ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2411 วันก่อนปล่อยพิษงู
คนสวมชุดสีขาวที่อยู่ตรงหน้านี้ มีรูปร่างสูงโปร่ง และบนใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความนอบน้อม
จิ่วเยี่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “เกะกะ ถอยไปซะ”
รอยยิ้มของชายผู้นี้แข็งทื่อไปในทันที และมุมปากของจื่อโยวก็กระตุกขึ้นเล็กน้อยพลางกล่าวว่า “เยี่ย นี่คือท่านอ๋องไป๋กุ่ยเป็นอ๋องของคุกวิญญาณ หลังจากที่เจ้าฆ่าท่านอ๋องคุกวิ ญญาณคนก่อนแล้ว เขาก็คือคนที่แย่งตำแหน่งอ๋องมาได้”
ท่านอ๋องจิ่วเยี่ยผู้นี้ช่างเป็นคนที่ไม่เห็นผู้อื่นอยู่ในสายตาเลยจริง ๆ เป็นระดับอ๋องเหมือนกันแท้ ๆ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะไม่รู้จักเขา เดิมทีคงไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยอย่า างนั้นสินะ
แม้ว่าบนใบหน้าจะมีรอยยิ้มอยู่เสมอ แต่ภายในใจของอ๋องไป๋กุ่ยในเวลานี้แทบที่จะกระอักเลือดออกมา ด้วยความเคียดแค้นอ๋องจิ่วเยี่ยผู้นี้อยู่แล้ว
จิ่วเยี่ยกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ถอยไป หรือไม่ก็ตายซะ!”
“พวกเราต่างก็เป็นคนที่มาจากแดนนรกเหมือนกัน ในเมื่อท่านอ๋องจิ่วเยี่ยค้นพบบางอย่างแล้ว เช่นนั้นพวกเรามุ่งหน้าไปด้วยกันเลยดีหรือไม่?” อ๋องไป๋กุ่ยคลี่ยิ้มจาง ๆ แต่เขากลับสัมผ ผัสได้ว่าจิตสังหารของอ๋องจิ่วเยี่ยเริ่มน่ากลัวมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งอ๋องไป๋กุ่ยก็ทำได้เพียงหลีกทางให้เขาเท่านั้น
หลังจากนั้นจิ่วเยี่ยเป็นผู้นำพาคนกลุ่มนั้นหายไปต่อหน้าต่อตาอ๋องไป๋กุ่ยภายในพริบตา โดยที่จิ่วเยี่ยไม่แม้แต่จะเหลือบตามองอ๋องไป๋กุ่ยเลยแม้แต่นิดเดียว
“ท่านอ๋องไป๋กุ่ย พวกเราไม่ลงมือโจมตีหรือขอรับ? ท่านอ๋องจิ่วเยี่ยผู้นี้จะหยิ่งยโสเกินไปแล้วนะขอรับ” พลันนั้นชายชราที่อยู่ข้างกายอ๋องไป๋กุ่ยก็กล่าวขึ้นมาอย่างชั่วร้าย
อ๋องไป๋กุ่ยกล่าวว่า “ในอดีตแม้แต่เจ้าของแห่งคุกใหญ่ทั้งหกยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา แม้ว่าหลังจากการต่อสู้ครั้งนั้นความแข็งแกร่งของอ๋องจิ่วเยี่ยจะได้รับความเสียหายไปบ้าง แต่ข้ าก็ไม่มั่นใจว่าข้าเพียงคนเดียวจะสามารถฆ่าเขาได้อยู่ดี”
“หรือพวกเราจะทำแค่เฝ้าดูท่านอ๋องจิ่วเยี่ยแย่งหอคอยนิรันดร์ไป ส่วนพวกเราก็มาอย่างเปล่าประโยชน์อย่างนั้นหรือขอรับ?”
“แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว! ก่อนหน้านี้ที่อ๋องจิ่วเยี่ยเอาชนะเจ้าแห่งคุกทั้งหกได้เพราะไม่มีจุดอ่อน แต่ทว่าตอนนี้เขากลับมีจุดอ่อนที่ร้ายแรง หญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาค คนนั้น น่าจะเป็นหญิงสาวที่หวงจิ่วเยี่ยพากลับมาที่คุกโลหิตด้วยตามข่าวลือเป็นแน่” มุมปากของอ๋องไป๋กุ่ยพลันคลี่ยิ้มบาง ๆ ออกมา
“ผู้หญิงคนนั้นอ่อนแอมากจริง ๆ! อ่อนแอจนข้าสามารถฆ่านางได้อย่างง่ายดาย ตราบใดที่จับจุดอ่อนนั้นเอาไว้ได้ ก็มาคอยดูกันว่าหวงจิ่วเยี่ยจะเอาอะไรมาแย่งมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรั นดร์กับข้าได้?” ถึงรอยยิ้มของเขาจะอ่อนโยน แต่ดวงตาที่เย็นยะเยือกคู่นั้นกลับทำให้คนมองต้องสั่นสะท้านไปทั้งตัวเลยทีเดียว
การปรากฏตัวของหนึ่งในเก้าของมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ที่ยิ่งใหญ่ อย่างหอคอยฝึกอสูรแห่งความมืดของหอคอยนิรันดร์ ได้ทำให้ผู้แข็งแกร่งของแดนนรกมาถึงที่นี่ได้
และสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายของแดนอัคคีน้ำแข็ง ก็ไม่ใช่อุปสรรคในการก้าวเดินของคนเหล่านี้เลย
หิมะปกคลุมไปทั่วเทือกเขาที่ไม่มีที่สิ้นสุด แต่หลังจากพลังแห่งความมืดปะทุออกมา หิมะสีขาวก็เปลี่ยนกลายเป็นสีดำ ซึ่งทำให้บริเวณโดยรอบดูมืดมนและอันตรายมากขึ้นไปอีก
หอคอยสีดำขนาดเล็กเป็นผู้ชี้ทางให้กับพวกของมู่เฉียนซีอยู่ตลอด แต่ทว่าในตอนที่พวกเขากำลังเข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้นเรื่อย ๆ นั้น ความเร็วของหอคอยสีดำขนาดเล็กนี้ก็เปลี่ยนเป็นรวด ดเร็วมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นก็เกือบที่จะหลุดจากการควบคุมของมู่เฉียนซีอยู่แล้ว
ฟิ้ว!
หลังจากที่เสียงนี้ดังขึ้น หอคอยจำลองนั้นก็หายไปทันที
“ตามไป!” เมื่อเห็นว่าหอคอยจำลองกำลังจะหนี มู่เฉียนซีก็กล่าวขึ้นมาอย่างรีบร้อน
การที่มีหอคอยจำลองทำให้การค้นหาหอคอยนิรันดร์นั้นสะดวกสบายขึ้นมาก ฉะนั้นย่อมไม่สามารถปล่อยให้มันหนีไปได้แน่นอนอยู่แล้ว
จิ่วเยี่ยคว้าเอวของมู่เฉียนซีไว้พลางกล่าวว่า “ตกลง!”
เฟี้ยว เฟี้ยว เฟี้ยว!
ตอนที่พวกเขากำลังไล่ตามหอคอยจำลองอยู่นั้น ก็มีร่างเงาสีดำจำนวนหลายร่างปรากฏตัวขึ้น คนทั้งสิบกว่าคนนั้นล้วนเป็นหญิงสาวที่มีความแข็งแกร่งทั้งสิ้น
พลังนรกที่คุ้นเคยแผ่กระจายออกมาจากตัวของพวกนาง นอกจากนี้หญิงสาวเหล่านี้ล้วนมีหน้าตาที่งดงามและมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก
“ข้าก็คิดว่าใครกำลังพาคนรักตัวน้อยมาเที่ยวเล่นที่นี่เสียอีก! ที่แท้ก็ท่านอ๋องจิ่วเยี่ยนี่เอง” หญิงสาวที่เป็นผู้นำกล่าวพร้อมคลี่ยิ้มอย่างงดงาม
จื่อโยวกล่าวว่า “ที่แท้ก็เป็นโยวจีสาวงามของคุกมืดนี่เอง! คุกมืดนั้นมีสาวงามอยู่มากมาย ซึ่งมันก็ทำให้ข้าใจเต้นทุกครั้งที่ได้เห็นเลยจริง ๆ
