ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2407 ลักพาตัวซีไปแล้ว
จิ่วเยี่ยได้โยนผลึกวารีพลังเทพนี้ลงไปในบ่อน้ำพุเทพประทาน และพลังเทพก็แข็งแกร่งขึ้นอย่างกะทันหัน จนหมอกสีขาววนเวียนอยู่รอบบริเวณ
มู่เฉียนซีรู้สึกว่าเมื่อเทียบพลังเทพภายในบ่อน้ำพุเทพประทานกับก่อนหน้านี้แล้ว มันได้ให้ความรู้สึกที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
หลังจากนั้นจิ่วเยี่ยก็ลงมือถอดเสื้อผ้าของนางออก พลางกล่าวว่า “ซี ตอนนี้พร้อมแล้ว!”
เนื่องจากจิ่วเยี่ยฝึกฝนจนชำนาญ หลังจากเขาใช้ความพยายามเพียงชั่วพริบตาเดียวเสื้อผ้าที่อยู่บนเรือนร่างของมู่เฉียนซีก็ไม่เหลือแม้แต่ตัวเดียว
ใบหน้าของนางแดงระรื่อเล็กน้อย และนางก็รีบกระโดดลงไปในบ่อน้ำพุอย่างรวดเร็ว
ตูมมมม!
น้ำในบ่อน้ำพุพลันสาดกระจายออกมา
พลังเทพชำระล้างไปทั่วทุกอณูบนร่างกายของนาง และจิ่วเยี่ยก็ยืนเฝ้านางอยู่ด้านข้างอย่างนิ่งสงบ อีกทั้งยังจ้องมองมู่เฉียนซีอย่างไม่ละสายตาอีกด้วย
มู่เฉียนซีไม่รู้ว่าผ่านมานานเพียงใดแล้ว แต่นางสามารถสัมผัสได้ถึงพลังอันแข็งแกร่งที่เข้าไปในร่างกายของนางได้ และความสามารถก็ยกระดับขึ้นอย่างรวดเร็ว
ในเวลานี้ภายในบ่อน้ำพุเทพประทานระดับสูงอีกบ่อหนึ่ง มีคนกำลังบรรลุอย่างต่อเนื่อง
บางคนบรรลุจนกลายเป็นเจ้าครองดินแดน บางคนบรรลุเป็นเจ้าครองดินแดนระดับบน และมีบางคนที่บรรลุเป็นใต้เท้าระดับล่าง
คนที่เลื่อนขั้นระลอกแล้วระลอกเล่าเหล่านี้ คิดไม่ถึงว่าคนกลุ่มนั้นล้วนเป็นคนของเมืองหนามโลหิตแห่งเขตต้องห้ามทางตอนใต้สุด
ส่วนคนอื่น ๆ ได้แต่กัดฟันด้วยความอิจฉา เหตุใดคนกลุ่มนี้ถึงได้โชคดีขนาดนี้ ให้ตายเถอะ!
หากพวกเขาสามารถแย่งบ่อน้ำพุเทพประทานระดับสูงมาได้ บางทีอาจจะมีโอกาสเช่นนั้นบ้าง และคงจะสามารถเลื่อนขั้นได้อย่างราบรื่นแน่นอน
แม้ว่าคนอื่นๆจะเลื่อนขั้นแล้ว แต่มันก็ไม่ได้มีนัยสำคัญอะไรต่อคนของเมืองหนามโลหิตมากมายนัก
เมื่อเห็นว่าเวลาหนึ่งวันใกล้จะถึงกำหนดแล้ว พวกเขาก็กล่าวขึ้นมาว่า “ไม่รู้ว่าสถานการณ์ทางด้านท่านเจ้าเมืองจะเป็นอย่างไรบ้าง?”
