ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2362 ถูกรีดจนแห้ง
“แข็งแกร่งมาก!” หลังจากที่ปะทะกันอยู่หลายครั้ง สีหน้าของพวกเฉี่ยอี้ก็มืดมนลงทันที
คิดไม่ถึงเลยว่าภายในเวลาสั้น ๆ จะได้เจอผู้แข็งแกร่งที่วิปลาสถึงสองคนเช่นนี้ นี่เป็นเรื่องที่พวกเขาไม่ได้พบเจอมานับพันปีแล้ว
“พวกเจ้าทำให้ข้าเสียเวลามากเกินไปแล้ว ในเมื่อคนงามยังจัดการทำความสะอาดไม่เรียบร้อย เช่นนั้นข้าจะช่วยนางจัดการเอง” ก่อนหน้านี้จื่อโยวไม่ได้คิดจะต่อสู้อย่างจริงจังแต่อย่างใด
ตอนนี้กลิ่นอายของเขาก็ได้เปลี่ยนเป็นอันตรายขึ้นมาทันที และเห็นได้ชัดว่าเขาต้องการที่จะใช้กระบวนท่าสังหารแล้ว
ทันใดนั้นน้ำเสียงที่เย็นยะเยือกเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมา “หยุดเดี๋ยวนี้!”
ร่างสีดำและม่วงทั้งสองร่างพุ่งทะยานเข้ามา พวกเฉี่ยอี้กล่าวว่า “ท่านเจ้าเมือง!”
“เยี่ย คนงาม!” จื่อโยวกล่าว
ด้วยเหตุนี้การต่อสู้ของทั่งสองฝ่ายจึงได้หยุดลง จื่อโยวกล่าวอย่างประหลาดใจว่า “ท่านเจ้าเมืองหรือ! คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเขาจะเรียกคนงามว่าท่านเจ้าเมือง”
“คนงามช่างยอดเยี่ยมมากเลยจริง ๆ ออกมาเพียงไม่กี่วัน คิดไม่ถึงว่าพืชกลายพันธุ์ระดับเจ็ดดาวจะถูกเจ้าปราบได้แล้วเช่นนี้”
ในที่สุดตอนนี้จื่อโยวก็สามารถแก้ความสับสนที่อยู่ภายในใจของเขาได้แล้ว!
ไม่แปลกใจเลยที่คนงามสามารถเข้ามาในเมืองหนามโลหิตได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ยังสามารถฟื้นฟูเมืองได้สำเร็จในเวลาอันสั้นอีกด้วย ที่แท้ก็เป็นเพราะว่านางสามารถปราบพืชกลายพันธุ์ ทั่งสามตัวนี้ได้แล้วนี่เอง
จากท่าทางที่เคารพของพวกเขา เมื่อคนงามบอกให้ไปทางทิศตะวันตก พวกเขาก็ไม่มีทางไปทางทิศตะวันออกอย่างแน่นอน ซึ่งนั่นก็คือการยอมจำนนอย่างแท้จริง ไม่ใช่เรื่องเท็จแน่นอน
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “นี่คือเฉี่ยอี้ เฉี่ยเอ้อร์และเฉี่ยซาน เป็นลูกน้องของข้าเอง”
“ส่วนนี่คือจื่อโยว เป็นผู้ติดตามของเยี่ย!”
เฉี่ยอี้กล่าวว่า “คิดไม่ถึงเลยจะทำร้ายพวกเดียวกันไปเสียแล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า! นายท่าน พวกข้าล่วงเกินท่านแล้ว”
จื่อโยวกล่าวว่า “คนงาม ข้าเป็นผู้ติดตามที่ไหนกัน! ข้าคือลูกน้องที่แข็งแกร่งที่สุดของเยี่ยต่างหาก คำว่าผู้ติดตามจะไปเหมาะสมกับท่านจื่อโยวผู้แข็งแกร่งและสูงส่งอย่างข้าได ด้อย่างไรกัน”
มู่เฉียนซีกล่าวถามว่า “นี่เจ้ามาเพื่อเตรียมจับจิ่วเยี่ยกลับไปอย่างนั้นหรือ?”
