ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2358 ท่านเจ้าเมือง
ยังไม่ทันที่ยาน้ำจะถูกกลั่นออกมาอย่างสมบูรณ์ ทว่าพวกเขากลับรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันทีที่ได้กลิ่นอันหอมหวานนั้น
ในตอนที่มู่เฉียนซีกำลังกลั่นยา นางได้ใส่พลังแห่งชีวิตลงไปด้วย ซึ่งมันก็ทำให้คุณภาพของยาน้ำนั้นสูงมากยิ่งขึ้นไปอีก
พลังแห่งชีวิตของต้นกำเนิดพลังแห่งชีวิต เป็นอาหารเสริมอย่างดีสำหรับพืชทุกชนิด และมู่เฉียนซีก็ไม่กลัวว่าพวกเขาจะไม่ชอบมันอีกด้วย
ในตอนที่มู่เฉียนซีกำลังกลั่นยา หนามโลหิตของทั้งเมืองก็แทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว พวกมันได้ปีนป่ายออกมาจากพื้นดิน จากนั้นก็ล้อมรอบจวนเจ้าเมือง เอาไว้ถึงสามส่วนเลยทีเดียว
สีหน้าของพวกเยาเยี่ยมืดครึ้มขึ้นทันที หากหนามโลหิตเหล่านี้คิดจะล้อมโจมตีพวกเขา พวกเขาทุกคนจะต้องตกอยู่ในอันตรายอย่างแน่นอน
แต่พวกเขากลับค้นพบว่า ภายในสายตาของหนามโลหิตเหล่านี้มีเพียงแค่ยาน้ำนั้นเท่านั้น และหนามโลหิตที่ได้ชื่อว่ากินเลือดมนุษย์เป็นอาหาร ในตอนน นี้ก็ดูเหมือนว่าจะไม่สนใจพวกเขาเลยแม้แต่น้อย
ท่ามกลางสายตาแห่งความปรารถนาของเหล่าหนามโลหิตที่อยู่ทั่วทั้งเมือง ในที่สุดมู่เฉียนซีก็สามารถกลั่นยาน้ำออกมาได้แล้ว
นางมอบยาน้ำนั้นให้เฉี่ยอี้แล้วกล่าวว่า “ลองดูสิ! นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้ใกล้ชิดกับหนามโลหิตเช่นกัน ฉะนั้นข้าจึงไม่ค่อยเข้าใจพวกเจ้าเท่าไ ไรนัก แต่หลังจากที่เข้าใจพวกเจ้ามากขึ้นแล้ว น่าจะสามารถกลั่นยาน้ำที่เหมาะสมกับพวกเจ้ามากกว่านี้ออกมาได้”
เฉี่ยอี้รับยาน้ำนั้นมาด้วยเนื้อตัวที่สั่นเทา จากนั้นก็จิบเข้าไปหนึ่งอึกอย่างระมัดระวัง และทันใดนั้นเขาก็สัมผัสได้ว่าพลังของตนเองเกิดกา ารเปลี่ยนแปลงขึ้น
แน่นอนว่าหลังจากที่เจ้านายจากไปแล้ว ความเป็นไปได้ที่หนามโลหิตที่อยู่ทั่วทั้งเมืองอย่างพวกเขาจะเลื่อนขั้นนั้นแทบไม่มีเลย แต่ยาน้ำที่สาวน้อยม มนุษย์นักปรุงยาผู้นี้มอบให้พวกเขาในตอนนี้กลับสามารถทำเรื่องนั้นได้
“เฉี่ยอี้ เอามาให้ข้าลองหน่อย!” เฉี่ยเอ้อร์แย่งยาน้ำขวดนั้นไป
หลังจากที่นางและเฉี่ยซานดื่มยาน้ำนี้เข้าไปแล้ว ก็สัมผัสถึงความผิดปกติของยาน้ำนี้ได้อย่างชัดเจน
เฉี่ยเอ้อร์จ้องมองไปทางมู่เฉียนซีด้วยสายตาที่เปล่งประกายพลางกล่าวว่า “น้องสาวคนสวย เจ้าบอกข้ามาเถิด ว่าความจริงแล้วเจ้าไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นลูก กสาวแท้ ๆ ของไม้เทพแห่งชีวิตใช่หรือไม่! คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะสามารถกลั่นยาน้ำเช่นนี้ออกมาได้ มันจะน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว”
