ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2354 นักกินที่โง่เขลา
“เมื่อเทียบกับทุกอย่างที่เป็นของเจ้านายแล้ว เลือดของมนุษย์ไม่ได้ต่างอะไรจากคูน้ำที่เหม็นเน่าเลย! หากไม่ใช่เพราะว่ามีมนุษย์ต้องการที่จะเข้ามายึดครองเมืองของนายท่าน คน ที่สง่างามอย่างพวกข้าก็คงจะไม่สังหารพวกเขา และดูดเลือดพวกเขาจนแห้งหรอก!”
ที่แท้หลังจากที่อดีตเจ้านายของคุกโลหิตผู้นั้นไม่อยู่แล้ว หนามโลหิตเหล่านี้ก็ตกอยู่ในสภาวะที่หิวโหยมาโดยตลอดนั่นเอง
ถึงจะหิวมานานหลายปี แต่ก็ยังคงรังเกียจเลือดมนุษย์เหล่านั้นอยู่ดี ซึ่งนี่ก็ทำให้เห็นแล้วว่าพวกมันรังเกียจเลือดมนุษย์มากเพียงใด
และหากคนที่ตายด้วยน้ำมือของหนามโลหิตรู้เรื่องเหล่านี้เข้า คาดว่าน่าจะกระโดดออกมาจากหลุดศพด้วยความโกรธเป็นแน่
มู่เฉียนซีหยิบยาน้ำขวดหนึ่งออกมาจากแหวนมิติ และเมื่อเห็นยาน้ำที่อยู่ในมือแล้วมู่เฉียนซีก็ผงะไปครู่หนึ่ง เพราะครั้งหนึ่งมันเคยเป็นยาน้ำและยาลูกกลอนที่ใช้เป็นอาหารให้ก กับเศษไม้เทพอย่างชิงอิ่งนั่นเอง
หากไม้เทพแห่งชีวิตยังคงอยู่ เช่นนั้นชิงอิ่งก็จะต้องคงอยู่ด้วยอย่างแน่นอน
นางจะเฝ้ารอให้ไม้เทพแห่งชีวิตเติบโตขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นก็รวบรวมของมีค่าเพื่อฟื้นฟูให้กับไม้เทพแห่งชีวิต หรือไม่ก็รอให้นิรันดร์ตื่นขึ้นมา และช่วยกันหาวิธีฟื้นฟูมัน
แววตาของพืชกลายพันธุ์เหลือบมองไปที่มู่เฉียนซี จากนั้นก็จ้องมองไปยังยาน้ำที่อยู่ในมือของนางแล้วกล่าวว่า “เจ้ามนุษย์ สิ่งที่เจ้าถืออยู่ในมือคืออะไรอย่างนั้นหรือ? มันมีกลิ นหอมเหลือเกิน!”
เขาเข้าไปใกล้มู่เฉียนซีอย่างกะทันหัน และอยากที่จะเข้าไปคว้ายาน้ำขวดนั้นเอาไว้ แต่ทว่าพวกของอ้านกลับโจมตีกลับในทันที
“ออกไปให้ห่างจากเจ้านายของข้าหน่อย!”
“ข้าต้องการของสิ่งนั้น!”
ปัง ปัง ปัง!
พวกเขาเริ่มปะทะกันอีกครั้ง และครั้งนี้การโจมตีของพืชกลายพันธุ์ระดับเจ็ดดาวกลับรุนแรงมากขึ้นไปอีก
เมื่อเห็นยาน้ำนี้ เห็นหนามโลหิตเหล่านี้ชื่นชอบกินยาลูกกลอนนี้เหมือนกัน มู่เฉียนซีก็คิดถึงชิงอิ่งขึ้นมาเล็กน้อย
และภายในช่วงเวลาเพียงพริบตาเดียว นางคิดไม่ถึงเลยว่าพวกของอ้านจะเริ่มต่อสู้กับเจ้าหมอนี่ขึ้นมาอีกครั้ง
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “อ้าน! พวกเจ้ากลับมาได้แล้ว!”
