ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2380 เจ้าเมืองของเมืองเหลียน
หลังจากนั้น มู่เฉียนซีก็ไปเยี่ยมเจ้าเมืองของเมืองลู่
แต่ทว่าเจ้าเมืองลู่ไม่ได้มีสมองที่ชาญฉลาด และไม่ได้มีความระมัดระวังเหมือนอย่างเจ้าเมืองคุนเลยแม้แต่น้อย
เขาเห็นว่ามู่เฉียนซีนำผู้มีความสามารถระดับใต้เท้ามาประท้วงมากมาย ครั้นได้รู้ตัวตนของนาง เขาก็กล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า “หรือท่านเจ้าเมืองมู่คิดว่าใช้ยาลูกกลอนชนิดพิเศษทำให้ คนที่อยู่ข้างกายของท่านยกระดับความสามารถมาเป็นระดับใต้เท้าได้แล้ว จะทำให้ข้าหวาดกลัวอย่างนั้นหรือ? หากคนเหล่านั้นอยู่ต่อหน้าใต้เท้าที่แท้จริง ก็คงไม่ควรค่าที่จะพูดถึงเลย ด้วยซ้ำ!”
“หวงป๋อ จัดการพวกเขาซะ! แต่เหลือสาวงามทั้งสองคนนั้นเอาไว้ก่อน”
และในบรรดาหนามโลหิตพวกของเฉี่ยอี้ทั้งสิบสามคน ก็มีเพียงเฉี่ยเอ้อร์คนเดียวเท่านั้นที่เป็นผู้หญิง
ชายชราในชุดคลุมสีเหลืองเหลือบมองไปยังพวกเขาพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย และเขาไม่สามารถสัมผัสระดับพลังของคนเหล่านี้ได้เลย
พวกเขาแต่ละคนดูอ่อนเยาว์ด้วยกันทั้งนั้น ฉะนั้นเขาไม่มีทางเชื่อว่าเจ้าหนูอายุน้อยเหล่านี้จะมีความสามารถระดับใต้เท้าได้อย่างแน่นอน
เขาพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ขอรับ! ท่านเจ้าเมือง!”
แต่ในตอนที่หวงป๋อผู้นั้นเพิ่งจะพุ่งทะยานออกไป พวกของเฉี่ยอี้ก็เริ่มลงมือแล้วเช่นกัน
แต่ทว่ากลับมีร่างเงาร่างหนึ่งที่ลงมือได้รวดเร็วยิ่งกว่าพวกเขา นอกจากนี้มันยังทะลุผ่านหัวใจของหวงป๋อผู้นั้นไปโดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัวเลยด้วยซ้ำ
และคนที่ลงมือ ก็คือเฉี่ยซื่อนั่นเอง!
เฉี่ยอี้มองไปทางเฉี่ยซื่ออย่างตะลึงงันเล็กน้อย ในตอนที่กำลังจะบรรลุขั้นเจ้าหมอนี่เกือบที่จะต้องตายอยู่รอมร่อ แต่ทว่าหลังจากที่ผ่านมันมาได้กลับทำให้เขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าคนอ อื่นเสียอีก
โดยเฉพาะหลังจากที่อยู่กับท่านเจ้าเมืองมาระยะหนึ่ง ความสามารถของเขาก็แข็งแกร่งขึ้นอย่างก้าวกระโดด จนเกือบที่จะไล่ตามผู้อาวุโสทั้งสามคนอย่างพวกเขาทันอยู่แล้ว
ตึงง!
มือของเฉี่ยซื่อถือหัวใจที่เปื้อนเลือดนั้นเอาไว้ จากนั้นก็เตะใต้เท้าที่กำลังกระอักเลือดนั้นลงไปโดยตรง
ใต้เท้าผู้นั้นตายไปพร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้าง และยากที่จะเชื่อว่าเขาจะต้องตายไปทั้งแบบนี้จริง ๆ!
“อ๊ากก!”
