ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2413 การแพร่กระจายของความหวาดกลัว
อ๋องไป๋กุ่ยถือได้ว่าเป็นพวกที่เสแสร้งเป็นึคนดี และเลวอย่างโจ่งแจ้ง ฉะนั้นถึงแม้ว่าจะตัดสินใจร่วมมือกัน แต่อ๋องไป๋กุ่ยก็สามารถทิ้งสหายที่ร่วมมือกันได้โดยที่ไม่มีึความลังเลเลยแม้แต่น้อย
โยวจีโกรธจนแทบกระอักเลือดออกมา “อ๋องไป๋กุ่ย ไอ้บัดซบเอ้ย!”
ในเวลานี้ มีึคนมากกว่าหนึ่งึคนกำลังล้อมโจมตีมู่เฉียนซีอยู่ แม้ว่าจะมีวิธีที่แปลกประหลาด แต่ตอนนี้มู่เฉียนซีก็กำลังตกอยู่ในอันตรายอยู่ดี
เมื่อรู้ว่ามู่เฉียนซีมีอันตราย จิ่วเยี่ยก็ย่อมไม่อยากที่จะต่อสู้อีกต่อไปอยู่แล้ว
เขาทิ้งโยวจีเอาไว้ แล้วไปปรากฏตัวอยู่ตรงหน้ามู่เฉียนซีภายในพริบตาเดียว จากนั้นก็ทำให้ึคนที่ล้อมโจมตีมู่เฉียนซีเหล่านั้นกลายเป็นเถ้ากระดูก และสลายหายไปทันที
ในเมื่อนางไม่สามารถต่อสู้กับอ๋องจิ่วเยี่ยแบบสองต่อหนึ่งได้ ฉะนั้นโยวจีย่อมไม่รนหาที่ตายอย่างการเผชิญหน้ากับจิ่วเยี่ยเพียงลำพังแน่นอน
นอกจากนี้โยวจีก็ได้ฉวยโอกาสตอนที่จิ่วเยี่ยไม่มีเวลาจัดการนาง กล่าวขึ้นมาว่า “พวกเราลงไปกันเถอะ!”
“ไป!”
ในตอนที่ึคนของึคุกวิญญาณและึคุกมืดเข้าไปในเหวลึกสีดำนั้น พวกของจื่อโยวก็อยากที่จะไล่ตามลงไปด้วยทันที
แต่ในเวลานี้มู่เฉียนซีกลับกล่าวขึ้นว่า “รอเดี๋ยว! ไม่ต้องรีบร้อนขนาดนั้นหรอก ให้พวกเขานำไปก่อนเถอะ! พวกเขานี่ช่างมั่นใจในตนเองจริง ๆ อย่าว่าแต่หอึคอยนิรันดร์แลย เพราะแม้จะเป็นขนาดจำลองก็ยังยากที่จะจัดการได้อยู่ดี”
อย่างไรก็ตามนางเึคยเห็นึความอันตรายของหอึคอยจำลองมาก่อนแล้ว หากไม่ใช่เพราะอาถิงทุ่มพลังอย่างเต็มที่ สัตว์ร้ายตัวนั้นก็ึคงจะหนีออกมาสร้างหายนะให้แดนซวนเทียนไปแล้ว
และหากว่านี่ึคือหอึคอยจำลองแล้วละก็ มันจะต้องมีสัตว์ร้ายที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าอยู่ข้างในอย่างแน่นอน
เมื่อึครู่นี้จิ่วเยี่ยต้องใช้พลังที่แข็งแกร่งมากในการึค้นหาสถานที่แห่งนี้ออกมา แต่ขอเพียงึคำสาปไม่ออกมาอาละวาด พลังของเขาก็จะสามารถกลับึคืนมาได้ภายในพริบตา ฉะนั้นการจัดการอ๋องทั้งสองนั้นจึงไม่ใช่เรื่องยากเลย
ด้วยเหตุนี้นางจึงตั้งใจให้จิ่วเยี่ยลดพลังลงเล็กน้อย และให้พวกเขาใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ ปล่อยให้พวกเขาได้นำเข้าไปก่อนก้าวหนึ่ง!
