ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2412 ความเผด็จการของจิ่วเยี่ย
แต่มู่เฉียนซีกลับกล่าวว่า “จิ่วเยี่ย พวกเราอย่าเสียเวลากับพวกนางอยู่เลย เรื่องไล่ตามหอคอยจำลองสำคัญกว่านะ!”
“ตกลง!” หลังจากนั้นพวกเขาก็ไม่ได้สนใจคนของคุกมืดที่กำลังโกรธเหล่านี้เลยแม้แต่น้อย
ผู้คนของคุกมืดที่เดิมทีแล้วเตรียมตัวจะลงมือต่างพากันชะงักงันไปทันที “นี่หวงจิ่วเยี่ยหมายความว่าอย่างไรกันแน่?”
“ไม่สนใจข้าที่เป็นอ๋องเหมือนกัน แต่กลับฟังคำพูดของผู้หญิงคนหนึ่ง นี่เขาถูกผู้หญิงคนนั้นมอมยาเสน่ห์อะไรให้กันแน่!” โยวจีขบฟันแน่นพลางกล่าว
“ท่านอ๋องโยว เช่นนั้นพวกเรา…”
“ตามไป!”
ในตอนที่นางกำลังไล่ตามกลุ่มคนของคุกโลหิตอยู่นั้น ก็มีคนในชุดสีขาวกลุ่มหนึ่งปรากฏตัวขึ้น
“ก่อนหน้านี้ข้าเองรู้สึกก็สับสนเล็กน้อยว่าเพราะเหตุใดภายในดินแดนที่มีหยินหยางสองขั้วเช่นนี้ถึงมีกลิ่นหอมจาง ๆ ลอยมาได้ ที่แท้สาวงามแห่งคุกมืดก็มาด้วยนี่เอง ข้านี่ช่างโชคดีมากจริง ๆ” ทันใดนั้นก็มีน้ำเสียงที่อ่อนโยนดังขึ้นมา
โยวจีจ้องมองไปทางสุภาพบุรุษผู้สง่างามคนนี้พลางกล่าวว่า “ไป๋กุ่ย อย่ามาทำเป็นเสแสร้งกับข้าเลย ถึงคนอื่นจะไม่รู้นิสัยของเจ้า แต่เจ้าคิดว่าคนที่เป็นอ๋องเหมือนกันอย่างข้าจะไม่รู้ และถูกเจ้าล่อลวงได้อย่างนั้นหรือ?”
“ดูเหมือนอ๋องจิ่วเยี่ยจะรู้ว่าหอคอยนิรันดร์อยู่ที่ใด? หากพวกเราไล่ตามเขาทันคงได้รับสิ่งที่คาดไม่ถึงเป็นแน่ แต่ทว่าความสามารถของอ๋องจิ่วเยี่ยล้วนเป็นที่ประจักษ์ ดังนั้นโยวจี เจ้ายินยอมที่จะร่วมมือกับข้าหรือไม่?” อ๋องไป๋กุ่ยกล่าวถาม
“ดูเหมือนว่านอกจากการร่วมมือกับเจ้าแล้ว ก็ไม่มีหนทางอื่นอีกแล้วล่ะ อย่างไรเสียเมื่อครู่นี้ข้าก็ไม่ทันระวังตัวจนถูกอ๋องจิ่วเยี่ยทำให้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเขาก็เป็นคนที่แข็งแกร่งมากจริง ๆ!” โยวจีกล่าวด้วยแววตาที่เย็นชา
“ให้ร่วมมือกับเจ้าก็ได้อยู่หรอก แต่ข้ามีเงื่อนไขอยู่ข้อหนึ่ง” โยวจีกล่าวพลางมองไปทางไป๋กุ่ย
“เงื่อนไขคืออะไร?”