วิธีการที่กระหายเลือดของเฉี่ยซื่อนั้นทำให้เจ้าเมืองลู่หวาดกลัวเป็นอย่างมาก และลูกน้องระดับใต้เท้าของเขาก็ไม่มีเวลาที่จะโจมตีหนุ่มน้อยที่อยู่ตรงหน้าผู้นั้นกลับเลยแม้แต่น้อย
สิ่งนี้ทำให้เขาได้ทราบว่า ก่อนหน้านี้เขาเพียงแค่คิดเพ้อเจ้อไปเท่านั้น
นี่ต้องไม่ใช่ความสามารถระดับใต้เท้าที่มาจากยาปลอมตัวที่ทรงพลังอย่างแน่นอน แต่มันคือความสามารถระดับใต้เท้าที่มีอยู่ในตัวของพวกเขาจริง ๆ อีกทั้งยังแข็งแกร่งยิ่งกว่าอีกด้วย
“หนี!”
เขากลัวตาย และไม่อยากถูกควักหัวใจให้ตายอย่างโหดเหี้ยมอีกด้วย
เขาต้องการที่จะใช้ความเร็วสูงสุดของตนเองในการหลบหนี แต่ทว่าบริเวณโดยรอบกลับมีหนามอันแหลมคมจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏออกมา และได้ขังเขาเอาไว้ในกรงหนามแห่งนั้น
“อ๊ากกก!” ทุกย่างก้าวของเขา ต่างก็ได้รับความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส
เฉี่ยซื่อหยิบเอาหัวใจของใต้เท้าคนนั้นออกมาพลางกล่าวว่า “เขาต้องตายก็เพราะเจ้า หากว่าเจ้ายอมเชื่อฟัง และไม่สงสัยในคำพูดของเจ้านายของข้า เขาก็จะไม่ต้องตาย! ในเมื่อเจ้าเป็ นคนทำร้ายจนเขาต้องตาย! เช่นนั้นข้าก็จะมอบหัวใจนี้ให้เจ้า แล้วเจ้าก็จงกินมันเข้าไปซะ!”
ดวงตาของเจ้าเมืองลู่เบิกกว้างด้วยความตกตะลึง
กินหัวใจ…
คนผู้นั้นเพิ่งตายไปได้ไม่นานนัก และหัวใจดวงนี้ก็ยังมีเลือดสด ๆ ไหลออกมาอยู่เลย นอกจากนี้มันยังเต้นอยู่เล็กน้อยอีกด้วย เขา…เขา…
“หากว่าเจ้าไม่ทำเช่นนั้นแล้วละก็ เจ้าก็จะต้องตายอย่างน่าอนาถยิ่งกว่า!”
กรงหนามนั้นค่อย ๆ เล็กลงอย่างช้า ๆ เจ้าเมืองของเมืองลู่รู้ว่าเขาอาจจะต้องตายก็ได้ เขากำลังจะตายแล้ว เขาจะต้องถูกหนามอันแหลมคมเหล่านี้แทงทะลุร่างจนตายเป็นแน่ ฉะนั้นเขา จึงกล่าวอย่างลังเลว่า “ข้า…ข้ากิน…ข้าจะกิน…”
หลังจากที่เขาแย่งหัวใจดวงนั้นมาจากมือของเฉี่ยซื่อแล้ว ก็กินมันเข้าไปทันที และพยายามอดทนที่จะไม่อ้วกมันออกมา
เฉี่ยซื่อถอนกรงหนามเหล่านั้นออกไป หลังจากนั้นก็ใช้น้ำที่ใสสะอาดล้างเลือดที่อยู่บนมือของเขาอย่างสง่างาม
หลังจากที่แน่ใจว่าบนร่างกายไม่มีกลิ่นคาวเลือดอีกแล้ว เขาก็เดินไปตรงหน้ามู่เฉียนซีพลางกล่าวด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนว่า “เจ้านาย เมื่องแห่งนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว”
รอยยิ้มนั้นทั้งอบอุ่นและอ่อนโยนเป็นอย่างมาก ซึ่งมันก็ทำให้มุมปากของพวกเฉี่ยอี้กระตุกเล็กน้อยเมื่อเห็นมัน
เด็กดีคนหนึ่ง ที่จริงแล้วเป็นเพราะเกิดปัญหาบางอย่างขึ้นระหว่างการบรรลุหรือเป็นเพราะคอยติดตามเจ้านายปีศาจ ถึงทำให้เขาเปลี่ยนกลายเป็นคนวิปลาสเช่นนี้ไปได้กันแน่?
