ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2401 ข้าจะบอกเจ้าทุกอย่าง
ทันใดนั้นร่างเงาสีดำร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมา และดึงมู่เฉียนซีเข้าไปกอดแน่นไว้ในอ้อมแขนอย่างกะทันหัน
แรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัวนั้นระเบิดออกมา และได้ทำให้ผู้คุมเหล่านั้นขาอ่อนจนเกือบที่จะล้มพับไป ซึ่งกลิ่นอายนี้เป็นกลิ่นอายที่พวกเขาคุ้นเคยมากเหลือเกิน
และการเคลื่อนไหวของพวกเย่ชิงก็ชะงักไปเล็กน้อย นะ…นี่คือพลังของระดับอ๋องนี่นา
อ๋องของคุกโลหิตมีเพียงคนเดียวเท่านั้น แม้ว่าเขาจะถูกขังอยู่ในคุกแต่ก็เคยได้ยินชื่อเสียงมาบ้าง และคนผู้นั้นก็คือท่านอ๋องจิ่วเยี่ยแห่งคุกโลหิตนั่นเอง
ผู้คุมเหล่านั้นรู้สึกหวาดกลัวจนขนลุกขนพองไปหมด ผู้ใดเป็นคนบอกว่าท่านอ๋องจิ่วเยี่ยแห่งคุกโลหิตไม่เคยสนใจการล่าเหยื่อ และไม่เคยเข้าใกล้หญิงสาวมาก่อนกัน
นะ…นี่พวกเขากำลังเห็นอะไรอยู่กันแน่?
ไม่จำเป็นต้องลงมือ เพราะแค่แรงกดดันนี้ก็ทำให้พวกเขาหายใจไม่ออกแล้ว
ลงมือ จะให้ลงมือต่อหน้าท่านอ๋องจิ่วเยี่ย พวกเขาจะไปกล้าลงมือได้อย่างไรกัน?
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เย่ชิง พวกเจ้ากลับมาได้แล้ว”
“ขอรับ ท่านเจ้าเมือง!”
เดิมทีก็มีพวกอ้านเคลื่อนไหวอยู่แล้ว แต่การเผชิญหน้ากับผู้คุมมากมายเช่นนี้ก็รับมือได้ยากอยู่ดี
แต่ทว่าทันทีที่จิ่วเยี่ยมา ผู้คุมเหล่านี้ก็ถูกทำให้กลัวจนไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกมาสักคำเดียว
หนึ่งในผู้คุมกล่าวขึ้นมาว่า “ท่านอ๋องจิ่วเยี่ย เพราะพวกข้าต้องมาทำงานหน้าที่จึงได้มาที่่คุกโลหิตแห่งนี้ หากล่วงเกินไป ท่านอ๋องจิ่วเยี่ยโปรดอย่าถือสาผู้น้อยเลยนะขอรับ”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “พวกเจ้าทำเรื่องที่มันล่วงเกินไปแล้วแต่คิดจะขอโทษอย่างลวก ๆ แล้วปล่อยเรื่องนี้ไปอย่างนั้นหรือ ข้าจะบอกให้ว่าพวกเจ้าฝันไปเถอะ! คนเหล่านี้คือคนของข้า หา ากพวกเจ้าจะมาแย่งคนของข้า ข้าไม่มีทางถอยแน่นอน”
“แต่เดิมทีแล้วพวกเขาเป็นคนในคุกของพวกข้านะ!”
“เป็นเพราะพวกเจ้าไม่ระวังจนปล่อยให้คนหนีออกมาได้ และตอนนี้ข้าก็เป็นคนปราบพวกเขาได้ ฉะนั้นมันต้องเป็นของข้า และไม่ใช่สิ่งที่พวกเจ้าจะตัดสินใจได้ด้วย”
“ท่านอ๋องจิ่วเยี่ยยังไม่ได้พูดอะไรเลย ยังไม่ถึงตาเจ้าที่…”
พรึ่บ!
คำพูดของคนผู้นี้ยังพูดไม่ทันจบ ก็มีพลังที่น่าสระพรึงกลัวจนทำให้คนหายใจไม่ออกห่อหุ้มเขาเอาไว้ และคนผู้นั้นก็ล้มฟุบลงไปบนพื้นโดยตรง
แกร่ก!
