ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2355 เลี้ยงพืชกลายพันธุ์ในกรง
น้ำเสียงนี้ เหมือนกับกลัวว่าสามีจะนอกใจและไม่กลับบ้านในตอนกลางคืนอย่างไรอย่างนั้นเลย
ในตอนที่กำลังเดินออกจากประตูเมือง เยาเยี่ยก็รู้สึกราวกับตกอยู่ในภวังค์เล็กน้อย
นี่…นี่มันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมากเลยจริง ๆ
เมืองหนามโลหิตแห่งความตายในข่าวลือ กล่าวว่าคนที่เข้ามาจะต้องถูกหนามโลหิตดูดเลือดไปจนหมดร่างและกลายเป็นปุ๋ย แต่ทว่าตอนนี้พวกเขากลับสามาร รถล่าถอยออกมาได้อย่างง่ายดายเสียอย่างนั้น
เมื่อเห็นท่าทางที่ดีใจอย่างเป็นบ้าเป็นหลังของหนามโลหิตแล้ว หลังจากนี้ไปเจ้านายของพวกเขาจะต้องกลายเป็นเทพพระเจ้าของพืชกลายพันธุ์นักกินเหล่า านั้นอย่างแน่นอน
มันช่างน่าเหลือเชื่อเหลือเกิน ที่ภายในพริบตาเดียวเจ้านายก็สามารถใช้ยาน้ำและยาลูกกลอน ซื้อใจหนามโลหิตที่ขึ้นชื่อว่าโหดร้ายที่สุดของคุกโลหิตไ ได้แล้ว
เยาเยี่ยกล่าวว่า “นายท่าน ท่านช่างแข็งแกร่งจริง ๆ! การที่ข้าเยาเยี่ยสามารถติดตามอยู่ข้างกายท่านได้ ถือเป็นการตัดสินใจที่ฉลาดที่สุดเป็นอั นดับที่สองที่ข้าเคยทำมาในชีวิตเลย”
มู่เฉียนซีกล่าวถามว่า “การตัดสินใจที่ฉลาดที่สุดอันดับแรกคืออะไรอย่างนั้นหรือ?”
ใบหน้าของเยาเยี่ยแดงระเรื่อเล็กน้อยพลางกล่าวว่า “แน่นอนว่าต้องเป็นเรื่องที่ข้าตกหลุมรักท่านจื่อโยวอยู่แล้ว”
มุมปากของมู่เฉียนซีกระตุกเล็กน้อย นางไม่เคยสนใจเสน่ห์ของจอมเจ้าชู้อย่างจื่อโยวเลยแม้แต่น้อย แต่เยาเยี่ยกลับเหมือนกับว่าถูกเขาวางยาพิษอย่ างไรอย่างนั้นเลย
ทุกคนล้วนเป็นตัวเลือกของเขา แน่นอนว่ามู่เฉียนซีก็ไม่สามารถพูดได้ว่าการหลงรักคนเจ้าชู้เช่นนั้นจะทำให้ตนเองต้องทุกข์ระทม แต่ก็ไม่อยากให้เยา าเยี่ยต้องถลําลึกเกินไปอยู่ดี
ในตอนที่มู่เฉียนซีพุ่งทะยานออกไป คนที่กำลังรอมู่เฉียนซีอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัยก็กล่าวขึ้นมาว่า “หากพระชายาเป็นอะไรไป พวกเราก็ไม่มีสิทธิ์ ที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกแล้ว หรือว่าพวกเราจะฝ่าออกไปต่อสู้กับหนามโลหิตเหล่านั้นดี”
“ตั้งนานขนาดนี้แล้วพระชายายังไม่กลับมาเสียที ไม่แน่นางอาจจะถูกขังอยู่ในเมืองหนามโลหิตแล้วก็เป็นได้ ถึงแม้ว่าความสามารถของพวกเราจะอ่อนแอ แต่ก็ต้องพยายามใช้พลังอันน้อยนิดของพวกเราช่วยเหลือพระชายาให้ได้สิ!”
“ใช่แล้ว!”