หลังจากที่พวกเขากลับมาแล้ว พืชกลายพันธุ์ระดับเจ็ดดาวผู้นั้นก็แลบลิ้นแล้วเข้ามาใกล้มู่เฉียนซีอีกครั้ง
จากนั้นมู่เฉียนซีก็เปิดขวดยาน้ำนั้นออก กลิ่นหอมของมันพลันฟุ้งกระจายออกมาจากข้างในขวดนี้ ซึ่งมันก็ทำให้หนามโลหิตทั่วทั้งเมืองเริ่มกระสับกระส่ายขึ้นมาทันที
“หอมมาก! มันหอมมากเลย!”
“มันน่าอร่อยเหลือเกิน!”
“ฮืออออ! หลังจากที่นายท่านจากไปแล้ว พวกข้าก็ไม่ได้กลิ่นที่น่าอร่อยเช่นนี้มานานมากแล้ว เพียงแค่สูดมันเข้าไป ข้าก็รู้สึกว่าถึงตายก็ไม่เสียดายแล้ว”
มีเสียงบางอย่างดังขึ้นไปทั่วทั้งเมือง เมื่อได้ยินเสียงที่เคลิบเคลิ้มของพวกเขามุมปากของมู่เฉียนซีก็ยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย หนามโลหิตไม่ใช่หนึ่งในพืชกลายพันธุ์ที่มีพลังในการ รสังหารและดุร้ายมากที่สุดในแดนนรกอย่างนั้นหรือ?
เพราะอะไร? เพราะอะไรพวกมันถึงได้กล่าวเช่นนี้ออกมา มันช่างให้รู้สึกเหมือนกับนักกินที่โง่เขลาอย่างไรอย่างนั้นเลย
เมื่อคิดไปถึงนักกิน มู่เฉียนซีก็นึกถึงเจ้านักกินจวินโม่ของแดนซวนเทียนขึ้นมาทันที และไม่รู้ว่าหลังจากที่นางจากมานานถึงขนาดนี้ เจ้าหมอนั่นจะสามารถหาอาหารเลิศรสกินได้สมใจ จอยากแล้วหรือยัง
จวินโม่เป็นถึงผู้นำนักปรุงยาของหอหมอปีศาจจากดินแดนทั้งสี่ทิศ ขอแค่เขาอย่าหิวตายอยู่ในแดนซวนเทียนก็พอแล้ว
ตอนที่อยู่ในแดนซวนเทียนนางจะต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีของมู่หลินหลางและลูกน้องของนางตลอดเวลา อีกทั้งยังต้องคิดหาทางตามหาท่านพ่อ จึงทำให้ไม่มีเวลาไปนึกถึงเพื่อนที่อยู่ ห่างไกลเท่าไรนัก
แต่หลังจากที่มาถึงคุกโลหิต นางก็ได้ก้าวเข้าไปในเส้นทางที่เต็มไปด้วยขวากหนามเพื่อหาประสบการณ์อันแข็งแกร่ง จนได้มาพบกับคนที่ครั้งหนึ่งเคยอยู่ในดินแดนทั้งสี่ทิศมาก่อน แล ละมันก็ทำให้นางอดที่จะคิดถึงมันไม่ได้เลยจริง ๆ
เมื่อเห็นว่าเจ้าหมอนั่นกำลังจะกระโจนเข้ามา พวกของอ้านก็เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น
หากพืชกลายพันธุ์ระดับเจ็ดดาวผู้นั้นกล้าทำร้ายพระชายาแม้แต่น้อย พวกเขาจะสู้สุดชีวิตกับเขาแน่นอน
แววตาคู่นั้นของเขาเปล่งประกายราวกับหมาป่าที่หิวโหยมาหลายพันปีก็มิปาน เขามองไปที่มู่เฉียนซีพลางกล่าวว่า “มนุษย์ เอายาน้ำนั้นมาให้ข้าลองชิมหน่อย! เร็วเข้า…หากข้าพึงพอ อใจแล้วละก็ ข้าจะต้อนรับนักปรุงยาผู้นั้นในฐานะแขกของข้าอย่างดีแน่นอน แล้วข้าก็จะตอบสนองความต้องการของเขาและทำตามคำขอของพวกเจ้าด้วย”
ฮืออออ! ไม่มีผู้ใดเข้าใจความทุกข์ใจของพืชกลายพันธุ์ที่ต้องหิวโหยมานับหลายพันปีเลย! ซึ่งมันก็ทำให้พวกเขารู้สึกเจ็บปวดมากจริง ๆ
ถึงยาน้ำที่อยู่ในมือของมู่เฉียนซีนี้จะเป็นยาน้ำที่มีระดับต่ำที่สุด แต่เขาก็ยังต้องการให้มู่เฉียนซีมอบยาน้ำนั้นให้เขาทันทีอยู่ดี
ชายผู้นั้นถือขวดยาใบเล็ก ๆ นั้นเอาไว้ และเขาก็อยากที่จะกลืนกินยาน้ำทั้งหมดนี้ในคราวเดียวเลยจริง ๆ
แต่ทว่าเขาก็ยังคงพยายามอดทน และทำเพียงแค่จิบมันทีละน้อยอย่างระมัดระวัง ซึ่งไม่ต้องบอกเลยว่าเขาหวงแหนมันมากเพียงใด
“อืมม…”
“มีความสุขเหลือเกิน!”