และเมื่อได้เห็นสาวงาม จื่อโยวก็เริ่มเจ้าชู้ทันที
โยวจีจ้องมองไปยังคนที่อยู่ในอ้อมแขนของจิ่วเยี่ย แล้วเอ่ยปากว่า “ข้างกายของท่านอ๋องจิ่วเยี่ยไม่เคยมีหญิงสาวใดมาก่อน แต่ตอนนี้กลับมีน้องสาวตัวน้อยผู้นี้ นี่คงจะเป็นพระชาย ยาของคุกโลหิตของพวกเจ้าอย่างนั้นสินะ! รูปร่างหน้าตาก็พอไปวัดไปวาได้อยู่หรอก แต่ความสามารถของนางยังด้อยกว่าพี่น้องของข้ามากมายนัก”
“ในเมื่อตอนนี้ท่านอ๋องจิ่วเยี่ยสามารถยอมรับหญิงสาวได้แล้ว เหตุใดถึงไม่ยอมรับเหล่าพี่น้องของข้าเหล่านี้ไปด้วยเล่า เมื่อถึงเวลานั้นความสัมพันธ์ระหว่างคุกโลหิตและคุกมืดจะได้แ แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น และการรวมแดนนรกทั้งหมดเข้าด้วยกันก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป”
ดวงตาที่มีเสน่ห์คู่นั้นจ้องมองไปที่จิ่วเยี่ย แม้ว่าจะไม่เห็นหน้าตาของเขา แต่ด้วยความสามารถเช่นนี้ของอ๋องจิ่วเยี่ยก็สามารถทำให้หญิงสาวทั่วทั้งแดนนรกเพ้อฝันได้
แต่ทว่าผู้ชายที่แข็งแกร่งเช่นนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีหญิงสาวที่อ่อนแอราวกับมดปลวกก็มิปานเช่นนี้อยู่ข้างกายได้ นี่ช่างเป็นเรื่องที่ให้อภัยไม่ได้จริง ๆ
มู่เฉียนซีสัมผัสได้ถึงสายตาที่ทิ่มแทงมาบนร่างของนาง ซึ่งมันก็แทบจะแทงนางจนกลายเป็นรูพรุนอยู่แล้ว
และยังไม่ทันรอให้นางได้ตอบกลับ จิ่วเยี่ยก็เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว!
เขาโบกมือเพียงแค่แผ่วเบา ก็ทำให้พลังอันน่าสะพรึงกลัวพุ่งทะยานใส่คนของคุกมืดกลุ่มนั้นอย่างไร้ความปรานี
ตูมมมม โครมมม!
มีเสียงกึกก้องดังขึ้นอย่างน่าสะพรึงกลัว และพื้นดินก็พลันแตกออกจากกัน โยวจีคิดไม่ถึงเลยว่าอ๋องจิ่วเยี่ยจะลงมือโดยไม่พูดไม่จาเลยสักคำเช่นนี้
“ถอยเร็ว!”
จิตสังหารที่เย็นยะเยือกทำให้คนหายใจไม่ออก และเมื่อถูกดวงตาสีฟ้าเย็นยะเยือกคู่นั้นจ้องมองมา คนของคุกมืดเหล่านั้นก็รู้สึกว่าเงาแห่งความตายกำลังขังพวกนางเอาไว้อย่างสมบูรณ์ จ จนทำให้รู้สึกเย็นวาบไปถึงขั้วหัวใจเลยทีเดียว
ท่านอ๋องจิ่วเยี่ยโกรธแล้วจริง ๆ! และมันก็เป็นเพราะคำพูดนั้นของโยวจี ซึ่งเขาจะปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้มาพูดจาไร้สาระใส่ซีของเขาได้อย่างไร
พรวด พรวด พรวด!
คนของคุกมืดทั้งหมดรวมไปถึงโยวจีล้วนถูกกระบวนท่านี้ของจิ่วเยี่ยทำร้าย และใบหน้าของพวกนางก็เปลี่ยนเป็นขาวซีดขึ้นมาทันที
พวกนางรู้ว่าอ๋องจิ่วเยี่ยไม่ใช่คนที่จะถนอมหญิงงามอยู่แล้ว แต่ไม่คิดเลยว่าเขาจะลงมือได้โหดร้ายเช่นนี้เพื่อผู้หญิงเพียงคนเดียวเท่านั้น
มู่เฉียนซีกวาดตามองไปที่พวกนางพลางกล่าวว่า “พรูดด! หญิงชรากลุ่มนี้แสดงความสามารถต่อหน้าข้าอย่างมียางอายหน่อยได้หรือไม่!”
