ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2377 ยาอันทรงพลัง
คนผู้นั้นผงะไปทันที “ให้ข้าลองยาอย่างนั้นหรือ ข้าไม่ได้รับบาดเจ็บเสียหน่อย? แล้วข้าจะลองได้อย่างไร?”
“เฉี่ยซื่อ!” ทันทีที่มู่เฉียนซีโบกมือ หนุ่มน้อยในชุดสีม่วงก็ไปปรากฏตัวอยู่ในห้องส่วนตัวของคนผู้นั้นอย่างกะทันหัน
ถึงเขาจะมีความสามารถเทียบเท่าระดับใต้เท้า แต่กลับไม่รู้เลยว่าหนุ่มน้อยผู้นี้ปรากฏตัวออกมาได้อย่างไร?
บนใบหน้าของหนุ่มน้อยเผยรอยยิ้มที่ดูไร้เดียงสามาออกมา หลังจากนั้นก็กล่าวว่า “หากต้องการทำให้เจ้าได้รับบาดเจ็บ มันเป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก!”
ปัง!
เขาได้ถูกพลังนั้นโจมตีจนลอยกระเด็นไปบนเวทีการประมูลทันที
มือของหนุ่มน้อยได้กลายเป็นดาบที่แหลมคม จากนั้นก็ควักเอาหัวใจของเขาออกมา “จะ…เจ้า…”
คนผู้นั้นมองไปทางเฉี่ยซื่ออย่างหวาดกลัว สีหน้าของคนอื่น ๆ ก็เปลี่ยนไปทันที คิดไม่ถึงเลยว่าโรงประมูลแห่งนี้จะลงมือทำร้ายแขกเช่นนี้ด้วย
เฉี่ยซื่อเอาหัวใจของเขาใส่กลับคืนไป หลังจากนั้นก็คลี่ยิ้มอย่างเจิดจรัสพลางกล่าวว่า “พี่สาวเยาเยี่ย เอายาของเจ้านายมาให้ข้าสักขวดสิ!”
“ได้สิ!”
เฉี่ยซื่อกล่าวพลางส่งยาขวดหนึ่งออกไปให้ “หากไม่อยากตาย ก็เปิดปากแล้วดื่มยาขวดนี้เข้าไปซะ!”
คนผู้นี้หมดหนทางที่จะต่อต้านได้ และทำได้เพียงดื่มยาลงไปเท่านั้น หลังจากนั้นไม่นานหน้าอกที่นองเลือดของเขาก็ได้รับการฟื้นฟูอย่างไม่คาดคิด สีหน้าที่ซีดเผือดก็ได้รับการฟื้นฟูจนกลับมาเป็นปกติ
หนุ่มน้อยที่ใช้วิธีอันโหดร้ายก่อนหน้านี้กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ท่านแขกผู้มีเกียรติ ตอนนี้ท่านไม่เป็นอะไรแล้ว เชิญเถอะ!”
เขาได้รับความเสียหายที่ไม่คาดคิดมาก่อนโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ซึ่งเดิมทีแล้วเขาก็อยากที่จะโกรธ
แต่เมื่อเห็นหนุ่มน้อยเปลี่ยนกลายเป็นเหมือนแกะตัวน้อยที่เชื่อฟังเช่นนี้ เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที
ความสามารถของเจ้าหนุ่มน้อยผู้นี้ลึกเกินหยั่งถึง และเขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหนุ่มน้อยผู้นี้แน่นอน
เขาจึงจากไปอย่างเงียบ ๆ จากนั้นมู่เฉียนซีจึงกล่าวว่า “มันไม่ได้มีไว้สำหรับรักษาบาดแผลภายนอกเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น แต่ยาขวดนี้ยังมีผลในการรักษาอาการบาดเจ็บภายในขั้นร้ายแรงได้อีกด้วย หากทุกท่านไม่เชื่อแล้วละก็ พวกเราสามารถค่อย ๆ ลองกันดูก่อนได้”
อาการบาดเจ็บเล็กน้อยรึ หัวใจถูกควักออกมาทั้งเป็นจนเกือบจะหยุดเต้นไปแล้ว นี่ยังเป็นบาดแผลภายนอกอีกหรือ? พวกเขามองดูขวดยาที่ถูกใช้ไปจนว่างเปล่าขวดนั้นอย่างตื่นตะลึง
ไม่มีคนกล้าที่จะไม่เชื่ออีกแล้ว และถึงแม้จะมีคนสงสัยอยู่บ้างแต่ก็ไม่กล้าที่จะกล่าวอะไรออกมาอยู่ดี
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ยาขั้นเทวะขวดนี้ถือเป็นยาของหอหมอปีศาจของข้า อย่างไรก็ตามหอหมอปีศาจของข้าไม่เคยขาดยาอยู่แล้ว ต่อจากนี้ไปจะมีการประมูลยาขั้นเทวะทั้งหมดสามขวด ทุกท่านจงคว้าโอกาสนี้เอาไว้เสียเถิด”
หลังจากนั้นยาขั้นเทวะทั้งสามขวดก็มีผู้คนมากมายต่างแย่งชิงมันขึ้นมาอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
เฉี่ยซื่อเองก็กลับมาอยู่ข้างกายของมู่เฉียนซีแล้วเช่นกัน จากนั้นเขาก็กล่าวพลางมองไปทางมู่เฉียนซีอย่างมีความหวังราวกับลูกหมาน้อยก็มิปาน “เจ้านาย ที่ข้าทำไปเมื่อครู่นี้เป็นเช่นไรบ้างขอรับ?”
