ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2374 ตลาดโกลาหล
มู่เฉียนซีเรียกให้รองเจ้าเมืองทั้งยี่สิบเจ็ดคนมาประชุม และหลังจากที่พวกเขาเข้ารับตำแหน่งรองเจ้าเมืองแล้ว มู่เฉียนซีก็ได้มอบภารกิจให้พวกเขาสองสามอย่างอีกด้วย
ภารกิจแรก ก็คือการที่ให้พวกเขาจัดการดูแลเมืองของพวกเขาให้ดี
ภารกิจที่สอง ก็คือการส่งมอบเงินทุนที่สามารถนำมาใช้ได้จากเมืองที่พวกเขารับผิดชอบอยู่
ภารกิจที่สาม ก็คือให้เตรียมสร้างหอหมอปีศาจในแต่ละเมืองใหญ่ของพวกเขา
สิ่งนี้สำหรับพวกเขาแล้วมันไม่ใช่เรื่องยากเลย ดังนั้นพวกเขาจึงรับปากอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่มู่เฉียนซีสั่งการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ก็กล่าวว่า “พวกเจ้ากลับไปได้แล้ว! อย่างไรเสียเมืองทั้งยี่สิบกว่าเมืองเหล่านั้นก็ไม่สามารถขาดคนคอยรับผิดชอบไปตลอดได้ หากมีผู้ ใดกล้ามารุกราน ก็จงฆ่าพวกมันเสีย!”
ในตอนที่พวกเขากำลังจะออกไป ก็ได้รับรู้มาว่าหอคอยที่กองกำลังใต้บังคับบัญชาของพวกเขากำลังสร้างอยู่นั้นก็คือหอหมอปีศาจ
มาตรฐานของหอหมอปีศาจแห่งนี้เกินกว่าหอยาทั่วไปเป็นอย่างมาก เพราะมันงดงามยิ่งกว่าจวนของเจ้าเมืองเสียอีก
เจ้าเมืองแต่ละคนผงะไปในทันที “ท่านเจ้าเมือง หอหมอปีศาจในเมืองของพวกเราจะต้องสร้างเช่นนี้ด้วยหรือไม่ขอรับ?”
เดิมทีพวกเขาก็ต้องมอบเงินส่วนใหญ่ให้ท่านเจ้าเมืองอยู่แล้ว หากพวกเขายังต้องสร้างหอเช่นนี้อีก เกรงว่าพวกเขาได้ล้มละลายกันเป็นแน่
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “หอหมอปีศาจของเมืองหนามโลหิตจะเป็นกองบัญชาการหลักของหอหมอปีศาจแห่งแดนนรก ฉะนั้นย่อมต้องสร้างขึ้นมาอย่างยิ่งใหญ่เช่นนี้อยู่แล้ว ส่วนที่เมืองอื่น ๆ ไม่จำเป ป็นต้องทำเช่นนี้ ข้าจะให้พวกเจ้าเตรียมการให้พร้อมก่อน หลังจากนั้นค่อยส่งภาพร่างไปให้”
กองบัญชาการหลักของหอหมอปีศาจแห่งแดนนรกอย่างนั้นหรือ และตอนนี้พวกเขาก็ได้ถูกคำพูดนี้ของมู่เฉียนซีทำให้ตกใจกันไปหมดแล้ว
ท่านเจ้าเมืองของพวกเขาค่อนข้างที่จะทะเยอทะยานเลยทีเดียว!
