนที่หนามโลหิตเริ่มทำการโจมตี พวกเจ้าก็หยิบเอายาน้ำนี้โยนใส่พวกมันเสีย หลังจากนั้นก็หลบหนีไปทันที ภารกิจของพวกเราในวันนี้มีเพียงแค่ทดสอบประสิทธิภาพของยาน้ำนี้เท่า านั้น ซึ่งพวกเราไม่ได้มาเพื่อต่อสู้กับหนามโลหิตอย่างเอาเป็นเอาตาย พวกเจ้าเข้าใจใช่หรือไม่?” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำ
“เข้าใจแล้วขอรับ!”
“ไปกันเถอะ!”
พวกเขาพุ่งทะยานออกไปอย่างกะทันหัน จากนั้นก็แบ่งกลุ่มออกไปทั่วทุกทิศทาง
และก็เป็นอย่างที่คาดไว้ เมื่อสังเกตเห็นว่ามีคนกำลังใกล้เข้ามา พวกหนามโลหิตที่โหดเหี้ยมเหล่านั้นก็เริ่มโจมตีพวกเขาอย่างบ้าคลั่งในทันที
ทว่าทุกคนได้เตรียมตัวกันมาพร้อมแล้ว ฉะนั้นพวกเขาจึงสามารถหลบหลีกได้อย่างรวดเร็ว และหลังจากนั้นก็โยนยาน้ำนี้ออกไป
เพล้ง เพล้ง เพล้ง!
ขวดยาน้ำจำนวนนับไม่ถ้วถูกโยนขึ้นไปกลางอากาศ และหลังจากที่มันระเบิดออก ยาน้ำสีแดงเลือดก็รดลงไปบนหนามโลหิตเหล่านั้น
พรวด!
ยาน้ำเหล่านี้ที่เต็มไปด้วยพลังกัดกร่อนที่เข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ได้ทำให้หนามโลหิตเหล่านี้เปลี่ยนกลายเป็นขี้เถ้า และสลายหายไปในที่สุด
“ช่างน่าทึ่ง…ช่างน่าทึ่งจริง ๆ เลย!” พวกเขากล่าวอย่างตื่นเต้น
ยาน้ำขวดเล็ก ๆ เช่นนี้ สามารถเจาะทะลุเกาะป้องกันที่แข็งแกร่งของหนามโลหิต และจัดการหนามนับร้อยได้ด้วย
นี่คงเป็นเหตุผลที่ทำให้คนที่ตายไปแล้วจนถึงตอนนี้ล้มเหลวในการโจมตีเมืองก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน และมันก็คงเป็นเรื่องที่ยากที่จะจินตนาการได้เป็นแน่
พรวด พรวด พรวด!
พวกเขาทำให้หนามโลหิตที่อยู่ตรงหน้านี้หายไปอย่างสมบูรณ์ภายในชั่วพริบตาเดียว และหนามโลหิตที่ล้อมโจมตีพวกเขาก็หายไปจนหมดสิ้น
นี่พวกเขาจัดการหนามโลหิตที่อยู่นอกเมืองได้สำเร็จแล้วใช่หรือไม่?
พวกเขากล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “พระชายา พวกเราชนะแล้วขอรับ!”
“หากมียาน้ำที่เพียงพอ พวกเราก็จะสามารถพาคนบุกทะลวงเข้าไปในเมืองหนามโลหิตได้! และหลังจากนั้นก็ทำให้หนามโลหิตที่ครองเมืองเหล่านั้นหายไปอย่างสมบูรณ์”