ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2431 เขาแดนขุมนรก
ในเมื่อมันสู้ไม่ได้ ทั้งยังไม่สามารถพูดได้อีก หนามโลหิตอย่างมันจึงเลือกที่จะแสร้งทำเป็นตายเพื่อประท้วง
มู่เฉียนซีเรียกว่า “หงเอ้อร์…”
ผลปรากฏว่ามันทนไม่ไหว จนระเบิดออกมาอีกครั้ง
“ดูเหมือนว่าชื่อนี้ก็ไม่ได้อย่างนั้นสินะ งั้นเปลี่ยนเป็น เฉี่ยเอ้อร์…”
หนามโลหิตระเบิดขึ้นมาอีกครั้ง มู่เฉียนซีจึงกล่าวขึ้นมาอีกว่า “เสี่ยวเฉี่ย…”
เมื่อเทียบกับชื่อทั้งสองก่อนหน้านี้ มันรู้สึกว่าชื่อนี้ดีกว่าเล็กน้อยจริง ๆ
เพื่อที่จะไม่ต้องได้ยินชื่อที่น่าสะพรึงกลัวทั้งสองชื่อนั้นอีก มันจึงยอมรับชื่อเสี่ยวเฉี่ยนี้อย่างไม่เต็มใจเท่าไรนัก
ฮึ! รอมันสามารถพูดได้เมื่อไร มันจะต้องบอกชื่อที่ยิ่งใหญ่ให้กับบริวารน้อยผู้นี้ได้รู้ นั่นต้องเป็นชื่อที่ไพเราะมากชื่อหนึ่งอย่างแน่นอน
แต่มันเรียกว่าอะไรนะ? มันก็จำไม่ได้แล้วเหมือนกัน
หลังจากที่ได้หยอกล้อกับเจ้าตัวเล็กนี้แล้ว อารมณ์ของมู่เฉียนซีก็ดีขึ้นมากเลยทีเดียว
การคำนวณอันชาญฉลาดของอู๋หยาบีบให้นางมาถึงจุดนี้ แต่สวรรค์ย่อมไม่ตัดเส้นทางรอดของคนจนสิ้นอยู่ ฉะนั้นถึงจะอยู่ในขุมนรกสีโลหิตนี้ แต่นางก็ไม่ต้องฝ่าฟันไปเพียงลำพัง เพราะตอน นนี้นางสามารถหาคู่หูตัวน้อยที่ยอดเยี่ยมได้แล้วนั่นเอง
เจ้าหมอนี่ไม่ใช่หนามโลหิตธรรมดาทั่วไป ขอเพียงมีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมของมันบวกกับยาที่นางป้อนให้ มันจะต้องเปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งมากได้อย่างแน่นอน
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “หากรู้เช่นนี้แต่แรก พวกเราจะสู้กันมาตั้งนานไปเพื่ออะไร เจ้าก็รู้สึกว่าชื่อเสี่ยวเฉี่ยเป็นชื่อที่เพราะที่สุดใช่หรือไม่?”
มันไม่เพราะเลยแม้แต่น้อย! หนามโลหิตอยากจะคำรามใส่มู่เฉียนซีจริง ๆ
“ไปกันเถอะ!” มู่เฉียนซีเหลือบมองไปที่ชายผู้นั้น
เสี่ยวเฉี่ยพุ่งทะยานเข้าไปอย่างไม่มีความสุข ทันทีที่มีเสียงกรีดร้องออกมา แขนของเขาก็ลอยกระเด็นออกไปเช่นกัน
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ข้าจะอยู่ที่นี่สักระยะ เจ้าคงไม่มีปัญหาใช่หรือไม่?”
เขาปิดบาดแผลที่มีเลือดทะลักออกมาพลางกล่าวตอบว่า “ไม่มี แน่นอนว่าไม่มีอยู่แล้ว!”