“ยอดเยี่ยมมาก หลังจากนี้ไปเฉี่ยซื่อเจ้าคอยติดตามอยู่ข้างกายข้า และเรียนรู้การจัดการดูแลหอหมอปีศาจกับข้า” ก่อนหน้านี้พวกของเฉี่ยอี้ได้ติดตามเจ้านายคนก่อนของพวกเขามานานแล้ว ฉะนั้นนิสัยก่อนหน้าที่ถูกสร้างขึ้นมาจึงไม่สามารถปรับเปลี่ยนมันได้อีกแล้ว
แต่ทว่าเฉี่ยซื่อกลับไม่เหมือนกัน เพราะเขาเพิ่งจะกลายร่างเป็นมนุษย์ ฉะนั้นเขาจึงเหมือนกับกระดาษขาวแผ่นหนึ่งเท่านั้น
เขาเกิดมาพร้อมกับความสามารถในการแปลงโฉมที่ทรงพลังเกินปกติ สามารถทำให้คู่ต่อสู้ลดความระมัดระวังลงได้ นอกจากนี้ยังลงมืออย่างรวดเร็ว แม่นยำและไม่ยืดยาดเลยแม้แต่น้อย
หากนางอบรมเลี้ยงดูอย่างดี เขาจะต้องสามารถจัดการหอหมอปีศาจแต่เพียงผู้เดียวได้แน่
เฉี่ยซื่อกล่าวอย่างมีความสุขว่า “สามารถช่วยเจ้านายได้ เฉี่ยซื่อมีความสุขมากจริง ๆ”
หลังจากที่การประมูลยาขั้นเทวะเสร็จสิ้นแล้ว การดำเนินการประมูลยาขั้นศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงเหล่านั้น ก็ยังคงถูกกวาดไปจนไม่เหลืออีกเช่นกัน
เยาเยี่ยกล่าวว่า “ไม่สำคัญเลย หากมีท่านที่ไม่สามารถประมูลยาลูกกลอนหายากเหล่านี้ไปได้ เพราะภายในหอหมอปีศาจของเมืองหนามโลหิตยังมียาจำเป็นทั่วไปขายอยู่อีกมากมาย ทุกท่านสามารถไปเยี่ยมชมและเลือกซื้อจากที่นั่นได้”
เมื่อเทียบยาทั่วไปเหล่านั้นกับยาล้ำค่าเหล่านี้ มันมีราคาที่ถูกกว่าอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ยาที่ขายก็ราคาถูกกว่าที่ซื้อในคุกโลหิตจากช่องทางอื่นอีกด้วย
พวกเขามาเพื่อซื้อยาลูกกลอน ฉะนั้นย่อมต้องพานักปรุงยาที่มีความรู้บ้างมาด้วย
ในตอนที่นักปรุงยาได้เห็นสิ่งมหัศจรรย์เหล่านั้นก็ถามขึ้นมาว่าท่านหมอปีศาจอยู่ที่ใด? เพราะพวกเขาต้องการที่จะขอคารวะเป็นอาจารย์!