พวกเขาเตรียมพุ่งทะยานออกไปอย่างสุดตัว แต่ทว่าในเวลานี้กลับมีเสียงที่เย็นชาดังขึ้นมาว่า “นี่พวกเจ้าคิดจะไปไหนกันน่ะ?”
“พระชายา!”
“ท่านเยาเยี่ย!”
“ดีเหลือเกิน ที่พวกท่านกลับมาอย่างปลอดภัย”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ไปกันเถอะ! พวกเราไปเมืองหนามโลหิตกัน”
ฝูงชนต่างตะลึงงันไปทันที หรือว่าพระชายาจะวางยาพิษหนามโลหิตในเมืองหนามโลหิตหมดแล้วอย่างนั้นหรือ นี่มันจะเป็นไปได้อย่างนั้นหรือ?
“ขอรับ!”
สถานที่ที่พระชายาให้พวกเขาไป ถึงแม้ว่าจะต้องกลายเป็นปุ๋ยของหนามโลหิตพวกเขาก็ไม่เสียใจแน่นอน ดังนั้นพวกเขาจึงรวบรวมความกล้า และเดินไปจนถึงหน น้าประตูทางเข้าเมือง
ดูเหมือนว่าหนามโลหิตที่อยู่ข้างนอกจะถูกจัดการเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้หนามโลหิตก็ไม่โจมตีพวกเขาอีกด้วย ยาพิษของพระชายานี่ยอดเยี่ยมจริง ๆ
พวกเขาเชื่อว่าหลังจากที่เข้าไปในเมืองแล้ว จะต้องสามารถเอาชนะหนามโลหิตที่โหดเหี้ยมเหล่านั้นได้อย่างแน่นอน
มนุษย์คนนี้รักษาสัญญาและกลับมาอย่างที่คาดการณ์เอาไว้จริง ๆ ตอนนี้พวกเขาแบ่งผลประโยชน์กันเรียบร้อยแล้ว และยังมีเหลือเก็บเอาไว้บางส่วนด้วย
เมื่อเห็นว่าเหล่าน้องชายตัวน้อยกินอาหารกันจนพึงพอใจแล้ว มนุษย์พืชกลายพันธุ์ผู้นั้นจึงกล่าวว่า “กินอิ่มแล้วก็รีบไปทำาน แขกผู้มีเกียรติขอ องพวกเรากำลังจะพาคนของนางเข้ามาแล้ว พวกเจ้าคงไม่อยากทำให้แขกผู้มีเกียรติของพวกเราตกใจกลัวจนหนีไปหรอกใช่หรือไม่?”
บนถนนเส้นนี้ และบนอาคารบ้านเรือนล้วนเต็มไปด้วยหนามสีแดงเลือด ซึ่งดูแล้วอันตรายเป็นอย่างมาก
หากมีคนไปสัมผัสเข้ากับหนามแหลมคมนั้น เนื้อตัวก็จะเต็มไปด้วยแผลเหวอะหวะทันที
“ซ่อนทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้ใต้ดิน แล้วก็ทำความสะอาดด้วย รีบทำความสะอาดเร็วเข้า ข้าไม่อยากให้แขกผู้มีเกียรติต้องเข้ามาเห็นฝุ่นเลยแม้แต่น้อย”
เหล่าน้องชายตัวน้อยของเขาต่างทำงานกันอย่างกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก และหนามโลหิตพืชกลายพันธุ์ที่ขึ้นชื่อว่ากระหายเลือดที่สุดในแดนนรก ตอนนี้ กลับเชื่อฟังจนถึงขั้นมาเก็บกวาดทำความสะอาดถนนใหญ่ด้วยความเต็มใจ
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เปิดประตู!”
ทันทีที่มู่เฉียนซีพูดจบ ก็คิดไม่ถึงเลยว่าประตูที่แม้แต่ใต้เท้าระดับบนยังต้องใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ถึงจะเปิดออกได้ตรงหน้านี้ กลับสามารถ ถเปิดออกด้วยตนเองต่อหน้าต่อตาพวกเขาเช่นนี้
มู่เฉียนซีเดินเข้าไปแล้วกล่าวว่า “ไปกันเถอะ!”
