ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2356 อ่อนโยนและสง่างาม
คนที่มาก็คือชายหนุ่มคนหนึ่ง เขามีเส้นผมและดวงตาเป็นสีแดงเลือด แม้ว่าร่างกายจะเป็นมนุษย์ แต่กลับไม่ได้ดูเหมือนมนุษย์ขนาดนั้น
“พืชกลายพันธุ์ขั้นเทวะ!” สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปมาทันที
พืชกลายพันธุ์ขั้นเทวะ ทั่วทั้งคุกโลหิตนอกจากท่านอ๋องจิ่วเยี่ยแล้ว คงจะไม่มีผู้ใดสามารถเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้แน่
สิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังเช่นนี้ เพียงแค่โบกมืออย่างแผ่วเบา ก็สามารถสังหารพวกเขานับพันคนได้ในพริบตาเดียวแล้ว
อันตรายมาก!
แต่ว่าสิ่งที่เป็นอันตรายเช่นนั้น กลับเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าพระชายาของพวกเขาแล้วกล่าวทักทายว่า “แขกผู้ทรงเกียรติเอ๋ย ยินดีต้อนรับเจ้าเข้าสู่เมื องหนามโลหิต! เจ้ามีสิ่งใดที่ต้องการ พวกเราก็สามารถไปคุยกันที่จวนเจ้าเมืองได้”
ทั้งสง่างาม และมีมารยาทเป็นอย่างมาก!
ทุกคนต่างงุนงงไปตาม ๆ กัน หนามโลหิตอันโหดเหี้ยมที่จินตนาการเอาไว้เป็นเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน มันกลายพันธุ์ไปแล้วหรือ!
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ตกลง พวกเราไปคุยกันที่จวนเจ้าเมืองเถอะ”
แม้ว่าจวนเจ้าเมืองจะทรุดโทรมไปเล็กน้อย แค่ทว่าพื้นและผนังภายในกลับถูกขัดจนเงาวับ นอกจากนี้ยังประดับประดาด้วยสิ่งของหรูหรามากมายอีกด้วย
ดูท่าแล้ว มันต้องเพิ่งถูกย้ายออกมาจากคลังใดสักคลังหนึ่งเพื่อมาตกแต่งอย่างแน่นอน
หนามโลหิตเหล่านี้พยายามตกแต่งจวนเจ้าเมืองให้งดงามมากที่สุดอย่างเต็มที่ ซึ่งความพยายามของมันก็ทำให้มู่เฉียนซีประทับใจเป็นอย่างมาก
ซึ่งราวกับว่าไม่ว่าอย่างไร ก็ต้องทำให้นางอยู่ที่นี่ให้ได้!
เจ้าพวกนี้เพื่อของกินแล้ว ก็ทำทุกอย่างด้วยความจริงใจมากจริง ๆ
ชายคนนั้นกล่าวว่า “เชิญนั่งเถิด”
มู่เฉียนซีนั่งลงอย่างนิ่งสงบเป็นอย่างมาก แต่ทว่าคนอื่นกลับรู้สึกลังเลเล็กน้อย
นี่คือพืชกลายพันธุ์ที่สามารถกลายร่างเป็นมนุษย์ได้เชียวนะ! คิดไม่ถึงว่าจะสุภาพกับพวกเขาถึงขนาดนี้?
นี่คือกับดัก มันจะต้องเป็นกับดักอย่างแน่นอน! พระชายาอย่าถูกเขาทำให้ชะล่าใจเด็ดขาดเลยนะ
พวกเขาตอบสนองกันอย่างระมัดระวัง เพราะเกรงว่าเป้าหมายของพืชกลายพันธุ์จะเป็นการโจมตีมู่เฉียนซีนั่นเอง
พืชกลายพันธุ์กล่าวว่า “ท่านแขกผู้ทรงเกียรติขอให้ข้าแนะนำตนเองสักหน่อย ข้ามีชื่อว่าเฉี่ยอี้”
มู่เฉียนซีกล่าวถามว่า “เมืองหนามโลหิตแห่งนี้ เจ้าคือลูกพี่ใหญ่ ฉะนั้นเจ้าจะทำหน้าที่รับผิดชอบได้หรือไม่?”
