ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2399 จ่ายค่าชดเชย
“เพราะช้าไม่เชื่อพวกเจ้า ฉะนั้นจึงไม่รู้ว่าจะเก็บพวกเจ้าเอาไว้ทำไม? ไม่สู้ฆ่าพวกเจ้าทิ้งไปเสียดีกว่า จะได้ไม่มีปัญหาตามมาในอนาคต” ดวงตาสีดำสนิทคู่นั้นฉายแววเย้นยะเยือก และมู่ เฉียนซีก็ไม่ซ่อนจิตสังหารเลยแม้แต่น้อย
นักโทษเหล่านี้ชะงักงั้นไปทันที แม่นางน้อยปู้นี้ไม่ใช่คนที่มีเมตตาเลยแม้แต่น้อย และนางก็อยากที่จะฆ่าพวกเขาทั้งหมดจนไม่เหลือแม้แต่คนเดียวจริง ๆ
“เจ้าไม่กลัว พวกข้าจะต่อสู้กันจนตกตายไปด้วยกันแล้วอย่างนั้นหรือ” ชายในชุดสีเขียวกล่าว
“แต่นั่นก็ยังดีกว่าเหลือภัยพิบัติที่ร้ายแรงเอาไว้ มิใช่หรือ?” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชา
บนใบหน้าของชายในชุดสีเขียวผู้นั้นเผยท่าทางที่เคร่งขรึมออกมา และในที่สุดเขาก็กล่าวขึ้นมาว่า “จะต้องทำเช่นไรเจ้าถึงจะยอมเชื่อพวกข้า ในเมื่อพวกเราแพ้แล้ว ก็ย่อมต้องยอมรั บความพ่ายแพ้ และหลังจากนี้ก็ไม่มีใจคิดทรยศอีก”
“ข้าคิดว่าเจ้าที่มีวิธีที่ทำให้พืชกลายพันธุ์ที่โหดเหี้ยมอย่างหนามโลหิตยอมจำนนให้เจ้าอย่างสุดหัวใจ น่าจะมีวิธีทำให้พวกข้ายอมจำนนให้กับเจ้าได้เช่นกัน พวกเราไม่อาจปฏิเสธไม่ได ด้ว่า พวกเราที่เป็นคนหนีออกมาจากภายในคุกอันดำมืดของแดนนรกแห่งนั้น ต่างก็เคยฆ่าผู้คนมามากมายกันทุกคน และภายในใจก็มีความมืดมิดเป็นอย่างมาก ทว่ามันก็ไม่ได้ต่างไปจากพืชก กลายพันธุ์ที่โหดเหี้ยมอย่างหนามโลหิตเลย”
เจ้าพวกนี้ที่อยู่เต็มเมืองหนามโลหินล้วนเป็นนักกินทั้งนั้น แต่คนอย่างพวกเขาไม่ได้เป็นเพียงแค่นักกินธรรมดา ที่ป้อนอาหารแล้วจะสามารถจัดการได้อย่างง่ายดายเสียหน่อย
แต่นางก็ไม่อยากให้เมืองหนามโลหิตของนางต้องเจอกับความเสียหายอีกแล้ว มู่เฉียนซีจึงกล่าวว่า “พิษ! หากพวกเจ้ายินยอมถูกพิษของข้าควบคุมแล้วล่ะก็ ข้าก็จะสามารถเชื่อพวกเจ้าได้ ตอนนี้เลย”
ตอนที่อยู่ในหุบเหวอันมืดมิดนางได้กลั่นยาพิษที่พิเศษออกมา และตอนนี้ก็สามารถนำมันมาใช้ประโยชน์ได้แล้ว
ชายในชุดเขียวกล่าวว่า “คิดเจ้าคิดเห็นอย่างไรล่ะ?”
“ไม่ง่ายเลยกว่าจะได้รับอิสระ ฉะนั้นพวกเราจึงไม่อยากให้อิสระนี้มีเวลาที่สั้นถึงเพียงนี้ และข้าก็อยากมีชีวิตอยู่ด้วย!”
