ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2376 ถูกตั้งคำถาม
มู่เฉียนซีคว่ำทุกอย่างทิ้งไป จากนั้นก็เริ่มทดลองใหม่อีกครั้ง
พวกของเฉี่ยอี้และเฉี่ยเอ้อร์ต่างเฝ้ารออย่างร้อนใจ เพราะเจ้าน้องชายตัวน้อยนั่นเริ่มที่จะทนไม่ไหวอีกแล้ว
ท่านเจ้าเมืองจะทำสำเร็จหรือไม่?
ในที่สุดมู่เฉียนซีก็ออกมาจากห้องทดลอง และในมือของนางก็มียาน้ำที่ใสสะอาดอยู่ขวดหนึ่ง จากนั้นนางก็เดินเข้ามาหาพวกเขา!
พลังบนร่างกายของหนามโลหิตนั้นยิ่งบ้าคลั่งมากขึ้นเรื่อย ๆ มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เฉี่ยเอ้อร์ เจาะรูบนร่างกายของเขารูหนึ่ง!”
“เจ้าค่ะ!”
หนามของเฉี่ยเอ้อร์นั้นมีความคมมากที่สุดในพวกเขาทั้งสามคน แม้ว่าจะเป็นหนามโลหิตระดับเจ็ดดาวก็ไม่สามารถสกัดกั้นเอาไว้ได้อยู่ดี
เมื่อมีช่องว่างเกิดขึ้นแล้ว มู่เฉียนซีก็เอายาน้ำของนางฉีดเข้าไป
หลังจากที่ยาน้ำถูกฉีดเข้าไปแล้ว พลังที่บ้าคลั่งของเจ้าหมอนี่ก็เปลี่ยนเป็นสงบลง พลันนั้นลำแสงสีแดงเลือดก็แผ่กระจายออกมาจากร่างกาย
เฉี่ยอี้กล่าวอย่างประหลาดใจว่า “ท่านเจ้าเมือง สำเร็จ…นี่มันสำเร็จแล้วใช่หรือไม่?”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ยังไม่สามารถมั่นใจได้อย่างสมบูรณ์ ต้องรอให้เขากลายร่างจริง ๆ ก่อนถึงจะสามารถมั่นใจได้”
เฉี่ยเอ้อร์คลี่ยิ้มอย่างอ่อนโยน “ยาน้ำของท่านเจ้าเมืองอร่อยกว่าของเจ้านาย แน่นอนว่าจะต้องยอดเยี่ยมกว่ายาลูกกลอนของนายท่านแน่นอน ฉะนั้นต้องสำเร็จแน่”
ภายในสายตาของนักกิน ยาไหนที่อร่อยก็เป็นยาที่ยอดเยี่ยมทั้งนั้น
เมื่อได้ยินคำพูดของเฉี่ยเอ้อร์ มู่เฉียนซีก็พูดไม่ออกเลยทีเดียว
จากนั้นลำแสงสีแดงเลือดก็ส่องสว่างมากขึ้นเรื่อย ๆ ทันใดนั้นกิ่งก้านทั้งหมดของหนามโลหิตนั้นก็หายไป และก็มีร่างของมนุษย์ปรากฏขึ้นมาท่ามกลางแสงสว่างนั้น
ในตอนที่แสงสว่างนั้นเริ่มเลือนลางลง หนุ่มน้อยในชุดสีม่วงก็เดินออกมา
รูปร่างหน้าตาของหนุ่มน้อยผู้นี้หล่อเหลาเป็นอย่างมาก ดวงตาสีแดงเลือดที่เปล่งประกายราวกับพลอยแดงก็มิปานจ้องมองไปทางมู่เฉียนซี หลังจากนั้นเขาก็วิ่งไปอยู่ตรงหน้าของมู่เฉียนซีพลาง งกล่าวว่า “เจ้านาย!”
เมื่อเขาคลี่ยิ้มออกมาก็เผยให้เห็นลักยิ้มทั้งสองข้าง และยังมีเขี้ยวน้อยที่ดูน่ารักน่าชังอีกด้วย เขามองไปทางมู่เฉียนซีด้วยความชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งมันดูไม่ซับซ้อนและไร้ อันตรายอย่างสิ้นเชิง
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เจ้ายอมรับข้าเป็นเจ้านายอย่างนั้นหรือ?”