ขาทั้งสองข้างของเขาพลันเปลี่ยนกลายเป็นกระดูกขาว จากนั้นมันก็หักและกระจายไปทั่วพื้นดินทันที
จิ่วเยี่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “ทุกสิ่งที่ซีพูดล้วนแทนความหมายของข้าแล้ว ฉะนั้นจะปล่อยให้มดปลวกอย่างพวกเจ้ามาตั้งคำถามได้อย่างไร?”
ผู้คุมคนอื่นเหงื่อแตกพลั่กทันที ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าท่านอ๋องจิ่วเยี่ยแห่งคุกโลหิตที่ไม่เคยเข้าใกล้หญิงสาวมาก่อนผู้นั้น จะปกป้องและห่วงใยหญิงสาวผู้นี้ถึงขนาดนี้ได้
คราวนี้ พวกเขาเจอกับสถานการณ์ที่เลวร้ายเข้าให้แล้ว
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ข้าเองก็แปลกใจเช่นกัน ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าคุกใหญ่ ๆ อย่างพวกเจ้าจะมีการดูแลที่หละหลวมเช่นนี้ มีผู้คุมมากมายขนาดนี้แต่กลับพลาดปล่อยให้ยอดฝีมือที มีความสามารถเหนือกว่าระดับเจ้าครองดินแดนระดับบนขึ้นไปหนีออกมาในเวลาเดียวกันได้มากถึงเพียงนี้! คราวนี้พวกเจ้ามีลับลมคมในมากเกินไปแล้ว! ไม่ทราบว่าทุกท่านช่วยอธิบายให้ข้าฟังหน่อ อยได้หรือไม่?”
“ถึงคราวนี้พวกเจ้าจะบอกว่าแค่ผิดพลาด แต่ก็ไม่มีแผนการสำหรับความผิดพลาดและผลที่เกิดจากความผิดพลาดคราวนี้เลยแม้แต่น้อย แล้วยังคิดจะมาแย่งคนของข้าโดยใช้เหตุผลเช่นนี้อีกหรือ”
พวกเขาก้มศีรษะลงพลางกล่าวว่า “นั่นก็เป็นเพราะว่านักโทษในคราวนี้เจ้าเล่ห์มากเกินไป พวกเราถึงได้ปล่อยพวกเขาออกมา”
เย่ชิงกล่าวว่า “ไม่ใช่นะ เป็นพวกเขาที่ตั้งใจปล่อยพวกเราออกมาต่างหาก!”
จิ่วเยี่ยกวาดตามองไปที่คนเหล่านี้ ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นนักโทษ แต่ทว่าตอนนี้เป็นลูกน้องของซี และอาศัยเพียงแค่คนกลุ่มนี้ ก็ถือว่าแข็งแกร่งกว่านักโทษทั่วไปที่หนีออกมาจากเขตต ต้องห้ามตอนใต้สุดเหล่านั้นแล้ว
แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยสนใจมากเท่าไร แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่รู้ ถึงความผิดปกตินี้
เกรงว่าซีจะต้องผ่านประสบการณ์ในการต่อสู้อันหนักหน่วงมาหลายครั้งเป็นแน่!
“นี่มันจะไร้สาระเกินไปแล้ว นี่เจ้ากำลังใส่ร้ายพวกข้าอยู่นะ!” ผู้คุมเหล่านี้กล่าวด้วยความขุ่นเคือง
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ทุกท่านอธิบายมาเถอะ! หากพวกเจ้าไม่อธิบายมาให้ชัดเจนแล้วละก็ มีเพียงแต่ต้องเชิญพวกเจ้าไปเป็นแขกของเมืองหนามโลหิตแล้ว”
ซึ่งมู่เฉียนซีก็ไม่คิดที่จะปล่อยคนเหล่านี้ไปแน่
สีหน้าของพวกเขาซีดเผือดไปทันที และหนึ่งในนั้นก็กล่าวว่า “พวกเรารีบไปกันเถอะ! ไปเร็ว!”