ภายในใจของคนที่ติดตามอยู่ข้างหลังของมู่เฉียนซีเหล่านั้นสับสนเล็กน้อย พวกเขาถืออาวุธเอาไว้แน่น และเดินตามมู่เฉียนซีเข้าไปทีละก้าวอย่างระมัด ดระวัง
เมื่อเข้าไปภายในเมืองแล้ว พวกเขาก็ไม่ได้ถูกหนามโลหิตกลายพันธุ์เหล่านี้โจมตีแต่อย่างใด
ยิ่งไปกว่านั้นภายในเมืองแห่งนี้ นอกจากกำแพงเมืองที่ปกคลุมไปด้วยหนามโลหิตกลายพันธุ์แล้ว ก็คิดไม่ถึงเลยว่าภายในจะไม่เห็นหนามโลหิตเลยแม้แต่ต้น นเดียว
อีกทั้งถนนก็สะอาดสะอ้านเป็นอย่างมาก และไม่มีฝุ่นเลยแม้แต่น้อย ซึ่งมันดูไม่เหมือนกับเมืองที่ไม่มีผู้คนอาศัยมานานหลายสิบปีเอาเสียเลย! ซ้ำยัง สะอาดกว่าเมืองเทพสังหารด้วยซ้ำ
แม้ว่าสิ่งของมากมายจะดูเก่าไปหมด แต่ก็ยังสะอาดสะอ้านดีอยู่ ซึ่งมันก็สร้างความประทับใจให้พวกเขาได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
มู่เฉียนซีรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย คิดไม่ถึงเลยว่าหนามโลหิตเหล่านี้จะทำความสะอาดเสร็จได้ภายในระยะเวลาอันสั้น และยังซ่อนตัวเองเอาไว้อย่างเชื่ อฟังอีกด้วย
ดูเหมือนว่าเจ้าพวกคนที่หิวโหยเหล่านี้ เมื่อได้รับการป้อนอาหารแล้วจะเชื่อฟังมากทีเดียว ซึ่งมันก็ทำให้มู่เฉียนซีก็รู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก แ และนางก็คิดว่า นางเลือกเมืองได้ถูกต้องแล้วจริง ๆ!
ในตอนแรกนางมีความคิดที่ตรงกันข้าม อันที่จริงแล้วนางไม่ควรที่จะกลั่นยาพิษ แต่ควรที่จะกลั่นยาที่เป็นอาหารของหนามโลหิตออกมามากกว่า หากเป็น นเช่นนั้นก็คงไม่ต้องทนทุกข์ทรมานมาหลายวันขนาดนี้แล้ว
แต่ก็จะโทษมู่เฉียนซีไม่ได้เช่นกัน เพราะใครจะไปรู้ว่าหนามโลหิตของเมืองหนามโลหิตแห่งนี้ จะถูกอดีตท่านอ๋องของคุกโลหิตเลี้ยงดูจนกลายเป็นนั กกินเช่นนี้ไปได้
ตราบใดที่มีของกินอยู่ ความดุร้ายและกระหายเลือดของหนามโลหิตนั้น ก็จะไม่หลงเหลืออยู่เลย เพราะพวกมันคือพืชกลายพันธุ์ที่สง่างามที่สุดนั่นเอง
มุมปากของมู่เฉียนซียกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย ไม่มีอะไรที่ดีไปกว่าการชอบกินยาน้ำกับยาลูกกลอนอีกแล้ว เพราะอย่างไรเสียหมอปีศาจอย่างนางก็ไม่ขาดขอ องเหล่านี้อยู่แล้วนั่นเอง
ตอนนี้นางไม่ต้องต่อสู้กับหนามโลหิตหลายร้อยรอบเพราะต้องการที่จะทำให้เมืองโลหิตแห่งนี้เป็นของนางอีกแล้ว กลับกันนางสามารถเลี้ยงดูหนามโลหิต ตเหล่านี้เอาไว้ในกรง หลังจากนั้นก็ทำให้พวกมันกลายเป็นกำลังรบที่แข็งแกร่งของเมืองหนามโลหิตแห่งนี้
ในเมื่อเจ้าพวกนี้ชื่นชอบยาน้ำธรรมดาของนางถึงขนาดนี้ ฉะนั้นหลังจากที่นางค้นคว้ายาน้ำที่เหมาะสมต่อการเป็นอาหารของหนามโลหิตมากกว่านี้ได้เ เมื่อไร พวกมันจะต้องเต็มใจถูกนางขังเอาไว้อย่างแน่นอน
ภายในเมืองหนามโลหิตไม่มีอันตรายเลย ทั้งยังเงียบสงบมากอีกด้วย ซึ่งคนที่ติดตามมู่เฉียนซีมาก่อนหน้านี้เหล่านั้นก็รู้สึกเหลือเชื่อเป็นอย่างมาก
นี่…นี่คือเมืองหนามโลหิตจริง ๆ อย่างนั้นหรือ?