“ทั้งเมืองหนามโลหิตแห่งนี้ มีคนที่สามารถกลายร่างเป็นมนุษย์ได้ทั้งหมดสามคน มีข้าเฉี่ยอี้ แล้วยังมีเฉี่ยเอ้อร์ และเฉี่ยซานด้วย แต่เจ้าสองค คนนั้นหิวจนทนไม่ไหว ดังนั้นจึงเลือกที่จะจำศีลไป และก็ไม่รู้ว่าจะตื่นขึ้นมาเมื่อไรเช่นกัน? ฉะนั้นข้าจึงเป็นคนรับผิดชอบเมืองหนามโลหิตในตอนนี !”
เมื่อคนอื่นได้ยิน ต่างก็ตะลึงงันไปทันที!
ยังมี…นอกจากนี้แล้วยังมีหนามโลหิตที่เปลี่ยนร่างได้อีกสองคนหรือ นี่มันจะอันตรายเกินไปแล้ว
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “หากต้องการทำให้พวกเขาทั้งสองตื่นขึ้นมา ตะโกนเรียกจะตื่นไหม? ข้ามีเรื่องสำคัญที่ต้องการจะประกาศสักหน่อย ฉะนั้นผู้ยิ่งใหญ่อย่ างพวกเจ้าทั้งสามคนจะต้องจัดการมันด้วยกัน”
เฉี่ยอี้กล่าวว่า “ตกลง! ข้าจะไปปลุกพวกเขาทั้งสองคนเดี๋ยวนี้ เจ้ารอข้าสักครู่!”
ให้ไปปลุกเจ้าพืชกลายพันธุ์อันตรายทั้งสองคนนั้นน่ะหรือ พระชายาท่านบ้าไปแล้วกระมัง?
มันอันตรายนะ! แค่คนเดียวก็อันตรายเกินไปแล้ว นี่สามคน…
ตอนนี้เฉี่ยอี้คิดเพียงแต่ว่าต้องการให้นางมาเป็นแขกผู้มีเกียรติเท่านั้น แต่ทว่านางกลับต้องการที่จะมาเป็นเจ้าเมืองของเมืองหนามโลหิตแห่งนี้
ถึงแม้ว่าตอนนี้นางจะพูดโน้มน้าวเฉี่ยอี้ให้ยอมรับนางเป็นเจ้าเมืองได้ แต่หากอีกสองคนตื่นขึ้นมาแล้วเกิดไม่พอใจมันจะต้องสร้างความเสียหายมาก อย่างแน่นอน
ด้วยเหตุนี้ไม่สู้เก็บกวาดในคราวเดียวไม่ดีกว่าหรือ จากนั้นนางก็จะได้ทำการซ่อมแซมเมืองได้อย่างสบายใจ และสร้างหอหมอปีศาจขึ้นมา หลังจากนั้นก็เ เลี้ยงพืชกลายพันธุ์เหล่านี้เอาไว้ในกรง เพื่อรวบรวมสมุนไพรวิญญาณ
หลังจากที่เฉี่ยอี้จากไปแล้ว ลุงโซ่วก็กล่าวว่า “พระชายา หากพืชกลายพันธุ์ทั้งสองตัวนั้นตื่นขึ้นมาแล้ว ลงมือทำร้ายนายท่าน นั่น…นั่นจะไม่อัน นตรายเกินไปหรือขอรับ หรือไม่พวกเราถอยไปก่อนดีหรือไม่ขอรับ!”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “วางใจเถอะ! พวกมันไม่ทำร้ายพวกเราอย่างแน่นอน”
หากต้องการจะทำร้ายพวกเขาจริง ๆ หรือต้องการมาบังคับนาง ก็คงไม่มีทางพยายามอย่างหนักในการทำความสะอาดเมืองหนามโลหิตเช่นนี้หรอก
เห็นได้ชัดว่าพวกมันยินดีต้อนรับพวกนางมากเพียงใด อีกทั้งยังหวังจะให้พวกนางอยู่กับพวกเขาไปนาน ๆ อีกด้วย
นอกจากนี้นางก็รู้ดีว่า เพื่อของอร่อยแล้วคนอย่างนักกิน ไม่ว่าจะเป็นเกียรติ! หรือความเย่อหยิ่ง! ล้วนไม่ต้องการแล้วทั้งสิ้น
“เฉี่ยเอ้อร์ เฉี่ยซาน ตื่นเร็วเข้า รีบตื่นเร็วเข้า!”