“ใช่แล้ว! ข้ายังไม่อยากตาย”
“ข้าถูกคนที่ลอบกัดโยนเข้าไปในแดนนรก ฉะนั้นข้าจะไม่ยอมตาย และปล่อยให้ศัตรูลอยนวลไปเช่นนี้แน่นอน ”
คนที่สามารถเอารอดชีวิตจากความยากลำบากทุกรูปแบบของคุกนั้นจนออกมาได้ เป็นกลุ่มคนที่จะไม่ยอมแพ้และตายไปเช่นนี้ แม้ว่าจะต้องถูกคนอื่นใช้ยาพิษควบคุม พวกเขาก็ยังอยากที่จะมีชี วิตอยู่ต่อไป
ชายในชุดสีเขียวผู้นั้นกล่าวว่า “เอาล่ะ! พวกเรายอมรับเงื่อนไขของเจ้า”
มู่เฉียนซีมีความมั่นใจต่อยาพิษของตนเองเป็นอย่างมาก หลังจากนี้ไปหากคนเหล่านี้กล้าทรยศ พวกเขาก็จะไม่มีแม้แต่โอกาศที่จะระเบิดตนเองเลยด้วยซ้ำ และแม้ตายพวกเขาก็ยังไร้ที่กลบฝังอ อย่างแน่นอน
พวกเขาทั้งหมดกินยาลูกกลอนลงไปอย่างไม่ลังเล มู่เฉียนซีกล่าวว่า “แม้ว่าพวกเจ้าจะยอมจำนนต่อข้า และเป็นส่วนหนึ่งของเมืองหนามโลหิตแล้ว แต่พวกเจ้าก็ได้สร้างความเสียหายให้เมืองหนาม มโลหิตเช่นกัน ฉะนั้นคิดที่จะชดใช้อย่างไร?”
เมืองหนามโลหิตก็ได้รับความเสียหายมากมายเช่นกัน มันเพิ่งจะซ่อมแซมมาได้ไม่นาน แต่เป็นเพราะการล่าเหยื่อครั้งใหญ่ในตอนนี้ จึงทำให้มันถูกทำลายอย่างหนักอีกครั้ง
พวกเขาเองก็ตะลึงงันไปทันที หลังจากที่เจ้านายของพวกเขาปราบพวกเขาได้แล้ว นอกจากจะยังไม่เข้าใจความสามารถของพวกเขา แต่กลับเรียกร้องค่าชดเชยจากพวกเขาอีกด้วย
อย่างที่รู้กันว่าหลังจากที่ถูกโยนเข้าไปในคุกแล้ว ทรัพย์สินของพวกเขาจะถูกคนของคุกยึดไปจนหมด
และต่อจากนั้นก็มาโผล่ที่เทศกาลปีศาจโลหิตล่าเหยื่อ ซึ่งพวกเขาก็ถือว่าเป็นเพียงคนจนคนหนึ่ง ฉะนั้นจะชดใช้ได้อย่างไร?
และตอนนี้ตัวของพวกเขาได้เป็นของเจ้านายแล้ว จึงทำให้แม้แต่ขายตนเองก็ยังทำไม้ได้เลย!
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “คนของเมืองหนามโลหิตก่อนหน้านี้ เตรียมซ่อมแซมเมือง ส่วนพวกเจ้า! จงไปออกล่านักโทษที่หนีออกของเมืองอื่น ๆ แต่ละคนจะต้องเอาป้ายมาให้ข้าคนล่ะหนึ่งร้อยชิ้นเ เป็นค่าชดใช้ แต่หากสามารถโน้มน้าวให้พวกเขายอมแพ้ได้ล่ะก็ เช่นนั้นก็ห้ามาแค่ห้าสิบอันก็พอแล้ว”
“ได้ยินแล้วใช่ไหม!”
ชายในชุดสีเขียวกล่าวว่า “เดิมทีแล้วนี่เป็นเรื่องที่พวกข้าสมควรทำอยู่แล้ว ท่านเจ้าเมืองโปรดวางใจ พวกเราจะดำเนินการทันทีขอรับ!”
“รีบไปดำเนินการเถอะ!”
“ขอรับ!”