ในตอนแรกที่เจ้านายยังอยู่ แม้ว่าทักษะการกลั่นยาของเจ้านายจะอยู่เหนือนักปรุงยาของแดนนรกมากมาย แต่ทว่าสิ่งของที่เขากลั่นออกมานั้น ก็ไม่ท ทรงพลังเท่ายาน้ำนี้อย่างแน่นอน
“เจ้าคือสมบัติล้ำค่าจริง ๆ! และพี่สาวคนนี้ก็ไม่อยากที่จะปล่อยเจ้าไปเลย” เฉี่ยเอ้อร์จ้องมองไปที่มู่เฉียนซี
“พี่สาว! ความคิดที่ท่านจะขังแม่นางน้อยผู้นี้ไว้เพื่อกลั่นยาให้พวกเราเป็นเรื่องที่แย่มาก พวกเราไม่ใช่คนป่าเถื่อนนะ!” เฉี่ยซานกระซิบอยู่ข้า าง ๆ เฉี่ยเอ้อร์
“เจ้าหุบปากไปเลย ใครบอกว่าข้ามีความคิดเช่นนั้นกัน! ข้าจะไปบังคับน้องสาวที่งดงามอีกทั้งยังสามารถกลั่นยาเช่นนี้ได้อย่างไรกันล่ะ!” เฉี่ยเอ้อ อร์ทุบน้องชายของนางไปหลายที
เฉี่ยซานรู้สึกเสียใจมาก พวกเขาคือพี่น้องฝาแฝด ที่มีใจตรงกัน และพี่สาวของเขาก็มีความคิดเช่นนี้อยู่ชัด ๆ เลยนี่นา!
มู่เฉียนซีมองไปทางเฉี่ยเอ้อร์พลางกล่าวว่า “ถึงพวกเจ้าหาวิธีทำให้ข้าอยู่ที่นี่ แต่ข้าสามารถบอกพวกเจ้าได้เลยว่า หากพวกเจ้าต้องการที่จะเก็บ ข้าไว้ มันก็ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!”
ร่างเงาของปีศาจร้ายสองสามร่างปรากฏตัวขึ้นมา และผู้แข็งแกร่งเหล่านั้นก็ทำให้เฉี่ยเอ้อร์ตะลึงงันไปทันที
เฉี่ยเอ้อร์มองไปทางเฉี่ยอี้และเฉี่ยซานจากนั้นก็กวักมือเรียกพวกเขาพลางกล่าวว่า “พวกเราไปคุยกันหน่อย!”
พวกเขาใช้เวลาพูดคุยกันสั้นมาก และหลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็กล่าวขึ้นมาพร้อมกันว่า “คารวะท่านเจ้าเมือง! เรื่องอาหารของพวกเราหลังจากนี้ต้องรบ บกวนท่านเจ้าเมืองแล้ว!”
ทุกคนต่างผงะไปทันที นี่มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่เกินไปแล้ว!
ก่อนหน้านี้คนเหล่านี้ยังมีความคิดที่จะลักพาตัวพระชายาอยู่เลยนะ! แต่ตอนนี้กลับทำท่าเหมือนลูกหมาน้อยร้องขออาหารไปเสียได้ นี่มันเรื่องอะไรกั น?
พวกของเฉี่ยอี้เฝ้ารอมาเป็นเวลานานมากเกินไปแล้ว และพวกเขาก็คิดว่า บางทีเจ้านายอาจจะไม่กลับมาอีกแล้วก็เป็นได้
พวกเขารู้ดีว่ามู่เฉียนซีมีความสำคัญมากมายเพียงใด และยาน้ำของนางไม่เพียงแต่จะทำให้พวกเขาอิ่มท้องเท่านั้น แต่ยังสามารถทำให้พวกเขาและเด็กน้อย คนอื่น ๆ ของพวกเขาเติบโตขึ้นได้อีกด้วย
พวกเขาไม่ได้เติบโตมานานมากแล้ว และความแข็งแกร่งก็เริ่มจะไม่เพียงพอแล้ว
อย่างไรเสียสุดท้ายแล้วนักกินกลุ่มนี้ก็ไม่อาจต้านทานจนต้องยอมศิโรราบต่อของอร่อยเหล่านี้
พวกเขาคิดว่า หากนายท่านกลับมา ก็จะต้องชื่นชมการตัดสินใจที่ชาญฉลาดของพวกเขาอย่างแน่นอน
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้หนามโลหิตเหล่านี้ เลือกที่จะทำเช่นนี้
ฝูงชนต่างมึนงงกันไปเล็กน้อย จากนั้นมู่เฉียนซีก็มองไปทางพวกเขาแล้วกล่าวว่า “นับตั้งแต่นี้ไป ข้าคือเจ้าเมืองของเมืองหนามโลหิตแห่งนี้ และพวก กเจ้าก็ต้องเรียกข้าว่าท่านเจ้าเมืองด้วย!”