เพราะเฉี่ยเอ้อร์และเฉี่ยซานเป็นพี่น้องฝาแฝดกัน ดังนั้นพวกเขาจึงจำศีลอยู่ในสถานที่เดียวกัน
หลังจากที่เฉี่ยอี้ตะโกนอยู่หลายสิบครั้ง ก็มีเสียงโกรธเกรี้ยวของผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังขึ้นมา
“เฉี่ยอี้ ข้าก็บอกไปแล้วว่านอกจากนายท่านกลับมาแล้ว เจ้าก็อย่ามาปลุกข้า หรือว่าเจ้าลืมคำพูดของข้าไปแล้วอย่างนั้นหรือ? คอยดู ข้าจะทุบเจ้ าให้ตายเลย!” หญิงสาวที่มีผมและดวงตาสีแดงพุ่งทะยานออกมา ทันใดนั้นก็มีหนามระเบิดออกมาจำนวนนับไม่ถ้วน และพุ่งเข้าจู่โจมเฉี่ยอี้ทันที
เห็นได้ชัดว่าหากจับเฉี่ยอี้โยนลงตะแกรงไม่ได้ นางก็ไม่มีทางยอมเลิกราแน่นอน!
ตูมม!
ทางด้านของเมืองหนามโลหิต มีเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวออกมา
ให้ไปเรียกอีกสองคน แต่อยู่ ๆ ก็เกิดต่อสู้กันขึ้นมาเสียอย่างนั้น หรือว่าเวลาหนามโลหิตตื่นนอนก็จะอารมณ์เสียเป็นอย่างมากอย่างนั้นหรือ?
มู่เฉียนซีกล่าวกับพวกเขาว่า “พวกเราไปดูกันเถอะ!”
ปรากฏว่ามู่เฉียนซีเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังโจมตีใส่เฉี่ยอี้ราวกับมังกรคลั่งอย่างไรอย่างนั้น ดูจากท่าทางแล้ว นางคงแทบอดที่จะฉีกเฉี่ยอี้ออ อกเป็นชิ้น ๆ ไม่ไหวอยู่แล้ว
นี่…
พวกเขามีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีต่อกันอย่างนั้นหรือ?
“นี่…”
ในตอนที่มู่เฉียนซีกำลังคิดอยู่ว่าจะเข้าไปช่วยดีหรือไม่นั้น ก็มีชายในชุดสีเขียวคนหนึ่งพุ่งทะยานออกมา
ชายคนนั้นมีหน้าตาคล้ายกับหญิงสาวในชุดแดงทุกประการ ทว่ากลับดูอ้อนแอ้นเล็กน้อย
เขาตะโกนออกไปว่า “ท่านพี่ อย่าโกรธไปเลย! ท่านต้องอ่อนโยน ต้องเป็นหญิงสาวที่จิตใจงดงามและต้องสง่างามด้วยนะ!”
“อ่อนโยนบ้าอะไรล่ะ! มันไม่ง่ายเลยกว่าข้าจะนอนหลับไปได้ ตอนนี้มาถูกเจ้าบัดซบนี่ปลุกขึ้นมาอีก ต่อจากนี้ไปข้าจะผ่านคืนวันที่หิวโหยจนนอนไม่ห หลับไปได้อย่างไรกัน ข้าจะบ้าอยู่แล้ว! ข้าอยากจะฆ่าเจ้าหมอนี่ซะ”
เส้นผมสีดำพลิ้วไหว และหนามแหลมคมอันน่าสะพรึงกลัวก็จู่โจมเข้าใส่เฉี่ยอี้อีกครั้ง
ซึ่งสิ่งนี้ก็ได้บีบให้เฉี่ยอี้ต้องกลายร่างเป็นร่างเดิมถึงจะสามารถสกัดกั้นการโจมตีที่บ้าคลั่งของผู้หญิงคนนี้ได้ และร่างเดิมของเฉี่ยอี้ก ก็มีขนาดที่ใหญ่โตเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งยังมีความสามารถที่แข็งแกร่งมากอีกด้วย
ในเวลานี้คนที่อยู่ในกลุ่มของมู่เฉียนซีก็สามารถมองออกแล้วว่า แม้ว่าความสามารถนี้จะไม่ถึงระดับพืชกลายพันธุ์ขั้นเทวะ แต่ก็มีพลังในการต่อสู้ ของพืชกลายพันธุ์ระดับเจ็ดดาว และไม่ว่าจะเป็นใครก็ไม่สามารถฆ่าพวกเขาได้อยู่ดี
เมื่อเห็นพืชกลายพันธุ์ต่อสู้กัน พวกเขาก็รู้สึกว่าท่าทางที่โหดร้ายเช่นนี้ถึงจะสมกับที่เป็นหนามโลหิตมากกว่า
ความอ่อนโยน สง่างามและการมีอัธยาศัยที่ดีของเฉี่ยอี้ก่อนหน้านี้ดูเป็นสิ่งที่ไม่จริงเอาเสียเลย
เมื่อเห็นว่าเฉี่ยเอ้อร์โหดเหี้ยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เฉี่ยอี้ก็ขบฟันแน่น พลางกล่าวว่า “หยุด! ไม่ใช่ว่าเจ้าหิวมากอย่างนั้นหรือ? ข้ามอบสิ่งนี้ให้ เจ้า!”