เนื่องจากว่าท่านเจ้าเมืองของพวกเขาเป็นคนที่ลึกลับมากเหลือเกิน พวกเขาจึงไม่สงสัยเลยว่านางจะทำไม่ได้แม้แต่น้อย เพราะแม้แต่พืชกลายพันธุ์ที่น่าสะพรึงกลัวอย่างหนามโลหิตนางยังสาม มารถทำให้เชื่องได้เลย
“ขอรับ! ข้าน้อยน้อมรับคำสั่งท่านเจ้าเมือง”
หลังจากที่พวกเขาออกมาจากเมืองหนามโลหิต และกลับไปยังเมืองของตนเอง เมืองที่ไร้เจ้าเมืองของเขตต้องห้ามใต้สุดทั้งหมด ก็มีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่เกิดขึ้นมาทันที
พวกเขาทุกคนต่างมีตำแหน่งรักษาการแทนเจ้าเมือง และเจ้าเมืองที่แท้จริงของพวกเขาก็นั่งบัญชาการอยู่ที่เมืองที่ใหญ่ที่สุดของเขตต้องห้ามใต้สุดแห่งนี้ ซึ่งก็คือเมืองหนามโลหิต แล ละนางก็คือเจ้าเมืองของเมืองหนามโลหิตนั่นเอง
ก่อนหน้านี้ทุกคนต่างก็สงสัยกันไปต่าง ๆ นานา เพราะไม่เคยมีผู้ใดสามารถกลายเป็นผู้รับผิดชอบเมืองหนามโลหิตได้มาก่อน
แต่ทว่าตอนนี้พวกเขาจำเป็นต้องเชื่อ ว่ามีคนสามารถยึดเมืองหนามโลหิตที่เป็นราวกับฝันร้ายก็มิปานเมืองนั้นได้จริง ๆ ไม่เพียงแต่ยึดมาได้เท่านั้น นอกจากนี้ยังสามารถจัดการเมืองอื่ น ๆ ได้ในเวลาเดียวกันอีกด้วย
หรือว่า เมืองหนามโลหิตไม่มีอันตรายอีกต่อไปแล้ว หนามโลหิตเหล่านั้นตายไปหมดแล้วอย่างนั้นหรือ?
ซึ่งก็มีผู้คนไม่น้อยที่อยากตรวจสอบด้วยความอยากรู้อยากเห็นที่เต็มเปี่ยม และผลสุดท้ายพวกเขาก็ค้นพบว่าพืชกลายพันธุ์ที่ดุร้ายของเมืองหนามโลหิตไม่เพียงแต่ยังไม่ตายเท่านั้น แต่กลั บเปลี่ยนเป็นรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งพวกเขาก็ถูกทำให้ตกใจกลัวจนต้องหนีกลับไปอย่างรวดเร็ว
ณ เมืองเทพสังหาร เมื่อเหล่าราชทินนามที่ทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับท่านอ๋องจิ่วเยี่ยเหล่านั้นได้รู้ข่าวนี้เข้าก็รู้สึกไม่อยากจะเชื่อเช่นกัน
พระชายาทำสำเร็จได้อย่างไร?
เจ้าเมืองใหญ่ต่าง ๆ ของเขตต้องห้ามใต้สุด ได้ส่งคนไปเตรียมสมบัติและส่งไปที่เมืองหนามโลหิต จนคลังสมบัติของเมืองหนามโลหิตถูกเติมเต็มอย่างรวดเร็ว
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ตอนนี้เงินทุนเพียงพอแล้ว เช่นนั้นขั้นต่อไปพวกเราไปที่ตลาดโกลาหลกันเถอะ!”
“ขอรับ ท่านเจ้าเมือง!”
พวกของมู่เฉียนซีออกจากเมืองหนามโลหิตอีกครั้ง และพวกเขาก็ไปยังตลาดโกลาหลที่อยู่ใกล้ที่สุดแห่งหนึ่งในเขตต้องห้ามใต้สุด
หลังจากที่พวกเขาเข้าไปในตลาดโกลาหลแล้ว ก็ได้ยินเสียงของใครบางคนร้องตะโกนออกมา “การประมูลทาสกลุ่มใหม่ล่าสุดได้เริ่มขึ้นแล้ว!”
มีผู้คนมากมายรีบเดินเข้าไป และคนหนุ่มสาวที่ถูกล่ามโซ่ไว้ไว้กลุ่มหนึ่งก็ถูกลากออกมา นอกจากนี้ยังมีสาวน้อยที่หน้าตางดงามกลุ่มหนึ่งอีกด้วย
พลังจิตวิญญาณของมู่เฉียนซีแพร่กระจายออกมา เพื่อสังเกตพลังจิตวิญญาณและคุณสมบัติของคนเหล่านี้ จากนั้นมู่เฉียนซีก็กล่าวกับเยาเยี่ยว่า “พวกเราต้องการคนกลุ่มนี้ทั้งหมด”
เยาเยี่ยพยักหน้าเล็กน้อยพลางกล่าวว่า “เจ้าค่ะ!”