“ขอรับ! ท่านเจ้าเมือง!”
“ท่านเจ้าเมือง ทรงพระเจริญหมื่นปี!”
“…”
เรื่องทั้งหมดนี้ช่างน่าเหลือเชื่อเหลือเกิน นอกจากนี้เจ้าเมืองยังสามารถยึดเมืองหนามโลหิตแห่งนี้ได้ โดยที่ไม่ต้องเสียสละใครเลยแม้แต่คนเดียว
นางเพียงแค่นำยาน้ำออกมามากมาย ก็สามารถจัดการกับพืชกลายพันธุ์ระดับเจ็ดดาวได้แล้ว
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “หลังจากนี้ พวกเราก็มาพูดคุยเรื่องการสร้างเมืองหนามโลหิตกันเถอะ!”
เมืองหนามโลหิตค่อนข้างที่จะเก่าเกินไปสักหน่อยแล้ว ดังนั้นเรื่องของการสร้างเมือง มู่เฉียนซีจึงมอบให้ผู้ที่เชี่ยวชาญเป็นคนรับผิดชอบ
เฉี่ยอี้กล่าวว่า “แม้ว่าหนามโลหิตเหล่านั้นจะไม่สามารถพูดได้ และการทำงานของสมองจะไม่ค่อยดีเท่าไร แต่หากเป็นงานง่าย ๆ ก็สามารถทำได้! พวกเรา เป็นพืชกลายพันธุ์ที่มีจริยธรรม ฉะนั้นพวกเราจะกินเปล่า ๆ โดยไม่ทำงานไม่ได้”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ตกลง หากว่าพวกเจ้าสามารถช่วยงานได้แล้วก็ มันก็คงจะเป็นเรื่องที่ดีมากเลย! อย่างไรเสียตอนนี้ข้าก็ไม่ได้มีคนไว้ใช้งานมา ากนัก ฉะนั้นความเร็วในการซ่อมแซมถือว่าเป็นไปได้ช้ามากเลยทีเดียว”
พวกเขาซ่อมแซมเมือง จากนั้นก็หาพื้นที่ที่เป็นจุดสูยน์กลางของเมืองหนามโลหิตเพื่อสร้างหอหมอปีศาจ
ซึ่งที่นี่ก็แตกต่างจากร้านยาทั่วไป เพราะนอกจากจะมีร้านขายยาลูกกลอนแล้ว ยังมีโรงประมูลที่เอาไว้ประมูลยาลูกกลอนคุณภาพสูง ไปจนถึงกระทั่งโรงเรียน นฝึกฝนนักปรุงยา เป็นต้น…
หอหมอปีศาจนั้นอยู่เหนือจวนของเจ้าเมือง ซึ่งมันได้กลายเป็นสิ่งปลูกสร้างที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองหนามโลหิตไปแล้ว
เนื่องจากว่ามันเป็นอาณาเขตของมู่เฉียนซี นางจึงสามารถแสดงความคิดเห็นออกมาได้อย่างเต็มที่ และสามารถทำตามที่นางคิดเอาไว้ได้อีกด้วย
เฉี่ยเอ้อร์กล่าวว่า “ท่านเจ้าเมืองเดินทางมาไกลมากกว่าจะมาถึงเมืองหนามโลหิตแห่งนี้ได้ แต่ทว่าจวนของเจ้าเมืองกลับไม่ได้รับการจัดการเลย เฉี่ยอ อี้ก็ไร้ความสามารถเกินกว่าที่จะทำอะไรได้ สถานที่ใดที่เหมาะสมจะให้น้องสาวมนุษย์อาศัยอยู่ ข้าจะสั่งให้พวกเด็ก ๆ ไปจัดการเดี๋ยวนี้เลย”
ในเมื่อพวกเขายอมรับเจ้าเมืองคนนี้แล้ว หนามโลหิตทั้งหมดจึงมีความกระตือรือร้นต่อมู่เฉียนซีเป็นพิเศษ เพราะมู่เฉียนซีเป็นบุคคลสำคัญในการดำรงชีวิ ตของพวกเขา!
