ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2382 ซื้อยาในราคาสูง
พลังแห่งชีวิตนั้น ถือเป็นยาชูกำลังชั้นดีสำหรับพืชทุกชนิด
และสำหรับพืชศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับบาดเจ็บด้วยแล้ว มันคือยาศักดิ์สิทธิ์สำหรับการรักษาอย่างแน่นอน
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “อยากลองดูหน่อยไหม? ข้าไม่ได้วางยาพิษเจ้าหรอก”
“เจ้าคิดว่ายาพิษของมนุษย์อย่างพวกเจ้าจะสามารถใช้กับข้าได้อย่างนั้นหรือ?”
ยาน้ำที่เต็มไปด้วยพลังแห่งชีวิตขวดนั้น ทำให้เจ้าเมืองของเมืองเหลียนรู้ว่าตนเองได้พ่ายแพ้เสียแล้ว แต่เขาก็ยอมรับมัน!
จากนั้นเขาก็ดื่มยาเข้าไปรวดเดียว ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าภายในร่างกายที่แตกสลายของตนเองกำลังได้รับการฟื้นฟู
ความเจ็บปวดที่เกิดจากการใช้พลังก่อนหน้านี้ค่อย ๆ หายไป ซึ่งพลังแห่งชีวิตนี้มีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก
“ข้าพ่ายแพ้แล้ว ฉะนั้นข้าจะตอบรับเงื่อนไขของเจ้า! ข้าสามารถให้คนสร้างหอปีศาจในเมืองเหลียนของข้าได้ แต่ข้าไม่อยากเห็นนักปรุงยาเข้ามาในเมืองของข้าแม้แต่คนเดียว ซึ่งมันก็ เป็นการถอยครั้งสุดท้ายของข้าแล้ว”
“เช่นนั้นข้าก็จะไม่บังคับ ข้าแค่ให้คนส่งยาน้ำและยาลูกกลอนเข้ามาในเมืองก็ได้แล้ว และจะไม่ส่งนักปรุงยาเข้ามาเด็ดขาด! อย่างไรเสียข้าก็ไม่ได้มีลูกน้องเป็นนักปรุงยามากเท่าไรอย ยู่แล้ว” เรื่องนี้ มู่เฉียนซีไม่ได้ดื้อดึงที่จะโต้เถียงกับพืชศักดิ์สิทธิ์อีกต่อไป
เขากล่าวถามว่า “เจ้ายังมียาเหล่านั้นอยู่อีกกี่ขวด?”
แม้ว่ายานี้จะรักษาตามอาการมากกว่ารักษาที่ต้นเหตุ แต่มันก็เป็นยาที่ดีที่สุดเท่าที่เขาเคยใช้มาตลอดหลายปีนี้เลย
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “หลังจากที่หอหมอปีศาจเปิดกิจการแล้ว ข้าจะขายยานี้ที่หอหมอปีศาจในเมืองเหลียนของพวกเจ้าแน่นอน เจ้าเมืองของเมืองเหลียนไม่ใช่คนที่ขาดเงิน ฉะนั้นจะต้องซื้อได้ อยู่แล้ว”
“ข้าอยากจะได้ตอนนี้!” ยาเพียงขวดเดียวไม่เพียงพอที่จะฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของเขาได้หรอก
มุมปากของมู่เฉียนซียกโค้งขึ้นมาเล็กน้อย “หากต้องการตอนนี้แล้วละก็ ยาขวดหนึ่ง ข้าต้องการแลกกับเม็ดบัวของเจ้าหนึ่งเม็ด”
พวกของเฉี่ยอี้เบิกตากว้างด้วยความตื่นตกใจ หากพวกเขามองไม่ผิดแล้วละก็ ยาที่ท่านเจ้าเมืองมอบให้กับเจ้าเมืองของเมืองเหลียน ก็คือเครื่องดื่มที่พวกเขามักจะดื่มกันอยู่เป็นปก กตินั่นเอง!
