ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2370 คนมากก็ไร้ประโยชน์
หลังจากนั้นเจ้าเมืองทั้งสี่คนก็ตื่นตะลึงไปในทันที พวกเขาค้นพบว่าต้นคอของตนเองถูกคว้าเอาไว้และถูกยกลอยขึ้นมา ซึ่งพวกเขาก็ไม่มีโอกาสได้โต้กลับเลยแม้แต่น้อย
“โฮกกกกก!” ทันใดนั้นสัตว์เทพระดับสามทั้งสามตัวจู่โจมเข้ามา แล้วกองกำลังเหล่านั้นจะสามารถสกัดกั้นสัตว์เทพที่แข็งแกร่งเช่นนี้ได้อย่างไร?
ซึ่งพวกเขาคิดว่าจำเป็นจะต้องฝืนใช้จิตวิญญาณอย่างเต็มที่เพื่อที่จะการจัดการกับอู๋ตี้และเสี่ยวหงให้ได้
และหลังจากที่ปะทะกันหลายสิบรอบ ร่างสีม่วงร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมาข้างหลังของคนคนหนึ่งราวกับภูตผีก็มิปาน จากนั้นเข็มเล่มหนึ่งก็แทงลงที่ต้นคอของเขา!
ฉึก!
พวกเขาทั้งห้าคนต่อสู้กันอย่างรวดเร็วฉับไว และหลังจากการต่อสู้ครั้งนี้ พวกของมู่เฉียนซีก็จับคนได้อย่างรวดเร็ว ส่วนลูกน้องของพวกเขาเหล่านั้นก็พ่ายแพ้ไปอย่างรวดเร็วด้วยเช่นก กัน จากนั้นพวกนางก็พุ่งกลับไปบนกำแพงทันที
ตึง ตึง ตึง!
สีหน้าของเจ้าเมืองจอมปลอมทั้งห้าคนซีดเผือดทันที จากนั้นเจ้าเมืองที่ถูกทำให้ตกใจจนเหงื่อแตกพลั่กก็ถูกโยนไปตรงหน้าของโม่อู
สีหน้าของทุกคนเผยความตื่นตกใจออกมา นะ…นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? เหตุใดเจ้าเมืองอย่างพวกเขาทั้งห้าคนถึงถูกจับมาทั้งเป็นภายในพริบตาเช่นนี้?
พวกเขาสามารถจับตัวผู้นำที่อยู่ท่ามกลางกองกำลังนับหมื่นคนได้ ราวกับหยิบของออกมาจากกระเป๋าก็มิปาน
คนพวกนี้ทำเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เฝ้าพวกเขาทั้งห้าคนนี้เอาไว้ และบอกคนจากเมืองของพวกเขาเหล่านั้นด้วยว่า หากพวกเขายังกล้าเดินหน้ามาละก็ พวกเราจะแขวนคอเจ้าเมืองของพวกเขาไว้บนกำแพงเมืองเ เสีย”
พวกเขาทำได้แล้วจริง ๆ อย่างนั้นหรือ? จะวิปลาสเกินไปแล้ว!
โม่อูรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก ฉะนั้นเมื่อสติของเขากลับคืนมาแล้ว เขาจึงรีบขึ้นไปยืนอยู่บนกำแพงพลางกล่าวว่า “ทั้งห้าคนนี้คือเจ้าเมืองของพวกเจ้า หากพวกเจ้าไม่อยากให้เจ้าเม มืองของพวกเจ้าถูกตัดคอ และแขวนเอาไว้บนกำแพงแล้วละก็ พวกเจ้าจงล่าถอยออกไปเดี๋ยวนี้!”