พลังที่สะสมภายในร่างกายตอนนี้ ได้ถึงจุดวิกฤตของผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับหกแล้ว
มู่เฉียนซีหมุนเวียนทักษะในคราวเดียว และนางก็สามารถเลื่อนขั้นเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับเจ็ดได้อย่างง่ายดาย
นางเลื่อนขั้นอีกครั้งแล้ว และพลังที่เหลืออยู่ในร่างกายของนางเหล่านั้น ทำให้ตอนที่มู่เฉียนซีบรรลุเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับเจ็ด เพิ่มขึ้นมาอีกไม่น้อยเลย
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “จิ่วเยี่ย ข้าเลื่อนขั้นสำเร็จแล้ว”
“อื้มม!”
ทันทีที่จิ่วเยี่ยโบกมือ มู่เฉียนซีก็ถูกช้อนขึ้นมาจากน้ำทันที
เขาจ้องมองมู่เฉียนซีอย่างลึกซึ้งพลางกล่าวว่า “ซีทุกช่วงเวลาก่อนหน้านี้ เจ้ากำลังยั่วยวนข้า…”
ขณะที่พูด เขาก็ค่อย ๆ เช็ดน้ำออกจากเรือนร่างของมู่เฉียนซีอย่างแผ่วเบา
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “วันนี้ไม่เหมือนตัวเจ้าคนเดิมเลย คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะไม่ลง…”
“พลังเทพขัดแย้งกับพลังของข้า หากอยู่ใกล้ชิดกันมากเกินไป ผนึกอาจจะคลายออกได้อย่างง่ายดาย ตอนนี้ข้า…”
“อุ้บ…”
เขารีบหยิบเสื้อคลุมตัวหนึ่งห่อหุ้มร่างของมู่เฉียนซีเอาไว้ครึ่งหนึ่งอย่างรีบร้อน และตอนนี้จิ่วเยี่ยเริ่มลงมืออย่างทนไม่ไหว
อย่างไรเสียตอนที่เขากำลังเฝ้าก่อนหน้านี้ มันก็…
ปึก!
และทันใดนั้นทั้งร่างของมู่เฉียนซีก็อิงแอบไปบนกำแพงหิน
ถึงด้านหลังของนางจะมีเสื้อผ้ารองเอาไว้ แต่ทว่าเสื้อผ้าที่อยู่ด้านหน้าของนางกลับยังไม่ได้สวมอะไรเอาไว้เลย
จิ่วเยี่ยเปิดมันเอาไว้เพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น หลังจากนั้น…
เรื่องผนึกคลายออกนั้นเป็นเพียงแค่ข้อแก้ตัวเท่านั้น เพราะเดิมทีเจ้าหมอนี่ก็มีเจตนาไม่ดี…
ซู่!
น้ำตกที่ไหลลินออกมาจากปลายเท้าของพวกเขาไปจนถึงด้านล่างของหน้าผา สามารถช่วยปกปิดเสียงที่แหบพร่าของมู่เฉียนซีได้เป็นอย่างดี
“ถึงเวลาแล้ว!” คนที่ส่งพวกเขามายังภูเขาเทพประทานเหล่านั้นปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้พวกเขามาเพื่อพาพวกเขาออกไป
ถึงพวกเขาจะสังเกตเห็นว่ามีจำนวนคนน้อยกว่าเดิมมาก แต่ก็ไม่ได้สนใจ เพราะเพื่อที่จะแย่งชิงบ่อน้ำพุเทพประทานก็จะมีการบาดเจ็บล้มตายเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว
“ทั้งหมดมากันพร้อมแล้วหรือยัง?” พวกเขากล่าวถาม
“นายท่าน ท่านเจ้าเมืองของพวกเราจะไม่พร้อมเลยขอรับ” คนของเมืองหนามโลหิตกล่าว
“เขตต้องห้ามทางตอนใต้” พวกเขาผงะไปเล็กน้อย
“อยู่ที่ใดกัน?”