ถึงท่านอ๋องจิ่วเยี่ยจะแข็งแกร่ง แต่หากพวกเขาหนีไปถึงคุกนรกได้ แม้จะเป็นท่านอ๋องจิ่วเยี่ยก็ไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้อยู่ดี
ถ้าพวกเขาไปตกอยู่ในกำมือของท่านอ๋องจิ่วเยี่ยจริง ๆ เกรงว่าพวกเขาได้มีจุดจบที่เลวร้ายมากเป็นแน่
แต่ทว่า พวกเขานั้นไร้เดียงสาเกินไป เพราะด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขา จะสามารถหลบหนีต่อหน้าต่อตาของท่านอ๋องจิ่วเยี่ยได้อย่างไร
ด้วยเหตุนี้พลังที่แข็งแกร่งจึงได้ผนึกทางหนีเพียงทางเดียวของพวกเขาเอาไว้แล้ว ตึง ตึง ตึง! และพวกเขาทุกคนก็ถูกแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวกดให้คุกเข่าอยู่บนพื้นอย่างรุนแรง
พลังของพวกเขาเปลี่ยนกลายเป็นความว่างเปล่าอย่างกะทันหัน สีหน้าของทุกคนล้วนซีดเซียวเป็นอย่างมาก เมื่อมองไปที่ขาทั้งสองข้างของตนเองก็ค้นพบว่าทั้งเลือดและเนื้อได้หายไป และเปล ลี่ยนกลายเป็นเพียงกระดูกสีขาวไปแล้ว
“ท่านอ๋องจิ่วเยี่ย โปรดไว้ชีวิตด้วย!”
“ท่านอ๋องจิ่วเยี่ยโปรดไว้ชีวิตด้วยเถิดขอรับ!”
“……”
พวกเขาพยายามขอความเมตตาอย่างสุดชีวิต และตอนนี้ความหวาดกลัวก็ได้ครอบงำอารมณ์ทั้งหมดของพวกเขาแล้ว
ช่างน่ากลัวเหลือเกิน!
ความสามารถของท่านอ๋องจิ่วเยี่ยน่าหวาดกลัวยิ่งกว่าในข่าวลือเสียอีก
แม้แต่พวกของเย่ชิงต่างก็ถูกทำให้ตกใจกลัวเช่นกัน นะ…นี่ก็คือความสามารถของท่านอ๋องแห่งคุกโลหิตสินะ
ความแข็งแกร่งของชายผู้นี้ไม่มีผู้ใดสามารถเทียบได้ ในขณะที่อีกด้านหนึ่งจัดการศัตรูอย่างโหดเหี้ยม แต่อีกด้านหนึ่งก็โอบกอดท่านเจ้าเมืองของพวกเขาเอาไว้อย่างอ่อนโยน
และท่านเจ้าเมืองของพวกเขาก็อิงแอบไปที่ร่างของเขาอย่างคุ้นเคย ร่างทั้งสองที่แนบชิดกันเช่นนี้ ช่างเป็นทัศนียภาพที่งดงามจริง ๆ
คิดไม่ถึงเลยว่าท่านเจ้าเมืองจะมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับท่านอ๋องจิ่วเยี่ยเช่นนี้ หากเขารู้ ก็คงจะไม่หาเรื่องตายด้วยการมาโจมตีเมืองหนามโลหิตอย่างแน่นอน แต่คงจะเลือกยอมจำนน และกลายมาเป็นพลเมืองของเมืองหนามโลหิตตั้งแต่แรก
ด้วยความสามารถที่แข็งแกร่งของท่านอ๋องจิ่วเยี่ย ได้ทำให้ทุกคนเงยหน้าขึ้นไปมองเขา!
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “วางใจเถอะ! ข้าไม่ให้เยี่ยฆ่าพวกเจ้าแน่นอน เพียงแค่อยากเชิญพวกเจ้ามาเป็นแขกของเมืองหนามโลหิต และขอให้พวกเจ้าไขข้อข้องใจให้ข้าสักหน่อย”
“เย่ชิง!”
“ข้าน้อยอยู่นี่ขอรับ!”
“โยนคนเหล่านี้ไปขังไว่ในคุกของเมืองหนามโลหิตเสีย!”