หลังจากที่กลายร่างเป็นมนุษย์แล้วเจ้าพวกนี้ก็ยังคงเป็นปกติดีอยู่ จะมีก็แต่เพียงเจ้าสี่…
“คือว่า เจ้าสี่เหตุใดเมื่อครู่นี้เจ้าถึงได้ทำเรื่องเช่นนั้นล่ะ?” เฉี่ยอี้กล่าว
ความกระหายเลือดอย่างโหดเหี้ยมเป็นนิสัยเดิมของหนามโลหิตของพวกเขา แต่เขาก็คิดไม่ออกเลยว่า เฉี่ยซื่อทำเรื่องเช่นนั้นออกมาได้อย่างไรกัน!
เฉี่ยซื่อกล่าวตอบว่า “ตอนที่อยู่เมืองคุน เจ้านายก็ทำเช่นนี้เหมือนกันนี่! ก็แค่ข่มขู่ ทำให้พวกเขาต้องฟังคำพูดของเจ้านาย ข้าก็แค่ทำเรื่องที่คล้าย ๆ กันแทนเจ้านายเท่านั้นเ เอง”
นี่มันไม่เหมือนกันเลยต่างหากล่ะ! พวกเขามองไม่ออกเลยว่ามันจะเหมือนกันตรงไหน?
มุมปากของมู่เฉียนซีกระตุกเล็กน้อย นี่ถือว่าเป็นความล้มเหลวในการสั่งสอนของนางหรือเปล่านะ!
ถึงจะเป็นการข่มขู่เหมือนกัน แต่บางทีอาจจะเป็นความกระหายเลือดในกระดูกดำของเขา ทำให้เขาลงมืออย่างโหดเหี้ยมยิ่งกว่าก็เป็นได้
แต่ทว่าที่นี่คือคุกโลหิตแห่งความมืด บางทีอาจจำเป็นที่จะต้องใช้วิธีของเฉี่ยซื่อมากกว่าก็เป็นได้!
เจ้าเมืองของเจ้าเมืองลู่ถูกทำให้หวาดกลัวจนกลายเป็นคนโง่เง่าไปแล้ว เขากล่าวว่า “อย่าฆ่าข้า! พวกท่านห้ามฆ่าข้าเด็ดขาดเลยนะ! ข้า…แม้ว่าพวกท่านจะมีคนระดับใต้เท้าถึงสิบสามคน แต่ข้า…หากข้าตาย ก็อาจจะมีราชทินนามมากมายหาเรื่องสร้างปัญหาให้เมืองหนามโลหิตของพวกท่านก็ได้”
“คือว่า…ข้าไม่ได้ข่มขู่พวกเจ้าจริง ๆ นะ! ข้าจะไปกล้าได้อย่างไร แต่นี่ข้ากำลังพูดความจริง! ได้โปรดเถอะ ข้ายังไม่อยากตาย!”