“เจ้าเมือง!” ในเมื่อเจ้าเมืองพ่ายแพ้ พวกเขาก็จะล้มตามไปด้วย เจ้าเมืองคือคนที่พวกเขาติดตาม ย่อมไม่มีทางปล่อยให้เป็นอะไรไปได้แน่นอนอยู่แล้ว
ลูกน้องของเจ้าเมืองทั้งห้าคนนี้แสดงท่าทางที่เป็นกังวลมากออกมา
“จะถอยไม่ได้! พวกเราคือพันธมิตรกัน พวกเราพูดคุยกันเรียบร้อยแล้ว แล้วคนของพวกเราทั้งห้าเมืองจะถอยทัพได้อย่างไร!” และการที่อีกฝ่ายจับเจ้าเมืองทั้งห้าไปได้โดยที่ไม่ทันได้ส สังเกตเห็น นั้นทำให้พวกเขาตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก
การกระทำของอีกฝ่ายนั้นแปลกประหลาดเกินไป แม้ว่าการมีจำนวนคนที่มากกว่าจะไม่ได้มีประโยชน์เสมอไป แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้พวกเขาสบายใจได้บ้าง
แต่ทว่าเจ้าเมืองที่ถูกจับตัวไปอยู่บนกำแพงเหล่านั้นกลับตะโกนออกมาว่า “ถอย! พวกเจ้ารีบถอยเดี๋ยวนี้! ขนาดพวกเจ้ายังกลัวตาย หรือว่าพวกข้าไม่ต้องการมีชีวิตแล้วหรืออย่างไร? ข้า ต่างหากคือเจ้าเมืองของพวกเจ้า ฉะนั้นพวกเจ้าต้องฟังข้า!”
กองกำลังทั้งห้าจึงรีบล่าถอยไปอย่างรวดเร็ว และจำนวนคนหนึ่งในห้าก็ได้หายไปในพริบตา ซึ่งมันก็ทำให้กองกำลังพันธมิตรที่แข็งแกร่งของพวกเขาค่อย ๆ ถูกทำลายไปลงอย่างช้า ๆ นั่นเอง
ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงยอมแพ้ที่จะโจมตี และเปลี่ยนมาตั้งรับแทน!
“คุ้มครองท่านเจ้าเมือง!”
“คุ้มครองท่านเจ้าเมือง!”
เนื่องจากว่าคราวนี้พวกเขามีการเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี จึงทำให้การป้องกันของพวกเขานั้นมีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมากเช่นกัน
แต่ทว่าพวกของเฉี่ยอี้ทั้งสามคนกลับค่อย ๆ เดินเข้ามาอย่างช้า ๆ ราวกับว่ามองไม่เห็นกองกำลังที่ขวางอยู่เป็นทิวแถวเหล่านี้เลยอย่างไรอย่างนั้น
“ฆ่ามัน!”
พวกเขาโบกอาวุธไปมา จากนั้นก็พุ่งเข้าโจมตีพวกของเฉี่ยอี้ทันที
เนื่องจากว่าพวกของเฉี่ยอี้ไม่ใช่มนุษย์ และยังเป็นพืชกลายพันธุ์ระดับเจ็ด มันจึงทำให้พวกเขามีพลังความสามารถเทียบเท่ากับใต้เท้าระดับบนนั่นเอง
ฉะนั้นอย่าว่าแต่กองกำลังที่มีความสามารถธรรมดากลุ่มหนึ่งเลย แม้แต่คนที่มีความสามารถระดับเจ้าครองดินแดนกลุ่มหนึ่งก็ยากที่จะหยุดพวกเขาเอาไว้ได้เช่นกัน!
ไม่ว่าจะมีคนสกัดกั้นพวกเขาไว้มากมายเพียงใด ต่างก็ต้องล้มลงไปกองกับพื้น และมันก็ทำให้หนทางที่มุ่งไปสู่เจ้าเมืองที่เหลือเต็มไปด้วยศพที่นอนเรียงรายอยู่จำนวนนับไม่ถ้วน
ส่วนทางเยาเยี่ยก็สามารถเข้าใกล้ท่านเจ้าเมืองเมืองหนึ่งได้โดยที่ไม่ต้องต่อสู้เลยด้วยซ้ำ
เพราะด้วยรูปลักษณ์พร้อมทั้งรอยยิ้มอันเย้ายวนของนาง ได้ทำให้กองกำลังเหล่านั้นวางอาวุธลงทันที และเปิดเส้นทางให้นางอย่างเชื่อฟัง
เจ้าเมืองผู้นั้นเองก็ตกตะลึงเช่นกัน “มีเสน่ห์มาก! คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีเสน่ห์ที่ทรงพลังเช่นนี้ จะ…เจ้าเป็นใครกันแน่?”