“หญิงสาวที่อยู่ข้างกายอ๋องจิ่วเยี่ยคนนั้น เจ้าต้องมอบให้ข้าเป็นคนจัดการ เห็นได้ชัดว่าความสามารถของหญิงสาวผู้นั้นอ่อนแอราวกับมดปลวกก็มิปาน แต่กลับกล้ากล่าววาจาดูหมิ่นข้าโดยอาศัยความโปรดปรานของอ๋องจิ่วเยี่ย ข้าจะทำให้นางไม่ได้ตายดีอย่างแน่นอน” โยวจีกล่าวด้วยท่าทางที่ชั่วร้าย
“ก็แค่ผู้หญิงเพียงคนเดียว ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว!” อ๋องไป๋กุ่ยกล่าวตอบ
ตอนนี้มู่เฉียนซีกำลังค้นหาหอคอยจำลอง แต่ดูเหมือนว่าการสนองตอบของนางที่มีต่อหอคอยจำลองจะถูกพลังแห่งความมืดตัดขาดไปเสียแล้ว
“หายไปแล้ว! แต่มันต้องอยู่ใกล้ ๆ นี้อย่างแน่นอน”
แววตาของจิ่วเยี่ยกวาดมองไปรอบบริเวณ จากนั้นเขาก็กล่าวอย่างเย็นชาว่า “อยู่ใกล้ ๆ นี้อย่างนั้นหรือ?”
“ซีกอดข้าไว้แน่น ๆ สิ”
มู่เฉียนซีสัมผัสได้ถึงพลังอันแข็งแกร่งที่ปะทุออกมาจากตัวของจิ่วเยี่ย นางจึงกล่าวว่า “จิ่วเยี่ยเจ้าต้องการจะก่อหายนะอย่างนั้นหรือ?”
“อื้ม! อีกเดี๋ยวก็เรียบร้อยแล้ว อย่ากังวลไปเลย!”
ทันใดนั้น จิ่วเยี่ยก็ระเบิดพลังแห่งความมืดที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าหอคอยนิรันดร์ออกมา และพลังนี้ก็กระจายไปยังพื้นที่ที่ถูกปกคลุมด้วยพลังแห่งความมืดนั้น
หมอกสีดำเปลี่ยนเป็นอันตรายและชั่วร้ายมากยิ่งขึ้น และถึงที่นี่จะมีแมลงวันที่น่ารำคาญอีกมากมาย แต่จิ่วเยี่ยก็สามารถจัดการได้อย่างรวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง
เพราะการจัดการที่รวดเร็วฉับไว้เช่นนี้ ก็ย่อมต้องทำให้บริเวณโดยรอบทั้งหมดราบเป็นหน้ากองอยู่แล้ว
หากเป็นเช่นนี้การค้นหาหอคอยแห่งความมืด ก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว
คนที่ไล่ตามฝีเท้าของจิ่วเยี่ยอย่างพวกของอ๋องไป๋กุ่ยและโยวจีต่างก็หยุดฝีเท้าลง พวกเขากล่าวอย่างประหลาดใจว่า “อ๋องจิ่วเยี่ยบ้าไปแล้วหรือ! ผลาญพลังไปมากมายขนาดนั้นยังไม่พอ นี่เขาคิดจะทำให้บริเวณโดยรอบราบเป็นหน้ากองด้วยอย่างนั้นหรือ?”
“ระวังหน่อย อย่าให้ถูกผลกระทบ ความคิดของอ๋องจิ่วเยี่ยไม่สามารถคาดการณ์ได้ แต่นี่ก็ถือว่าเป็นโอกาสสำหรับพวกเราเช่นกัน” พลันนั้นแววตาของอ๋องไป๋กุ่ยก็ฉายแววเย็นยะเยือกออกมา
“ที่เจ้าพูดมาก็ถูก การลงมือของอ๋องจิ่วเยี่ยครานี้ผลาญพลังไปไม่น้อยเลย นอกจากนี้เขาก็ยังไม่ฟื้นตัวจากการต่อสู้คราวที่แล้วอีกด้วย เมื่อถึงเวลานั้นพวกเราทั้งสองคนค่อยร่วมมือกันฉวยโอกาสจัดการเขาเสีย เช่นนี้แล้วจะต้องมีหนทางเอาชนะได้อย่างแน่นอน” โยวจีกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ตูมมม!
เทือกเขาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสถานที่แห่งนี้ ได้ถูกผ่าครึ่งภายใต้พลังแห่งการทำลายล้างของจิ่วเยี่ย
พื้นดินสั่นสะเทือนอย่างบ้าคลั่ง ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ใต้เท้าของพวกเขาพลันหายไป ทันใดนั้นก็มีเหวลึกอันดำมืดปรากฏขึ้นมา
ถึงหุบเหวนั้นจะลึกจนมองไม่เห็นก้นบึ้ง แต่มู่เฉียนซีก็สามารถสัมผัสได้ว่าหอคอยจำลองของนางอยู่ข้างในเหวลึกแห่งนี้แน่นอน
นอกจากนี้พลังแห่งความมืดอันน่าสะพรึงกลัวที่กำลังแผ่กระจายออกมานั้น ก็ทำให้นางมั่นใจว่าข้างในนี้ไม่ใช่หอคอยจำลองอีกอันหนึ่ง แต่มันคือร่างจริงของหอคอยนิรันดร์อย่างแน่นอน
ในตอนที่มู่เฉียนซีกำลังจ้องมองไปในเหวลึกอยู่นั้น ก็มีกลิ่นอายจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งทะยานเข้ามา ซึ่งเห็นได้ชัดว่าคนของคุกวิญญาณและคุกมืดกำลังมาแล้วนั่นเอง
“เป็นพลังแห่งความมืดที่แข็งแกร่งจริง ๆ ดูเหมือนว่าที่นี่จะต้องมีหอคอยนิรันดร์อยู่เป็นแน่!”
“หอคอยนิรันดร์ อยู่ภายในเหวลึกนั่น”
“ไสหัวไป!” จิ่วเยี่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เผด็จการ
อ๋องไป๋กุ่ยคลี่ยิ้มจนตาหยี และกล่าวขึ้นมาว่า “ไม่ว่าอย่างไรพวกเราก็ไม่มีทางยอมแพ้เรื่องของหอคอยนิรันดร์อย่างแน่นอน”
“ท่านอ๋องจิ่วเยี่ยท่านยังคงเผด็จการเช่นเคยเลยนะ แต่ว่าคราวนี้ ข้าอยากจะขอชี้แนะท่านอ๋องจิ่วเยี่ยสักหน่อย…” โยวจีกล่าวจบก็พุ่งทะยานออกมา
พวกเขาลงมืออย่างรวดเร็ว และรีบคว้าโอกาสตอนที่จิ่วเยี่ยยังไม่ฟื้นตัวจากการระเบิดพลังอันแข็งแกร่งเมื่อครู่
ด้วยเหตุนี้จิ่วเยี่ยจึงได้ผลักมู่เฉียนซีออกไป และเผชิญหน้ากับโจมตีของอ๋องทั้งสองเพียงลำพัง
ตูมมมม!
พลังที่น่าสะพรึงกลัวปะทะเข้าด้วยกัน และทันใดนั้นพื้นที่บริเวณโดยรอบก็เปลี่ยนกลายเป็นหลุมเป็นบ่อไปในทันที
ตูมมม โครมมม!
การต่อสู้ของระดับอ๋อง มีพลังมหาศาลราวกับคลื่นยักษ์ในมหาสมุทรเลยทีเดียว
ส่วนคนที่จื่อโยวพามาด้วยก็กำลังเผชิญหน้ากับคนของคุกมืดและคุกวิญญาณ จื่อโยวกล่าวอย่างเย็นชาว่า “เศษสวะจากคุกทั้งสองอย่างพวกเจ้าอยากตายมากอย่างนั้นสินะ เช่นนั้นข้าจะสนองให้พวกเจ้าเอง”
หลังจากนั้นก็มีระดับใต้เท้าของคุกมืดได้ฉวยโอกาสช่วงที่กำลังชุลมุน พุ่งทะยานไปยังสถานที่ที่มู่เฉียนซีอยู่ “นางสารเลว ตอนนี้ท่านอ๋องจิ่วเยี่ยและใต้เท้าจื่อโยวไม่มีเวลามาปกป้องเจ้าแล้ว ข้าจะคอยดูว่าเจ้าจะกล้าหยิ่งผยองอยู่อีกหรือไม่ จงรอรับความตายเสียเถอะ!”
แต่ทว่ามู่เฉียนซีกลับยืนอยู่ที่เดิมและไม่ขยับไปไหน นางจ้องมองไปยังหญิงสาวที่กำลังพุ่งทะยานเข้ามาพร้อมรอยยิ้มจาง ๆ ที่มุมปาก พลางเอ่ยว่า “คนที่รนหาที่ตาย คือเจ้าต่างหาก!”
