ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2397 ประลองสามสนาม
บรรยากาศโดยรอบ ดูเหมือนว่าจะเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือกขึ้นมาทันที
คนที่อยู่ในเมืองหนามโลหิตไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือว่าหนามโลหิตต่างก็ตื่นเต้นขึ้นมาอย่างกะทันหัน “เป็นท่านเจ้าเมือง ท่านเจ้าเมืองกลับมาอย่างปลอดภัย”
“ท่านเจ้าเมืองกลับมาแล้ว ช่างดีเหลือเกิน”
คนหนึ่งในนั้นมองไปทางมู่เฉียนซีอย่างชั่วร้าย “ที่แท้เจ้าก็เป็นเจ้าเมืองของเมืองหนามโลหิตแห่งนี้นี่เอง เจ้าคือคนที่ควบคุมหนามโลหิตสินะ ข้ากำลังจะตามหาเจ้าอยู่พอดี คิดไม่ถึ งเลยว่าเจ้าจะมาหาถึงที่เช่นนี้”
เขากวัดแกว่งกระบี่ที่อยู่ในมือ จากนั้นพลังของกระบี่ก็พุ่งขึ้นไปในอากาศ และวาดผ่านไป เพื่อหวังจะทำให้มู่เฉียนซีตกลงมาจากกลางอากาศให้ได้
เสี่ยวโม่โม่กางปีกออก จากนั้นก็ระเบิดเปลวงเพลิงสีดำอันน่าสะพรึงกลัวออกมาในอากาศ และตรงเข้าไปขวางการโจมตีนี้เอาไว้
มู่เฉียนซีโยนขวดยาลงมาจากกลางอากาศทีละขวด จากนั้นก็กล่าวอย่างเย็นชาว่า “คิดว่าเมืองหนามโลหิตจะสามารถรังแกได้ง่ายขนาดนั้นจริง ๆ หรือ?”
เพล้ง เพล้ง เพล้ง!
ตอนที่ขวดระเบิดขึ้นกลางอากาศ ยาน้ำจำนวนนับไม่ถ้วนก็ตกลงมาราวกับห่าฝนก็มิปาน
ฟู่!
มีคนสูดอากาศเย็นยะเยือกเข้าไป และกล่าวอย่างตื่นตกใจว่า “มีพิษ! ในน้ำนี้มีพิษอยู่ ระวังด้วย!”
“ให้ตายเถอะ! คิดไม่ถึงเลยว่านางจะวางยาพิษเช่นนี้!”
“จับนางเอาไว้ นางจะต้องมียาแก้พิษแน่นอน”
คนจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าหามู่เฉียนซี และทันทีที่มู่เฉียนซีขยับมือ เข็มยาจำนวนนับไม่ถ้วนก็กลายเป็นภาพลวงตาแล้วพุ่งเข้าโจมตีพวกเขาทันที
ตูมมม!
แมวสีขาวขนาดมหึมาตัวหนึ่งขวางพวกเขาเอาไว้
ทันใดนั้น ทั้งสองฝ่ายก็ปะทะกันอย่างดุเดือด นอกจากนี้ยังมีระดับใต้เท้าบางคนฉวยโอกาสพุ่งเข้ามาสังหารมู่เฉียนซีอีกด้วย
“ท่านเจ้าเมือง!” สีหน้าของเฉี่ยอี้เปลี่ยนไปมากทันที
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “พวกเจ้าจัดการศัตรูที่อยู่ทางด้านนั้นก็พอ ส่วนเจ้าพวกนี้ ข้าจัดการเอง!”
ผู้แข็งแกร่งระดับใต้เท้าเหล่านั้นต้องการที่จะทำร้ายมู่เฉียนซี แต่มีร่างสีม่วงเงินร่างหนึ่งสว่างวาบขึ้นมา และพวกเขาแต่ละคนก็ถูกลำแสงนั้นโจมตีจนลอยละลิ่วออกไปอย่างรุนแรง
ตึง ตึง!