คิดไม่ถึงว่าเจ้านายจะแลกยาเช่นนี้กับเม็ดบัวของพืชศักดิ์สิทธิ์ เม็ดบัวนั่นถือได้ว่าเป็นสิ่งของล้ำค่าที่หายากที่สุดในโลกเชียวนะ
เจ้านักปรุงยาที่น่ารังเกียจผู้นี้กำลังฉวยโอกาสจากสถานการณ์นี้โก่งราคา ซึ่งเจ้าเมืองของเมืองเหลียนก็ได้ถูกมู่เฉียนซีทำให้โกรธขึ้นมาแล้ว
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “จากที่ข้าสังเกต หากเจ้าไม่สามารถรักษาได้ทันเวลา เกรงว่ามันคงจะส่งผลเสียต่อร่างกายของเจ้าเป็นอย่างมาก ถึงเม็ดบัวของบัวศักดิ์สิทธิ์เงินม่วงเก้าชั้นจะเป็นส สมบัติที่หาได้ยากยิ่งสำหรับคนอื่น แต่สำหรับตัวเจ้าแล้ว มันไม่ได้หายากขนาดนั้น เจ้าเองก็ใช้ชีวิตมานานมากแล้ว ก็น่าจะสร้างเม็ดบัวเอาไว้ไม่น้อยเลย หรือว่าเจ้าไม่มีเก็บไว้บ บ้างเลยอย่างนั้นหรือ?”
มีอายุยืนยาวอย่างนั้นหรือ? มุมปากเจ้าเมืองของเมืองเหลียนกระตุกขึ้นเล็กน้อย เขากล่าวว่า “นี่คือเม็ดบัวเก้าเม็ด!”
เม็ดบัวสีม่วงอ่อนจำนวนเก้าเม็ดถูกห่อหุ้มด้วยพลังวิญญาณและลอยอยู่กลางอากาศ ซึ่งมันก็มีความงดงามเป็นอย่างมาก
รอยยิ้มบนใบหน้าของมู่เฉียนซีเจิดจรัสมากขึ้นเรื่อย ๆ
รวยแล้ว ข้ารวยแล้ว!
ถึงจะไม่รู้ว่าหอหมอปีศาจจะเปิดเมื่อไร แต่หากเขาได้เห็นราคายาของหอหมอปีศาจ ก็คงจะรู้ได้ทันทีว่าตนเองโดนโกงอย่างน่าสังเวชมากเพียงใด และอาจจะวิ่งไปดวลกับนางถึงเมืองหนาม โลหิตเลยก็เป็นได้
มู่เฉียนซีหยิบยาออกมาเก้าขวด “ยาที่เดิมพันขวดนั้นถือว่าข้ามอบให้เจ้าก็แล้วกัน นี่คือยาเก้าขวดของเจ้า เพียงเท่านี้มันก็ทำให้เจ้าทนได้จนกว่าหอหมอปีศาจจะสร้างเสร็จแล้วล่ะ”
เก้าขวดมันจะไปพอได้อย่างไรกัน?
แต่ทว่าในตอนที่เขาเปิดขวดยาออก เขาก็ค้นพบว่าพลังชีวิตในยาน้ำนี้แข็งแกร่งกว่ายาน้ำที่เขาดื่มก่อนหน้านี้เสียอีก และเขาก็รู้แล้วว่าคำพูดของมู่เฉียนซีนั้นไม่ผิดเลยแม้แต ต่น้อย
หากทุกขวดต่างก็มีพลังแห่งชีวิตที่เข้มข้นเช่นนี้แล้วละก็ เขาก็จะสามารถฝืนทนอยู่ได้อีกนานเลยทีเดียว
เจ้าเมืองของเมืองเหลียนกล่าวว่า “ข้าขอไม่ไปส่งพวกเจ้าก็แล้วกัน! พวกเจ้าออกไปกันได้แล้ว ข้าจะสั่งให้คนมาดูแลการสร้างหอหมอปีศาจให้ทันที”
มู่เฉียนซีทิ้งภาพร่างเอาไว้ให้เขาแล้วกล่าวว่า “นี่คือแบบร่าง ข้าไม่อยากให้หอหมอปีศาจของข้าถูกสร้างออกมาเป็นรูปดอกบัว”
ทันทีที่พูดจบ มู่เฉียนซีก็พาพวกของเฉี่ยอี้จากไปอย่างมีความสุข
หลังจากที่ออกไปจากเมืองหนามโลหิตแล้ว เฉี่ยอี้ก็กล่าวขึ้นมาอย่างตื่นเต้นว่า “ท่านเจ้าเมือง วันนี้พวกเขาเพิ่งจะรู้ว่าท่านดีมากเพียงใด! ยาที่แม้แต่บัวศักดิ์สิทธิ์ก็หาดื่มไม ม่ได้ คิดไม่ถึงเลยว่าท่านจะมอบให้พวกเรากินเป็นเครื่องดื่มอยู่ทุกวัน มันทำให้ข้ารู้สึกซาบซึ้งใจจริง ๆ”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! แม่สาวน้อยนี่ก็นะ! ฮ่า ฮ่า ฮ่า ที่แท้สิ่งของที่เจ้าบัวศักดิ์สิทธิ์นั่นต้องจ่ายอย่างมหาศาลถึงจะได้สิ่งของไป ก็เป็นของที่พวกเราดื่มอยู่ทุกวันอย่างนั้นสินะ!” ตอนแรก นั้นเฉี่ยเอ้อร์ค่อนข้างที่จะสงวนท่าที แต่สุดท้ายนางก็ทำในสิ่งที่นางอยากทำอยู่ดี
เหล่าสหายคนอื่น ๆ ต่างก็ตื่นเต้นมากเช่นกัน อย่างที่รู้ว่าในโลกพืชของพวกเขา แม้ว่าหนามโลหิตอย่างพวกเขาจะถูกเรียกว่าเป็นหนึ่งในพืชกลายพันธุ์ที่โหดร้ายมากที่สุด แต่เมื่อเ เทียบกับพืชศักดิ์สิทธิ์แล้วยังห่างไกลกันมากมายนัก!