ไม่มีมีเพียงพวกเขาที่เคลื่อนไหวเท่านั้น แต่หลังจากที่มู่เฉียนซีเตรียมการเรื่องภายในเมืองเหล่านี้แล้ว นางก็จะลงมือต่อเช่นกัน
มู่เฉียนซีกล่าวกับอวิ๋นจื่อว่า “เจ้ามาช่วยข้าที่เมืองหนามโลหิตแล้ว เช่นนั้นข้าก็จะตอบแทนเจ้า ด้วยการไปช่วยเจ้าที่เมืองเหลียนเช่นกัน! ไปดูสถานการณ์ที่เมืองเหลียนกันว่าเป็นอ อย่างไรบ้างแล้ว”
“ตกลง ข้าควรกลับไปดูได้แล้ว”
พวกของมู่เฉียนซีมุ่งหน้าไปที่เมืองเหลียนด้วยความเร็วที่เร็วมากที่สุด ตอนนี้พวกเขาค้นพบว่ามีคนกลุ่มหนึ่งกำลังพยายามคิดหาทางทำลายค่ายกลป้องกันเพื่อเปิดเมืองเหลียนอยู่ แต่ท ทว่าตอนนี้มันสามารถเปิดช่องโหว่ได้แล้วอันหนึ่ง
คนที่เป็นผู้นำคนเหล่านี้เปิดช่องโหว่ของเมืองเหลียนดูค่อนข้างคุ้นตามากเลยทีเดียว ซึ่งพวกเขาก็คิอคนที่ฉวยโอกาสตอนที่อวิ๋นจื่อบาดเจ็บสาหัสล้อมโจมตีนั่นเอง
ก่อนหน้านี้ เป็นเพราะมีโอกาสที่นักฆ่าลึกลับผู้นั้นมอบให้ จึงทำให้พวกเขามีชีวิตรอดมาได้
และตอนนี้ดวงตาของอวิ๋นจื่อฉายแววเย็นยะเยือกขึ้นมาทันที ทันใดนั้นเขาก็พุ่งทะยานไปอยู่เหนือเมืองเหลียน จากนั้นเขาก็กล่าวอย่างเย็นชาว่า “เมืองเหลียนของข้าไม่ใช่เมืองที่พวกเ เจ้าสามารถมาทำกำเริบเสิบสานเช่นนี้ได้”
“ฮ่าฮ่าฮ่า! เป็นเจ้า เป็นเจ้านี่เอง ในที่สุดข้าก็หาเจ้าเจอแล้ว ไปจับเขามาให้ข้า เมื่อถึงตอนนั้นข้าจะให้รางวัลพวกเจ้าอย่างงามเลย และพวกเจ้าอยากจะได้ยาลูกกลอนอะไรก็ได้ทั้งนั้น” ” เขากล่าวพลางหัวเราอย่างบ้าคลั่ง
ยาลูกกลอนของเจ้าหมอนี่ได้รับความนิยมมาก ดังนั้นจึงสามารถเอาชนะใจคนได้อย่างมากมาย และคำสั่งนี้ของเขา ก็ทำให้มีคนจำนวนมากพุ่งมาทางอวิ๋นจื่อ
“ปัง ปัง ปัง!” แต่ทว่าตอนนี้อาการบาดเจ็บของอวิ๋นจื่อหายดีแล้ว ฉะนั้นสำหรับอวิ๋นจื่อแล้วคนเหล่านี้ไม่ควรค่าที่จะพูดถึงเลยแม้แต่น้อย
ร่างเงาเหล่านั้นถูกอวิ๋นจื่อโจมตีจนลอยกระเด็นออกไป ซึ่งนักปรุงยาผู้นั้นก็ประหลาดใจมากเช่นกัน “เป็นไปได้อย่างไรกัน? เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าก่อนหน้านี้เจ้าไม่ได้แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ แต่เพียงพริบตาเดียวเขาจะเก่งกาจขึ้นเช่นนี้ได้อย่างไร?”
“มีเส้นทางไปสวรรค์เจ้าก็ไม่ไป แต่อยากจะบุกเข้าไปในนรกที่ไม่มีประตูเสียได้ นอกจากนี้ยังหนีมาจนถึงอาณาเขตของอวิ๋นจื่ออีกด้วย เจ้านี่ช่างรนหาที่ตายเสียจริง ๆ ” มู่เฉียนซีเองก็ออ อกโรงเช่นกัน
“这家伙交给你处理,其他人就交给我们吧!””เจ้าหมอนี่มอบให้เจ้าเป็นคนจัดการก็แล้วกัน ส่วนคนอื่น ๆ มอบให้พวกข้าจัดการให้เถอะ!”
ทันทีที่พูดจบ มู่เฉียนซีกับพวกของเฉี่ยซื่อก็พุ่งทะยานไปที่คนอื่นทันที และนักปรุงยาที่เหลืออยู่คนนั้นก็เผชิญหน้ากับพลังอันแข็งแกร่ของอวิ๋นจื่อด้วยตัวที่สั่นเทา
“ตึก!” ยังไม่ทันรอให้อวิ๋นจื่อลงมือ เจ้าหมอนี่คุกเข่าลงไปบนพื้นโดยไม่หยิ่งยโสในศักดิ์ศรีเลยแม้แต่น้อย
“ท่านพืชศักดิ์สิทธิ์ ท่านพืชศักดิ์สิทธิ์ข้าผิดไปแล้ว ท่านพืชศักดิ์สิทธิ์โปรดไว้ชีวิตด้วย! ข้าคือนักปรุงยา ข้าคือนักปรุงยาขั้นเทวะเชียวนะขอรับ! ไม่มีใครที่เหมาะจะคอยรับใช ช้ท่านพืชศักดิ์สิทธิ์ได้เท่ากับนักปรุงยาขั้นเทวะแล้ว ท่านได้โปรดอย่าฆ่าข้าเลยนะขอรับ….”