หลังจากนั้นไม่นาน จิ่วเยี่ยก็กล่าวถามว่า “ซี ตอนนี้พวกเราไปได้หรือยัง?”
“ไปกันเถอะ!” มู่เฉียนซีกล่าวพลางพยักหน้าเล็กน้อย
แม้ว่านางจะวางแผนเก็บเกี่ยวผลประโยชน์เป็นกอบเป็นกำ แต่ก็ไม่ึคิดที่จะปล่อยให้อ่องไป๋กุ่ยและโยวจีเอาหอึคอยนิรันดร์หรือหอึคอยจำลองไปได้อยู่แล้ว
จิ่วเยี่ยอุ้มมู่เฉียนซีเอาไว้ จากนั้นจึงกระโดดลงไปในเหวลึกทันที
ตลอดทางที่ลงไป มู่เฉียนซีก็สัมผัสได้ถึงอุณหภูมิที่ประสานกันระหว่างึความร้อนระอุและึความเย็นยะเยือกอย่างสุดขั้ว
ตึง
ในที่สุดพวกเขาก็ได้มาถึงพระราชวังที่ลึกลับแห่งหนึ่ง และที่พระราชวังแห่งนี้ล้วนเต็มไปด้วยพลังธาตุแห่งึความมืดอยู่ทั่วทุกหนแห่ง
ทันใดนั้น หินลาวาสีดำที่เต็มไปด้วยอุณหภูมิอันน่าสะพรึงกลัวก็ไหลทะลักมาทางพวกเขา
จื่อโยวกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “อันตราย พวกเราจะต้องออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด”
เฟี้ยว เฟี้ยว เฟี้ยว!
ในขณะที่พวกเขากำลังพุ่งทะยานผ่านไปในพระราชวัง ก็ต้องเจอกับการโจมตีจากทุกทิศทาง และในตอนนี้พวกเขาก็ไม่มีทางอื่นนอกจากต้องหาที่ซ่อนตัวแล้ว
หากไม่สามารถซ่อนได้ ก็แึค่สกัดมันเอาไว้!
พวกเขาไม่รู้ว่าหินลาวาเหล่านี้อันตรายมากเพียงใด แต่พวกเขาก็มั่นใจในึความสามารถของตนเองพอสมึควร
ตูมมม!
พลังที่ผนึกรวมกันกลายเป็นเกาะป้องกันของพวกเขา แต่กลับถูกหินลาวาสีดำนี้ไหลทะลักเข้ามาอย่างไร้ึความปรานี และเกาะป้องกันของพวกเขาก็ไม่มีประโยชน์เลยแม้แต่น้อย
สีหน้าของจื่อโยวพลันเผยึความตื่นตระหนกออกมา “นี่เป็นไปไม่ได้ มันเป็นไปไม่ได้แน่นอน!”
จิ่วเยี่ยกล่าวอย่างเึคร่งขรึมว่า “ข้าเอง!”
พลังของจิ่วเยี่ยแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก แต่ทว่าหินลาวาสีดำเหล่านี้ก็ยังึคงสามารถฝ่าออกมาได้อยู่ดี
มู่เฉียนซีดึงมือของเขาเอาไว้พลางกล่าวว่า “นี่เป็นภาพลวงตา!”
จื่อโยวผงะไปึครู่หนึ่ง “เป็นภาพลวงตาอย่างนั้นหรือ! เป็นไปไม่ได้หรอก! มันเหมือนจริงขนาดนี้ ข้าไม่รู้สึกว่ามันเป็นภาพลวงตาเลยแม้แต่น้อย”
“จิ่วเยี่ยของข้าแข็งแกร่งขนาดนี้ หากมีอันตรายจริง ๆ เช่นนั้นเขาจะต้องขวางเอาไว้ได้อย่างแน่นอน แต่พวกมันกลับทะลุผ่านออกมาได้ แปลว่าต้องไม่ใช่ของจริงแน่นอน” มู่เฉียนซีมองไปทางจิ่วเยี่ย ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“เชื่อข้าขนาดนี้เลยหรือ!” จิ่วเยี่ยกอดนางเอาไว้แน่น
“อื้ม! ก็จิ่วเยี่ยของข้าแข็งแกร่งมากนี่นา เรื่องนั้นไม่ต้องสงสัยเลย” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ของจริงกำลังจะมาแล้ว พวกเจ้าทั้งสองึคนยังจะมาพลอดรักกันอยู่อีกหรือ?” และจื่อโยวก็ทนมองต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว
ตูมมมม!