พวกเขาแต่ละคนตกลงมาจากท้องฟ้าราวกับหินอุกกาบาตก็มิปาน และคิดไม่ถึงเลยว่าระดับใต้เท้าที่แข็งแกร่งในบรรดานักโทษเหล่านั้น จะอ่อนแอได้ถึงเพียงนี้
เหล่านักโทษทั้งหมดจ้องมองไปทางชายหนุ่มรูปงามที่สวมชุดคลุมสีม่วงเงินผู้นั้น และต่างต้องชะงักงันไปทันที ช่างเป็นชายที่แข็งแกร่งเหลือเกิน
“น้องสี่ ข้าบอกเจ้าแล้วไง! ว่าท่านเจ้าเมืองจะต้องไม่เป็นอะไรอย่างแน่นอน และตอนนี้นางก็กลับมาที่เมืองหนามโลหิตแล้ว”
ภายในเมืองมีร่างเงาเพิ่มขึ้นอีกสองสามร่าง และในที่สุดพวกเฉี่ยซื่อก็กลับมาถึงแล้ว
ต้องรู้ว่าหลังจากที่หานางไม่เจอ เฉี่ยซื่อก็แทบจะระเบิด แต่ก็โชคดีที่เฉี่ยเอ้อร์และเยาเยี่ยรั้งเขาเอาไว้ได้
ภายในแววตาของเฉี่ยซื่อเปล่งประกายด้วยความดีใจเมื่อได้เห็นร่างเงาที่คุ้นเคยร่างนั้น แต่สำหรับผู้บุกรุกเหล่านี้ ทั่วทั้งร่างของเขากลับแผ่กระจายจิตสังหารที่กระหายเลือด พร้อม มทั้งความต้องการที่จะฆ่าฟันออกมา!
ไม่ว่าศัตรูหน้าไหนที่กล้ามาทำร้ายเจ้านาย พวกมันจะต้องตาย!
เฉี่ยซื่อบุกเข้าไปในขบวนรบของศัตรู และปลิดชีพคนเหล่านั้นจนเลือดสาดกระเซ็นออกมาภายในกระบวนท่าเดียว
เมื่อหมาป่าที่กระหายเลือดบุกทะลวงเข้าไปในฝูงแกะ มันก็ทำให้พวกเขาถูกฆ่าตายทีละคนอย่างรวดเร็วไปจนหมด
เฉี่ยเอ้อร์จึงกล่าวอย่างโกรธเคืองว่า “คิดไม่ถึงเลยว่าจะบังอาจบุกมาที่เมืองหนามโลหิตของพวกข้า ข้าจะฆ่าพวกเจ้าให้หมดเลย”
ส่วนเฉี่ยซานก็ไม่ได้เตือนให้พี่สาวทำตัวสง่างาม นอกจากนี้ยังร่วมมือกับพี่สาวสังหารคนเหล่านั้นอีกด้วย!
การปรากฏตัวของร่างสีม่วงเงิน ทำให้พวกระดับใต้เท้าต่างก็ยำเกรงในพลังอันแข็งแกร่งของเขา
มู่เฉียนซีร่วมต่อสู้ไปกับสัตว์พันธสัญญาของนาง และกวาดล้างคนที่อยู่ในระดับเจ้าครองดินแดนระดับล่างไปจนหมดสิ้นเช่นกัน
เมื่อรวมเข้ากับจำนวนคนมากมายมหาศาลในเมืองหนามโลหิต คนที่บุกเข้ามาเหล่านี้ไม่เพียงแต่สู้ไม่ได้เท่านั้น แต่แม้กระทั่งทางหนีก็ยังไม่มีเลยด้วยซ้ำ
ประตูเมืองถูกปิดลง และทั่วทั้งเมืองก็ถูกหนามโลหิตปกคลุมเอาไว้
ตูมมมม!
นักโทษเหล่านี้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และในเวลานี้ก็มีชายในชุดคลุมสีเขียวคนหนึ่งยืนขึ้นมาแล้วกล่าวว่า “หยุด!”