เฉี่ยซื่อไม่จำเป็นต้องรอให้มู่เฉียนซีเอ่ยปาก เขาก็ได้แจ้งทุกสิ่งที่ต้องการเป็นข้อ ๆ ให้เจ้าเมืองของเมืองลู่ไปดำเนินการ
หลังจากที่เฉี่ยซื่อพูดออกมาทีละข้อ เจ้าเมืองของเมืองลู่ที่เดิมทีก็ไม่สนใจว่าข้อเรียกร้องทั้งหมดจะไร้เหตุผลแค่ไหน พลันพยักหน้ารับทันที
หลังจากที่อธิบายเรื่องเหล่านี้เรียบร้อยแล้ว เฉี่ยซื่อก็ยิ้มอย่างสดใสแล้วกล่าวว่า “เจ้าเมืองของเมืองลู่ จงทำให้ดี! เมื่อถึงเวลานั้นข้าจะให้เจ้านายส่งข้ามาดูแลงานที่เมืองลู่ แห่งนี้”
เจ้าเมืองของเมืองลู่ตัวสั่นเทาไม่หยุด เขากำลังร่ำไห้อยู่ภายในใจ ได้โปรดอย่ามาดูแลงานที่เมืองลู่เลย ขอร้องล่ะ! ข้ายังไม่อยากตายเร็วเกินไปหรอกนะ
เจ้าหนูน้อยผู้โหดเหี้ยมผู้นี้ จะต้องกลายเป็นเงาในใจเขาไปทั้งชีวิตอย่างแน่นอน ขะ…เขารู้สึกหวาดกลัวมากจริง ๆ
เฉี่ยซื่อเดินไปถึงตรงหน้าของมู่เฉียนซีพลางถามว่า “เจ้านาย ท่านพอใจหรือยังขอรับ?”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ประสิทธิภาพไม่เลวเลย ต่อไปก็ไปเมืองเหลียน เมืองสุดท้ายกันเถอะ”
ในตอนที่เข้าไปใกล้เมืองเหลียน มู่เฉียนซีก็ได้กลิ่นหอมจาง ๆของดอกบัวโชยมา และทั้งเมืองเหลียนก็อยู่กลางทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดของเขตต้องห้ามตอนใต้สุดแห่งนี้
และภายในทะเลสาบแห่งนี้ ก็ได้ปลูกบัวสายไว้มากที่สุด
เมืองทั้งเมืองมีรูปร่างเหมือนดอกบัวอย่างไรอย่างนั้น ดอกบัวมากมายหลายชนิดบานสะพรั่งอยู่ภายในทะเลสาบ นอกจากนี้พลังวิญญาณของที่นี่ก็แข็งแกร่งมากอีกด้วย
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่ดีจริง ๆ”
เฉี่ยซื่อกล่าวว่า “หากเจ้านายชอบสถานที่แห่งนี้ เฉี่ยซื่อจะไปแย่งชิงมันมาให้เจ้านายเอง”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ไม่ต้องหรอก พวกเราไปคุยกับเจ้าเมืองของเมืองเหลียนกันก่อนเถอะ!”
ในตอนที่พวกเขาขึ้นไปเหยียบอยู่บนทะเลสาบแห่งนี้ ผิวน้ำก็กระเพื่อมขึ้นมาอย่างแผ่วเบา หลังจากนั้นก็มีเสียงดีดพิณดังมาจากเมืองเหลียนแห่งนั้น
แม้ว่าเมืองเหลียนจะไม่ได้ใหญ่นัก แต่ทว่าบรรยากาศทุกหนทุกแห่งล้วนงดงามเป็นอย่างมาก และเสียงของพิณนั้นก็ดังมาจากจวนเจ้าเมือง ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามันกำลังดึงดูดให้พวกเขาตามไปที่น นั่น
มู่เฉียนซีผงะไปเล็กน้อย เจ้าเมืองของที่นี่แตกต่างจากคนก่อนหน้านี้จริง ๆ
“ไปที่จวนเจ้าเมือง!” ขบวนของพวกเขาแข็งแกร่งมาก จนไม่ต้องกลัวว่าเจ้าเมืองของเมืองเหลียนแห่งนี้จะเล่นกลอุบายอะไรหรือไม่
ภายในลานบ้านเงียบสงบเป็นอย่างมาก ที่นั่นก็มีชายคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่บนพื้น และกำลังดีดพิณอยู่อย่างนุ่มนวล
ผมดกดำยาวสยายแผ่กระจายอยู่บนพื้น ทั้งคิ้วและดวงตาของเขาไม่มีส่วนไหนไม่ประณีตเลยแม้แต่น้อย ซึ่งทำให้มองไม่ออกเลยว่าเป็นหญิงหรือชายกันแน่
หลังจากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นมองพวกของมู่เฉียนซี ด้วยดวงตาสีม่วงอ่อนคู่นั้นของเขา
ดวงตาของเขาฉายแววประหลาดใจเมื่อจ้องมองไปทางพวกของเฉี่ยอี้ และสุดท้ายเขาก็กล่าวอย่างเฉยเมยว่า “หนามโลหิต!”