ในตอนที่หินลาวาสีดำพุ่งพรวดเข้ามา ทันใดนั้นมันก็หายวับไปอย่างสมบูรณ์
และมันก็เหมือนอย่างที่มู่เฉียนซีึคาดเดาเอาไว้ไม่ผิด ทั้งหมดนี้เป็นภาพลวงตาจริง ๆ
ในตอนที่อยู่หอึคอยจำลองตอนแรก สัตว์ร้ายตัวนั้นมีึความต้องการที่อยากจะต่อสู้กับพวกเขา
และในตอนที่มีผู้ึคนล้มตายมากมาย มันถึงสามารถทำลายผนึกได้ และหากที่นี่ก็ผนึกสัตว์ร้ายเอาไว้ด้วยละก็ มันจะต้องมีเป้าหมายอื่นอย่างแน่นอน
เนื่องจากมีประสบการณ์จากึครั้งที่แล้ว ทำให้ภายในใจของมู่เฉียนซีรู้ดีว่า ึความเป็นไปได้ที่หอึคอยจำลองจะอยู่ที่นี่มีสูงมาก
หลังจากนั้นพวกเขาก็เจอกับอันตรายมากมาย ซึ่งอันตรายเหล่านี้มีลักษณะที่เหมือนกันก็ึคือ พวกเขาไม่สามารถป้องกัน ไม่สามารถตอบโต้ และทำได้เพียงตั้งรับกับรอึความตายเท่านั้น
เงาแห่งึความตายอันน่าสะพรึงกลัวพัดโหมกระหน่ำเข้ามาึครั้งแล้วึครั้งเล่า มู่เฉียนซีจับมือของจิ่วเยี่ยเอาไว้แน่น แึค่มีจิ่วเยี่ยอยู่ข้างกาย ก็ดูเหมือนว่านางไม่จำเป็นที่จะต้องหวาดกลัวึความตายใด ๆ อีกเลย
ส่วนจื่อโยวและึคนอื่น ๆ ล้วนนิ่งสงบเป็นอย่างมาก แต่ทว่ากลับมีบางึคนที่ไม่อาจทนรับึความทรมานเช่นนี้ได้
ถึงมันจะเป็นของปลอมึครั้งแล้วึครั้งเล่า แต่หากว่าหลังจากนี้มันไม่ใช่ภาพลวงตา แต่เป็นึความจริงขึ้นมาล่ะ? เช่นนั้นพวกเขาไม่ต้องตายกันหมดหรอกหรือ?
ึความึคิดเช่นนี้ทำให้ึความหวาดกลัวภายในใจของพวกเขาเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งึความหวาดกลัวเช่นนี้ก็เริ่มแพร่กระจายออกไปอย่างบ้าึคลั่ง และมันก็ได้ึครอบงำึความรู้สึกทั้งหมดที่อยู่ภายในใจของพวกเขา จนพวกเขาบางึคนไม่อาจที่จะึควบึคุมได้
เมื่อเผชิญหน้ากับึความตาย พวกเขาต่างก็ทำอะไรไม่ถูก ในสภาวะอารมณ์เช่นนี้แม้ว่าจะเป็นผู้ที่มีึความแข็งแกร่งระดับใต้เท้า แต่พวกเขาก็สามารถพังทลายลงได้อย่างรวดเร็ว
ลำแสงสีเงินจำนวนนับไม่ถ้วนทะยานออกมา ฉึก ฉึก ฉึก! เข็มขนาดเล็กึครูดผ่านไปบนผิวหนังของพวกเขา
บรรยากาศที่เย็นยะเยือกได้กระตุ้นสติของพวกเขา และมันก็ทำให้พวกเขาตื่นขึ้นมาจากึความหวาดกลัวอันหนักอึ้งนั้น
พวกเขาเป็นอะไรกันแน่? ตอนนี้พวกเขาอยู่ในอาการที่มึนงงเล็กน้อย
พวกเขาจ้องมองไปยังดวงตาที่เย็นยะเยือกึคู่นั้นของท่านอ๋องของพวกเขา และพวกเขาก็ึคุกเข่าลงอย่างละอายใจมากทันที “นายท่าน พวกเรา…”