มู่เฉียนซีกวัดแกว่งกระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณ พลางกล่าวอย่างเยาะเย้ยว่า “น่าขัน เจ้าบอกว่าหยุดแล้วข้าต้องหยุดหรือ ข้ามีความจำเป็นต้องเชื่อฟังพวกเจ้าหรืออย่างไร? และที่นี่ก ก็คืออาณาเขตของข้า”
ชายในชุดสีเขียวกล่าวว่า “ไม่ง่ายเลยกว่าพวกเราจะได้อิสระคืนมา และไม่คิดที่จะมาตายอีกด้วย นอกจากนี้หากพวกข้าทุ่มสุดตัวแล้วละก็ คิดว่าเมืองหนามโลหิตของเจ้าก็จะได้รับความเส สียหายมากเช่นกัน เหตุใดพวกเราถึงไม่เจรจากันก่อนเล่า?”
“เจรจาอย่างนั้นหรือ? พวกเจ้ามาทำร้ายร้ายคนของเมืองหนามโลหิตไปมากมายขนาดไหนแล้ว? เจ้าคิดว่าข้าจะอารมณ์ดีถึงขนาดยอมเจรจากับเจ้าอย่างนั้นหรือ?” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชา
“เจ้ากล้าเดิมพันกับข้าหรือไม่ หากพวกข้าชนะ พวกข้าขอแค่ให้พวกเจ้าปล่อยพวกข้าออกไปจากเมืองหนามโลหิตแห่งนี้ เพราะพวกข้าประเมินพวกเจ้าต่ำเกินไป ฉะนั้นตอนนี้คิดเพียงแค่รัก กษาชีวิตเอาไว้เท่านั้น หลังจากนี้จะไม่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับเมืองหนามโลหิตอีก หากว่าพ่ายแพ้ พวกเราเหล่านี้จะยอมเป็นคนของเจ้าอย่างเต็มใจ และไม่มีทางทรยศเจ้าแน่นอน” ชายในชุดเขียว วผู้นั้นกล่าว
เดิมทีแล้วเขตต้องห้ามทางตอนใต้สุดแห่งนี้มีเพียงแค่มดปลวกและไม่มีคนที่รับมือได้ยากอยู่เลย แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะเจอคู่ต่อสู้เช่นนี้ได้
ความสามารถของคนเหล่านี้ไม่เลวเลย หากสามารถเอามาใช้ประโยชน์ได้ก็คงจะเป็นผลดีต่อเมืองหนามโลหิตเช่นกัน และเงื่อนไขข้อแรกคือพวกเขาต้องยอมจำนนอย่างจริงใจ
“วิธีการระเบิดตนเองของพวกเจ้าทำให้คนอื่นต้องปวดหัว แต่เจ้าคิดว่าข้าจะยอมให้เจ้าคุกคามข้าอย่างนั้นหรือ?” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชา
“แต่นี่มันก็เป็นการตัดสินใจที่ดีสำหรับทั้งสองฝ่าย มิใช่หรือ?” ชายชุดเขียวกล่าว
“แล้วเจ้าคิดจะเดิมพันอย่างไร?” มู่เฉียนซีกล่าวถาม
“เตรียมเดิมพันทั้งหมดสามสนาม ให้ทั้งสองฝ่ายส่งผู้แข็งแกร่งระดับใต้เท้า ระดับเจ้าครองดินแดน และระดับที่ยังไม่ถึงเจ้าครองดินแดนที่แข็งแกร่งที่สุดออกมา และดำเนินการประลองทั้งหมดส สามสนาม เพื่อหาผู้ชนะสองในสาม ซึ่งวิธีนี้จะทำให้พวกเราลดความสูญเสียของแต่ละฝ่ายได้มากที่สุด นอกจากนี้ยังสามารถแบ่งแพ้ชนะออกมาได้ด้วย เป็นอย่างไร?” ชายชุดเขียวกล่าว
มู่เฉียนซีจ้องมองไปทางอวิ๋นจื่อและพวกของเฉี่ยอี้ แต่การระเบิดตนเองก่อนหน้านี้ก็ทำให้สือซื่อต้องจ่ายในราคาที่สาหัสมาก
ซึ่งระดับใต้เท้าที่อยู่ที่นี่ก็ไม่น้อยเลย หากพวกเขาต้องการเอาทองไปรู่กระเบื้องขึ้นมาจริง ๆ เช่นนั้นเมืองหนามโลหิตได้จบเห่แน่นอน
มู่เฉียนซีพยักหน้าเล็กน้อยพลางกล่าวว่า “ตกลง! ข้ารับข้อเสนอของเจ้า”
ชายในชุดเขียวกล่าวว่า “เช่นนั้นมาเริ่มกันเลยดีกว่า สนามแรกเป็นการต่อสู้ของระดับใต้เท้า ข้าจะแข่งเอง!”