มีเสียงครวญครางอย่างแผ่วเบาออกมาจากชายที่เย็นชาราวกับน้ำแข็งผู้นี้ และในเวลานี้เขาก็เผยท่าทางที่มีความสุขราวกับขึ้นสวรรค์ออกมา
ถึงหนามโลหิตอื่น ๆ จะอยากลองชิมมากแค่ไหน แต่ทว่าพวกมันก็ไม่กล้าที่จะแย่งมาจากลูกพี่ของพวกมันอยู่ดี!
นี่มันอร่อยกว่ายาลูกกลอนที่เอาไปละลายในน้ำและผสมจนออกมาเป็นยาน้ำที่เจ้านายของเขากลั่นออกมาในตอนแรกหลายสิบเท่านัก
ที่กล่าวว่าหลายสิบเท่า นั่นก็เป็นเพราะว่าเขาเคารพนับถือเจ้านายจึงได้ไว้หน้าอยู่บ้าง มิเช่นนั้นเขาก็คงพูดว่าหลายร้อยหลายพันเท่าไปแล้วล่ะ
“คุกโลหิตมีนักปรุงยาเช่นนี้ปรากฏตัวออกมาเมื่อไรกัน คิดไม่ถึงเลยว่าข้าจะไม่รู้ และนักปรุงยาที่ข้าเคยจับมาก่อนหน้านี้เหล่านั้นล้วนมีแต่คนที่ไร้ประโยชน์ทั้งนั้น!” และตอนนี เขาก็ร่าเริงขึ้นมาจนใบหน้าที่เย็นชานั้นไม่มีอีกแล้ว
เยาเยี่ยกล่าวว่า “ที่นักปรุงยามีฝีมือหลายคนหายไปจากคุกโลหิตเมื่อหลายร้อยปีก่อน คงจะไม่ใช่ฝีมือของเจ้าหรอกใช่หรือไม่!”
หากพืชกลายพันธุ์ระดับเจ็ดดาวนี้กลายร่างเป็นมนุษย์ ก็ไม่ยากที่เลยจะแทรกซึมเข้าไปในฝูงชนและลักพาตัวนักปรุงยาไปได้
“น่าจะเป็นข้าเองนั่นแหละ! พวกเขาไร้ประโยชน์ ไม่เพียงแต่กลั่นยาลูกกลอนที่กินยากออกมาแล้ว ยังไม่มีผลต่อพวกเราเลยแม้แต่น้อยอีกด้วย! ฉะนั้นข้าเลยทำให้พวกเขากลายเป็นปุ๋ยไปหมดเ เลย แต่ทว่าผลงานของปรมาจารย์ท่านนี้ยอดเยี่ยมมาก มันอร่อยมาก อร่อยมากเหลือเกิน นอกจากนี้ข้ายังสัมผัสได้ว่ามีพลังที่บริสุทธิ์ที่แพร่กระจายไปในร่างกายของข้าอีกด้วย”
“ข้าต้องการที่จะพบปรมาจารย์ท่านนี้! ขอร้องพวกเจ้าล่ะ ข้ามีความจริงใจมากจริง ๆ”
เพื่อของกิน ท่าทางที่หยิ่งยโสของพืชกลายพันธุ์ระดับเจ็บดาวผู้นี้ก็ได้หายไปแล้ว อีกทั้งยังกระพริบตาปริบ ๆ มองไปทางมู่เฉียนซีด้วยความหวังอีกด้วย
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ข้าเป็นคนที่กลั่นยาน้ำนี้ออกมาเอง”
เขาผงะไปครู่หนึ่ง “เจ้า…เจ้าพูดจริงอย่างนั้นหรือ?”