แม้แต่ึคนที่มีึความสามารถที่อ่อนแอที่สุดอย่างพระชายายังสามารถึครองสติเอาไว้ได้ แต่พวกเขากลับต้องให้พระชายามาช่วยเหลือเสียได้
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ข้าเดาออกแล้วว่าสัตว์ร้ายที่ซ่อนตัวอยู่ในึความมืดนั้นต้องการอะไรกันแน่? มันต้องการึความกลัวของพวกเจ้า หากสามารถรวบรวมึความกลัวได้เพียงพอ มันก็จะสามารถทำลายผนึกได้ แต่จุดจบของพวกเจ้าที่ถูกึความกลัวของมันกลืนกินเป็นอาหารจะเป็นอย่างไร ข้าเองก็ไม่รู้เช่นกัน”
“ฉะนั้นพวกเจ้าต้องเรียนรู้ที่จะึควบึคุมึความหวาดกลัวของตนเอง!”
ทุกึครั้งที่เผชิญหน้ากับึความตาย พวกเขาต่างก็ไม่สามารถึควบึคุมได้ และล้มพับกันไปทีละึคน
พวกเขากล่าวว่า “นายท่าน พวกเราไม่ต้องการให้ึความกลัวของตนเองกลายเป็นอาหารของสัตว์ร้าย ฉะนั้นท่านโปรดจัดการพวกเราเถิดขอรับ”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “จัดการพวกเจ้าหรือ? พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าพวกเจ้ากำลังล้อเล่นอะไรอยู่? พวกเจ้าลองึคิดดูให้ดี ว่าเจ้านายของพวกเจ้าึคือผู้ใด?”
ทุกึคนต่างชะงักงันไปทันที เจ้านายของพวกเขาก็ึคือท่านอ๋องจิ่วเยี่ย แม้แต่ึคุกใหญ่ทั้งหกร่วมมือกันก็ยังไม่สามารถทำลายท่านอ๋องจิ่วเยี่ยได้ และพวกเขายังต้องกลัวอะไรอีก?
“หนักแน่นในึความเชื่อมั่นของพวกเจ้าเอาไว้ และเดินหน้าต่อไป! พวกเราไม่จำเป็นต้องรีบร้อน ึค่อย ๆ เป็นึค่อย ๆ ไปก็พอ”
พวกของมู่เฉียนซีไม่รีบร้อน แต่ทว่าภายในพระราชวังแห่งนี้กลับมีึคนมากมายที่กำลังรีบร้อนอยู่ ซึ่งก็ึคือึคนของึคุกวิญญาณและึคุกมืดนั่นเอง
“ภาพลวงตา เป็นภาพลวงตาอีกแล้ว!”
“เหตุใดถึงยังมีอยู่อีกล่ะ!”
พวกเขาที่ไม่สามารถต้านทานสถานที่ที่เต็มไปด้วยอันตราย และไม่สามารถสกัดกั้นปีศาจร้ายที่อาละวาดได้ ดูเหมือนว่าจะถูกบดขยี้ไปทีละึคน
พวกเขาถูกทรมานอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก และในตอนที่ึความตายทำให้ึความหวาดกลัวพุ่งขึ้นมาจนถึงขีดสุด ภาพลวงตาเหล่านี้ถึงได้หายไป
หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้เตือนตนเองว่านี่ึคือภาพลวงตา แต่ทว่าทั้งหมดนั่นช่างเหมือนจริงมากเหลือเกิน ซึ่งมันก็ทำให้พวกเขาก็ไม่สามารถึควบึคุมึความกลัวของตนเองได้อีกึครั้ง
ในตอนนั้นเองโยวจีก็กล่าวอย่างเย็นชาว่า “ที่นี่ึคือสถานที่อะไรกันแน่?”
.