ตอนนี้พวกเขาคงไม่ได้เข้ามาในรอยแยกของมิติ และไปโผล่ที่เมืองอื่นหรอกใช่หรือไม่?
ลุงโซ่วมองไปทางเยาเยี่ยแล้วกล่าวว่า “เยาเยี่ย ตอนที่เจ้าตามพระชายามา รู้หรือไม่ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น? หรือว่าพระชายาใช้มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ เทพที่ยิ่งใหญ่อะไร ขังหนามโลหิตทั้งหมดเหล่านั้นเอาไว้อย่างนั้นหรือ มิเช่นนั้นมันคงไม่มีทางเป็นเช่นนี้ได้หรอก!”
ก่อนที่พวกเขาจะมายังเมืองหนามโลหิตแห่งนี้ พวกเขาก็ทำการบ้านมาเยอะเช่นกัน เพราะเมืองหนามโลหิตได้ทำให้ผู้ที่แข็งแกร่งต้องตกใจกลัวถึงขีดสุดม มาแล้ว ฉะนั้นมันจึงไม่มีทางเป็นเช่นนี้แน่นอน
นอกจากนี้หนามโลหิตที่อยู่ข้างในนี้ ก็ไม่มีทางปล่อยอาหารที่มาส่งถึงที่อย่างพวกเขาไปเช่นนี้อยู่แล้ว
แต่พวกเขากลับคิดผิด เพราะตอนนี้พวกมันได้เพลิดเพลินไปกับอาหารตั้งแต่ที่ได้รับยาน้ำมาแล้วต่างหาก
ตอนนี้คาดว่าแม้จะมีมนุษย์เสียเลือดอยู่ตรงหน้าของหนามโลหิต พวกมันก็คงไม่คิดที่จะกินอย่างแน่นอน
แต่ช่วยไม่ได้ ใครจะไปสนใจอาหารหมูหลังจากที่ได้กินของอร่อยกันล่ะ
เยาเยี่ยกล่าวตอบว่า “อีกเดี๋ยวพวกเจ้าก็จะรู้แล้ว อย่างไรเสียเจ้าก็เป็นถึงลูกน้องของหมอปีศาจเช่นกัน ฉะนั้นก็อย่าตกใจมากเกินไปจนเสียชื่อเอา าได้ล่ะ”
หากพวกเขารู้ว่าเจ้านายไม่ได้ใช้มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพที่ยิ่งใหญ่อะไรนั่นทำลายหนามโลหิตเหล่านี้ แต่กลับใช้เพียงแค่ยาน้ำที่ธรรมดาที่สุดของ นางให้กับหนามโลหิตเหล่านี้ ซ้ำยังทำให้พวกมันเชื่อฟังนางได้ คาดว่าพวกเขาจะต้องไม่มีทางเชื่ออย่างแน่นอน
ในเวลานี้ ก็มีแสงสีแดงสว่างวาบขึ้นมาอย่างกะทันหัน
ซึ่งมันก็ทำให้คนที่ตามอยู่ข้างหลังตื่นตัว และเตรียมพร้อมที่จะโจมตีทันที
แต่พวกเขากลับค้นพบว่าพระชายาที่มักจะระวังตัวอยู่ตลอด กลับยืนอยู่ตรงนี้อย่างสงบ นอกจากนี้ยังมองผู้มาเยือนด้วยมุมปากที่ยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย ยอีกด้วย