การที่เขาไปยั่วยุผู้ที่แข็งแกร่งคนหนึ่ง แต่อีกฝ่ายกลับไม่เอาชีวิตของเขา และทำเพียงตัดแขนของเขาแค่ข้างเดียวเท่านั้น ก็ถือได้ว่าเขานั้นโชคดีมากแล้ว
มู่เฉียนซีอาศัยอยู่ในบ้านของจอมอันธพาลของอาณาเขตเล็ก ๆ นี้ และคนที่อยู่ในอาณาเขตนี้ล้วนรู้ถึงความเก่งกาจของนาง
นอกจากนี้ไม่ว่ามู่เฉียนซีจะชอบสิ่งใดท่านจางล้วนนำมันมาส่งให้นางถึงที่ ซึ่งเขาก็ยอมมอบให้นางอย่างเต็มใจอีกด้วย
ไม่มีใครอยากทำให้ผู้แข็งแกร่งที่เก่งกาจเช่นนี้ต้องขุ่นเคืองใจอยู่แล้ว และในตอนนี้ก็มีข่าวข่าวหนึ่งส่งมาถึงอาณาเขตเล็ก ๆ แห่งนี้
ตอนนี้เขตแดนขุมนรกชั้นที่หนึ่งและขุมนรกชั้นที่สอง กำลังรับสมัครพวกเขาเพื่อไปขุดแร่หยกเฉี่ยซาเหล่านี้
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ข้าค่อนข้างสนใจเลยทีเดียว จะสมัครได้อย่างไรหรือ?”
พลังของหยกเฉี่ยซาเป็นสิ่งที่หลอมรวมเข้ากับร่างกายได้เป็นอย่างดี แต่นางก็อยากที่จะลองใช้แร่หยกเฉี่ยซานี้มากลั่นเป็นยาออกมา เพื่อยกระดับการป้องการทางกายภาพของนาง ซึ่งแร ร่หยกเฉี่ยซาเหล่านี้จะให้ความแตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
“นายท่าน นี่มันอันตรายเกินไป! ทุกสถานที่ที่มีหยกเฉี่ยซาอยู่ ล้วนมีหินลาวาที่มีอุณหภูมิสูง เป็นสถานที่ที่คนทั่วไปไม่อาจทนได้ คนที่ไปส่วนใหญ่ล้วนไปตายอยู่ที่นั่นทั้งนั้น แ แล้วจะให้คนที่สูงส่งเช่นท่านไปสถานที่เช่นนั้นได้อย่างไร?”
มู่เฉียนซีสามารถเข้าใจได้อย่างคราว ๆ แล้วว่าที่เขตแดนของขุมนรกชั้นที่หนึ่งนี้มียอดฝีมือไม่มากนัก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ค่อยเป็นอันตรายต่อนางมากเท่าไร
ตอนนี้ก็ได้เวลาที่ควรลุยลึกเข้าไปในขุมนรกสีโลหิตนี้แล้ว ฉะนั้นคนเหล่านี้ล้วนไม่สามารถขัดขวางนางได้เลย
“เรื่องที่ข้าสั่งเอาไว้ เจ้ารีบไปจัดการมาโดยเร็วเถอะ!”
นางต้องการที่จะไปจริง ๆ อย่างนั้นหรือ?
ท่านจางรู้สึกเหลือเชื่อเป็นอย่างมาก เขาหวังว่าแม่นางผู้นี้จะรีบจากไปโดยเร็ว หรือไม่ต้องกลับมาอีกเลยก็ยิ่งดี
“การสมัครนั้นง่ายดายมาก ข้าจะไปทำให้เดี๋ยวนี้!”
แน่นอนว่าทุกอาณาเขตขนาดเล็กย่อมมีพื้นที่ที่กำหนดไว้ให้อยู่แล้ว โดยปกติแล้วพื้นที่เหล่านั้นเป็นสถานที่ที่พวกเขามักจะเลือกโยนคนที่กลั่นแกล้งได้ง่ายเหล่านั้นออกไป ซึ่งคนสมัคร รที่เหมือนกับมู่เฉียนซีนั้น แน่นอนว่าต้องพบเจอได้ยากมากอยู่แล้ว
มู่เฉียนซีรู้ดีว่าใบหน้านี้ของตนเองสะดุดตาเป็นอย่างมากและหญิงสาวในขุมนรกโลหิตก็ไม่ค่อยมีอีกด้วย ดังนั้นนางจึงใช้ยาน้ำเปลี่ยนรูปลักษณ์ และกลายเป็นคนที่ดูธรรมดามากที่สุด
ผลปรากฏว่าใบหน้านี้ ทำให้เสี่ยวเฉี่ยโกรธเป็นอย่างมาก
จู่ ๆ ก็เปลี่ยนตัวเองให้อัปลักษณ์ขนาดนี้ มันน่าเกลียดจะตายไป
มีมนุษย์เช่นนี้เป็นบริวารของมัน ทำให้มันรู้สึกอับอายจริง ๆ คนที่เป็นบริวารของมันต้องหน้าตางดงามสิ
เมื่อมู่เฉียนซีค้นพบว่าเสี่ยวเฉี่ยไม่สนใจนาง นางจึงกล่าวว่า “นี่เจ้าเกิดโมโหอะไรขึ้นมาอีกแล้ว”
แต่ผลปรากฏว่าเจ้าหมอนี่ก็ไม่สนใจนางอยู่ดี!