เดิมทีมู่เฉียนซีเป็นผู้ครอบครองการต่อสู้กลางอากาศ ทว่าตอนนี้นางถูกคนเหล่านี้โจมตีจนตกลงมาจากกลางอากาศ และมาอยู่ท่ามกลางวงล้อมของคนกลุ่มหนึ่งเสียแล้ว
ภายในแดนนรก แม้ว่าจะเป็นคนธรรมดาแต่อย่างน้อยก็มีความสามารถเทียบเท่าผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูต ฉะนั้นกองกำลังเหล่านี้จึงถือว่าแข็งแกร่งมากกว่านางเล็กน้อย
แต่ทว่ามู่เฉียนซีกลับยังคงกล่าวอย่างใจเย็นว่า “พวกเจ้าขวางข้าไม่ได้หรอก”
“เจ้าที่ไม่มีสัตว์พันธสัญญา และแม้แต่ความสามารถของเจ้าก็ยังสู้พวกข้าไม่ได้! ฉะนั้นพวกข้าไม่เชื่อหรอกว่าพวกข้านับพันคนจะจัดการเจ้าเพียงคนเดียวไม่ได้” พวกเขามองความสามารถของ มู่เฉียนซีออก และแสดงท่าทางที่ดูถูกเป็นอย่างมากออกมา!
เจ้าเมืองได้จัดเตรียมให้คนอื่น ๆ ไปจัดการกับสัตว์พันธสัญญาเหล่านั้น ส่วนพวกเขาที่มีจำนวนคนที่มากกว่ายังจะกลัวว่าจะจัดการกับแม่นางน้อยคนหนึ่งไม่ได้ได้อย่างไรกัน
เมื่อเจ้าเมืองผู้นี้มองดูสถานการณ์จากฝั่งอื่นอีกสี่แห่งก็รู้สึกว่าตนเองนั้นยังโชคดีอยู่บ้าง เพราะคนที่จับจ้องเขาไม่ใช่คนแปลกประหลาดอย่างทั้งสี่คนนั้น แต่เป็นเพียงสาวน้อย ยที่มีระดับห่างจากเจ้าครองดินแดนเป็นอย่างมากคนหนึ่งเท่านั้นเอง
และเขาจะต้องสามารถจัดการนางได้อย่างแน่นอน!
เพล้ง เพล้ง เพล้ง!
ในตอนที่คนนับพันคนกำลังล้อมมู่เฉียนซีเอาไว้ มู่เฉียนซีก็ได้โยนขวดยาน้ำจำนวนนับไม่ถ้วนที่อยู่ในมือออกไป
ซึ่งเมื่อยาน้ำเหล่านั้นอยู่กลางอากาศมันก็ได้ระเบิดออก และทำให้บริเวณโดยรอบถูกปกคลุมไปด้วยหมอกสีดำอันหนาทึบ
เพล้ง เพล้ง เพล้ง!
“แค่ก แค่ก แค่ก!”
“จะ…เจ้าคือปรมาจารย์พิษอย่างนั้นหรือ!”
ถึงแม้ว่าระดับเจ้าครองดินแดนจะสามารถสกัดกั้นพิษได้ แต่กองกำลังที่มีความสามารถธรรมดาเหล่านี้ ล้วนล้มลงไปบนพื้นทันที!
ร่างสีม่วงนั้นพุ่งทะยานผ่านไปในหมอกสีดำ และในตอนที่หมอกสีดำปรากฏขึ้น เจ้าเมืองผู้นี้ก็รู้สึกได้ถึงสิ่งผิดปกติบางอย่าง
เขารีบหมุนเวียนพลังวิญญาณเพื่อป้องกันพิษเหล่านั้นไว้อย่างรีบร้อน และเฝ้ามองบริเวณโดยรอบอย่างระมัดระวัง
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
ทันใดนั้นเข็มยาจำนวนนับไม่ถ้วนก็พุ่งทะยานออกมาจากทั่วทุกทิศทาง
มันเร็วมาก! เจ้าเมืองผู้นี้รีบร้อนป้องกันด้วยความตื่นตกใจเป็นอย่างยิ่ง
ในตอนที่เขากำลังตั้งรับการโจมตีของอาวุธลับเหล่านั้น เขากลับถูกมู่เฉียนซีใช้การเคลื่อนย้ายภายในชั่วพริบตาเข้ามาใกล้เขาอย่างไม่ทันรู้ตัว
จากนั้นเข็มยาเล่มบางก็ข่วนไปบนผิวของเขา ซึ่งมันก็ทำให้ความสามารถของเจ้าครองดินแดนระดับบนที่เขาภาคภูมิใจถูกปิดกั้นเอาไว้ทันที พลันนั้นเขาก็กลายเป็นแค่เชลยที่ไม่มีพลังโ โต้กลับได้เลยแม้แต่น้อยคนหนึ่ง
ปัง!