“ขอรับ! ข้าน้อยน้อมรับคำสั่ง!” มุมปากของเย่ชิงคลี่ยิ้มจาง ๆ ออกมาและมองไปยังผู้คุมเหล่านั้นอย่างเวทนาเป็นอย่างยิ่ง
ก่อนหน้านี้เขาโดนเจ้าพวกคนเหล่านี้ขังเอาไว้ และโดนทารุณตามอำเภอใจ แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างจะกลับกันแล้ว
สีหน้าของผู้คุมเหล่านี้ซีดเผือดขึ้นมาทันที พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีวันที่ถูกนักโทษของพวกเขาขังเช่นนี้ และนี่ถือว่าเป็นความอัปยศอดสูอย่างใหญ่หลวงแน่นอนอยู่แล้ว
ภายในใจของพวกเขาโกรธเคืองเป็นอย่างมาก แต่กลับไม่กล้าที่จะพูดออกไป
เนื่องจากพวกเขารู้ดีว่าหากไปยั่วยุให้ท่านอ๋องจิ่วเยี่ยไม่พอใจ สิ่งที่จะเปลี่ยนเป็นกระดูกต่อไปจะไม่ได้มีเพียงขาทั้งสองข้างของพวกเขาเท่านั้น แต่เกรงว่าทั่วทั้งร่างของเขาคงจะ ะเปลี่ยนกลายเป็นกระดูก และเป็นขี้เถ้าปลิวหายไปเป็นแน่!
พวกเขาทำได้เพียงปล่อยให้นักโทษที่พวกเขาดูถูกเหล่านั้นลากไปขังไว้ในคุกของเมืองหนามโลหิตอย่างไม่เต็มใจ และหลังจากนั้นเพียงแค่พริบตาเดียว พวกเขาก็ไม่เห็นเจ้าเมืองของพวกเขาแล้ ว
พวกของเยาเยี่ยรู้เรื่องความสัมพันธ์ของมู่เฉียนซีและจิ่วเยี่ยเป็นอย่างดี ซึ่งพวกเขาก็เห็นกันจนชินตาแล้ว แต่คนอื่นในเมืองหนามโลหิตยังไม่ได้สติกลับมาเลย
ท่านเจ้าเมืองกับท่านอ๋องจิ่วเยี่ย!
ภายในจวนเจ้าเมือง มู่เฉียนซีถูกจิ่วเยี่ยกดเอาไว้ที่ข้างประตู จากนั้นดวงตาสีฟ้าที่เย็นยะเยือกก็มองไปทางมู่เฉียนซีแล้วกล่าวว่า “ซี!”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ทางด้านของเจ้าจัดการแล้วหรือ?”
“เป็นแค่มดปลวกเท่านั้น แต่เจ้า…”
“เจ้ามอบอ้านให้ข้าแล้ว ไม่มีทางมีอันตรายอะไรได้หรอก”
“ออกมา!” จิ่วเยี่ยกล่าวอย่างเย็นชา
คำพูดนี้เขาพูดกับอ้าน และทันใดนั้นอ้านก็มาคุกเข่าลงต่อหน้าพวกเขา “ข้าน้อย…”
แม้ว่าเจ้านายของเขาจะขยิบตาให้เขาไม่หยุด แต่ในฐานะที่อ้านเป็นคนคุ้มครองเจ้านาย แต่เขาก็ไม่อาจฝืนใจพูดออกมาได้
และเรื่องที่เขาบกพร่องต่อหน้าที่ก็เป็นความจริง!
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “อ้าน! เจ้าถอยไปก่อน”
“ขอรับ นายท่าน!”
เมื่อใบหน้าของจิ่วเยี่ยเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ มู่เฉียนซีจึงกล่าวว่า “ข้าจะบอกเจ้าทุกอย่างเลย เจ้า…อุ้บ...”
เขาไม่ต้องการฟังเรื่องอื่นอีกแล้ว เขาแค่อยาก…
กลิ่นอายที่ก้าวร้าวเต็มไปด้วยความเอาแต่ใจ เขาทั้งปล้นและกวาดลมหายใจทั้งหมดของมู่เฉียนซีไป และเสนอการลงโทษที่แสนอ่อนโยนที่สุดเนื่องจากความผิดฐานปกปิดของนาง…