“เดิมทีท่านก็เป็นเจ้านายของข้าอยู่แล้วนะ! ท่านคือเจ้านายของเมืองหนามโลหิต และยังช่วยข้าไว้อีกด้วย เฉี่ยซื่อยอมรับท่านแล้ว” ดวงตาทั้งสองข้างของเขาจ้องมองมู่เฉียนซีอย่าง ร้อนแรง
“เฉี่ยซื่อรึ!”
“อื้ม! ข้าตั้งชื่อด้วยตนเอง มีเฉี่ยอี้ เฉี่ยเอ้อร์ เฉี่ยซานหลังจากนั้นก็ต้องเป็นเฉี่ยซื่อ! หากเจ้านายไม่ชอบ ท่านตั้งชื่อให้ข้าอีกชื่อหนึ่งก็ได้”
เสี่ยวหงที่อยู่ในมิติพันธสัญญากล่าวบ่นว่า ‘เจ้าเด็กน้อย ช่างมันไปเถอะ หลังจากที่เจ้านายตั้งชื่อให้เจ้าแล้ว เกรงว่าเจ้าคงจะรู้สึกว่า ชื่อที่เจ้าตั้งด้วยตนเองดีกว่าจริง ๆ’
มู่เฉียนซีกล่าวตอบว่า “เฉี่ยซื่อก็ดีแล้ว!”
ภายในสายตาของเฉี่ยซื่อมีเพียงมู่เฉียนซีเท่านั้น แม้แต่พวกของเฉี่ยอี้ที่เป็นเพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์ก็ถูกเมินเฉยไปเช่นกัน เขาวิ่งตามมู่เฉียนซีทุกวันราวกับหางเล็ก ๆ อันหนึ่งก็ม มิปาน แต่ก็ไม่ได้ก่อความวุ่นวายใด ๆ ให้แต่อย่างใด
รอยยิ้มที่เจ้าหมอนี่ยิ้มอยู่ทุกวันเจิดจรัสราวกับแสงอาทิตย์ก็มิปาน เนื่องจากมู่เฉียนซีชื่นชอบสีม่วง เขาจึงสวมชุดสีม่วงทุกวัน นอกจากนี้ยังเปลี่ยนสีผมและสีตาของตนเองเป็นพิเศษ อีกด้วย ซึ่งดูเหมือนกับน้องชายข้างบ้านคนหนึ่งอย่างไรอย่างนั้นเลย ซึ่งเขาหลอกลวงยิ่งกว่าเฉี่ยเอ้อร์ที่แสร้งทำเป็นหญิงสาวที่สง่างามเสียอีก
คนในเมืองต่างก็ปฏิบัติต่อเขาในฐานะน้องชายธรรมดาคนหนึ่ง นอกจากท่านเจ้าเมืองแล้ว พวกเขาเพิ่งเคยเห็นหนุ่มน้อยที่อายุน้อยถึงเพียงนี้ ซึ่งมันก็ทำให้ผู้คนชื่นชอบเขาเป็นอย่างมาก ก
งานประมูลกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว ส่วนผู้ดำเนินการประมูลก็ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว ซึ่งผู้ดำเนินการประมูลย่อมต้องเป็นแม่มดอย่างเยาเยี่ยแน่นอนอยู่แล้ว
ข้อมูลของยาลูกกลอนที่มู่เฉียนซีปล่อยออกมาเหล่านั้นน่าดึงดูดเกินไป ดังนั้นผู้คนจำนวนมากจึงเต็มใจยอมเสี่ยงอันตรายเพื่อมายังเมืองหนามโลหิตแห่งนี้
ในตอนที่พวกเขากำลังจะเข้าใกล้เมืองหนามโลหิต พวกเขาก็ได้เตรียมจิตสังหารเอาไว้พร้อมแล้ว แต่ผลปรากฏว่าพวกเขาเดินทางมาถึงประตูเมืองได้อย่างราบรื่น
หลังจากนั้นชายหนุ่มคนหนึ่งก็คลี่ยิ้มอย่างกระตือรือร้นพลางกล่าวว่า “สวัสดีแขกที่รักทุกท่าน ข้าคือรองเจ้าเมืองของเมืองโม่ ที่ได้รับคำสั่งมาจากเจ้าเมืองของพวกเรา ให้มาต้อนรับท ทุกท่านเป็นพิเศษ”
อย่างไรเสียนี่ก็เป็นงานประมูลเปิดสาขาหลักของหอหมอปีศาจ แม้ว่าจะไม่ใช่หอหมอปีศาจแห่งแรกในคุกโลหิต แต่มู่เฉียนซีก็ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ
นางได้เรียกรองเจ้าเมืองที่เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารสองสามคนมาช่วยงาน ส่วนเรื่องการป้องกันเมืองนั้นไม่จำเป็นต้องพิจารณาเลย
หากมีคนกล้ามาก่อความวุ่นวายในเมืองหนามโลหิต พลังการต่อสู้ของหนามโลหิตที่อยู่ทั่วทั้งในเมืองก็สามารถบดขยี้พวกเขาทั้งหมดได้
พวกเขาต่างรู้เรื่องที่เมืองโม่สวามิภักดิ์ให้เจ้าเมืองของเมืองหนามโลหิตแล้ว เดิมทีคิดว่าคนเหล่านี้จะต้องไม่พอใจเจ้าเมืองของเมืองหนามโลหิตแน่นอน แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะคิดผ ผิดไปเสียแล้ว
เมื่อแขกเดินเข้าไปในเมือง เมืองหนามโลหิตแห่งนี้ก็ดูทั้งใหม่และสะอาดเป็นอย่างมาก ซึ่งไม่เหมือนกับเมืองแห่งฝันร้ายตามข่าวลือเลยแม้แต่น้อย
พวกเขาไม่ได้โดนหนามโลหิตโจมตีแต่อย่างใด และไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายอีกด้วย
มันจะแปลกเกินไปแล้ว! ข่าวลือเรื่องความน่าสะพรึงกลัวนั้นเคยได้รับการพิสูจน์ด้วยชีวิตของผู้คนมาจำนวนนับไม่ถ้วนมาแล้ว ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องโกหกอย่างแน่นอน
ด้วยเหตุนี้คนเหล่านี้จึงสอบถามรองเจ้าเมืองโม่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่า “ท่านรองเจ้าเมืองโม่ ข้าเคยได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้หนามโลหิตของเมืองหนามโลหิตล้วนกินมนุษย์เป็นอาหาร เจ้ าเมืองของพวกเจ้าจัดการฆ่าหนามโลหิตทั้งหมดเหล่านั้นได้อย่างไรกันแน่?”
“นี่คือเรื่องของท่านเจ้าเมือง ไม่ใช่คนตัวเล็ก ๆ อย่างข้าจะไปรับรู้ได้ แขกทุกท่านเชิญทางนี้ โรงประมูลอยู่ทางนั้นขอรับ”
เมื่อพวกเขาพยายามที่จะหาข้อมูล แต่รองเจ้าเมืองโม่กลับแสร้งทำเป็นนอบน้อมใส่พวกเขา และสุดท้ายเขาก็ไม่ได้สิ่งที่ต้องการ!
โม่อูได้แต่เยาะเย้ยอยู่ภายในใจ กำจัดหนามโลหิตอย่างนั้นหรือ กำลังล้อเล่นอยู่หรือไงกัน?
เจ้าเมืองของพวกเขาวิปลาสยิ่งกว่านั้นเสียอีก เพราะนางสามารถใช้ประโยชน์จากหนามโลหิตที่อยู่ทั่วทั้งเมืองได้ และพวกมันยังฟังแต่คำสั่งของนางอีกด้วย
แต่ท่านเจ้าเมืองได้บอกเอาไว้แล้วว่า ไม่สามารถให้แขกที่เดินทางมาไกลรับรู้เรื่องเล็กน้อยนี้ได้
มิเช่นนั้นหากพวกเขารู้ว่าใต้ดินของเมืองหนามโลหิตถูกปกคลุมไปด้วยหนามโลหิตตั้งแต่หนึ่งดาวไปจนถึงเจ็ดดาวแล้วละก็ คาดว่าแม้จะเข้าเมืองมาแล้ว ก็คงจะตกใจกลัวจนฉี่รดตดหายและ ะหนีออกไปเป็นแน่
“นะ…นั่นคือโรงประมูลอย่างนั้นหรือ!”