“มนุษย์ที่อายุน้อยขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีทักษะในการกลั่นยาเหนือกว่านายท่านของพวกข้าเสียอีก?” เขาแทบไม่อยากที่จะเชื่อเลยแม้แต่น้อย
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เช่นนั้นเจ้าก็เอายาน้ำกับยาลูกกลอนทั้งหมดเหล่านี้ไป ข้าคิดว่าเจ้าน่าจะเชื่อข้าแน่นอน”
ตอนที่ชิงอิ่งบาดเจ็บสาหัสในตอนแรก ยาน้ำเหล่านี้ไม่สามารถใช้กับเขาได้เลย อีกทั้งมันยังยังช่วยอะไรไม่ได้อีกด้วย ฉะนั้นมู่เฉียนซีจึงได้เอามันทั้งหมดออกมามอบให้พวกเขา
ซึ่งทุกครั้งที่เห็นสิ่งเหล่านี้มันก็ทำให้นางนึกถึงความเสียใจและสิ้นหวังในวันนั้นอยู่เสมอ ฉะนั้นหากจัดการได้เช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน
รอเมื่อไรที่ชิงอิ่งตื่นขึ้นมาอีกครั้ง นางก็คาดว่าน่าจะฝึกฝนทักษะการปรุงยากับนิรันดร์จนแข็งแกร่งยิ่งกว่านี้ได้แล้ว จากนั้นนางค่อยกลั่นยาน้ำที่ดียิ่งกว่านี้ให้ชิงอิ่ง! !
“พระเจ้า! มากมายเหลือเกิน มากมายจริง ๆ! ข้าเชื่อเจ้า ข้าเชื่อเจ้าแล้ว!” เขากระโจนใส่กองภูเขาเล็ก ๆ ของยาน้ำและยาลูกกลอนเหล่านั้นราวกับคนเจ้าชู้ที่เจอสาวงามก็มิปาน
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เจ้าเอายาน้ำกับยาลูกกลอนนี้ไปแบ่งกันเสีย เอาไปแบ่งให้หนามโลหิตตัวอื่น ๆ ที่อยู่ในเมืองหนามโลหิตด้วย เพราะอีกเดี๋ยวข้าจะพาคนของข้าเข้ามา เจ้าพวกนี จะได้ไม่โจมตีคนของข้าอย่างหิวโหยอีก”
“เจ้าวางใจได้เลย ในเมื่อพวกเขามียาน้ำและยาลูกกลอนที่ล้ำค่าเช่นนี้เอาไว้กินแล้ว จะไปสนใจมนุษย์ได้อย่างไร?”
พวกมันสามารถแบ่งปันความอร่อยเหล่านี้ไปอย่างทั่วถึง และไม่ว่าพืชกลายพันธุ์ที่อยู่ในนี้จะมีระดับสูงเพียงใด แต่เวลานี้พวกมันก็เดือดพล่านขึ้นมาอย่างมีความสุข
มู่เฉียนซี กล่าวว่า “เช่นนั้นพวกเจ้าก็ค่อย ๆ กินกันเถอะ ข้าจะไปพาคนของข้าเข้ามา”
ทันทีที่พูดจบ มู่เฉียนซีก็ตามพวกของอ้านและเยาเยี่ยเดินออกจากประตูเมืองไป
ซึ่งหนามโลหิตเหล่านี้ก็ไม่ได้ขัดขวางพวกเขาแต่อย่างใด และชายที่สามารถกลายร่างเป็นมนุษย์ได้ผู้นั้นก็มองไปทางมู่เฉียนซีพลางกล่าวว่า “จะ…เจ้าจะต้องกลับมานะ!”