นอกจากนี้พวกเขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องดูดกินอาหารที่ไม่อร่อยอย่างเลือดของมนุษย์อีกต่อไปแล้วด้วย!
ตอนนี้จวนเจ้าเมืองที่เคยเย็นยะเยือกก็พลันอบอุ่นขึ้นมาแล้ว เนื่องจากว่ามู่เฉียนซีขอให้ทุกคนไปพักผ่อนก่อน แล้วค่อยมาเริ่มงานใหม่ในวันพรุ่งนี้ นั่นเอง
พวกเขารู้ดีว่าหนามโลหิตที่อยู่ที่นี่แตกต่างกับหนามโลหิตที่อยู่ที่อื่น เพราะเจ้าพวกนี้ไม่ชอบที่จะดื่มเลือดของมนุษย์แต่ชอบที่จะดื่มยาน้ำม มากกว่า แต่ทว่าพลังในการต่อสู้กลับยังคงมีเหมือนกัน!
ทันทีที่พวกเขาคิดไปว่ามีหนามโลหิตอยู่ใต้ดินของทั่วทั้งเมืองแห่งนี้รวมไปถึงใต้เตียงของพวกเขาด้วย มันก็ทำให้พวกเขานอนหลับไม่ลงจริง ๆ
และใช่ทุกคนจะมีจิตใจที่เข้มแข็งเหมือนอย่างท่านเจ้าเมืองเสียหน่อย!
เฉี่ยเอ้อร์กล่าวว่า “ท่านเจ้าเมืองผู้งดงาม ห้องพักของท่านเจ้าเมืองอยู่ทางด้านนี้”
ทันทีที่มู่เฉียนซีผลักประตูเปิดออก นางก็เห็นห้องที่เต็มไปด้วยสีชมพูแสบตาห้องหนึ่ง
หากว่านางไม่แน่ใจว่าที่นี่คือคุกโลหิตแล้วละก็ นางคงจะสงสัยว่านางได้เดินทางข้ามเวลาอีกครั้ง และไปโผล่ในโลกเทพนิยายแล้วเป็นแน่
มีของตกแต่งที่เป็นสีชมพูอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง อีกทั้งยังวางของตกแต่งที่น่ารักชนิดต่าง ๆ ไว้มากมายอีกด้วย ซึ่งมันก็ทำให้มุมปากของมู่เฉียน ซีกระตุกขึ้นมาเล็กน้อย
เฉี่ยเอ้อร์จ้องมองไปทางมู่เฉียนซีพลางกล่าวอย่างไร้เดียงสา “ท่านเจ้าเมือง น้องสาวมนุษย์ล้วนชอบแบบนี้กันทั้งนั้น นี่มันสวยงามมาก! หากไม่ใช่เพร ราะว่าข้าอายุมากแล้วและดูไม่เหมือนเด็กเกินไปแล้วละก็ ข้าก็อยากที่จะทำแบบนี้อีกห้องเช่นกัน ในเมื่อวันนี้ข้าได้เห็นท่านเจ้าเมืองมา ข้า ก็อดที่จะคันไม้คันมือขึ้นมาไม่ได้ ดังนั้น…”
มุมปากของมู่เฉียนซีกระตุกขึ้นเล็กน้อย นางกล่าวว่า “เยาเยี่ย เรื่องนี้ข้ามอบให้เป็นหน้าที่เจ้าก็แล้วกัน! ทำให้มันเรียบง่ายและน่ามองก็พอแล้ว !”
ความชื่นชอบในตัวสาวน้อยที่ระเบิดออกมาอย่างซับซ้อนของมังกรสาวผู้บ้าคลั่งผู้นี้ ทำให้มู่เฉียนซีไม่กล้าที่จะคล้อยตามไปอย่างไร้เหตุผลเลยจริง ๆ ๆ
“เจ้าค่ะ!” เยาเยี่ยกล่าว
“ฮืออออ! เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ข้าก็ยังทำไม่ได้เลย ข้าไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกแล้ว!” เฉี่ยเอ้อร์ร้องออกมาอย่างเสียอกเสียใจ
.