เยาเยี่ยกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ทุกท่านก็เคยเห็นท่านหมอปีศาจมาแล้วมิใช่หรือ? คนผู้นั้นก็คือท่านเจ้าเมืองของพวกเรานั่นเอง”
ตอนที่อยู่ในดินแดนทั้งสี่ทิศและแดนซวนเทียน มู่เฉียนซีจำเป็นที่จะต้องแปลงโฉมและใช้ตัวตนอื่น แม้ว่าความสามารถของนางจะไม่สูงนัก แต่นางก็มีพลังในการแปลงโฉมที่ยอดเยี่ยมมาก ซึ่งมันก็ทำให้อีกฝ่ายไม่กล้าที่จะทำอะไรบุ่มบ่าม
แต่ทว่าตอนที่มาถึงคุกโลหิต มู่เฉียนซีก็ไม่จำเป็นที่จะต้องวุ่นวายขนาดนั้นแล้ว และบอกพวกเขาไปตามตรงว่านางคือหมอปีศาจ
ในตอนที่อยู่ในดินแดนอื่นแน่นอนว่านางไม่มีผู้สนับสนุนที่ทรงพลัง แต่ในแดนนรกแห่งนี้ นางมี!
ท่านอ๋องจิ่วเยี่ยของคุกโลหิตคือผู้ชายของนาง ใครจะกล้ามาแตะต้องหอหมอปีศาจกันล่ะ?
คำตอบที่ไม่สะทกสะท้านของอีกฝ่ายทำให้ทุกคนประหลาดใจเป็นอย่างมาก คนที่หลอมยาอันยอดเยี่ยมเช่นนี้ออกมาได้ คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นสาวน้อยที่อายุน้อยถึงเพียงนั้น
ความสามารถเช่นนี้ คงมีนักปรุงยาเพียงไม่กี่คนในแดนนรกแห่งนี้ที่จะสามารถเทียบเคียงกับนางได้!
“หากทุกท่านมีความสนใจในท่านหมอปีศาจ ทุกท่านจะพักอยู่ที่เมืองหนามโลหิตของพวกเราสักระยะหนึ่งก็ได้” เยาเยี่ยกล่าว
หลังจากที่พวกเขามาถึงเมืองหนามโลหิตแล้ว พวกเขาก็คิดว่าหลังจากที่ซื้อยาลูกกลอนที่ล้ำค่าและหายากแล้ว ก็จะออกไปจากพื้นที่ที่อันตรายเช่นนี้ในทันที
แต่ผลปรากฏว่าหลังจากที่พวกเขามาแล้ว ก็ค้นพบว่ายาลูกกลอนในงานประมูลนั้นน่ามหัศจรรย์มาก ซึ่งยาลูกกลอนทั่วไปก็มีราคาที่ถูกและคุ้มค่าเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีสิ่งของล้ำค่ามากมายวางขายอยู่ภายในร้านเต็มไปหมดอีกด้วย
มีทั้งร้านอาหาร โรงน้ำชา และไม่ว่าจะเป็นชาหรือสุราก็มีรสชาติอร่อยกว่าที่พวกเขาเคยดื่มมาก่อนหน้านี้เสียอีก นอกจากนี้ยังมีอาหาร…
คนของเมืองหนามโลหิตเงียบสงบเป็นอย่างมาก เพราะไม่มีใครต่อสู้หรือสร้างความวุ่นวายที่นี่เลย
นี่คือเมืองในอุดมคติที่ไม่อยากจะจากไปเมื่อมาถึงอย่างสมบูรณ์ ซึ่งมันก็ทำให้พวกเขาลืมไปเลยว่าเมืองแห่งนี้นั้นถูกเรียกขานว่าเมืองแห่งฝันร้าย
“ท่านเจ้าเมือง มีนักปรุงยาสองสามท่านต้องการที่จะมาพบท่านขอรับ!”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เช่นนั้นก็ให้พวกเขาเข้ามาเถอะ!”