หลังจากที่จิ่วเยี่ยมาถึง ดูแล้วเขาก็ไม่มีความคิดที่จะไปไหนเลย ราวกับว่าเขาได้คิดที่จะละทิ้งคุกโลหิต และอยากที่จะอยู่สร้างเมืองด้วยกันกับนาง
แน่นอนว่านั่นคือเป้าหมายของเขา แต่เมื่อเห็นสายตาที่เย็นยะเยือกของจิ่วเยี่ย จื่อโยวจะกล้าพูดความในใจของตนเองออกมาได้อย่างไรล่ะ!
จื่อโยวกล่าวว่า “แน่นอนว่าต้องไม่ใช่อยู่แล้ว! ข้ารู้มาว่าทางด้านของคนงามเจอเรื่องที่ยากลำบาก ฉะนั้นเลยรีบมาเพื่อช่วยเหลือเจ้า”
“โอ้! เช่นนั้นก็ไปคุยกันที่จวนเจ้าเมืองกันเถอะ!” มู่เฉียนซีกล่าวกับเขา
ที่จื่อโยวมาในคราวนี้ก็เพื่อที่จะมาเติมเสบียงของมู่เฉียนซีให้เต็ม และแน่นอนว่าทั้งหมดนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการมาตามท่านอ๋องของพวกเขากลับไปนั่นเอง
ทว่าก็มีเพียงแต่ต้องเอาใจคนงาม เขาถึงจะสามารถขอให้คนงามช่วยพูด และโน้มน้าวให้เยี่ยกลับไปอย่างเต็มใจได้!
เพราะอย่างไรเสียถึงจะมีเขาสิบคน ก็ไม่มีความสามารถพอที่จะลากเยี่ยกลับไปได้อยู่ดี
หลังจากนั้นในตอนที่จื่อโยวได้นำเอาเสบียงออกมา เฉี่ยอี้ก็รู้สึกเพียงแค่ว่า ‘เศรษฐีใหญ่’ ได้มาถึงแล้ว
นี่เขาจะใจกว้างเกินไปแล้ว นี่ก่อนหน้านี้พวกเขาต่อสู้กับคนร่ำรวยเช่นนี้อย่างนั้นหรือ โชคดีที่ไม่ต่อสู้จนเขาหนีไปเสียก่อน
จื่อโยวกล่าวว่า “ส่วนเรื่องของคน คนธรรมดาไม่กล้ามาที่เมืองโลหิต ซึ่งพวกเขาย่อมไม่กล้ามาในสถานที่ที่อันตรายเช่นนี้อยู่แล้ว ฉะนั้นข้าจึงอยากจะให้คำแนะนำกับคนงามสักสองข้อ ข้อแรกข้าแนะนำให้เจ้าไปซื้อทาสจำนวนหนึ่งมาจากตลาดโกลาหล เพราะทาสของตลาดโกลาหลมีความภักดีที่สูงมาก คำแนะนำข้อที่สองก็ให้คนงามตรงเข้าไปแหกคุกนรก ให้เจ้าไปปราบคนที่อยู่ในค คุกนรกเหล่านั้นเสีย หลังจากนั้นก็มอบอิสระให้พวกเขา คนส่วนใหญ่จะยอมจำนนแก่เจ้า หากไม่ยอมจำนน ก็แค่ฆ่าทิ้งไปเสีย”
ที่นี่คือแดนนรกแห่งความมืด ที่นี่มีการค้าทาส และคุกนรกของที่นี่ล้วนขังคนที่เต็มไปด้วยอันตรายเอาไว้ แต่หากมีคนที่มีความสามารถที่แข็งแกร่งพอ ก็สามารถทำลายคุกนรกและเอานั กโทษที่อยู่ในคุกนรกมาใช้ประโยชน์เพื่อตนเองได้
อย่างแรกมีเงินก็สามารถซื้อได้แล้ว แต่ถึงจะมีความภักดีสูง แต่ความสามารถก็ยังไม่เพียงพอ
แต่อย่างหลังมีความอันตรายมาก ส่วนความภักดีก็ต้องดูก่อนว่ากำปั้นของตนเองนั้นจะแข็งแกร่งพอหรือไม่