เมื่อทุกคนได้เห็นโรงประมูลที่งดงาม ต่างก็รู้สึกเหลือเชื่อเป็นอย่างมาก สิ่งนี้สร้างขึ้นมาจากแร่ที่ล้ำค่าเป็นอย่างยิ่งนอกจากนี้ยังมีพลังป้องกันอันแข็งแกร่ง และยังมีรูปร่างที สมบูรณ์แบบมากอีกด้วย
ต้นทุนในการสร้างหอหอหนึ่ง เทียบได้กับต้นทุนการสร้างเมืองเมืองหนึ่งเลยทีเดียว
เจ้าเมืองของเมืองหนามโลหิตแห่งนี้ ช่างเป็นคนร่ำรวยจริง ๆ เลย!
โม่อูกล่าวว่า “นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว เพราะหอหมอปีศาจถูกสร้างขึ้นมาโดยท่านเจ้าเมืองของพวกเรา มันย่อมไม่มีทางออกมาอย่างลวก ๆ แน่นอนอยู่แล้ว!”
แขกแต่ละคน ได้ถูกส่งไปยังห้องส่วนตัวที่หรูหรา และบรรยากาศที่หรูหรานี้ก็เกินกว่าโรงประมูลอื่น ๆ ไปไกลแล้ว
เฉี่ยเอ้อร์ไปรายงานกับมู่เฉียนซี “ถึงจะส่งบัตรเชิญออกไปนับพันฉบับ แต่ก็มีคนมาเพียงร้อยกว่าคนเท่านั้น มนุษย์เหล่านั้นค่อนข้างขี้ขลาด พวกมันช่างน่ารังเกียจนัก มาทำให้พวกเราสิ้น นเปลืองบัตรเชิญเสียได้ ข้าอยากที่จะเอาหนามนับหมื่นแทงหัวใจของพวกเขาให้ทะลุจนตายไปเลยจริง ๆ”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ขอเพียงให้คนเหล่านั้นนำยาลูกกลอนของหอหมอปีศาจออกไปจากเมืองหนามโลหิตได้ คนที่ยอมแพ้และไม่ยอมมาเมืองหนามโลหิตเหล่านั้น จะต้องเสียใจภายหลัง และคงอยากจะพ พุ่งชนกำแพงตายอย่างแน่นอน”
“ไปกันเถอะ! งานประมูลกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว พวกเราไปดูกัน!”
“เจ้าค่ะ!”
งานประมูลกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว และหลังจากที่แม่มดเยาเยี่ยแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว เสน่ห์ของนางก็ยิ่งมากขึ้นไปอีก
“ยอดเยี่ยม! ช่างยอดเยี่ยมจริง ๆ เลย!” เมื่อสาวงามปรากฏตัวออกมา ก็ทำให้ดวงตาของพวกเขาลุกวาวขึ้นมาทันที
เยาเยี่ยกล่าวว่า “ตอนนี้เริ่มการประมูลยาน้ำขวดแรกได้แล้ว นี่คือยาน้ำขั้นเทวะขวดแรก ไม่ว่าจะได้รับบาดเจ็บสาหัสเพียงใด มันก็สามารถทำให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งได้”
“ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ผนึกแห่งความมืดขั้นสูงสามแสนเม็ด!”
ในเวลานี้ก็มีคนกล่าวขึ้นมาว่า “ยาน้ำ! ที่ฟืนคืนชีวิตได้อย่างนั้นหรือ กำลังล้อเล่นอยู่หรือไง? หอหมอปีศาจอะไรนี้คงไม่ได้กำลังโกหกอยู่หรอกนะ!”
และในเวลานี้เอง ห้องส่วนตัวที่หรูหราชั้นบนสุดก็เปลี่ยนเป็นโปร่งแสงขึ้นมาทันที
มุมปากของหญิงสาวในชุดสีม่วงที่หาตัวจับได้อย่างคนหนึ่งยกยิ้มขึ้น และนางก็มองไปยังคนที่พูดด้วยรอยยิ้มแล้วกล่าวว่า “ข้ารู้ดีว่าทุกท่านคงจะสงสัยในประสิทธิภาพของยาน้ำนี้ ฉะนั้นข้าจึงคิดว่าให้ท่านได้ลองใช้ยาด้วยตนเอง! ดีหรือไม่?”