“นอกจากนี้ การร่วมมือกันอย่างแข็งแกร่งหรือ พวกเจ้ารู้สึกว่าความสามารถของคุกมืดของพวกเจ้าแข็งแกร่งแล้วอย่างนั้นหรือ? คนอย่างพวกเจ้าที่ถูกจิ่วเยี่ยจัดการได้เพียงแค่กระบวนท่าเ เดียว มีเหตุผลอันใดให้ต้องอยากที่จะร่วมมือกับคนอย่างพวกเจ้าด้วยอย่างนั้นหรือ? เอาพวกเจ้ามาเป็นตัวถ่วงหรืออย่างไรกัน?”
หายากนักที่มู่เฉียนซีจะปากร้ายเช่นนี้ ซึ่งมันก็ทำให้หญิงสาวกลุ่มนี้โมโหจนหน้าดำหน้าแดงเลยทีเดียว
หญิงชราอย่างนั้นหรือ ยนางสาวน้อยอ่อนแอสมควรตายผู้นี้นี่!
มู่เฉียนซียังกล่าวอีกว่า “จื่อโยวเจ้าก็อีกคน คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะรู้สึกว่าคนเช่นนี้งดงาม ข้าไม่รังเกียจที่จะมอบยาล้างตาให้เจ้าสักหน่อยหรอกนะ มันจะได้ช่วยทำให้เจ้าไม่ตา าบอดมากไปกว่านี้ได้”
จื่อโยวกล่าวว่า “อย่านะ! คนงาม นั่นข้าก็แค่พูดประชดประชันเล่น ๆ เท่านั้นเอง เจ้าสวยที่สุดแล้ว พวกนางไม่เหมาะแม้แต่จะถือรองเท้าให้เจ้าเลยด้วยซ้ำ ข้าเองก็คิดไม่ถึงว่าพวก นางจะหน้าหนาขนาดนี้ แค่มอบเสาให้พวกนางต้นหนึ่งก็รีบปีนป่ายขึ้นมาแล้ว ไม่รู้ว่าความสามารถของตนเองมีแค่ไหนหรืออย่างไรกัน”
แน่นอนว่ายาของหมอปีศาจเป็นหนึ่งในวิธีที่จื่อโยวไม่อยากลิ้มลองมากที่สุดแล้ว!
ใต้เท้าจื่อโยวเป็นคนที่ถนอมสาวงามมาเสมอ และเขามักจะทำดีต่อสาวงามเป็นอย่างมาก แต่ตอนนี้กลับดูถูกพวกนางจนกลายเป็นเช่นนี้ เพียงเพราะคำพูดของหญิงสาวผู้นี้เพียงประโยคเดียว เท่านั้น
พวกนางจ้องมองไปทางมู่เฉียนซีด้วยความโกรธ ผู้หญิงคนนี้ได้รับความโปรดปรานจนหยิ่งผยอง คิดไม่ถึงว่าจะอาศัยความรักของอ๋องจิ่วเยี่ยปฏิบัติต่อคนสนิทของอ๋องจิ่วเยี่ยอย่างจื่อโยวด ด้วยความไร้มารยาทเช่นนี้ นางบีบให้ใต้เท้าจื่อโยวดูถูกพวกนาง ซึ่งนี่ก็เหมือนเป็นการต่อต้านพวกนางนั่นเอง
โยวจีกล่าวอย่างโกรธเคืองว่า “คุกโลหิตนี่จะเกินไปหน่อยแล้วจริง ๆ คิดว่าพวกเราคุกมืดจะรังแกได้ง่าย ๆ จริง ๆ อย่างนั้นหรือ?”
พวกนางโกรธขึ้นมาแล้วจริง ๆ แม้ว่าคนที่อยู่ข้างหน้าผู้นี้จะเป็นผู้แข็งแกร่งที่น่าสะพรึงจนทำให้หายใจไม่ออกที่สุดในคุกโลหิตแล้ว ทว่าพวกนางเองก็ไม่มีทางยินยอมเช่นกัน ไม่มีห หญิงสาวคนไหนที่จะทนโดนถูกดูถูกทั้งเรื่องอายุ และรูปร่างหน้าตาได้เช่นกัน