คนที่อยู่ภายในคุกนรกล้วนมาจากต่างสถานที่และยังเป็นคนที่รับมือได้ยาก นอกจากนี้ยังมีคนที่มีความสามารถสูงอยู่มากมายอีกด้วย
มู่เฉียนซีพยักหน้าพลางกล่าวว่า “คำแนะนำของเจ้าไม่เลวเลย”
“นี่คือแผนที่ของตลาดโกลาหล นอกจากนี้ยังมีแผนที่ของคุกนรกต่าง ๆ อีกด้วย” จื่อโยวกล่าวพลางหยิบแผนที่สองใบออกมา
ทั้งตลาดโกลาหลและคุกนรกน้อยใหญ่ต่างกระจัดกระจายไปทั้วทั่งแดนนรก แต่แผนที่ที่จื่อโยวมอบให้นั้นมีความละเอียดเป็นอย่างมาก
ซึ่งคนธรรมดาทั่วไปสามารถมีได้แค่แผนที่ของคุกโลหิตเท่านั้น แต่จื่อโยวกลับมีทั้งหมด ซึ่งมันก็เห็นได้ว่าเขามีฝีมือที่ยอดเยี่ยมมากแค่ไหน
หากซื้อทาสทั้งหมดของตลาดโกลาหลได้ ก็จะไม่ต้องมากังวลเรื่องคนไม่พออีกแล้ว
จื่อโยวส่งสายตายมองไปทางมู่เฉียนซีพลางกล่าวว่า “คนงาม เจ้าพอใจหรือไม่?”
“พอใจมากเลยล่ะ!”
“เช่นนั้น…เช่นนั้น…” เขามองไปทางมู่เฉียนซีอย่างคาดหวัง
เขาไม่กล้าพูดที่เรื่องที่คิดอยู่ภายในใจออกมา และทำให้เพียงแค่ขยิบตาให้มู่เฉียนซีเท่านั้น
มุมปากของมู่เฉียนซีกระตุกขึ้นมาเล็กน้อย และตอนนี้นางก็มองความคิดของจื่อโยวออกแล้ว
และทันทีที่จิ่วเยี่ยกวาดสายตาที่เย็นชามองผ่านไป จื่อโยวก็รีบเปลี่ยนสีหน้าในทันที หลังจากนั้นก็กล่าวว่า “ข้ามีความสนใจเรื่องที่หนามโลหิตสามารถอยู่ร่วมกันกับมนุษย์ได้อย่างสง งบสุขเป็นอย่างมาก เจ้าคือเฉี่ยอี้สินะ! ช่วยพาข้าไปเยี่ยมชมหน่อยได้หรือไม่?”
เฉี่ยอี้กล่าวว่า “ได้ขอรับ!”
เนื่องจากอีกฝ่ายนำสิ่งของมาส่งมากมายขนาดนี้ เฉี่ยอี้จึงประทับใจในตัวเขาเป็นอย่างมาก
จื่อโยวรู้ว่ามู่เฉียนซีใช้ยาน้ำในการปราบหนามโลหิตกลุ่มนี้ แต่ก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ที่ยาน้ำของคนงามจะยอดเยี่ยมถึงเพียงนั้นได้
ต้องรู้ว่าหนามโลหิตนั้นขาดเลือดไม่ได้ แต่นางกลับสามารถใช้ยาน้ำเปลี่ยนอาหารของหนามโลหิตได้
นอกจากนี้หนามโลหิตนั้นดีกว่าที่จินตนาการเอาไว้มาก และมู่เฉียนซีก็เป็นคนที่ไม่เอาเปรียบคนอื่น ดังนั้น…
“อยากจะไล่ข้าหรือ!” จิ่วเยี่ยกอดมู่เฉียนซีเอาไว้แน่น
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เมืองหนามโลหิตแห่งนี้เป็นของข้า และก็เป็นของเจ้าด้วย เจ้าสามารถมาได้ตามที่ต้องการ แต่ว่าเจ้าก็มีเรื่องมากมายที่จะต้องไปทำมิใช่หรือ?”