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “หลังจากที่พวกเจ้าสนุกสนานมามากพอแล้วก็จงช่วยข้าทำงานให้ดี ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่ม หรือถั่วหวาน ข้าก็มีให้พวกเจ้าไม่ขาดอยู่แล้ว”
“ขอท่านเจ้าเมืองอายุยืนหมื่นปี ๆ!” พวกเขากล่าวอย่างตื่นเต้น
แต่เมื่อเทียบกับพวกเขาที่กำลังมีความสุข คนที่ชอบยิ้มแย้มอยู่ตลอดอย่างเฉี่ยซื่อกลับเงียบขรึมไประหว่างที่กำลังเดินทางกลับ
มู่เฉียนซีกล่าวถามว่า “เฉี่ยซื่อเจ้าเป็นอะไรไปอย่างนั้นหรือ? ตอนที่ปะทะกันเมื่อครู่ เจ้าถูกเจ้าเมืองของเมืองเหลียนทำให้บาดเจ็บอย่างนั้นหรือ?”
เฉี่ยซื่อส่ายหน้า เขามองไปทางมู่เฉียนซีแล้วกล่าวว่า “เจ้านาย ไม่มีอะไรหรอกขอรับ! ข้าไม่ได้ถูกทำให้บาดเจ็บ เพียงแต่เฉี่ยซื่อรู้สึกว่าตนเองอ่อนแอเหลือเกิน ข้าจะต้องเปลี่ยนเป็น แข็งแกร่งมากกว่านี้ให้ได้ แม้ว่าจะเป็นพืชศักดิ์สิทธิ์ ข้าก็ต้องแข็งแกร่งกว่าเขา! ข้าจะต้องกลายเป็นผู้ช่วยที่ดีที่สุดของเจ้านายให้ได้”
เจ้าเมืองของเจ้าเมืองเหลียนผู้เป็นพืชศักดิ์สิทธิ์ไม่ว่าจะเป็นพลังหรือว่าสายเลือดต่างก็สามารถยับยั้งความรู้สึกของเขาได้ ซึ่งมันก็ทำให้เขารู้สึกได้ถึงวิกฤต และทำให้เขามุ่งมั นที่จะเปลี่ยนตัวเองให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่านี้ได้
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ข้าเชื่อว่าเฉี่ยซื่อจะต้องแข็งแกร่งขึ้นได้แน่นอน แต่ตอนนี้ทุกคนไม่คุ้นเคยกับหน้าที่นิ่งอยู่ตลอดเช่นนี้ของเจ้าเลย ต้องยิ้มหน่อยสิ!”