“อยู่ตรงน้ำพุเทพประทานขั้นสูงสุด” มีคนกล่าว
“นายท่าน มีเรื่องหนึ่งที่ข้าอยากจะแจ้งให้ท่านทราบขอรับ เขตต้องห้ามทางตอนใต้สุดฉวยโอกาสช่วงชุลมุนมียอดฝีมือระดับใต้เท้าเข้ามาด้วยขอรับ ท่านจะต้องลงโทษคนเหล่านี้ที่ฝ่าฝืน ให้หนักเลยนะขอรับ” มีคนกล่าวพร้อมกระโดดออกมา
“ระดับใต้เท้าหรือ!”
แววตาของพวกเขากวาดมองไปโดยรอบ นอกจากกลิ่นอายที่ไม่เสถียรของผู้แข็งแกร่งที่เพิ่งเลื่อนขั้นแล้ว พวกเขาก็ไม่ค้นพบระดับใต้เท้าคนอื่นอีกแล้ว
“ไม่เห็นมี! พวกเจ้ากล้าหลอกพวกข้าอย่างนั้นหรือ? ช่างบังอาจนัก” สีหน้าของคนเหล่านี้เต็มไปด้วยความโกรธพร้อมทั้งกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
พวกเขากล่าวอย่างตื่นตระหนกว่า “นายท่าน ที่พวกเราพูดทั้งหมดคือเรื่องจริงนะขอรับ แน่นอนว่าท่านต้องระวังด้วย”
“ระดับของพวกเขาล้วนเป็นใต้เท้าระดับบนทั้งนั้น หากมีระดับใต้เท้าคนอื่นอยู่ด้วย จะสามารถรอดพ้นจากสายตาของพวกข้าได้อย่างไร นอกจากว่าคนที่มาจะเป็นระดับอ๋องเท่านั้น! แต่พวกเ เจ้าคิดว่าท่านอ๋องจิ่วเยี่ยของคุกโลหิต จะมายังสถานที่ที่วุ่นวายเช่นนี้หรือ?” พวกเขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
แต่พวกเขาคาดคิดไม่ถึงเลยว่า ตอนนี้ท่านอ๋องจิ่วเยี่ยได้มายังสถานที่ที่วุ่นวายเช่นนี้แล้วจริง ๆ
ไม่เพียงแต่ยังมายังที่วุ่นวายเท่านั้น นอกจากนี้ยังเลือกสถานที่ที่พิเศษที่สุด เพื่อรังแกคู่หมั้นของตนเองอีกด้วย
“อื้อ…จิ่วเยี่ยบ้า…พอแล้ว…” มู่เฉียนซีร้องขอจิ่วเยี่ย
แต่ทว่าการร้องขอเช่นนี้เป็นเหมือนการออดอ้อนเสียมากกว่า และถึงเขาจะยอมปล่อย แต่แววตาของจิ่วเยี่ยกลับมืดมนลงมากขึ้นไปอีก
หลังจากนั้นจิ่วเยี่ยก็กระซิบที่ข้างหูของมู่เฉียนซีว่า “อื้ม! หลังจากกลับไปที่เมืองแล้ว ข้าจะทำให้ซีพอใจแน่นอน!”
ในตอนที่คนเหล่านั้นกำลังจะเข้าไปลากมู่เฉียนซีออกมาจากบ่อน้ำพุวิญญาณชั้นยอดอยู่นั้น มู่เฉียนซีที่แต่งตัวเต็มยศก็กระโดดขึ้นมาบนหน้าผา
นางกล่าวว่า “ต้องใช้เวลาพอสมควรในการเลื่อนขั้น แต่ก็ยังไม่เกินกำหนดไม่ใช่หรือ?”
เผ่าเทพที่สวมชุดเกาะสีเงินเหล่านั้นขมวดคิ้วเล็กน้อย พลางกล่าวว่า “คนที่อยู่ในระดับเจ้าครองดินแดนไปบ่อน้ำพุวิญญาณขั้นสุดยอดเพื่อเลื่อนขั้นระดับเล็ก ๆ ระดับหนึ่ง คิดไม่ถึงว่า จะใช้เวลานานถึงเพียงนี้ ช่างสิ้นเปลืองจริง ๆ!”