เขาโยนยาน้ำขวดหนึ่งออกไป กลิ่นหอมที่โชยออกมาจากยาน้ำนั้น ทำให้เฉี่ยเอ้อร์น้ำลายไหลออกมาทันที และหยุดมืออย่างที่คาดไว้จริง ๆ
จากนั้นนางก็พุ่งทะยานเข้ามาด้วยความรวดเร็วพลางกล่าวว่า “ให้ข้า! เอามาให้ข้า!”
เฉี่ยซานที่กำลังงัวเงียก็พุ่งทะยานเข้าใส่เฉี่ยอี้อย่างตื่นเต้นราวกับฉีดเลือดไก่ก็มิปาน เขาเองก็อยากที่จะแย่งยาน้ำขวดนั้นมาเช่นกัน แต่ เขากลับถูกพี่สาวถลึงตาใส่จนต้องยอมแพ้ไปเสียก่อน!
เฉี่ยเอ้อร์ดื่มยาไปครึ่งขวดภายในอึกเดียว และกลิ่นอายของความโกรธเกรี้ยวที่อยู่บนร่างกายของนางก็จางหายไปทันที พวกเขาเห็นกันเต็มสองตาว่าใ ใบหน้าที่โกรธเกรี้ยวนั้นเปลี่ยนกลายเป็นใบหน้าที่งดงามอ่อนโยนอย่างกะทันหัน
“ให้เจ้า!”
สิ่งของดี ๆ เช่นนี้ นางไม่สามารถกินเพียงคนเดียวได้ แน่นอนว่านางต้องแบ่งให้กับน้องชายที่โง่เง่าของนางด้วยเช่นกัน
ด้วยเหตุนี้เฉี่ยซานจึงดื่มส่วนที่เหลือทั้งหมดไปด้วยความพึงพอใจ!
ทุกคนต่างก็เบิกตากว้างด้วยความตื่นตะลึง นะ…นี่ นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?
พวกเขาจำได้ว่าตอนที่พวกเขาได้รับบาดเจ็บก่อนหน้านี้พระชายาก็มอบยาให้พวกเขามากมายแล้ว และพระชายาก็ยังทำท่าทางเหมือนให้พวกเขาดื่มยาเหล่านี้ แทนน้ำอีกด้วย
แม้ว่าจะมีระดับที่แตกต่างกัน แต่พวกเขาก็รู้ดีว่าพระชายาสามารถกลั่นยาน้ำเหล่านี้ออกมาได้อย่างง่ายดายอยู่ดี
อย่างไรก็ตามพืชกลายพันธุ์ระดับเจ็ดดาวที่แข็งแกร่งและดุร้ายเหล่านั้น หลังจากที่ดื่มยาน้ำเข้าไปแล้วก็ทำเหมือนกับว่าดื่มของที่ดีที่สุดในโลก เข้าไปก็มิปาน นอกจากนี้ยังดูมีความสุขมากอีกด้วย!
หรือว่าตอนนี้ตาของพวกเขากำลังมีปัญหาหรือเปล่านะ? เพราะยาน้ำเพียงขวดเดียวก็สามารถทำให้พืชกลายพันธุ์ที่ดุร้ายเช่นนี้ เปลี่ยนเป็นหญ้าอ่อนที่ แสนอ่อนโยนและไม่เป็นอันตรายได้เลยหรือ?