มู่เฉียนซียังเด็กเกินไป อายุกระดูกของนางยังน้อยนัก ฉะนั้นย่อมไม่ใช่เพราะการแปลงโฉมที่แข็งแกร่งอย่างแน่นอน ซึ่งมันก็เป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะจินตนาการได้ว่าสาวน้อยที่อายุเพียงสิบกว่าปีผู้นี้จะมีพรสวรรค์ในการกลั่นยาเช่นนี้ได้
มู่เฉียนซียิ้มจาง ๆ พลางกล่าวว่า “ทุกท่านคงอยากรู้มากว่าเพราะเหตุใดข้าถึงสามารถกลั่นยาลูกกลอนและยาน้ำเช่นนั้นออกมาได้อย่างนั้นสินะ ความจริงแล้วมันเป็นเรื่องที่ง่ายมากเลยล่ะ!”
นางได้ระเบิดพลังจิตวิญญาณส่วนหนึ่งของนางออกมาโดยตรง และเมื่อพลังจิตวิญญาณส่วนหนึ่งนี้ระเบิดออกมา มันก็ทำให้สีหน้าของนักปรุงยาเหล่านั้นเปลี่ยนไปทันที มันช่างเป็นพลังจิตวิญญาณที่น่ากลัวจริง ๆ
ขนาดมู่เฉียนซีไม่ได้แสดงพลังจิตวิญญาณทั้งหมดออกมา ก็ทำให้พวกเขาตกใจกลัวกันไม่น้อยแล้ว
“ทุกท่านต่างก็รู้ดีว่า การปรุงยานั้นต้องอาศัยพลังจิตวิญญาณ และข้าก็โชคดีมากที่พลังจิตวิญญาณของข้าแข็งแกร่งกว่านักปรุงยาทั่วไปเล็กน้อย” มู่เฉียนซีกล่าวพลางยิ้มจาง ๆ
นักปรุงยาเหล่านี้แทบจะกระอักเลือกออกมาแล้ว นี่คิดแข็งแกร่งกว่าเล็กน้อยอย่างนั้นหรือ? เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าช่องว่างระหว่างพวกเขากับนางห่างกันเป็นโยชน์เลยเถอะ
“หากปรมาจารย์มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการกลั่นยาก็สามารถถามข้าได้ แม้ว่าระยะเวลาในการปรุงยาของข้าจะไม่ได้ยาวนานเหมือนพวกท่าน แต่อาจารย์ของข้าคือนักปรุงยาที่ยอดเยี่ยมมากที่สุดที่ข้าเคยเจอมาแล้ว และไม่มีอะไรที่เขาไม่รู้ ซึ่งเขาก็ได้มอบความรู้ทั้งหมดนั่นให้ข้าแล้วเช่นกัน ฉะนั้นข้าจึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งหากสามารถไขข้อสงสัยของทุกท่านได้”
มู่เฉียนซีไม่ได้อวดดีแต่อย่างใด แต่นางที่ได้รับการสืบทอดมรกดของหม้อเทพนิรันดร์ก็มีความสามารถเช่นนี้อยู่แล้ว
พวกเขาไม่เชื่อเรื่องเหล่านี้แน่ แม้ว่าจะมีพรสวรรค์ในการกลั่นยาที่ยอดเยี่ยมก็ช่างประไร แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องกลั่นยาด้วย!
พวกเขาได้ยกคำถามปัญหายาก ๆ ที่ตนเองเจอในขณะกลั่นยาเหล่านั้นออกมา แต่มู่เฉียนซีก็สามารถตอบคำถามทุกคำถามได้อย่างใจเย็น ซึ่งมันก็ทำให้พวกเขากระจ่างแจ้งขึ้นมาทันที
หลังจากที่นางไม่มีพลาดเลยแม้แต่คำถามเดียว นางก็รู้แล้วว่าพวกเขาไม่มีคำถามที่อยากจะถามอีกแล้ว
ในที่สุดพวกเขาก็กล่าวว่า “สำหรับเรื่องที่เข้าร่วมกับหอหมอปีศาจ หลังจากที่พวกเรากลับไปแล้วจะพิจารณากันอย่างรอบคอบแน่นอน!”
“เจ้านาย เหตุใดถึงจำเป็นต้องยุ่งยากเช่นนี้ด้วย แค่ขังพวกเขาเอาไว้ในเมืองหนามโลหิตก็ได้แล้วมิใช่หรือ อย่างไรเสียพวกเขาก็หนีไม่รอดอยู่แล้ว!” ในเวลานี้ หนุ่มน้อยที่ยืนอยู่ข้างกายของมู่เฉียนซีก็กล่าวขึ้นมาอย่างกะทันหัน