“ในเมื่อไม่สนใจข้า เช่นนั้นจากนี้ไปเจ้าก็โตเอาเองอยู่ที่นี่ก็แล้วกัน ข้าไปล่ะ”
ทันใดนั้นเสี่ยวเฉี่ยก็พุ่งเข้าใส่มู่เฉียนซี และจากนั้นก็พันอยู่บนข้อมือของมู่เฉียนซีไม่จากไปไหน
แม้ว่าบริวารตัวน้อยจะเปลี่ยนไปเป็นคนอัปลักษณ์ แต่มันก็รู้ดีว่าการอยู่ข้างกายนางดีกว่าอยู่ข้างกายของมนุษย์คนอื่นมากมายนัก อย่างไรเสียก็มีของอร่อยให้กิน
ขุมนรกสีโลหิตมีทั้งหมดสิบแปดชั้น ซึ่งแต่ละชั้นก็มีภูเขาเขตแดนที่ทำหน้าที่เป็นเส้นแบ่งเขต และตอนนี้มู่เฉียนซีก็ได้ตามกลุ่มเก็บแร่หยกเฉี่ยซามาถึงภูเขาเขตแดนชั้นที่สองแล้ว
สถานที่ทั่วภูเขาเขตแดนแห่งนี้ มีอุณหภูมิที่ร้อนมาก เนื่องจากพวกเขาไม่มีพลังวิญญาณจึงไม่สามารถป้องกันความร้อนระอุเหล่านี้ได้ ซึ่งพวกเขาแต่ละคนในตอนนี้ต่างก็มีเหงื่อแตกพลั่กกั นไปหมดแล้ว และสถานที่แห่งนี้ก็ไม่ใช่สถานที่ที่คนจะอยู่ได้เลยจริง ๆ
ผู้นำที่เป็นคนตัวสูงใหญ่คนหนึ่งกล่าวอย่างเย็นชาว่า “อย่ามัวแต่อืดอาดยืดยาดอยู่ที่นี่เลย รีบไปเร็วเข้าเถอะ รับเอาเครื่องมือไปและเตรียมไปขุดแร่ได้แล้ว”
แหล่งขุดแร่อยู่ที่ภูเขาไฟลูกหนึ่ง นอกจากนี้มันยังเป็นภูเขาไฟที่กำลังพ่นลาวาออกมาอีกด้วย
พวกเขาจะต้องเข้าไปทางปล่องของภูเขาไฟ หลังจากนั้นก็จะต้องหาแร่เฉี่ยซาที่อยู่ภายในภูเขาไฟและขุดมันออกมา
หากภูเขาไฟระเบิด มันก็จะพ่นลาวาออกมาด้วย และหากพวกเขาหนีออกมาไม่ทันก็จะต้องถูกเผาจนกลายไปเถ้าถ่านไปอย่างแน่นอน
ซึ่งสิ่งนี้ก็อันตรายเกินกว่าที่จินตนาการเอาไว้มากมายนัก และสีหน้าของแต่ละคนก็เปลี่ยนเป็นขาวซีดขึ้นมาทันที
และตอนนี้ก็มีบางคนอยากที่จะหนีไป “ข้ายังไม่อยากตาย ไม่อยากตาย!”
ฉัวะ!