พลังทั้งหมดของชายชุดเขียวผู้นี้ ราวกับดาบขนาดใหญ่ที่ถอดออกมาจากฝักก็มิปาน ซึ่งมันมีความคมกริบเป็นอย่างยิ่ง
อวิ๋นจื่อกล่าวอย่างเย็นชาว่า “เช่นนั้นของทางนี้ ข้าจะเป็นคนไปเอง!”
เฉี่ยอี้รู้ถึงความแข็งแกร่งของพืชศักดิ์สิทธิ์อย่างอวิ๋นจื่อ และรู้สึกว่าหากเขาเป็นคนต่อสู้ก็คงจะเหมาะสมที่สุดแล้ว แต่อวิ๋นซื่อกลับไม่พอใจเท่าไรนัก เพราะเขาก็อยากจะต่อส สู้เพื่อเจ้านายเช่นกัน
“ทุกคน ถอยออกมาให้หมด!”
หลังจากที่พวกเขาทั้งหมดถอยออกไปแล้ว พลังของระดับใต้เท้าก็ระเบิดออกมาอย่างสมบูรณ์
ชายในชุดเขียวผู้นั้นเผยสีหน้าที่เคร่งขรึมออกมา คนผู้นี้รับมือได้ยากกว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้เสียอีก
แน่นอนว่าไพ่ตายของเขาถูกระเบิดออกมาโดยไม่มีการปกปิด นอกจากนี้ยังใช้พลังที่แข็งแกร่งที่สุดโดยไม่กักเอาไว้เลยแม้แต่น้อย
พลังของพวกเขาทั้งสองคนปะทะกันอยู่กลางอากาศอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งทุกคนต่างก็ประหลาดใจเล็กน้อย มันช่างแข็งแกร่งเหลือเกิน!
การโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของชายในชุดเขียวถูกอวิ๋นจื่อสกัดกั้นเอาไว้ได้ ซึ่งเขาเองก็จนปัญญาเช่นกัน หลังจากนั้นเขาก็ต้องเผชิญหน้ากับการโต้กลับที่แข็งแกร่งของอวิ๋นจื่อ
พรวด!
เลือดสด ๆ ถูกพ่นออกมาจากปากของเขา และเขาก็ล้มลงไปบนพื้นพร้อมกับรอยยิ้มที่ขมขื่น “ข้าแพ้แล้ว!”
เขารู้มาตั้งแต่แรกแล้วว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนผู้นี้ แต่รู้สึกว่าหากต่อสู้อย่างเต็มที่ ก็น่าจะเสมอได้อย่างไม่มีปัญหาแน่นอน แต่ใครจะไปคิดเล่าว่าเขาจะถูกบดขยี้อย่างสมบู รณ์เช่นนี้
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “การแข่งสนามต่อไป เป็นการประลองระดับเจ้าครองดินแดนอย่างนั้นสินะ!”
ชายชุดเขียวพยักหน้าเล็กน้อย “ใช่แล้ว!”
“ท่านเจ้าเมือง ข้าเอง!”
“ท่านเจ้าเมือง ข้าขอรับ!” ลุงโซ่วกล่าวพลางเดินออกมา
เมืองหนามโลหิตของพวกเขา มีระดับเจ้าครองดินแดนน้อยจนน่าสงสาร ซึ่งมันเทียบกับผู้แข็งแกร่งระดับใต้เท้าไม่ได้เลยแม้แต่น้อย ซึ่งการมีช่องว่างระหว่างพลังมากเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องที่ ดีเลย
ซึ่งอีกฝ่ายมองเห็นจุดด้อยนี้ได้อย่างชัดเจน ถึงได้เสนอการท้าทายเช่นนี้ออกมา
เมืองหนามโลหิตของนาง ไม่มีระดับเจ้าครองดินแดนคนใดที่สามารถต่อต้านพวกเขาได้เลย