“อื้ม!”
ในคืนก่อนที่จิ่วเยี่ยจะออกเดินทาง พลังของมู่เฉียนซีก็ถูกรีดออกไปจนหมดแล้ว
มู่เฉียนซีจ้องมองไปทางจื่อโยวอย่างดุเดือด “จากนี้ไปเจ้าต้องจับตาดูเจ้านายของเจ้าให้ดี คราวหน้าข้าไม่ช่วยเจ้าโน้มน้าวให้เขากลับไปอีกแล้วนะ ให้ตายเถอะ!”
จื่อโยวกล่าวอย่างจนปัญญาว่า “คนงาม ข้าก็ทำอย่างเต็มที่แล้ว! เพราะเยี่ยคิดถึงเจ้าจนแทบบ้าจึงหนีมาเช่นนี้ ข้าก็ไม่มีหนทางเหมือนกัน!”
จิ่วเยี่ยและจื่อโยวกลับไปแล้ว มู่เฉียนซีพูดถูกแล้ว เพราะเขามีเรื่องมากมายที่จะต้องไปจัดการจริง ๆ
และเมื่อเขาได้เห็นว่าซีสามารถจัดการเมืองหนามโลหิตได้ดีแล้ว นอกจากนี้ยังมีพืชกลายพันธุ์ระดับเจ็ดดาวเป็นลูกน้อง ก็ไม่มีอะไรที่เขาต้องเป็นห่วงอีก
หลังจากที่พวกเขาจากไปแล้ว มู่เฉียนซีก็ได้เรียกพวกเขาสองสามคนให้เข้ามา หลังจากนั้นก็กล่าวว่า “คนของพวกเราสามารถไปหาซื้อที่ตลาดโกลาหลได้!”
เยาเยี่ยกล่าวว่า “แต่ว่าท่านเจ้าเมือง ทาสของตลาดโกลาหลราคาไม่ถูกเลยนะเจ้าค่ะ!”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “แพงอย่างนั้นหรือ? หากเงินของหอหมอปีศาจไม่พอละก็ ข้าค่อยไปเอามาจากเมืองอื่นก็ได้! หากข้าจำไม่ผิด เมืองเหล่านี้ต่างก็เป็นของข้าแล้ว”
หลังจากนั้นมู่เฉียนซีก็หยิบหนังสือกรรมสิทธิ์ของเมืองออกมาสองสามเล่ม
“ในระหว่างที่เตรียมคนงาน พวกเราออกไปดูเมืองอื่น ๆ กันเถอะ”
เมืองอื่น ๆ นั้นไม่ได้ถูกยึกครองโดยพืชกลายพันธุ์อย่างหนามโลหิตเหมือนเมืองหนามโลหิต แต่กลับอยู่ในความวุ่นวายเพราะไม่มีเจ้าเมืองที่แน่นอน และหากต้องการที่จะให้เมืองทั้งหมดเ เป็นของนาง ก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายขนาดนั้น
แต่หากไม่สามารถทำให้ยินยอมได้แล้วล่ะก็ เช่นนั้นก็เอาชนะให้ได้ก็พอแล้ว!
ก่อนหน้านี้นางไม่มีความมั่นใจว่าจะสามารถครอบครองเมืองหนามโลิหิตได้ แต่ตอนนี้นางมีพืชกลายพันธุ์ระดับเจ็ดดาวเป็นลูกน้องถึงสามคน แล้วยังจะกลัวว่าจะปราบพวกเขาไม่ได้อีกอย่างนั้น นหรือ?