“อู๋ตี้ เสี่ยวหง เสี่ยวโม่โม่ออกมาเล่นเป็นเพื่อนนางเถอะ!”
ระดับใต้เท้าของคุกมืดผู้นี้คิดว่ามู่เฉียนซีจะต้องปล่อยกระบวนท่าที่ร้ายแรงออกมา แต่ผลปรากฏว่านางเพียงแค่เรียกสัตว์เทพพันธสัญญาณทั้งสามตัวออกมาเท่านั้น และสำหรับระดับใต้เท้าแล้วสัตว์เทพเหล่านี้ไม่ได้เป็นภัยคุกคามแต่อย่างใด
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! นี่คือไพ่ตายของเจ้าอย่างนั้นหรือ? เจ้าคิดว่าพวกมันจะปกป้องเจ้าได้หรืออย่างไร?” นางกล่าวราวกับเห็นเรื่องที่ตลกขบขันมากก็มิปาน
แต่ทว่าทันทีที่สิ้นเสียงหัวเราะของนาง ก็มีมือมือหนึ่งปรากฏอยู่บนลำคอของนางอย่างกะทันหัน
แกร่ก!
ดวงตาของนางเบิกกว้าง คอของนางถูกหักไปทั้งอย่างนั้น และนางก็ไม่รู้ว่าผู้ใดคือคนที่ฆ่านางจนกระทั่งนางสิ้นใจไป
ในบรรดากลุ่มของระดับใต้เท้า ความสามารถของมู่เฉียนซีนั้นไม่ควรค่าที่จะกล่าวถึงเลยด้วยซ้ำ นอกจากนี้ยังมีผู้คนมากมายที่หมายจะเอาชีวิตนาง แต่สุดท้ายพวกเขาต่างก็ถูกกำจัดก่อนที่จะเข้าใกล้มู่เฉียนซีได้เสียอีก
ดาบที่แข็งแกร่งที่สุดที่อู๋หยาฝึกฝนมาด้วยตนเอง เป็นดาบที่คมมากที่สุดแล้ว
บังอาจมาทำร้ายคนที่เขายอมรับว่าเป็นเจ้านาย ก็จะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
“เป็นไปได้อย่างไร?” โยวจีค้นพบว่าคนของนางไม่เพียงแต่จะจับนางเด็กสารเลวนั้นไม่ได้แต่กลับตายไปไม่น้อยอีกด้วย นี่มันจะแปลกประหลาดเกินไปแล้ว
ดูเหมือนว่าตอนที่อ๋องจิ่วเยี่ยต่อสู้กับพวกเขา ก็ได้เตรียมคนมาคุ้มครองคนของเขาเอาไว้แล้ว นอกจากนี้ยังเป็นคนที่มีความสามารถแข็งแกร่ง และไม่ใช่คนที่ใต้เท้าระดับบนทั่วไปจะสามารถเทียบเคียงได้อีกด้วย
ครืนนนน!
อ๋องทั้งสามระเบิดการต่อสู้อย่างดุเดือดออกมา และรอยแตกของพื้นดินที่อยู่บริเวณโดยรอบก็กว้างมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว
ขณะเดียวกันเหวลึกอันดำมืดนั้นก็กลืนกินอย่างต่อเนื่อง จนมิติของมันขยายใหญ่มากขึ้นเป็นเท่าทวี
ในเวลานี้มันยากที่จะรู้ผลแพ้ชนะได้ ฉะนั้นอ๋องไป๋กุ่ยจึงกลอกตาแล้วพุ่งทะยานออกไป จากนั้นเขาก็กล่าวว่า “อ๋องโยว เรื่องการตรึงอ๋องจิ่วเยี่ยข้ามอบให้เป็นหน้าที่ของเจ้าก็แล้วกัน ข้าจะไปเอาหอคอยนิรันดร์ออกมาก่อน มิเช่นนั้นพลังของหอคอยนิรันดร์จะแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อย ๆ และเกรงว่าพวกเราจะไม่สามารถควบคุมมันได้อีก”
.
.