“ผลึกสีดำแห่งความมืดระดับสูงสุดสิบเม็ด” ทันทีที่เยาเยี่ยเสนอราคา ก็ทำให้ผู้คนต่างตกตะลึงไปตาม ๆ กัน
ก็แค่ทาสเพียงไม่กี่คนเท่านั้น อีกทั้งความสามารถก็ไม่ได้แข็งแกร่งอะไร นอกจากนี้สภาพร่างกายก็ไม่แข็งแกร่งเท่าที่ควรอีกด้วย ซึ่งเดิมทีแล้วก็ไม่ใช่ของที่มีราคามากมายเช่นนี้
ในตอนที่คนอื่นกำลังจะยอมแพ้ ก็มีชายพุงค่อนข้างพลุ้ยคนหนึ่งเดินออกมาแล้วกล่าวว่า “พวกสาวงาม! ข้าขอเสนอสิบเอ็ดเม็ด!”
คนผู้นี้ไม่สนใจทาสเหล่านั้นเลยแม้แต่น้อย แต่กลับจับจ้องไปที่เยาเยี่ยอยู่ตลอดเวลา
เยาเยี่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ยี่สิบ!”
“ยี่สิบเอ็ด!” เขาเพิ่มราคาขึ้นอีกครั้ง
“สามสิบ!”
“สามสิบเอ็ด!”
เขาท้าทายครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งมันก็ทำให้สีหน้าของเยาเยี่ยเย็นยะเยือกมากขึ้นไปอีก เจ้าหมูอ้วนจอมแกว่งเท้าหาเสี้ยนผู้นี้นี่
เขากล่าวว่า “ดูเหมือนว่าสาวงามจะชื่นชอบทาสเหล่านี้มาก หากเจ้าต้องการแล้วละก็ เมื่อถึงตอนนั้นเจ้าก็ไปหาข้าที่เรือนหมายเลขสี่ของลานโกลาหลที่สี่ก็แล้วกัน! แล้วข้าจะมอบทาสเหล่า านี้ให้เจ้าโดยไม่คิดเงินเลย”
เยาเยี่ยกล่าวว่า “ข้าจะต้องไปหาเจ้าตามที่เจ้าปรารถนาแน่นอน!”
อีกเดี๋ยวเถอะ!
หลี่อ้ายผู้นี้ก็จะเต็มไปด้วยความสุขอย่างล้นเหลือเกินไปแล้ว
หลังจากนั้นมู่เฉียนซีก็เลือกคนอื่นต่อไป และเนื่องจากว่าคราวนี้ไม่มีคนก่อกวน ฉะนั้นจึงเอาชนะประมูลมาได้ด้วยราคาที่ไม่สูงมากนัก
เฉี่ยอี้กล่าวว่า “เยาเยี่ย ไปกันเถอะ! พี่ชายจะไปแก้แค้นให้เจ้าเอง”
“ข้าก็กำลังคิดเช่นนั้นอยู่เหมือนกัน!” เยาเยี่ยกล่าวอย่างเย็นชา
คนที่สามารถอาศัยอยู่ในเรือนหมายเลขที่สี่ของตลาดโกลาหลได้นั้นมีสถานะที่ไม่ธรรมดา ซึ่งตามปกติแล้วไม่มีผู้ใดกล้าล่วงเกินพวกเขา แต่ทว่าพวกของเยาเยี่ยเองก็ไม่ใช่คนธรรมดาเช่นกัน
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! สาวงาม เจ้ามาแล้วสินะ!” เจ้าหมูอ้วนผู้นั้นกล่าว
เยาเยี่ยกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ที่ข้ามาวันนี้ เป็นเพราะข้าจะมาเอาชีวิตของเจ้า ไอ้โง่!”
“ต้องการชีวิตของข้าอย่างนั้นหรือ สาวงาม เจ้านี่ช่างไร้เดียงสาจริง ๆ เจ้าจะต้องตกอยู่ในมือข้า และจงมากลายเป็นทาสสาวที่งดงามที่สุดของข้าเสียเถอะ” สายตาของเขาจับจ้องไปที่เยา เยี่ย และทันใดนั้นเยาเยี่ยก็เริ่มลงมือทันที
ตึงง!
“กล้ามาสร้างปัญหาที่นี่อย่างนั้นหรือ สาวงาม ดูเจ้าจะร้อนแรงเกินไปหน่อยนะ ที่นี่คืออาณาเขตของข้า! โจมตีนางซะ!”