อวิ๋นจื่อจ้องมองไปที่เขาด้วยท่าทางเย็นชา “เจ้ามีสิทธิอะไร แล้วนี่ยังกล้าเรียกตนเองว่านักปรุงยาอีกหรือ!”
“อ๊ากกก!” มีเสียงกรีดร้องอย่างโหยหวนดังออกมา เดิมทีแล้วเจ้าหมอนี่คิดที่จะทำให้อวิ๋นจื่อคลายความกังวลและให้เขาแมตตา และหลังจากนั้นค่อยใช้พลังจิตวิญญาณในการลอบสังหารอวิ๋นจื่ ออีกที
และโดยไม่ทันได้คาดคิดอวิ๋นจื่อก็ใช้พลังจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งโจมตีกลับ หลังจากนั้นก็ฉีกพลังจิตวิญญาณของเขาเสีย ซึ่งมันก็ทำให้เขาเจ็บปวดจนอยากตายเลยทีเดียว
แรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัวห่อหุ้มเขาเอาไว้ จากนั้นก็ทำให้กระดูกทุกส่วนภายในร่างกายจองเขาแหลกละเอียด และทำให้เขานอนเป็นอัมพาตอยู่บนพื้นโดยไม่มีพลังเลยแม้แต่น้อย ซึ่งหลังจากเ เขาก็เอาแต่ร้องคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด
“เพราะอะไร? เพราะอะไรกัน? ข้าเป็นถึงนักปรุงยาขั้นเทวะเชียวนะ เพราะเหตุใดเจ้าถึงได้ทำเช่นนั้นกับข้า?” เขากล่าวพลางร้องห่มร้องไห้ออกมา
“แต่ตอนนี้เจ้าไม่ใช่แล้ว”
พลังจิตวิญญาณของเขาถูกบดขยี้จนแหลกละเอียดไปมหดสิ้น และในเมื่อไม่มีพลังจิตวิญญาณเช่นนั้นก็ไม่สามารถกายเป็นนักปรุงยาได้
สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีเทาขึ้นมาทันที และเมื่อได้รับการโจมตีที่รุนแรงเช่นนี้ เขาก็เหมือนตายทะเป็นเลยทีเดียว
นักปรุงยาคนนี้ก็คือผู้นำของคนกลุ่มนี้เหล่านี้ ตอนนี้หัวหน้าของพวกเขาได้กลายเป็นคนพิการไปแล้ว และพวกเขาที่อยู่ทางด้านนี้ก็ได้ถูกมู่เฉียนซีทำลายล้างจนพวกเราร่วงโรยราวกับใ ใบไม้ในฤดูใบไม้ล่วงก็มิปาน
พวกเขาเฝ้ามองสหายที่ตายไปทีละคนอย่างน่าเวทนา พวกเขาทั้งถูกควักหัวใจ ถูกลูกศรนับหทื่นเล่มโจมตีใส่ และถูกโจมตีตรงหัวใจ หรือว่าข้าถูกเฝ้าตาย…
พวกเขากลัว และไม่กล้าลงมือต่อไปอีกแล้ว เพราะพวกเขารู้ว่าชะตากรรมของพวกเขามีแต่เส้นทางของความตายเท่านั้น
“นายท่านโปรดไว้ชีวิตด้วย! ที่พวกข้ามาโจมตีเมืองเหลียนต่างก็เป็นเพราะนักปรุงยาที่น่ารังเกียจผู้นั้นมอมเมาพวกเราา เขาจะมอบยาลูกกลอนให้เรามากมายหากทำประโยชน์ให้เขา ฉะนั้นพว วกเราจึงยอมตกลง มิเช่นนั้นถึงแม้จะมอบความกล้าให้พวกเราอย่างเต็มร้อย พวกเราก็ไม่กล้ามาหรอกขอรับ!” พวกเขายอมแพ้ที่จะต่อต้าน และกล่าวพลางคุกเข่าไปด้วย