มู่เฉียนซีบีบแก้มของเขาพลางกล่าว นางไม่เคยเห็นใครที่มีความดื้อรั้นและแน่วแน่เท่ากับเฉี่ยซื่อมาก่อนเลย
หลังจากที่ถูกเจ้านายบีบแก้ม เฉี่ยซื่อก็รู้สึกว่าใบหน้าของเขาร้อนเผ่าขึ้นมาทันที นอกจากนี้ใบหูก็แดงระเรื่อขึ้นอีกด้วย หลังจากนั้นเขาก็จ้องไปทางมู่เฉียนซีพลางกล่าวอย่างเช ชื่อฟังว่า “เจ้านาย ข้าจะเชื่อฟังท่าน”
รอยยิ้มที่คุ้นเคยปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของเขา แต่ดูเหมือนว่าใบหน้าที่ถูกนางบีบจนแดงระเรื่อ จะทำให้เขาน่ารักขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เฉี่ยอี้มองไปทางเฉี่ยซื่อ พืชศักดิ์สิทธิ์คือสิ่งที่สวรรค์สร้างขึ้นมา พืชกลายพันธุ์ระดับพวกเขาอยากจะมีความสามารถถึงระดับศักดิ์สิทธิ์ เป็นเรื่องที่พวกเขาไม่กล้าจะจินตนาการเลย
แต่ทว่าเฉี่ยซื่อกลับมีความคิดที่จะทำลายข้อจำกัดของสวรรค์เช่นนั้น เขาช่างไม่เหมือนกับพวกเขาเลยจริง ๆ
เนื่องจากว่ามู่เฉียนซีไม่ใช่พืชกลายพันธุ์ ฉะนั้นย่อมไม่มีความคิดพื้นฐานอย่างเฉี่ยอี้อยู่แล้ว
ตราบใดที่เฉี่ยซื่อมีความพยายามและพรสวรรค์พอ พวกกับทักษะการปรุงยาที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องของนาง ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่สามารถไปจึงถึงระดับสูงขนาดนั้นได้
เจ้าเมืองของเมืองคุนรู้สึกว่ากำลังจะบ้าไปแล้วจริง ๆ คิดว่าตนเองสร้างหอหมอปีศาจได้เร็วมากแล้ว แต่ผลจากการที่ไปสอบถามอีกสองเมืองกลับปรากฏว่า เมืองอื่นสร้างได้เร็วยิ่ง งกว่าเขาเสียอีก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมืองเหลียน เพราะคนของเมืองเหลียนสร้างหอหมอปีศาจทั้งวันทั้งคืน แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย
ไม่ใช่ว่าเจ้าคนที่อยู่เมืองเหลียนผู้นั้นเกลียดนักปรุงยามากที่สุดอย่างนั้นหรือ? เหตุใดถึงได้สร้างหอหมอปีศาจอย่างกระตือรือร้นเช่นนั้นล่ะ
นั่นเป็นเพราะประสิทธิภาพยาของมู่เฉียนซีดีมากเกินไป ฉะนั้นจึงทำให้เจ้าเมืองเหลียนที่ได้ลิ้มรสผลประโยชน์แล้ว ย่อมต้องอยากได้ยาที่มากกว่าเดิม ซึ่งมีเพียงแต่ต้องสร้างหอหมอปีศาจ จให้เร็วยิ่งขึ้น และเปิดกิจการเร็วขึ้น เขาถึงจะสามารถซื้อยานั้นได้นั่นเอง
ส่วนเมืองลู่ ก็ดูเหมือนว่าเจ้าเมืองลู่ที่เชิดหน้าอย่างหยิ่งผยองและบ้าอำนาจจะตื่นตระหนกราวกับกวางน้อยก็มิปาน
เมื่อใดก็ตามที่มีคนแปลกหน้ามาที่เมืองลู่เขาก็จะสงสัยว่ามีคนแอบมาดูการดำเนินงานอย่างเงียบ ๆ ดังนั้นเขาจึงไม่ยอมปล่อยให้คนในเมืองของเขาละเลยการทำงานเลยแม้แต่น้อย
เจ้าเมืองของเจ้าเมืองคุนกล่าวว่า “จำเป็นต้องให้พวกเขาเร่งความเร็วแล้ว มิเช่นนั้นท่านเจ้าเมืองมู่คงได้คิดว่าข้าแอบขี้เกียจเป็นแน่!”
ความรวดเร็วในการสร้างหอหมอปีศาจนั้นรวดเร็วกว่าที่มู่เฉียนซีคาดการณ์เอาไว้เสียอีก และตอนนี้หอหมอปีศาจได้ถูกสร้างขึ้นมาตามเมืองหลักทั่วเขตต้องห้ามตอนใต้สุดทั้งหมดแล้ว มู เฉียนซีกล่าวว่า “นี่ถือว่าเป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว!”
หลังจากนั้นเยาเยี่ยก็เดินเข้ามาแล้วกล่าวว่า “แต่ว่าครอบครัวทาสได้นำข่าวร้ายอย่างหนึ่งมารายงาน ซึ่งเกรงว่ามันอาจจะทำลายอารมณ์ที่ดีของนายท่านเอาได้”