มู่เฉียนซีได้ยกคนผู้นั้นไปบนกำแพงเมือง จากนั้นก็โยนเขาลงไป
โม่อูกล่าวว่า “ท่านเจ้าเมือง ทะ…ท่านจะเร็วเกินไปแล้ว!”
“เจ้าพวกมดปลวกเหล่านั้นช่างเกะกะเสียจริง คิดไม่ถึงเลยว่ามันจะทำให้ข้าช้ากว่าท่านเจ้าเมืองไปก้าวหนึ่งเช่นนี้!” เฉี่ยเอ้อร์บ่นด้วยสีหน้าที่บูดบึ้ง
“วิธีของท่านเจ้าเมือง พวกเราจะไปเทียบได้อย่างไร” ตอนนี้เฉี่ยอี้ก็จับเจ้าเมืองกลับมาได้อีกคนหนึ่งแล้วเช่นกัน และเขาก็โยนเจ้าเมืองผู้นั้นออกไปราวกับโยนขยะชิ้นหนึ่งทิ้งก็ มิปาน
โดนจับมาอีกห้าคนแล้วอย่างนั้นหรือ?
ตอนนี้พวกเขาต่างก็ตกใจกลัวจนหน้าซีดเผือดไปหมดแล้ว การที่พวกเขาพาคนมาด้วยมากมายเช่นนี้มีประโยชน์อะไรกัน?
ตอนนี้มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะนำไปใช้ในการจัดการคนเหล่านี้เลยแม้แต่น้อย
ทั้งสามคนพุ่งทะยานเข้าไปในการต่อสู้เพื่อออกอาละวาดอย่างโหดร้าย และหนึ่งในนั้นก็ใช้เสน่ห์ที่ไม่ว่าชายหนุ่มคนใดก็ไม่อาจต้านท้านได้อีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่วิปลาสยิ่งกว่า ซึ่งการที่นางจะมีสัตว์เทพถึงสามตัวนั้นยังไม่เท่าไร ทว่ายังสามารถวางยาพิษเพื่อกวาดล้างกองกำลังนับพันได้ตามต้องการอีกด้วย
“เป็นไปได้อย่างไร? มันเป็นไปได้อย่างไรกัน?” ในตอนแรกพวกเขาทั้งยี่สิบกว่าคนต่างมาถึงด้วยความกระหยิ่มใจ แต่ในตอนนี้พวกเขารู้สึกได้ถึงความจริงจังขึ้นมาแล้ว
“ถอย!” เจ้าเมืองทั้งสองกลุ่มถูกจับไปแล้ว ส่วนเจ้าเมืองที่เหลืออยู่อีกสิบกว่าคนก็รู้แล้วว่าชะตากรรมในอนาคตของพวกเขาจะเป็นอย่างไร?
พวกเขาไม่อยากที่จะเป็นเชลย ดังนั้นจึงเลือกที่จะล่าถอยทันที
น้ำเสียงที่เย็นยะเยือกเสียงหนึ่งดังขึ้นมา “ในเมื่อมาถึงกันแล้ว เจ้าเมืองทุกท่านก็ไปดื่มชากันสักหน่อยค่อยไปเถิด เหตุใดต้องรีบไปขนาดนั้นด้วยเล่า?”
พวกของมู่เฉียนซีทั้งห้าก็เริ่มลงมืออีกครั้ง และหลังจากนั้นก็ได้ไปขวางทางหนีของพวกเขาเอาไว้
“สู้กับพวกเขาซะ!” ตอนนี้กองกำลังธรรมดาได้เข้าขัดขวางพวกเขาเอาไว้ และไม่น่าเชื่อว่าสุดท้ายแล้วเจ้าเมืองที่พาลูกน้องระดับเจ้าครองดินแดนมาด้วยสองสามคนจะต้องร่วมมือกันฝ่าวงล้อมอ ออกไปเช่นนี้
“ยอดฝีมือทั้งหลายฝ่าออกไปพร้อมกัน ทำลายพวกเขาซะ! พวกเขามีแค่ความเร็วที่เร็วมากเท่านั้น ข้าไม่เชื่อหรอกว่าพวกเขาจะมีความสามารถระดับใต้เท้าอยู่ด้วย ขอเพียงพวกเราที่มีพลังระดับ บแนวหน้าร่วมมือกัน ข้าไม่เชื่อว่าจะไม่สามารถจัดการพวกเขาได้”