“ไปกันเถอะ! เลิกทำให้พวกข้าเสียเวลาได้แล้ว”
คนจากเขตต้องห้ามใหญ่อื่น ๆ ต่างจ้องมองมู่เฉียนซีด้วยความเคียดแค้น เป็นเพราะสาวน้อยคนนี้ ทำให้คนของเขตต้องห้ามของพวกเขาตายไปไม่น้อยเลย
และสิ่งที่น่าโมโหยิ่งกว่าก็คือการที่พวกเขาไม่ปฏิบัติตามกฎอย่างโจ่งแจ้ง แต่ทว่าคนของเผ่าเทพกลับไม่เชื่อคำพูดของพวกเขาเลย หรือว่าคนของเผ่าเทพเหล่านี้จะเป็นพวกเดียวกับคนข ของเขตต้องห้ามทางตอนใต้สุด
ตอนที่พวกเขาถูกพาออกมาจากเขาเทพประทานแล้ว คนของเผ่าทพเหล่านั้นก็โบกมือและจากไปอย่างไม่ให้ซุ่มไม่ให้เสียง ซึ่งหลังจากที่คนเหล่านั้นหายไปแล้ว พวกเขาก็ไม่มีโอกาสที่จะได้ล้าง งแค้นอีกต่อไป
คนที่อยู่ตรงหน้าเหล่านี้กำลังจ้องมองนางอย่างถมึงทึง มู่เฉียนซีจึงเลิกคิ้วเล็กน้อยพลางกล่าวว่า “ทำไม? พวกเจ้ายังอยากจะสู้กันอีกสักรอบอย่างนั้นหรือ?”
นี่ล้อเล่นหรือไง? จะไปสู้ได้อย่างไรล่ะ?
ไม่ต้องพูดถึงขอบเขตของผู้แข็งแกร่งระดับใต้เท้าลึกลับที่ทรงพลังผู้นั้นเลย เพราะแค่ระดับใต้เท้าที่เพิ่งจะเลื้อนขั้นมาเมื่อครู่นี้ก็เพียงพอที่จะจัดการพวกเขาได้แล้ว นอกจากนี้ค คนของเขตต้องห้ามอื่น ๆ ก็ไม่มีใครบรรลุระดับใต้เท้าได้เลยอีกด้วย
“เหอะ! เขตต้องห้ามทางตอนใต้สุดอย่าได้ใจเกินไปนักเลย”
“พวกเจ้าก็แค่โชคดีเท่านั้นแหละ”
“…”
สุดท้ายแล้วคนเหล่านั้นก็จากไปด้วยความโมโห และตอนนี้พวกเขาก็ค้นพบว่าท่านเจ้าเมืองที่เคยยืนอยู่ด้วยกันกับพวกเขาก่อนหน้านี้ ได้ถูกร่างเงาสีดำร่างหนึ่งที่ปรากฏขึ้นมาอย่างกะท ทันหัน พานางหายไปอย่างรวดเร็ว
“ท่านอ๋องจิ่วเยี่ยพาท่านเจ้าเมืองไปแล้ว”
“ท่านอ๋องจะรวดเร็วเกินไปแล้วจริง ๆ! พวกเราก็รีบเดินทางกันเถอะ! จะกลับไปช้าเกินไปไม่ได้”
“…”
อย่างไรก็ตามสำหรับเรื่องที่ท่านอ๋องจิ่วเยี่ยมักจะลักพาตัวท่านเจ้าเมืองของพวกเขาไปภายในพริบตา ก็เป็นเรื่องที่พวกเขาเห็นกันจนชินตาแล้ว
นอกจากนี้หลังจากที่กลับมาจากบ่อน้ำพุเทพประทาน จิตวิญญาณของทุกคนก็เต็มไปด้วยพลัง และมีความสุขเป็นอย่างมาก
แต่ทว่าท่านเจ้าเมืองของพวกเขากลับต้องมาต่อสู้กับหมาป่าที่โหดร้ายตัวหนึ่ง ที่ไม่ว่าจะต้องการมากเท่าไรก็ไม่เพียงพอเสียที!