และแน่นอนว่าเจ้าหมูอ้วนผู้นี้ก็เตรียมตัวมาพร้อมเช่นกัน และสำหรับเขาแล้วเยาเยี่ยเป็นเพียงแค่เหยื่อของเขาเท่านั้น
เยาเยี่ยกล่าวว่า “พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องลงมือ พวกเจ้าอยู่คอยคุ้มกันเจ้านายก็พอแล้ว”
เยาเยี่ยโมโหเป็นอย่างมาก แม้แต่ตอนที่จัดการเจ้าเมืองเหล่านั้นในตอนแรก นางก็เพียงแค่ลงมือเล่น ๆ ไปเท่านั้น แต่นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนทำให้นางโมโหถึงเพียงนี้
“ระดับใต้เท้า…ยอดฝีมือระดับใต้เท้าขั้นสูง…”
เจ้าหมูอ้วนผู้นี้ตื่นตกใจขึ้นมาทันที ตอนนี้เยาเยี่ยกำลังแสดงความสามารถออกมา เหตุใดผู้แข็งแกร่งอย่างใต้เท้าขั้นสูงสุดถึงต้องมาซื้อทาสด้วยตนเองถึงตลาดโกลาหลเช่นนี้ด้วย นอกจากนี นางยังรูปร่างหน้าตางดงามเป็นอย่างมาก ซึ่งมันก็ทำให้รู้สึกเหลือเชื่อมากจริง ๆ
ฉัวะ!
ในตอนที่เยาเยี่ยเริ่มทำการสังหารหมู่อย่างสนุกสนาน พวกเขาก็เจอเข้ากับทาสที่เจ้าหมูอ้วนนี่ขังเอาไว้มากมาย
ทุกคนดูมึนงงไม่ได้สติ แต่ก็ยังมีบางคนที่ยังคงโหยหาอิสรภาพอยู่บ้าง และหลังจากนั้นมู่เฉียนซีก็พาคนเหล่านี้ไป
พวกเขาคือทาส และเมื่อถูกซื้อแล้วก็จะต้องตกเป็นของผู้ซื้อ
และถึงแม้จะรู้ว่าจุดหมายของพวกเขาคือเมืองหนามโลหิต พวกเขาก็ไม่หวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย
หลังจากที่มาถึงเมืองแล้ว นางก็สั่งให้คนดูแลคนเหล่านี้ และค่อย ๆ ขุดพรสวรรค์ของพวกเขาออกมา
หากมีพรสวรรค์ที่ดีก็จะเลี้ยงดูให้พวกเขาฝึกฝน ปรุงยา หลอมอาวุธหรืออื่น ๆ ได้
หากมีมันสมองที่ดีก็สามารถปลูกฝังความสามารถทางธุรกิจให้พวกเขาได้ ส่วนคนที่มีคุณสมบัติปานกลางก็ทำให้เป็นคนมีชื่อเสียงธรรมดาได้เช่นกัน
เฉี่ยอี้กล่าวว่า “ข้าได้เรียนรู้การเลือกคนจากท่านเจ้าเมืองแล้ว ท่านเจ้าเมืองไม่จำเป็นที่จะต้องเดินทางไปทุกหนทุกแห่ง และไม่ต้องไปตลาดค้าทาสอื่น ๆ อีกแล้วขอรับ มอบให้เป็นหน้า าที่ของพวกเราก็พอแล้ว”
เฉี่ยเอ้อร์กล่าวอย่างอ่อนโยนว่า “ใช่แล้ว! ท่านเจ้าเมืองรออยู่ที่เมืองก็พอ และหากท่านเจ้าเมืองอารมณ์ดีแล้วละก็ ท่านก็สามารถค้นคว้าเครื่องดื่มที่อร่อยยิ่งกว่านี้ให้พวกเราไ ได้! เมื่อถึงตอนนั้นข้าจะต้องรักท่านเจ้าเมืองไปจนตายแน่นอนเลย”
ยาน้ำและยาลูกกลอนเป็นสิ่งที่หาเจอได้ยากที่สุดในแดนนรก แต่ตอนนี้มันได้กลายเป็นอาหารและเครื่องดื่มของพวกเฉี่ยอี้ไปแล้ว ซึ่งหากให้คนอื่นรู้เข้า คาดว่าจะต้องกระอักออกมาเป ป็นเลือดอย่างแน่นอน
พวกของเฉี่ยอี้ยังคงปฏิบัติภารกิจต่อไป ส่วนมู่เฉียนซีก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็กล่าวว่า “สุ่ยจิงอิ๋ง สถานการณ์ของเจ้าในตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”