คนที่วิ่งหนีออกไปถูกผู้ดูแลสังหารอย่างไร้ความปรานี ซึ่งมันก็ทำให้เลือดสด ๆ สาดกระเซ็นไปทั่วทั้งพื้นที่เลยทีเดียว
“ถ้าคิดจะหนี เช่นนั้นพวกเจ้าก็ตายไปเสียตั้งแต่ตอนนี้เลย!” ผู้ดูแลกล่าวอย่างเย็นชา
คนเหล่านี้ค่อย ๆ ทยอยลงไปทีละกลุ่ม เพื่อหลีกเลี่ยงตอนที่ภูเขาไฟระเบิด และแผดเผาคนอื่น ๆ จนตาย เพราะหากไม่มีคนแล้ว พวกเขาก็จะต้องไปรับเกณฑ์คนมาใหม่อีกครั้ง
ในตอนที่ธาตุอัคคีที่อยู่กลางอากาศเปลี่ยนเป็นปั่นป่วนขึ้นมา ก็เกิดเสียงระเบิด ตูมม! ดังกึกก้องขึ้นมาทันที จากนั้นลาวาที่น่าสะพรึงกลัวก็ไหลทะลักออกมาจากปากปล่องของภูเขาไฟ
คนเหล่านี้ ส่วนใหญ่แล้วไม่สามารถหนีออกมาได้ และคนที่หนีออกมาเหล่านั้นหากไม่ได้รับบาดเจ็บเจียนตาย ก็กลายเป็นคนพิการ และไม่สามารถใช้งานได้แล้ว
แม้จะไม่สามารถใช้พลังวิญญาณได้ แต่ความอ่อนไหวต่อธาตุอัคคีของมู่เฉียนซีกลับไม่ได้ถูกขุมนรกสีโลหิตแห่งนี้ช่วงชิงไป
และหลังจากที่เห็นภูเขาไฟระเบิดขึ้นถึงสองครั้ง ตอนนี้นางก็สามารถคาดเดาการระเบิดของภูเขาไฟลูกนี้ได้แล้ว
ถึงลาวานี้จะสามารถคร่าชีวิตของนักโทษที่อยู่เพียงแค่ชั้นที่หนึ่งเหล่านั้นได้ แต่ลาวานี้ก็ไม่สามารถทำร้ายคนที่มีการป้องกันทางกายภาพอย่างนางได้เช่นกัน
“ถึงตาเจ้าแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะมีผู้หญิงอยู่ด้วย!”
“ใครเป็นคนส่งผู้หญิงผอมแห้งผู้นี้มาเก็บแร่ในสถานที่เช่นนี้กัน?”
ตอนที่พวกเขาค้นพบมู่เฉียนซี พวกเขาก็เริ่มคุยกันเป็นการส่วนตัวทันที
และในตอนที่พวกเขาเห็นใบหน้านั้นของมู่เฉียนซีก็กล่าวขึ้นมาว่า “มิน่าล่ะ รูปร่างหน้าตาธรรมดาขนาดนี้นี่เอง”
“ถึงจะหน้าตาธรรมดาแต่ก็เป็นผู้หญิง หรือไม่อย่างนั้น…”
“ตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างการทำภารกิจ อย่าเข้าไปยุ่งส่งเดช หากนางลงไปครั้งนี้ ถ้าโชคดีก็จะมีชีวิตรอดกลับมาได้ ขอเพียงแค่มีชีวิตและยังไม่ตาย จะเสียแขนหรือขาไปก็ไม่เป็นไรหรอก ก...”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ภายในใจของมู่เฉียนซีและเสี่ยวเฉี่ยก็เต็มไปด้วยเจตนาฆ่า ช่างเป็นกลุ่มคนที่รนหาที่ตายจริง ๆ
มู่เฉียนซีระงับความต้องการสังหารของเสี่ยวเฉี่ยเอาไว้ แล้วกล่าวว่า “ลองลงไปดูก่อน ส่วนคนเหล่านี้มีโอกาสเมื่อไรค่อยจัดการ”
ลาวาไหลกลิ้งอยู่ใต้เท้าของพวกเขา และหากมีคนหวาดกลัว ก็อาจจะสูญเสียการทรงตัวและตรงลงไปได้
แม้ว่าเสี่ยวเฉี่ยจะเป็นพืชกลายพันธุ์ แต่มันก็ไม่กลัวพลังธาตุอัคคีเลยแม้แต่น้อย
หลังจากที่พวกเขาลงไปได้ไม่นาน พลังธาตุอัคคีที่อยู่รอบบริเวณก็ระเบิดขึ้นมา มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ภูเขาไปจะระเบิดแล้ว หากพวกเจ้าจะหนีออกไปตอนนี้ก็ยังไม่สายนะ”